เอ็ดเวิร์ดนั่งลงบนเก้าอี้เท้าแขนตรงข้ามกับลูเซียน ถึงเวลาที่จะต้องดำเนินตามแผนสักที“สงบสติอารมณ์และฟังฉันให้ดี เกี่ยวกับนาตาลี…” เอ็ดเวิร์ดเริ่มอธิบาย“นาตาลีทำไม” ลูเซียนหรี่ตาถาม ไม่น่าจะเป็นข่าวดี“เธอบอกว่าช่วงนี้มีพวกสตอล์กเกอร์สะกดรอยตามเธอ เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยแม้ว่าจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันคิดว่าเราควรปลอดภัยไว้ดีกว่ามาเสียใจทีหลัง ใช่ไหม?” เอ็ดเวิร์ดกล่าว“…แล้วนายว่าควรจะทำอย่างไร” ลูเซียนถามน้องชายที่กำลังบอกฉันว่านาตาลีเลือกที่จะไว้ใจเขาแทนที่จะมาขอความช่วยเหลือจากฉัน? ดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ อีกทั้งสองคนนี้ไม่ชอบขี้หน้ากันมาก่อน ไม่ว่าเอ็ดเวิร์ดจะมีเสน่ห์แค่ไหน การได้รับความไว้วางใจจากนาตาลีในช่วงเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ที่อยู่ใกล้กันก็ดูจะเกินเหตุ เขาต้องการอะไรกันแน่…?“ฉันอยากให้นาตาลีมีบอดี้การ์ดเพื่อความปลอดภัยของเธอ ฉันรู้จักบอดี้การ์ดที่เก่งและไว้ใจได้คนหนึ่งซึ่งเคยทำให้คุ้มกันคนที่บ้านใหญ่ ฉันขอแสนอเขาเป็นบอดี้การ์ดของเธอ ตอนนี้นาตาลีโตเป็นสาวแล้ว และด้วยสถานะทางสังคมของพวกเรา เธออาจตกเป็นเป้าโจมตีได้ทุกเวลา” เอ็ดเวิร์ดเสนอ หวังว่า ลูเซียนจะคำนึงถึงความปลอดภัยของลูก
เริ่มต้นสัปดาห์ที่สองของการฝึกงาน สวัสดีวันจันทร์และอีกหนึ่งสัปดาห์เต็มที่ต้องทำงานร่วมกับเอ็ดเวิร์ดที่แล็บ ตารางงานสำหรับสัปดาห์นี้ค่อนข้างยุ่ง รวมถึงการไปร่วมงานเลี้ยงตอนเย็นกับหนึ่งในลูกค้าองค์กรหลักของเราด้วย ฉันต้องยอมรับว่าเมื่อพูดถึงเรื่องธุรกิจ เอ็ดเวิร์ดเป็นมืออาชีพและเป็นที่นับหน้าถือตาในสายงานของเขามาก งานที่มอบหมายให้ฉันทำเป็นงานที่เขาตั้งใจให้ฉันได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะที่ฉันยังขาดอยู่เพื่อให้ฉันเข้าใจธุรกิจได้ดีขึ้น วันนี้ฉันต้องตามเอ็ดเวิร์ดไปเข้าร่วมการประชุมต่างๆ กับนักวิจัยชั้นนำเพื่อติดตามความคืบหน้าของกระบวนการต่างๆ คาดว่าเราคงได้วิ่งวุ่นกันทั้งวัน…*กริ่ง...กริ่ง...* เสียงกริ่งโทรศัพท์ของแซคดังขึ้นมา“เฮ้ย นาตาลี คืนนี้ว่างไหม ฉันกำลังจะไปพบใครบางคนและฉันอยากพาเธอไปด้วย” น้ำเสียงที่ผ่อนคลายและขี้เกียจ ๆ หน่อยของแซคเอ่ยเข้ามา“ว่าง…ไปได้ ว่าแต่เราจะไปเจอใคร” ฉันถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นมาก แซคแทบไม่เคยชวนฉันไปพบใครเลย ยกเว้นเพื่อนสนิทของพวกเรา“เดี๋ยวมาก็รู้เอง เดี๋ยวส่งเวลาและสถานที่ไปให้ คืนนี้เจอกัน…แต่งตัวเซ็กซี่ล่ะ” แซ็คแซว“จะพยายามทำชุดทำงานให้เซ็กซี่ก็
