Share

บทที่ 84

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
รถม้าคันนั้น ดูแล้วก็ไม่เหมือนของครอบครัวหัวหน้าหมู่บ้าน

ท้ายที่สุดแล้ว รถม้าหยุดอยู่ระหว่างบ้านของเฉินเจียงและบ้านของเฉินฝาน

“คงจะมาหาเฉินเจียงกระมัง”

“ก็คงจะใช่ ไม่แน่ว่าหลี่เจิ้งอาจจะส่งของดีๆมาให้เฉินเจียงอีกก็ได้”

“ได้ยินมาว่าหลี่เจิ้งถูกใจเฉินเจียงเข้าแล้ว อยากจะยกลูกสาวให้แต่งงานกับเฉินเจียง”

“ข้าเองก็ได้ยินมาเหมือนกัน ข้ายังได้ยินซานจื่อที่สถานศึกษาพูดว่า สองสามวันมานี้ เฉินเจียงแต่งบทประพันธ์มากมายอย่างต่อเนื่อง ท่านอาจารย์ยังชื่นชมเขาด้วย ปีหน้าแรกเริ่มวสันตฤดู เฉินเจียงสอบเป็นถงเซิง(บัณฑิตขั้นสูง)ได้แน่นอน และอาจจะสอบได้ลำดับที่หนึ่งด้วยซ้ำ!”

“ถ้าเป็นเช่นนั้นละก็ ข้าเป็นหลี่เจิ้ง ข้าก็อยากให้ลูกสาวข้าแต่งงานกับเขา”

ท่ามกลางสายตาอิจฉาของผู้คน เฉินเจียงเดินไปทางรถม้า

เขายืนอยู่หน้ารถม้า โค้งตัวเล็กน้อย ต้อนรับคนด้านบนรถม้าด้วยความยินดียิ่ง

ผ้าม่านของรถม้าถูกคนด้านในรถม้าเปิดออก

ผู้คนต่างพากันแห่ไปดู อยากเห็นว่าหลี่เจิ้งส่งของขวัญดีๆอะไรมาให้เฉินเจียง หรือพูดอีกอย่างก็คือ นอกจากหลี่เจิ้งแล้ว จะมีใครสามารถส่งของขวัญให้เฉินเจียงได้อีก

ส่งของขวัญอะไรมาอีกแล้ว

เฉินเจียง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่าเติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ต้องรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 85

    เขาเป็นเจ้าของรถม้าคันนี้มาตั้งแต่แรกเริ่ม เมื่อสักครู่ตอนที่ขับรถม้าไม่ทันระวังทาง ชนเข้ากับหินก้อนหนึ่ง ทำให้ถุงยาสูบของเขากระเด็นตกไปบนถนนหลังจากที่รถม้าหยุด เขาบอกกับเฉินฝาน แล้วก็กลับไปหาหาถุงยาสูบกลับมาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามา“เจ้าหลบไป พวกข้าจะจับโจรขโมยรถม้า!” จูต้าอันอยากจะจับชายวัยกลางคนที่ยืนตรงหน้ารถม้าโยนออกไป“อะไรนะ? ”ชายวัยกลางคนขยับไปยืนด้านนั้น คนที่ขับรถม้ามานานหลายปี มีรูปร่างหน้าตาสูงใหญ่และกำยำเพียงเขาพลิกผ่ามือ สามารถทำให้จูต้าอันล้มลงได้ทันที“โจรขโมยรถม้าอะไรกัน? อยู่ที่ใด? ”“พี่ชายท่านนี้ ใจเย็นลงก่อน!” เฉินเจียงพูดด้วยท่าทางที่นุ่มนวล “หัวขโมยก็คือคนที่อยู่บนรถม้าด้านหลังท่าน พวกเรารู้จักเขาดี ไม่สามารถจ้างรถม้าแบบนี้ไหวหรอก”“โอ้!” ชายวัยกลางคนพยักหน้า “แท้ที่จริงแล้วรถม้านี้ไม่ใช่น้องชายจ้างมาหรอก”“เฮ้อ!” เมื่อได้ยินชายวัยกลางคนพูดเช่นนี้ เฉินเจียงถอนหายใจทันที พูดอย่างรู้สึกผิดว่า “บ้านข้ามีชายที่เลวทรามต่ำช้าเช่นนี้ พวกข้ากราบขออภัยอย่างยิ่ง”ชายวัยกลางคนมองเฉินเจียงด้วยสายตารังเกียจ “เจ้ากำลังพูดจามีมารยาทอะไรของเจ้า รถม้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 86

