[พระเอกนางเอกเป็นรักแรกที่แสนบริสุทธิ์ ตัวต่อตัว หวานแหววและดุดัน]"เจียเหอ เราหย่ากันเถอะ ตระกูลลู่ไม่สามารถให้ผู้หญิงสกปรกคนหนึ่งมาเป็นคุณนายใหญ่ของบ้านได้"สองปีหลังแต่งงาน ชายหนุ่มก็โยนใบหย่าให้กับเธอเย่เจียเหอนั้นเข้าใจดี ลู่จิ่งโม่ต้องการให้สถานะแก่ยอดดวงใจของเขาเพราะในสายตาของเขา เธอเป็นเพียงสินค้าที่เสียหายจากการถูกชายอื่นย่ำยีเสียเท่านั้น"ลู่จิ่งโม่ คุณยอมแพ้เสียเถอะ มีฉันอยู่ ผู้หญิงคนนั้นอย่าได้คิดที่จะเข้ามาในตระกูลลู่ได้!"เธอจะไม่ร่วมมือ เพื่อแลกมาด้วยการล้มละลายของครอบครัว และพ่อของตัวเองต้องตายอย่างน่าอนาถอย่างแน่นอนในที่สุด เธอก็ยอมแพ้อย่างสิ้นเชิงรอบตัวของเขาปราศจากร่องรอยของเธอไปจนหมดสิ้นในวันพิธีแต่งงานใหญ่ระหว่างลู่จิ่งโม่และยอดดวงใจ จู่ๆลูกน้องก็กลับบอกเขาว่า "บอสลู่ครับ คุณนายต่างหากที่เป็นยอดดวงใจของคืนนั้นนะครับ!"
View More"คุณกลับมาแล้วเหรอ?"เธอวิ่งเหยาะๆ ไปหาเขา และดูเหมือนว่าจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องการพูดกับเขาแต่ดวงตาของลู่จิ่งโม่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง และมีออร่าการห้ามเข้าใกล้แพร่กระจายออกมาเขาชำเลืองมองเธอเบาๆ แล้วเดินตรงไปข้างหน้าเย่เจียเหออดไม่ได้ที่จะจู่โจมคำถามไปที่แผ่นหลังของเขา "ลู่จิ่งโม่ คุณช่วยจัดหาทนายมาให้วังโหรวหรือเปล่า?"ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าลง แล้วตอบอย่างเย็นชาว่า "ใช่ แล้วจะทำไม?""เพราะอะไร? คุณต้องการผลักให้เซี่ยหลิงต้องจนมุมจนตายใช่หรือเปล่า?"เย่เจียเหอกระโจนไปหาเขา ยืนอยู่ต่อหน้าเขา แล้วพูดอย่างโกรธๆว่า "ฉันตกลงที่จะหย่าแล้วนะ ฉันให้พวกคุณสมปรารถนาแล้ว ทำไมคุณยังต้องทำแบบนี้อีก?""ผมสมปรารถนา?"ลู่จิ่งโม่ยิ้มอย่างเย็นชา แล้วพูดขึ้นมาว่า "มันเป็นความปรารถนาของผม หรือของคุณกันแน่?"มีแต่การหย่ากับเขาอย่างราบรื่นเท่านั้น เธอถึงจะออกไปตามหาผู้ชายที่แอบซ่อนไว้ข้างนอกแบบนั้นได้ ไม่ใช่เหรอ?และผู้ชายคนนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็น จิ้นหนานผิง!เย่เจียเหอสับสนกับคําถามกลับของเขา และพูดอย่างน้อยใจว่า "ทั้งๆ ที่เป็นคุณที่อยากจะหย่ากับฉันตั้งแต่แรก แล้วตอนนี้ทำไมโยนมาท