เอ็ดเวิร์ดสัมผัสได้ถึงความชุ่มแฉะของนาตาลีผ่านกางเกงชั้นในที่เปียกโชกของเธอ เธอเสียวสั่นไปทั้งตัวแล้ว ไว้เดี๋ยวเก็บไปล้อเธอทีหลังผมใช้เท้าสะกิดข้อเท้าของเธอออกไปด้านข้างเพื่อให้เธอกางขาออกกว้างขึ้นในขณะที่ตอบคำถามและอธิบายแนวคิดให้กับผู้เข้าร่วมการประชุมไปด้วย ผมดึงกางเกงชั้นในที่ปิดเป้าของนาตาลีไปด้านข้างแล้วสอดนิ้วเข้าร่องเปียก ร่างบางสั่นสะท้าน กลีบดอกไม้ชื่นแฉะด้วยความเสียว ผมสอดนิ้วขึ้นลงเข้าร่องสวาทอย่างช้า ๆ และเร่งเร็วขึ้นเมื่อสะโพกของเธอขยับโยกตอบโต้นิ้วของผมน้ำหล่อเลี้ยงรื่นไหลอย่างเต็มฝ่ามือ ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อเป็นสีชมพู เธอกัดริมฝีปากที่ดูเย้ายวน พยายามควบคุมความเร่าร้อนของเธอ ผมวนนิ้วเป็นวงกลม ได้ยินเสียงหอบหายใจด้วยความเสียว เม็ดทับทิมบวมเป่ง ผมจึงแกล้งบีบปุ่มเสียวซ้ำ ๆ อย่างเพลิดเพลินผมหยุดการกระตุ้นเป็นระยะเพื่อปล่อยให้เวลานาตาลีได้พักหายใจ แต่ก็ยัดสองนิ้วเข้าไปในรูรักของเธออีกครั้งอย่างแรงจนเธอตกใจ ส่งเสียงครางเบาๆ ออกมาแล้วรีบเอามือปิดปากแล้วเบือนหน้าหนีอย่างอาย ๆ ทว่าช่องร้อนของเธอกลับตอดนิ้วมือผมแน่น…ฉันกลั่นสียงครางอยู่เมื่อเอ็ดเวิร์ดสอดนิ้วหนาเข้าในมา ร่อ
ภาพนาตาลีคุกเข่ายอมจำนนเบื้องหน้าพร้อมบริการโลมเลียตัวดุ้นเนื้อของเขาทำเอาเอ็ดเวิร์ดมองแล้วแทบคลั่ง เขาอยากอัดลำอวบใส่ปากเธอแล้วกระแทกให้สมอยาก ลิ้นที่หยอกล้ออยู่ที่ปลายหัวเห็ดช่างร้อนแรงและเชิญชวน สะโพกเขาสั่นเทิ้มก่อนจะขยับเอวเพื่อดันแท่งเข้าสัมผัสกับลิ้นร้อนไม่ต้องหยอกเล่นแล้ว นาตาลี ผมจับหัวของเธอไว้ในมือแล้วกระแทกหัวมนที่แข็งโด่เข้าไปในปากที่อ่อนนุ่มของเธออย่างเร็วเพียงครั้งเดียว ดุ้นเนื้อชนต้นคอจนเธอหอบและเลียลิ้นไปตามความยาวก่อนจะดูดมันอย่างชำนิชำนาญ ฉันดึงดุ้นและกระแทกเข้าออกไปตามจังหวะลิ้นของเธอจนพวกเราครางออกมาราวกลับกำลังพากันขึ้นสวรรค์นาตาลีบริการผู้ชายเก่งมาก ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ตามธรรมชาติของเธอหรือจากประสบการณ์ที่เธอฝึกฝนกับผู้ชายคนอื่น ผมไม่สามารถบอกได้ ผมปัดเรื่องรอยกัดบนไหล่ของเธอออกจากความคิดผมไปไม่ได้ในขณะที่ก็ยังเพลิดเพลินกับริมฝีปากของเธออยู่ผมใกล้จะแตกแล้วแต่จำได้ว่าเธออยากให้เราหลั่งพร้อมกัน ผมจุดสะโพกและบอกให้เธอปล่อยดุ้นเนื้อออก ผมอยากแตกในช่องรักของเธอและเธอก็อยากให้ผมทำในช่องรักเหมือนกัน…“อาอยากร่วมรักกับเธอในที่แบบนี้มาตลอด” เอ็ดเวิร์ดกระซิบข้างหูฉัน