    การกอดรัดฉินเย่ว์โหรวลงจากรถม้าที่ไม่ควรเช่นนี้ นี่คือวิธีคิดที่คุ้นชินของเฉินฝานในฐานะคนยุคปัจจุบันตอนที่เขากำลังเตรียมจะปล่อยฉินเย่ว์โหรวลง พบว่าหน้าของนางอยู่ในอ้อมอกของเขาอย่างแนบแน่ ร่างบางสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง เผยครึ่งใบหน้าเรียวเล็กที่แดงเกือบจะคล้ายกับมีเลือดไหลออกมาเอ่อ...เฉินฝานยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวณ ห้วงเวลานั้น เขาลืมไปเลยว่าที่นี้คือยุคโบราณหญิงสาวในอ้อมอกเกรงว่าจะเดินกลับเองไม่ได้แล้วก็เลยปล่อยเลยตามเลยไปเสียเฉินฝานอุ้มฉินเย่ว์โหรวตรงเข้าไปในบ้าน“นายท่าน ท่านจะปล่อยข้าลงได้หรือยัง? ”เฉินฝานก้มหน้ามองฉินเย่ว์โหรวที่เหมือนแมวน้อยขดตัวอยู่ในอ้อมอกของเขาฉีกยิ้มเบาๆพลางวางนางลงพอเท้าของฉินเย่ว์โหรวแตะพื้น ก็รีบวิ่งไปหลบในห้องทันทีณ ช่วงเวลาสั้นๆนี้ ถึงแม้ว่าบ้านจะโดนฟ้าผ่า เดาว่านางก็คงไม่ออกมาปล่อยนางไปเถอะเขายังต้องทำความเข้าใจกับสถานการณ์ด้านนอกบ้านด้านนนอก ตอนที่เฉินฝานอุ้มเฉินเย่ว์โหรวเข้าไปในบ้าน เฉินเจียงกับเฉินฟู่ก็แอบหนีกลับเข้าบ้านของตัวเองจูต้าอันยังไม่กลับ พวกเขายืนอยู่ไกลๆในก้นบึ้งของหัวใจมีความไม่เต็มใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นถ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 87

    ส่วนเรื่องที่ว่าเฉินฝานจะสามารถทำให้พวกเขาหาเงินได้หรือไม่นั้น แท้จริงแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้มากมายผ่านคืนวานที่สงบจิตสงบใจ และวันนี้จูต้าอันยังหัวเราะเยาะพวกเขาอีกพวกเขาได้สติกลับมาหาเงินมันง่ายแบบนั้นที่ไหนกัน โดยเฉพาะในเหมันตฤดูที่สภาพการณ์ไม่ค่อยดี“พี่ฝาน ท่านพูดจริงหรือ? ” จูจื้ออันตื่นเต้นจนปากสั่น“จริงสิ!” เฉินฝานยิ้มพลางพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ “ไม่ได้บอกว่าจะพาเจ้าหาเงินมหาศาลได้ ทว่าสามารถทำให้ภรรยาเจ้ากินอิ่มนอนอุ่นอย่างแน่นอน ทำให้สามารถนำมาเลี้ยงดูลูกสาวของเจ้าให้ข้ามผ่านฤดูหนาวนี้ได้”“พี่ลิ่ว ข้าไม่แน่ใจว่าค่ายาของแม่ท่านชุดหนึ่งต้องใช้เงินเท่าใด ทว่าข้าจะพยายามอย่างสุดกำลังให้ท่านหาเงินได้เยอะขึ้น”เมื่อวานรับปากว่าจะนำทุกคนสาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากเฉียนลิ่วและจูจื้ออันเฉียนลิ่วร่างกายสูงใหญ่กำยำ ปกติแล้วก็ไม่ค่อยกวนโมโหข้าเสียเท่าไหร่ในความทรงจำ เขากับเจ้าของร่างเดิมก็ไม่ลงรอยกันอย่างยิ่ง ทว่าเพื่อแม่ของตนเอง วางความโกรธลงนอบน้อมเจียมตัวมาขอความช่วยเหลือจากเขาจูจื้ออัน อ่อนกว่าสองปี ประพฤติตัวดีปีก่อนพ่อแม่ไปตัดไม้ในภูเขา ตกลงไปในหุบเขา ตอน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 88