หรือว่าผู้ชายที่เย่เจียเหอคบชู้อยู่ด้วยก็คือ จิ้นหนานผิง?เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของลู่จิ่งโม่ก็ยิ่งดูแย่ไปกว่าเดิมมากเสียแรงที่เขาได้จมกับความรู้สึกผิดที่มีต่อเธอตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ และคิดว่าตัวเองปรักปรำเธอเสียแล้วแล้วเธอล่ะ?เธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้น!เธอกำลังหวานแหววอยู่กับผู้ชายคนอื่นอยู่น่ะสิ……จิ้นหนานผิงได้พาเย่เจียเหอไปส่งที่บ้าน เธอไม่กล้าที่จะผลีผลามเชิญให้เขาเข้าไปนั่งในบ้านแต่อย่างใดเพราะเธอกลัวว่าลู่จิ่งโม่จะอยู่ที่บ้านน่ะสิและจิ้นหนายผิงก็เป็นผู้ชายที่รู้สถานการณ์ดีเช่นกันหลังจากส่งเธอถึงจุดหมายแล้ว เขาก็ขับรถออกไปทันทีเมื่อเย่เจียเหอกลับถึงบ้าน ประโยคแรกที่เธอถามก็คือ "ป้าจางคะ เขา... กลับมาหรือยังคะ?" ถ้าเขารู้ว่าตัวเองถูกใส่ร้าย เขาจะเสียใจไหม? จะสนใจเธอมากขึ้นไหม? จะรู้จักใบหน้าที่แท้จริงของวังโหรวหรือไม่?แต่น่าเสียดายที่ป้าจางพูดอย่างลำบากใจขึ้นมาว่า "คุณผู้หญิง คุณผู้ชายยังไม่ได้กลับมาเลยค่ะ งั้นดิฉันจะโทรถามเขาเอาไว้คะ?""ไม่จำเป็นแล้วล่ะค่ะ"เย่เจียเหอจับมุมริมฝีปากอย่างขมขื่น แล้วพูดว่า "เขาน่าจะไม่มีเวลากลับมาแล้วล่ะค่ะ"ยังไงเขาก
"พอได้แล้ว! ฉันบอกแล้วหรือว่าฉันจะไม่สนใจ?"วังโหรวพูดอย่างหงุดหงิดว่า "ตอนนี้พวกคุณอย่าออกไปข้างนอก อย่าปริปากพูดอะไรเด็ดขาด ฉันจะคิดหาวิธีเอง!"หลังจากวางสายไปแล้ว วังโหรวก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นแม้ว่าเมื่อครู่เธอจะพูดแบบนี้ออกไป แต่เธอจะคิดหาวิธีอะไรได้? ในเมื่อเธอให้เย่เจียเหอและลู่จิ่งโม่หย่ากัน แล้วสามารถให้ตัวเองถอนตัวออกมาได้แบบนี้ เธอยังอยากที่จะนำเรื่องนี้มาพัวพันอีกงั้นเหรอ?ด้วยความจนใจ เธอจึงต้องโทรหาเย่เจียเหรอในเวลานั้น เย่เจียเหอเพิ่งจะเลิกเรียนเมื่อได้รับสายโทรศัพท์จากวังโหรว เธอก็หยุดฝีเท้าลงอย่างไม่รู้ตัว"เย่เจียเหอ เธอไม่อยากจะช่วยเพื่อนของเธอแล้วงั้นเหรอ?" เสียงของวังโหรวมืดมน "เรื่องที่เธอสัญญาเอาไว้กับฉัน เธอไม่สามารถทำสำเร็จได้แม้แต่เรื่องเดียว"เย่เจียเหอจึงพูดอย่างเย็นชาออกมาว่า "เธอก็เห็นแล้วว่ามีศาสตราจารย์หลายคนบนอินเทอร์เน็ตช่วยฉันชี้แจงแล้ว แผนการที่เธอต้องการให้ฉันเสียชื่อเสียงไม่สามารถทําได้ชั่วคราวแล้ว""แล้วการหย่าล่ะ?" วังโหรวยังคงไม่ลดละความพยายาม "เธอทำแบบนี้สนุกมากไหม? ทำไมจะต้องอยู่กับผู้ชายที่ไม่รักเธอด้วย เป็นมือที่สามของใครเขา สองวัน