หลังจากหยิบกระเป๋าถือและของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ จากโต๊ะทำงาน ฉันก็เดินตรงไปที่ลานจอดรถฉันใช้เวลาสองสามนาทีแต่งเติมใบหน้า…แต่ถ้าจะพูดให้ถูกคือแต่งหน้าใหม่หมดเพราะพอร่วมรักกับเอ็ดเวิร์ด เครื่องสำอางบนใบหน้าก็แทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วน้ำเสียงของแซคฟังจากโทรศัพท์แล้วเหมือนกำลังหงุดหงิดอะไรอยู่ ฉันจึงตัดสินใจทาอายแชโดว์สีฟ้าครามกับอายไลน์เนอร์สีดำทึบที่ขอบตาพร้อมกับปัดแก้มโทนสีส้มที่มีกลิตเตอร์ ส่วนริมฝีปากฉันเลือกใช้ลิปกลอสสีส้มผสมกลิตเตอร์สีทองเพื่อให้ดูสดใส ร่าเริง และดูเป็นประกายสีเหล่านี้เป็นสีโปรดของแซคทั้งนั้น เมื่อก่อนตอนแซคยังเป็นนายแบบ เขาขอให้เพื่อนช่างแต่งหน้ามาแต่งหน้าฉันแล้วพวกเขาก็สรุปกันว่าสีนี้ล่ะ เหมาะกับฉันที่สุด แต่สำหรับฉัน ฉันว่าฉันชอบสีโทนธรรมชาติแบบกลาย ๆ หรือโทนสีชมพูมากกว่าแต่ก็นั่นล่ะ แซคยังคงชอบฉันแต่งหน้าให้ดูมีสีสันสดใสแบบที่เราเลือกในวันนั้น แซคเป็นคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นก็ตาม และเพื่อให้แซคดีใจ ฉันจึงเลือกสีที่เขาชอบ ดูสิว่าเขาคิดอย่างไรเมื่อเห็นฉันวันนี้ฉันขับรถไปที่จุดนัดพบหลังจากส่องกระจกจนพอใจแล้วก็เดินออกจากรถ ช่วงนี้ชีวิต
แซคก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงชวนนาตาลีมาที่นี่ เขาแค่รู้สึกผิดที่คิดจะแต่งงานกับคนอื่นโดยไม่ปรึกษานาตาลีก่อน เขาไม่เคยอยากมีแฟนเป็นตัวเป็นต้น อย่าว่าแต่แต่งงานกับใครอื่นเลย ความสัมผัสระหว่างเขากับนาตาลีก็เพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้ และถ้าเขาต้องการมากกว่านี้เขาก็อยากให้คนคนนั้นเป็นนาตาลีตั้งแต่เขาเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแซคก็มีคู่เดตมากหน้าหลายตา มากกว่าที่เขาควรจะมีซะด้วยซ้ำเพราะรูปร่างหน้าตาและภูมิหลังของครอบครัวที่ร่ำรวยมหาศาลของเขาจึงทำให้มีผู้หญิงล้อมรอบไม่เคยขาด แต่ผู้หญิงเหล่านั้นก็มาง่ายและไปง่ายแต่ตอนผมกอดนาตาลี ความรู้สึกมันแตกต่างกันออกไป ผมไม่แน่ใจว่าผมคาดหวังปฏิกิริยาอย่างไรจากนาตาลีตอนเธอรู้ว่าผมอาจจะต้องหมั้นกับผู้หญิงคนอื่น แต่การที่เธอไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยนี่มันโคตรห่วยแตกเลยแต่ก็นั่นล่ะนะ ในเมื่อเธอไม่ได้รักผมแบบนั้นจะมาคาดหวังว่าเธอจะโกรธหรือหึงคงจะไม่สมจริงนัก ตอนนี้ผมมีความสุขมากกับความสัมผัสของเราสองคนเพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรจะมาพรากพวกเราออกจากกันก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อน“บอกฉันได้ไหมว่าทำไมคุณถึงไม่ค่อยสบอารมณ์ มีปัญหาอะไรกันแน่ ๆ” ฉันถามแซคอีกครั้ง ถ้าฉันถามเขาบ่อย ๆ ฉันรู้ว่า