    “จูต้าอัน ทำไมเจ้าปากปีจอเช่นนี้!” ฉินเย่ว์เจียวหงุดหงิดอย่างมากเวลาที่คนอื่นมาพูดให้ร้ายเฉินฝานเฉินฝานดึงมือฉินเย่ว์เจียวไว้ “รู้ว่ามันปากปีจอ จะไปสนใจมันทำไม? กลับกันเถอะ!”ทุกคนล้วนแยกย้าย หน้าบ้านของเฉินฝานเหลือเพียงแต่ครอบครัวของเฉินผิงครอบครัวเดียว“ท่านลุง ท่านดูไม่กังวลเลยนะ ไม่กลัวว่าพวกเราจะไม่กลับมาหรือ? ”เฉินผิงยิ้ม “ข้าจะกังวลอะไรกัน สองสามวันมานี้เจ้าทั้งให้เงินเหวินให้เนื้อสัตว์แก่พวกเรา ถ้าไม่ได้หวังดีกับพวกเราอย่างจริงใจ จะตั้งใจทำไปเพื่ออะไรกัน”“แต่ว่า!” เฉินผิงหุบยิ้ม “วันนี้พวกเรากลับมาดึกดื่นขนาดนี้ พวกเรากังวลจริงๆ กังวลว่าพวกเจ้าจะเจออุบัติเหตุด้านนอก”“โอ้ย! ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว พวกเจ้ากลับมาก็ดีแล้ว” เฉินผิงหันหน้าไปพูดกับนางเจิ้งผู้เป็นภรรยา“พวกเฉินฝานเพิ่งจะกลับมา ต้องทั้งเหนื่อยทั้งหิว เจ้ารีบพาลูกสาวคนโตเข้าไปทำอาหารให้พวกเขา”“รับทราบ!”นางเจิ้งพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า นางพาลูกสาวคนโตวิ่งตรงไปที่ห้องครัวของเฉินฝานในมือของนางยังหิ้วตะกร้าใบหนึ่ง ในตะกร้านั้นล้วนเป็นอาหารเห็นอาหารที่ปรุงสุกเย็นแล้ว ตอนนี้ก็เอาไปอุ่นในครัวเฉินผิงเดิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 89

    เห้อครอบครัวนี้นี่มัน...ในใจของเฉินฝานทั้งรู้สึกจนปัญญาและซาบซึ้ง“เอ้อร์ยา มา ช่วยพี่ฝานกินไข่ฟองหนึ่งสิ” เฉินฝานนำไข่หนึ่งฟองไปไว้ในถ้วยของเอ้อร์ยา“พี่ฝาน... ”เอ้อร์ยามองไปที่พ่อแม่ของตนเองไม่แตะต้องไข่ทอดในถ้วย“ท่านลุงท่านป้า ข้ารู้ว่าพวกท่านต้องการจะสื่ออะไร ทว่าตอนนี้เอ้อร์ยากำลังอยู่ในวัยกำลังโต นางต้องการมัน! อีกอย่าง ท่านป้าเมื่อครู่ท่านก็พูดไม่ใช่หรือว่าพวกเราคือครอบครัวเดียวกัน? เหตุใดครอบครัวเดียวกันยังต้องแบ่งแยกซึ่งกันและกัน ? ”ฟังเฉินฝานพูดจบประโยคนี้ นางเจิ้งพูดอย่างสะอึกสะอื้น “ลูกรอง พี่ฝานของเจ้าให้เจ้า เจ้าก็กินเถอะ”นางกับเฉินผิงไม่มีลูกชาย อีกทั้งยังไม่มีสมบัติอะไรซักอย่าง งานวิวาห์ของลูกสาวคนโตก็พังล้มเหลวไม่เป็นท่าชาตินี้ครอบครัวของพวกเขาคงไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้คนในหมู่บ้านมีผลประโยชน์ที่ดี เรื่องอะไรจะนึกถึงพวกเขา ทว่าใครก็ตามอยากทำผลประโยชน์ที่ดีให้กับตระกูลเฉิน ล้วนไปที่บ้านเฉินเจียงกันหมดทว่าเงินทองที่เฉินฝานหามาด้วยตัวเอง ไม่ได้นำไปไว้ที่บ้านเฉินเจียง และไม่ได้ให้ผลประโยชน์ที่ดีกับบ้านเฉินเจียง ทว่าดูแลพวกเขาที่ไม่มีอำนาจที่สุดอย่างไร้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 90

    “ท่านพ่อ ลูกสาวยื่นนิ้วมือออกมาเก้านิ้ว เดือนหนึ่งพี่ฝานจะให้เงินครอบครัวพวกเราเก้าตำลึง”“เก้า เก้าตำลึง!”เฉินผิงและนางเจิ้ง ตาโตพร้อมกันเงินเก้าตำลึง สำหรับเฉินผิงกับนางเจิ้งแล้ว นั่นมันจำนวนยิ่งใหญ่กว่าตัวเลขระดับจักรวาลเสียอีกนะรวมรวบเงินที่พวกเขาสองคนแต่งงานกันมานานสิบปีกว่า ยังหาได้ไม่เยอะขนาดนี้“หลานฝาน เยอะเกินไป เยอะเกินไปแล้ว ข้ารับไว้ไม่ได้ รับไว้ไม่ได้!”“ถูกต้อง! หลานฝาน” นางเจิ้งรีบพูดต่อจากเฉินผิงทันที “ถึงแม้พวกเราจะขาดแคลนทุนทรัพย์ ทว่าก็ไม่สามารถเอาเงินมาจากเจ้าเช่นนี้”“ท่านลุง ท่านป้า!” เฉินฝานเก็บสีหน้าที่เปื้อนยิ้ม พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “เงินนี้ไม่ถือว่าเยอะ ให้เงินก้อนนี้แก่พวกท่าน ข้าต้องการพวกท่านจริงๆ งานที่พวกท่านทำก็สมราคากับเงินก้อนนี้”หลังจากที่เฉินฝานพูดจบ ในบ้านก็เงียบสนิทครอบครัวเฉินผิงปฏิเสธไม่ได้ ทว่าก็กระอักกระอ่วนที่จะรับไว้“เห้อ เงินเยอะก็ดีแล้ว! หลังจากนี้ลูกสาวคนโตของพวกเราก็สามารถแต่งงานกับบ้านสามีที่ดีได้แล้ว ดีที่ตระกูลหูที่หมู่บ้านหลิงนั้น ไม่มาสู่ขอลูกสาวคนโตของพวกเรา ทำให้พวกเขาเสียใจภายหลังกันเถอะ!”เดิมทีลูกสาวคน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 91