"เย่เจียเหอ ขอโทษด้วยนะที่เราได้เข้าใจผิดเธอแล้ว""ใช่ใช่ แต่เธอก็ถือว่าโชคดีบนความโชคร้ายแล้วนะ เมื่อเธอได้รับความสนใจของศาสตราจารย์จิ้นแบบนี้แล้ว ต่อไป เมื่อสอบปริญญาโทในสาขาเขา มันก็มีความได้เปรียบสูงมากเลยนะ!""ใช่แล้ว ศาสตราจารย์จิ้นเคยบอกไหมว่า ปีหน้าจะรับเธอเป็นนักศึกษาของเขา?"เย่เจียเหอถูกถามจนเวียนหัว ได้แต่ตอบอย่างขอไปทีว่า "ฉันไม่ได้สื่อสารกับศาสตราจารย์จิ้นเป็นการส่วนตัวน่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน"แต่ดูเหมือนว่า ในห้องเรียนนี้จะไม่มีเสียงที่แสบแก้วหู แต่คุ้นชินแบบนั้นแล้วเธอมองไปรอบๆ แล้วถามว่า "แล้วหลูเชี่ยนล่ะ เธอไม่ได้มาเรียนเหรอ?""เธอน่ะเหรอ!" ปกติหลูเชี่ยนก็ไม่ชอบหน้าใครอยู่แล้ว เพื่อนร่วมชั้นบางคนจึงบุ้ยๆปาก และพูดว่า "เหมือนเธอจะไปรุกรานใครในห้องทดลองนะ ถูกไล่ออกไปแล้วล่ะ เธอไม่มีแม้แต่สถานที่จะทําการทดลอง วิทยานิพนธ์จบการศึกษาไม่มีทำออกมาได้ทันหรอก ลาหยุดหลายวันแล้วล่ะ"เมื่อเย่เจียเหอได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย เธอพยักหน้าและไม่ได้ถามมากไปกว่านั้นเพราะยังไงเสีย ก่อนหน้านี้หลูเชี่ยนก็เป็นคนทำเรื่องแบบนั้นขึ้นมา และแทบจะดันเธอให้ไปสู่ทางตันให้รู้แ
เพราะมุมกล้องที่ถ่ายเอาไว้ มันจึงทำให้วิดีโอที่ถูกถ่ายตั้งแต่ต้นจนจบชัดเจนเป็นอย่างมากและดาวรุ่งในวงการแพทย์อย่างจิ้นหนานผิงประจำสาขาศัลยกรรมหัวใจ ก็ได้แนบคำอธิบายใครคลิปวิดีโอด้วยตัวเองอีกต่างหากที่แท้คลิปวิดีโอนี้ น้องสาวของเขาเป็นคนถ่ายเอาไว้เมื่อเดินผ่านมหาวิทยาลัยไห่เฉิงและเห็นเหตุการณ์นี้เข้าพอดีแต่จิ้นหนานผิงทําวิจัยที่ต่างประเทศตลอดทั้งปีและไม่ค่อยกลับประเทศ ไม่รู้เรื่องภายในประเทศ วันนั้นจึงได้วิดีโอคอลกับน้องสาวด้วย ตอนคุยเล่นก็เลยพูดถึงเรื่องนี้แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเย่เจียเหอที่เป็นฮีโร่ช่วยคนจะมาถูกใส่ร้ายแบบนี้ได้จิ้นหนานผิงจึงวิดีโอคอลหาน้องสาวในทันที หลังจากวิดีโอถูกเปิดเผย เขาก็อธิบายกระบวนการช่วยเหลือคนของเย่เจียเหอด้วยตนเอง"ตั้งแต่ต้นจนจบ วิธีการและมาตรการช่วยชีวิตของเย่เจียเหอไม่มีปัญหาใดๆ รวมถึงการใช้ยาและเป็นยาทั่วไปในการรักษาโรคหอบหืด"ในตอนท้ายของวิดีโอ จิ้นหนานผิงยังพูดอย่างจริงจังขึ้นมาว่า "หากตอนนี้ แม้แต่การช่วยคนก็ถูกปฏิบัติแบบนี้แล้ว ต่อไปในวันข้างหน้า นักศึกษาแพทย์ของเรา จะเผชิญหน้ากับคนไข้ที่ประสบอุบัติเหตุได้อย่างไร? ส่วนนอกโรงพยาบาล จะมีกี่คนท