นาตาลีหลับไปทันทีที่ผมช่วยเธอขึ้นรถ ผมเอนเบาะไปด้านหลังเพื่อทำให้เธอหลับสบายขึ้นระหว่างนั่งรถกลับบ้าน เธอดูเหนื่อยล้าแต่ไม่ใช่จากเซ็กซ์ที่เราเพิ่งทำ โดยรวมแล้วเธอดูเนือยๆ เหมือนไม่มีแรง วันนี้เธอแต่งหน้าได้สดสวยมาก เป็นโทนสีที่เหมาะกับเธอจริงๆ ทำให้ผมซาบซึ้งที่เธอประดิดประดอยแต่งมาให้ผมดูแต่กลับทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ ถึงเธอจะแต่งหน้าด้วยสีสดสวยมากขนาดไหน ก็ยังไม่สามารถซ่อนเร้นความเครียดและความเหนื่อยล้าบนใบหน้างามได้ หรือที่เธอผอมลงจนเห็นได้ชัด จะเป็นเพราะมีบางอย่างกำลังกัดกินนาตาลีอยู่ภายในใจ จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่เล่าให้ผมฟัง ซึ่งแสดงได้สองอย่าง อย่างแรกคือ ถ้าเล่าให้ผมฟัง ผมจะไม่สบายใจ หรืออย่างที่สองคือเล่าไปแล้วผมก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่กวนใจผมเอามากๆมันเป็นธรรมชาติของนาตาลีที่มักจะคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ บางครั้งมันทำผมให้รู้สึกโมโหเพราะผมเองเป็นหนึ่งคนที่เธอให้ความสำคัญ ผมเป็นพี่ชายของนาตาลีมา 10 ปีและเป็นคนรักของเธอมา 4 ปี เราเข้าใจกันและกันจากฝันร้ายที่เราต้องเผชิญ ถึงแม้ผมจะพยายามปกป้องเธอทุกวิถีทาง แต่เมื่ออายุเราสองคนมากขึ้น ทางญาติผู้ใหญ่ก็ดูจะยิ่งกดดันเ
**กลับสู่ปัจจุบัน**ฉันตื่นขึ้นมาในชุดนอน สงสัยแม่บ้านน่าจะเป็นคนเปลี่ยนชุดให้ตอนฉันกลับมาเมื่อคืนนี้เมื่อวานเกิดเรื่องกับแซคหลายเรื่อง แถมพอฉันรู้เรื่องแอนนี่คู่เดทของแซคอีก ฉันเลยลืมไปเลยว่ามีเรื่องจะบอกเขาฉันรีบโทรหาแซค ทุกครั้งเขาจะรับสายทันทีราวกับว่าเขานั่งรอฉันโทรไปหา ครั้งนี้ก็เหมือนกัน นี่คือสาเหตุที่ฉันรักเขา"สุดสัปดาห์นี้ไปล่องเรือเป็นเพื่อนฉันนะ?” ฉันแกล้งถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ซ่อนเร้นจุดประสงค์ที่แท้จริง“…กับพ่อคุณและว่าที่แม่เลี้ยง?” แซคตอบอย่างรู้ทันพร้อมกับหัวเราะไปด้วย ให้ตายเถอะ เขาจับได้ ไม่มีทางที่ฉันจะไปล่องเรือในฐานะก้างขวางคอกับแองเจล่าแม่สาวนมใหญ่คนเดียวแน่“ไปเถอะนะแซค… บางทีคู่หมั้นของลูเซียนอาจตกหลุมรักนายและขอถอนหมั้นกับลูเซียนก็ได้” ฉันรีบหยอก"ไม่มีทาง. ฉันไม่ชอบผู้หญิงทำนม เห็นบ่อยจนเอือมแล้ว” แซคตอบทันทีเหมือนเขาดูออก“นายรู้ได้ไงว่าแองเจล่าทำนมมา?รู้จักเธอมาก่อนเหรอ?" ฉันถามแบบอยากรู้อยากเห็น“ฉันเคยเจอเธอในงานสังสรรค์บ่อยๆ แต่ยังไม่เคยนอนกับเธอนะ แต่เรื่องซุบซิบนินทาของสังคมไฮโซนี่มันมาเร็ว โดยเฉพาะถ้าพ่อของฉันกำลังอยากจับฉันแต่งงานนะ” แซคตอบ เข