    วันนี้พวกเขาได้ 208 ตำลึงจากทักษะจับปลา และ 201 เหวินจากการขายปลาย่าง 67 ตัว เมื่อบวกกับ 400 ตำลึง-เหวินจากยอดเดิม วันนี้พวกเขาน่าจะได้ 208 ตำลึง 601 เหวินจ่ายค่าแรงจับปลาให้กับครอบครัวเฉินผิง 50 เหวิน ซื้อรถม้าใช้ไป 30 ตำลึง ซื้ออาหารแห้ง เนื้อ น้ำมันและของใช้ประจำวันใช้ไป 3 ตำลึงยอดคงเหลือจริงปัจจุบันคือ: 175 ตำลึง 551 เหวิน“อืม!”เฉินฝานพยักหน้าอย่างพอใจ “เรามีเงินซ่อมแซมเรือนทั้งห้าห้องแล้ว”“ใช่แล้ว!” ฉินเย่ว์โหรวรู้สึกดีใจมากเช่นกัน “ตอนนี้ข้ากับพี่สามก็ไปนอนอีกห้องได้แล้ว”“หืม”เฉินฝานลืมตาขึ้นทันทีมีบางอย่างไม่ถูกต้อง!“อะไรนะ พวกเจ้าไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับข้าขนาดนั้นเชียวหรือ”ถ้าเช่นนั้นเขาซ่อมแซมห้องจำนวนมากขนาดนั้นทำไม!ควรซ่อมแซมสามห้องตามแผนเดิม หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องเก็บของและหนึ่งห้องครัวก็เพียงพอแล้ว“ไม่ใช่ ๆ!” ฉินเย่ว์โหรวส่ายหัวไปมาและรีบปฏิเสธ “พวกข้าไม่มีเจตนาไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับนายท่านเจ้าค่ะ!”หากเฉินฝานยังคงเป็นเฉินฝานคนเก่า พวกนางไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับเขาจริง ๆแต่เฉินฝานคนปัจจุบัน......ฉินเย่ว์โหรวก้มศีรษะลง อาการเขินอายแสดงที่ใบหน้าข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 92

    ตื่นเต้นเพราะเฉินฝานจะเชิญพวกเขาไปจับปลาไม่สบายใจเพราะกังวลว่าเฉินฝานมีเงินให้พวกเขาจริง ๆ หรือไม่?“ทำไมพวกเจ้ามาที่นี่เร็วจัง มาถึงแล้วทำไมไม่เคาะประตู ข้างนอกหนาวขนาดนี้”หลายคนหนาวจนหน้าแดงหูแดงและตัวสั่นระริก“เอ่อ!” เฉียนลิ่วเกาหัวด้วยความเกรงใจ “ก็กลัวจะรบกวนพวกท่านไงล่ะ!”เมื่อคืนคนกลุ่มนี้ไม่ได้นอน ตอนที่เฉินฝานเห็นพวกเขา พวกเขานั่งยอง ๆ อยู่ข้างนอกเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง-ชั่วยาม“ใช่ กลัวจะรบกวนพี่ฝานและพี่สะใภ้” จูจื้ออันยิ้มอย่างซื่อบื้อ สองมือหนาวจนแดงระเรื่อ“เฮ้อ พวกเจ้า…...”เฉินฝานรีบผลักประตูออกให้กว้างที่สุด“ทุกคนเข้ามาก่อน ข้างนอกหนาว”เมื่อฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวได้ยินเสียงดังกล่าว ก็ลงจากเตียงเตาและออกจากห้อง“เย่ว์เจียว เย่ว์โหรว รีบก่อไฟสองกองมาวางตรงนี้หน่อย”ที่เรือนมีเก้าอี้ไม่มากนัก เดิมทีเฉินฝานอยากให้ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวย้ายฟืนออกจากห้องเก็บของเพื่อให้ทุกคนได้นั่งคนเหล่านี้พากันกล่าวปฏิเสธและพูดว่านั่งพื้นได้เมื่อพูดจบ ทุกคนก็นั่งล้อมเตาอั้งโล่ที่พื้นทันทีแสงไฟส่องบนใบหน้าของพวกเขา ทุก ๆ ใบหน้าแสดงรอยยิ้มที่ตื่นเต้นเอ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1070