เธอรีบวิ่งลงไปชั้นล่าง แต่เธอไม่ได้พบกับใบข้อตกลงการหย่าที่เธอปริ๊นออกมาและวางไว้ที่โต๊ะกาแฟแต่อย่างใดเย่เจียเหอหาอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุด ก็พบว่าใบข้อตกลงการหย่านั้นได้ถูกฉีกเป็นชิ้นๆอยู่ในถังขยะบนนั้นมีลายเซ็นของตัวเธอเอง แต่ช่องสำหรับลู่จิ่งโม่เซ็นนั้นกลับว่างเปล่าเสมอวินาทีนั้น เธอบอกไม่ได้ว่ามันคือโชคดีหรือเป็นความผิดหวังกันแน่โชคดีที่เขายังเป็นสามีของเธอผิดหวังที่เธอไม่ได้ทําตามคําขอของวังโหรว และเซี่ยหลิงยังคงถูกกุมขังเอาไว้ด้านในเธอจะเห็นแก่ตัวไม่ได้!……ในตอนเช้า ป้าจางก็ได้กลับมาที่วิลล่าเย่เจียเหอคิดไม่ถึงว่าวันนี้ป้าจางก็กลับมาแล้วเพราะท้ายที่สุดแล้ว ช่วงนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเสียจริงๆ เธอจึงยังไม่ได้โทรหาป้าจางแต่อย่างใด"คุณผู้ชายให้ดิฉันมาดูแลคุณนายค่ะ"ป้าจางพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คุณผู้ชายยังคงเอาใจใส่คุณนายอยู่นะคะ บอกว่าคุณนายไม่สามารถดูแลตัวเองได้เมื่ออยู่ตามลำพัง"เย่เจียเหอฝืนยิ้ม แต่กลับไม่ได้รู้สึกถึงความสุขนั้นแต่อย่างใดเพราะท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เธอต้องการ ไม่ใช่ป้าจาง แต่เป็นเขาต่างหากแต่เขา กลับไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น"คุณนายคะ คุณ
"เย่เจียเหอ?"ลู่จิ่งโม่ตื่นตระหนก จากนั้นก็รีบเข้ามาอุ้มเธอขึ้น และวิ่งไปที่ห้องนอนเขาวางเธอไว้บนเตียง โดยที่เธอก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา"เย่เจียเหอ หยุดแกล้งได้แล้ว ลุกขึ้น!"ลู่จิ่งโม่ตําหนิอยู่ข้างๆ ว่า "เดี๋ยวก็ร้องไห้น้ำตาท่วมหน้า เดี๋ยวก็วางแผนหลอกล่อ คุณพูดมาเถอะว่า คุณจะมาไม้ไหนกันแน่?"แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการตอบรับใดๆกลับมาเขาเอื้อมมือไปอังที่หน้าผากของเธอ ทำไมมันถึงร้อนขนาดนี้เธอเป็นไข้งั้นเหรอ?ลู่จิ่งโม่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหาหมอส่วนตัวทันทีระหว่างที่รอหมอมาที่นี่ เขาก็ไปรองน้ำเย็นในห้องน้ำ และใช้ผ้าขนหนูมาเช็ดให้เธอและเขาก็เหลือบไปเห็นชุดที่เปียกโชกของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจเธอใส่มันเมื่อเช้านี้ ตอนที่เธอมาหาเขาดังนั้น ผู้หญิงคนนี้เดินต่างฝนกลับมาใช่ไหม?"มันน่าเสียจริงๆ"ลู่จิ่งโม่สบถคำด่าทอเบาๆออกมา ไม่รู้ว่ากำลังด่าตัวเอง หรือด่าเย่เจียเหอกันแน่เขาออกไปพร้อมกับอ่างล้างหน้า และช่วยประคบหน้าผากให้เธอครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระทั่งหมอส่วนตัวมาถึง และฉีดยาลดไข้ให้เย่เจียเหอ ลู่จิ่งโม่จึงสบายใจขึ้นมาได้เมื่อส่งหมอกลับไปแล้ว เขาก็กลับไปที่ห้องนอนข้าง