    “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหตุใดจึงกระวนกระวายเช่นนี้?”เมื่อเห็นคนคนนั้น อวิ๋นเต๋อรีบเดินไปถามทันที คนที่มาคือหัวหน้าทหารเวรรักษาพระองค์ในวันนี้“ผู้นำอวิ๋น จู่ๆ นอกวังหลวงก็มีชาวบ้านมากมายมา พวกเขาต้องการเข้าพบท่านอัครเสนาบดีขอรับ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น โอวหยางน่าหลันที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรโมโหเล็กน้อย “เรื่องเล็กแค่นี้ กลับกระวนกระวายขั้นนี้ อวิ๋นเต๋อ เอาตัวเขาออกไป!”เมื่อครั้นโอวหยางน่าหลันเพิ่งครอบครองอำนาจ มักจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้นโอวหยางน่าหลันจึงเคยชินแล้ว สำหรับนางนี่เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ“องค์หญิง!”หัวหน้าทหารเวรคุกเข่าลง สีหน้าลำบากใจ“ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งพ่ะย่ะค่ะ ไม่ว่ากระหม่อมจะใช้วิธีการใด พวกชาวบ้านก็ไม่ยอมไป ยิ่งไล่พวกเขาก็ยิ่งบุกเข้ามา กล่าวว่าแม้พวกเขาต้องตาย พวกเขาก็ต้องขอพบท่านอัครเสนาบดีให้ได้!”โอวหยางน่าหลันโบกมือด้วยความรำคาญ “เช่นนั้นก็ไล่ด้วยวิธีที่รุนแรงขึ้นอีก หากมีคนตาย เช่นนั้นก็ส่งอาหารสำหรับสามปีไปให้ครอบครัวเขา เจ้าไปจัดการด้วยตนเอง!”นี่คือวิธีการที่โอวหยางน่าหลันใช้เป็นประจำ เมื่อก่อนให้เงิน ตอนนี้ข้าวสารล้ำค่ากว่าเงิน เช

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1069

    เสียงฟิ้วดังขึ้นสองครั้ง โอวหยางกว่างเซวียนใช้หนังสติ๊กยิงก้อนหินออกไปแล้วสองก้อนเหตุเพราะเป็นการใช้หนังสติ๊กครั้งแรก ก้อนหินที่ยิงออกไป จึงไกลเพียงสองสามเมตรเท่านั้น“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?”ริมฝีปากของโอวหยางกว่างเซวียนจู๋เล็กน้อย สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ ถามเฉินฝาน “เหตุใดท่านจึงยิงไกลเช่นนั้น”เฉินฝานยิ้ม “เพราะข้าใช้เป็นประจำ ยกหนังสติ๊กให้ท่านแล้ว วันข้างหน้าท่านฝึกฝนทุกวัน ต้องยิงได้ไกลแน่นอน”“แต่ว่า...” โอวหยางกว่างเซวียนขมวดคิ้วเป็นปม “ท่านบอกให้ข้าใช้หนังสติ๊กยิงคนที่พูดถ้อยคำเหล่านั้นกับข้าไม่ใช่หรือ?”“ถูกต้อง แต่ข้าไม่ให้ท่านอยู่ห่างไกลเช่นนี้!”เฉินฝานยังพูดไม่จบ โอวหยางกว่างเซวียนก็พุ่งตัวออกมาราวกับฟ้าแลบเสียงฟิ้วดังขึ้นสองครั้งโอวหยางกว่างเซวียนใช้หนังสติ๊กยิงหัวหน้าเลขากรมขุนนางเหมียวเหลียงจื้อและราชครูโจวหยางชิง“พวกเจ้าสองคนนี่เอง ทหาร!”โอวหยางน่าหลันร้องตะโกนเสียงดัง“เอาตัวขุนนางชั่วพูดจาให้ร้ายผู้อื่น ทั้งสองคนออกไป จับพวกเขากักขังในคุกหลวง!”“องค์หญิง กระหม่อมถูกใส่ร้ายพ่ะย่ะค่ะ”เหมียวเหลียงจื้อและโจวหยางชิงคุกเข่าอ้อนวอนทันที“องค์หญิง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1068

    เฉินฝานโน้มตัวลง พูดกับโอวหยางกว่างเซวียนด้วยความอ่อนโยน “วังหลวงแคว้นหลู่คือบ้านของเซวียนเอ๋อร์ตลอดไป ข้าจะไล่ท่านออกไปได้อย่างไร?”“ข้าไม่เชื่อท่านหรอก พวกเขาบอกว่า แรกเริ่มท่านต้องพูดเช่นนี้กับข้าแน่นอน แต่หลังจากผ่านไปนานวันเข้า ท่านต้องเห็นว่าข้าขวางหูขวางตา แล้วไล่ข้าออกไปจากวังหลวง”“เซวียนเอ๋อร์ ถ้อยคำเหล่านี้ผู้ใดเป็นคนบอกเจ้า?” โอวหยางน่าหลันที่ยืนฟังอู่ข้างๆ ยิ่งฟังก็ยิ่งโมโห “เจ้าบอกพี่มา ข้าจะไปฉีกปากพวกเขา”“พวกเขา...” ทันใดนั้นเองโอวหยางกว่างเซวียนก็ปิดปากเงียบสนิท ไม่ว่าโอวหยางน่าหลันจะใช้ลูกไม้ได้ ถึงขั้นตำหนิ เขาก็ไม่อมพูดเฉินฝานเข้าใจแล้ว ทว่าเป็นเที่ยงตรงและกล้าคิดกล้าทำแม้โอวหยางกว่างเซวียนจะปัญญานิ่ม ทว่าเขาเป็นคนเที่ยงตรงและกล้าคิดกล้าทำราชวงศ์โอวหยางแคว้นหลู่ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ล้วนเป็นคนเที่ยงตรงและกล้าคิดกล้าทำ ทว่าพวกเขาค่อนข้างให้ความสำคัญกับสายเลือด ชอบให้ญาติมิตรสนิทชิดเชื้อแต่งงานกัน เมื่อถึงรุ่นของโอวหยางน่าหลัน มารดาของโอวหยางน่าหลัน มีลูกชายสามคนติดกัน สองคนแรกอายุไม่ถึงหนึ่งขวบก็สิ้นใจ ไม่ง่ายเลยอุตส่าห์เลี้ยงดูโอวหยางกว่างเซวียนจนเติบโต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1067

    ท่านราชครูบอกให้เซวียนเอ๋อร์มาขอรับ”“ท่านราชครู? โจวหยางชิงบอกให้เจ้ามา”โจวหยางชิงเป็นราชครูของโอวหยางกว่างเซวียน และเคยสอนเหมียวเหลียงจื้อ ภรรยาเป็นชาวเมืองหลวงแคว้นต้าชิ่ง“ขอรับ!” โอวหยางกว่างเซวียนพยักหน้า “ท่านราชครูกล่าวว่า เซวียนเอ๋อร์เป็นจักรพรรดิแคว้นหลู่ อายุสิบสามแล้ว ควรค่อยๆ ศึกษาการปกครองแคว้นหลู่ อย่าให้ท่านพี่เหนื่อยเช่นนี้ แต่ว่า...”จู่ๆ โอวหยางกว่างเซวียนก็ทำหน้ามุ่ย สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความเสียใจ“ฮือ!” โอวหยางกว่างเซวียนร้องไห้เสียงดัง แล้วกอดโอวหยางน่าหลัน “เซวียนเอ๋อร์ไม่อยากนั่งเก้าอี้ตัวนั้น เพราะเซวียนเอ๋อร์อยากไปชิ้งฉ่อง แต่ท่านราชครูบอกว่าไม่อาจไปได้หากยังไม่จบการประชุมราชสำนัก ทั้งยังไม่อาจเล่นกับแมลงได้”“ท่านพี่ ท่านรักเซวียนเอ๋อร์ที่สุด ท่านไปตำหนิราชครูได้หรือไม่ เซวียนเอ๋อร์ไม่อยากประชุมราชสำนักจริงๆ ขอรับ”โอวหยางกว่างเซวียนจับแขนเสื้อของโอวหยางน่าหลันแล้วอ้อนวอน สำหรับเขา ท่านแม่นอกจากใจดีกับเขาและท่านพ่อท่านแม่แล้ว ล้วนดุร้ายกับทุกคน อีกทั้งคนพวกนั้นก็กลัวท่านพี่มาก ขอเพียงท่านพี่ดุเล็กน้อย พวกเขาก็เชื่อฟังท่านพี่แล้วโอวหยางน่าหลันไม่ได้ตอบ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1066