เหมือนว่าลู่จิ่งโม่จะรับรู้ความผิดปกติของเธอได้ หัวใจของเขาจึงสั่นไหว แล้วรีบถามขึ้นมาว่า "เกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่? พูดมา!"เย่เจียเหอหายใจเข้าลึกๆ และอดทนต่อเสียงร้องไห้เอาไว้ "ฉันรับประกันได้ว่า การกลับมาของคุณในครั้งนี้ จะไม่ทำให้คุณเสียใจอย่างแน่นอน"เมื่อลู่จิ่งเหอได้คุยสายกับเย่เจียเหอเสร็จ เขาก็มองไปยังหน้าจอที่ดับมืดลงอย่างสงสัยวังโหรวที่อยู่ข้างๆ ยังได้รับบาดเจ็บ แต่เสียงของเย่เจียเหอในโทรศัพท์นั้นไม่ถูกต้องอย่างเห็นได้ชัดเขาไม่อยากยอมรับว่าตัวเองเป็นห่วงเธอ แต่ใจนั้น ช่างไม่รักดี อยากกลับไปดูให้ชัดๆจริงๆวังโหรวดูเหมือนจะเดาออกว่าสายนี้เย่เจียเหอเป็นคนที่โทรมมาท้ายที่สุดแล้ว เพื่อช่วยผู้หญิงคนนั้นออกมา ยิ่งเย่เจียเหอหย่าเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีดังนั้น สายโทรศัพท์นี้คงจะเป็นของเย่เจียเหอเป็นแน่ เธอจะต้องโทรให้ลู่จิ่งโม่กลับไปพูดคุยเรื่องการหย่างอย่างแน่นอนวังโหรวจึงแสร้งทำเป็นว่าเห็นอกเห็นใจคนอื่นทันที "จิ่งโม่ ภรรยาคุณเหรอ? เธอให้คุณกลับบ้านเหรอ?""อืม"เมื่อลู่จิ่งโม่นึกถึงความคับข้องใจที่วังโหรวได้รับในวันนี้ ใจก็แข็งขึ้นแล้วพูดว่า "ไม่ต้องสนใจเธอหรอกนะ"วังโหร
วังโหรวกัดฟันแล้วพูดว่า "งั้นเธอก็รอหล่อนถูกฟ้องคดีเถอะ! ต่อให้สุดท้ายจะถูกปล่อยออกมา ต่อไปเธอก็จะมีคดีติดตัว และติดตามตัวเธอไปตลอดชีวิต กลายเป็นจุดด่างพร้อยของเธอไปตลอด!"หัวใจของเย่เจียเหอจมลงอย่างรุนแรงเซี่ยหลิงต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุมาถึงตรงนี้แล้ว เธอยังจะมีทางเลือกอย่างอื่นอีกหรือไง?เพื่อให้เซี่ยหลิงออกมาโดยเร็วที่สุด ในที่สุดเธอก็ยอมรับคําขอของวังโหรว"แล้วฉันจะเชื่อเธอได้อย่างไร?" เย่เจียเหอมองเธออย่างสงสัย "ถ้าฉันหย่ากับลู่จิ่งโม่และยอมรับว่าฉันฆ่ายายของเธอ หากเธอกลับคําและไม่ยอมปล่อยคน งั้นฉันจะไม่เสียทั้งขึ้นทั้งล่องหรอกเหรอ?"วังโหรวเหลิงครวญคราง เอียงเธอ "เย่เจียเหอ เธอยังมีทางออกอีกหรือเปล่าล่ะ? ตอนนี้ ฉันกำลังให้โอกาสเธออยู่ ไม่ใช่จะมาปรึกษาหารือกับเธอ! คิดให้มันชัดเจนหน่อยนะ!"เย่เจียเหอก็รู้ว่าแม้ข้างหน้าจะเป็นเหวลึก เธอก็ต้องกระโดดลงไปเพื่อช่วยเซี่ยหลิงออกมาให้ได้"โอเค ตกลง!"เย่เจียเหอพูดคำต่อคำว่า "แต่เธออย่าลืมนะว่า หากเธอไม่รักษาคำพูด ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน! หากเธอยังอยากจะใช้ชีวิตที่สงบสุขกับลู่จิ่งโม่ ทางที่ดีเธอต้องรักษาส