    “ท่านพี่ฝาน ท่านหมายความว่า...” โอวหยางน่าหลันเงยหน้าขึ้น “ชาวต้าชิ่งช่วยเขาคิดแผนการนี้หรือ?”“มีความเป็นไปได้สูง” แววตาของเฉินฝานเย็นยะเยือก “พุ่งเป้ามาที่ข้าได้ แต่เอาสตรีของข้าเข้ามาข้องเกี่ยว เอาชาวแคว้นหลู่มาข้องเกี่ยว เช่นนั้นไม่ได้”“ท่านพี่ฝาน ฟังจากที่ท่านพูดหมายความว่า...” แววตาของโอวหยางน่าหลันแปรเปลี่ยนเป็นเหี้ยมโหดเช่นเดียวกัน “ไฟป่าแคว้นหลู่ในครั้งนี้ มีคนตั้งใจทำให้เกิดขึ้น”เฉินฝานพยักหน้าตลอดสี่เดือนที่ผ่านมานี้ เขาวิ่งวุ่นไปทั่วทุกเมืองของแคว้นหลู่ ไฟป่าทั้งรุนแรงและไม่รุนแรง เขาดับมามากมายกว่าพันแห่ง เขามั่นใจว่า ไฟป่าแคว้นหลู่ในครั้งนี้ เป็นฝีมือมนุษย์“ข้าจะมีราชโองการ ให้กรมยุติธรรมไปสืบเดี๋ยวนี้!”โอวหยางน่าหลันกำลังจะเอ่ยปาก ให้นางกำนัลคนสนิทนำม้วนหนังสือราชโองการ พู่กันและหมึกมา ก็ถูกเฉินฝานปราม“ต้องรีบสืบหาความจริง แต่ไม่อาจสืบหาเช่นนี้ ต้องดำเนินการอย่างลับๆ ท่านมีรับสั่งลับ ให้คนของอวิ๋นเต๋อไปสืบด้วยตนเอง”“ได้ ท่านพี่ฝาน ข้าฟังท่าน”ตอนโอวหยางน่าหลันมีรับสั่งลับ นางถามเฉินฝานอีกครั้ง “ท่านพี่ฝาน ท่านว่า เสิ่นหมิงหยวนจากแคว้นต้าชิ่งอยู่เบื้องหลัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1065

    หลังจากฟังคำอธิบายของเฉินฝานจบ โอวหยางน่าหลันโมโหจนตบโต๊ะ “เหมียวเหลียงจื้อ ช่างร้ายกาจเสียจริง ข้าจะประหารเจ้า”“อย่าโมโหขนาดนั้น เด็กในครรภ์ของท่านจะไม่สบายเอาได้” เฉินฝานรีบปลอบโอวหยางน่าหลัน“คุณชายฝาน ท่านพูดถูก ข้าไม่อาจทำร้ายลูกของเราเพราะคนร้ายกาจเช่นนั้น”โอวหยางน่าหลันจับท้องของตนเองเบาๆ พยายามให้ตนเองสงบลง“เฮ้อ ไม่สิ” โอวหยางน่าหลันที่จับท้องตนเองเบาๆ อยู่นั้น หยุดชะงักกะทันหัน “เหมียวเหลียงจื้อเป็นบุตรชายของเหมียวปิง แม้จะมีความสามารถ ทว่าไม่อาจเทียบชั้นเหมียวปิง แผนการชั่วร้ายอำมหิตเช่นนี้ เขาจะมีปัญญาคิดได้หรือ”“ยิ่งไปกว่านั้น เหมียวปิงสนับสนุนให้ท่านเป็นอัครเสนาบดี เมื่อครั้นตอนที่เขาถูกระเบิดของทหารหญิง เคยบอกข้า”“หากแคว้นหลู่อยากรอดจากวิกฤต ดำรงอยู่ในใต้หล้านี้ต่อไป มีเพียงวิธีเดียว ซึ่งก็คือให้ข้าแต่งงานกับท่าน ให้ท่านเป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่”“อ่อ ที่แท้การที่ท่านแต่งงานกับข้า ไม่ใช่เพราะชมชอบข้า แต่เพื่อใช้ประโยชน์จากข้า” เฉินฝานแกล้งทำเป็นโมโห“คุณชายฝาน ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าเพียงอยากบอกว่า ตั้งแต่เล็กจนโตเหมียวเหลียงจื้อเชื่อฟังเหมียวปิงมาโดย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1064

    หลังจากอ่านจดหมาย เฉินฝานรีบคัดค้านทันที ตอบกลับจดหมายในทันควัน นักส่งสารที่มาส่งจดหมายรีบขี่ม้าเร็วนำจดหมายตอบกลับของเฉินฝานส่งถึงมือโอวหยางน่าหลันประชุมราชสำนักเช้าวันที่สอง ตอนโอวหยางน่าหลันอ่านจดหมายตอบกลับของเฉินฝาน ทั่วท้องพระโรงตกอยู่ในความเงียบ“เหตุใดท่านอัครเสนาบดีจึงไม่เห็นด้วย หลังไฟป่าเผาทำลายทำให้ชาวบ้านไม่มีฟืนขาย ช่างเหล็กก็ไม่อาจผลิตเครื่องมือเหล็กได้เพราะไม่มีฟืนสำหรับเผา พวกเขาตกที่นั่งลำบาก หากราชสำนักไม่ช่วยพวกเขา แล้วพวกเขาจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร?”ขุนนางในราชสำนักแสดงความไม่เข้าใจและเคืองขุ่น ถึงขั้นมีคนรู้สึกว่าเฉินฝานตั้งใจเฉินฝานไม่อยากให้แคว้นหลู่ดีกว่าต้าชิ่ง เขาไม่เห็นแคว้นหลู่เป็นแคว้นของตนเองโอวหยางน่าหลันฟังแล้วหงุดหงิดยิ่งนักนางเชื่ออย่างหนักแน่นว่าเฉินฝานไม่มีทางไม่อยากเห็นแคว้นหลู่ดี แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายการกระทำนี้ของเฉินฝานอย่างไร เพราะนางเองก็ไม่เข้าใจ“จบประชุมราชสำนัก!”โอวหยางน่าหลันจบการประชุมราชสำนักเย็นวันเดียวกัน เฉินฝานเร่งเดินทางกลับถึงเมืองหลวงแคว้นหลู่“ท่านพี่ฝาน!”เฉินฝานเพิ่งไปถึงหน้าตำหนักองค์หญิง โอวหยางน่าหลันก็พยุ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1063

    “เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?” โอวหยางน่าหลันขมวดคิ้วเป็นปมแคว้นหลู่มากไปด้วยภูเขาทว่าพื้นดินน้อย รายได้หลักมาจากการขายเครื่องมือเหล็กและฟืน อุตสาหกรรมอื่นๆ นั้น ล้วนอาศัยสองอุตสาหกรรมนี้ในการดำรงชีวิตไฟป่า เผาทำลายพื้นที่ป่ากว่าเจ็ดในสิบส่วนของแคว้นหลู่ชาวบ้านไม่มีต้นไม้ เช่นนั้นก็ไม่มีรายได้ช่างเหล็กไม่มีฟืน เช่นนั้นก็ไม่อาจทำเครื่องมือเหล็กได้ และไม่มีรายได้ช่างเหล็กและชาวบ้านที่ครอบครองผืนป่าไม่พอใจ เช่นนั้นก็เท่ากับชาวแคว้นหลู่ไม่พอใจเฉินฝาน“องค์หญิง ราษฎรคือแหล่งน้ำของแคว้น น้ำทำให้เรือแล่นและทำให้เรือจมได้เช่นเดียวกัน องค์หญิง ต้องคลายโทสะของชาวบ้านให้ได้พ่ะย่ะค่ะ” เหมียวเหลียงจื้อพูดด้วยสีหน้าลำบากใจโอวหยางน่าหลันมองเหมียวเหลียงจื้อด้วยแววตาเย็นชา “คลายโทสะของราษฎรที่เจ้าพูดถึง คืออยากให้ข้าถอดยศอัครเสนาบดีของเฉินฝาน แล้วให้เจ้าขึ้นเป็นอัครเสนาบดีแทนใช่หรือไม่?”“องค์หญิง!” เหมียวเหลียงจื้อรีบคุกเข่าทันที “กระหม่อมไม่กล้าคิดเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมตระหนักรู้ดีว่าตนไม่มีความสามารถเทียบใต้เท้าเฉินได้!”โอวหยางน่าหลันถลึงตามองเหมียวเหลียงจื้อ “ข้าว่าเจ้าก็คงไม่กล้า”เม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1062

    “ท่านคงไม่ได้...” เฉินฝานลุกขึ้นแล้วนั่งลงข้างโอวหยางน่าหลัน มองท้องน้อยที่นูนขึ้นมา แววตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นระมัดระวัง “ตั้งครรภ์หรือ?”“เจ้าค่ะ”พวงแก้มของโอวหยางน่าหลันแดงระเรื่อเล็กน้อย ดวงตางดงามเปี่ยมไปด้วยความรักของแม่ นางคว้ามือเฉินฝานขึ้นมาอีกครั้ง วางลงบนท้องน้อย “สามเดือนกว่าแล้วเจ้าค่ะ”เมื่อสามเดือนก่อน เฉินฝานจะไปเมืองเฟิ่งหวง โอวหยางน่าหลันเดินทางไกล ไปถึงเมืองหลวงต้าชิ่ง อยากตามเฉินฝานไปเมืองเฟิ่งหวงเฉินฝานไม่ให้นางไป ก่อนออกเดินทาง เพื่อปลอบโยนโอวหยางน่าหลันที่เดินทางมาไกล พวกเขาบรรเลงเพลงรักสุดเร่าร้อนบนรถม้านานหนึ่งชั่วยามกว่าเด็กน้อยในครรภ์ของโอวหยางน่าหลัน น่าจะมาจากตอนนั้นเฉินฝานก้มหน้าลงประทับจุมพิตลงบนท้องน้อยที่นูนขึ้นมาของโอวหยางน่าหลัน“เจ้าตั้งครรภ์แล้ว เราไม่อาจทำอะไรพร่ำเพรื่อได้”ขณะพูด เฉินฝานสวมเสื้อผ้าให้โอวหยางน่าหลัน ทว่าคิดไม่ถึง โอวหยางน่าหลันคว้ามือของเขา นางจับมือเฉินฝาน เลื่อนสูงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายวางมือเขาไว้ที่ยอดประทุม“?”เฉินฝานมองโอวหยางน่าหลันด้วยความฉงนเพราะตั้งครรภ์ยอดประทุมทั้งสองของนาง จึงอวบอิ่มกว่าเดิม เต่งตึงกว่าเ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status