แชร์

บทที่ 86

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
การกอดรัดฉินเย่ว์โหรวลงจากรถม้าที่ไม่ควรเช่นนี้ นี่คือวิธีคิดที่คุ้นชินของเฉินฝานในฐานะคนยุคปัจจุบัน

ตอนที่เขากำลังเตรียมจะปล่อยฉินเย่ว์โหรวลง พบว่าหน้าของนางอยู่ในอ้อมอกของเขาอย่างแนบแน่ ร่างบางสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง เผยครึ่งใบหน้าเรียวเล็กที่แดงเกือบจะคล้ายกับมีเลือดไหลออกมา

เอ่อ...

เฉินฝานยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

ณ ห้วงเวลานั้น เขาลืมไปเลยว่าที่นี้คือยุคโบราณ

หญิงสาวในอ้อมอกเกรงว่าจะเดินกลับเองไม่ได้แล้ว

ก็เลยปล่อยเลยตามเลยไปเสีย

เฉินฝานอุ้มฉินเย่ว์โหรวตรงเข้าไปในบ้าน

“นายท่าน ท่านจะปล่อยข้าลงได้หรือยัง? ”

เฉินฝานก้มหน้ามองฉินเย่ว์โหรวที่เหมือนแมวน้อยขดตัวอยู่ในอ้อมอกของเขา

ฉีกยิ้มเบาๆพลางวางนางลง

พอเท้าของฉินเย่ว์โหรวแตะพื้น ก็รีบวิ่งไปหลบในห้องทันที

ณ ช่วงเวลาสั้นๆนี้ ถึงแม้ว่าบ้านจะโดนฟ้าผ่า เดาว่านางก็คงไม่ออกมา

ปล่อยนางไปเถอะ

เขายังต้องทำความเข้าใจกับสถานการณ์ด้านนอกบ้าน

ด้านนนอก ตอนที่เฉินฝานอุ้มเฉินเย่ว์โหรวเข้าไปในบ้าน เฉินเจียงกับเฉินฟู่ก็แอบหนีกลับเข้าบ้านของตัวเอง

จูต้าอันยังไม่กลับ พวกเขายืนอยู่ไกลๆ

ในก้นบึ้งของหัวใจมีความไม่เต็มใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 87

    ส่วนเรื่องที่ว่าเฉินฝานจะสามารถทำให้พวกเขาหาเงินได้หรือไม่นั้น แท้จริงแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้มากมายผ่านคืนวานที่สงบจิตสงบใจ และวันนี้จูต้าอันยังหัวเราะเยาะพวกเขาอีกพวกเขาได้สติกลับมาหาเงินมันง่ายแบบนั้นที่ไหนกัน โดยเฉพาะในเหมันตฤดูที่สภาพการณ์ไม่ค่อยดี“พี่ฝาน ท่านพูดจริงหรือ? ” จูจื้ออันตื่นเต้นจนปากสั่น“จริงสิ!” เฉินฝานยิ้มพลางพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ “ไม่ได้บอกว่าจะพาเจ้าหาเงินมหาศาลได้ ทว่าสามารถทำให้ภรรยาเจ้ากินอิ่มนอนอุ่นอย่างแน่นอน ทำให้สามารถนำมาเลี้ยงดูลูกสาวของเจ้าให้ข้ามผ่านฤดูหนาวนี้ได้”“พี่ลิ่ว ข้าไม่แน่ใจว่าค่ายาของแม่ท่านชุดหนึ่งต้องใช้เงินเท่าใด ทว่าข้าจะพยายามอย่างสุดกำลังให้ท่านหาเงินได้เยอะขึ้น”เมื่อวานรับปากว่าจะนำทุกคนสาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากเฉียนลิ่วและจูจื้ออันเฉียนลิ่วร่างกายสูงใหญ่กำยำ ปกติแล้วก็ไม่ค่อยกวนโมโหข้าเสียเท่าไหร่ในความทรงจำ เขากับเจ้าของร่างเดิมก็ไม่ลงรอยกันอย่างยิ่ง ทว่าเพื่อแม่ของตนเอง วางความโกรธลงนอบน้อมเจียมตัวมาขอความช่วยเหลือจากเขาจูจื้ออัน อ่อนกว่าสองปี ประพฤติตัวดีปีก่อนพ่อแม่ไปตัดไม้ในภูเขา ตกลงไปในหุบเขา ตอน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 88

    “จูต้าอัน ทำไมเจ้าปากปีจอเช่นนี้!” ฉินเย่ว์เจียวหงุดหงิดอย่างมากเวลาที่คนอื่นมาพูดให้ร้ายเฉินฝานเฉินฝานดึงมือฉินเย่ว์เจียวไว้ “รู้ว่ามันปากปีจอ จะไปสนใจมันทำไม? กลับกันเถอะ!”ทุกคนล้วนแยกย้าย หน้าบ้านของเฉินฝานเหลือเพียงแต่ครอบครัวของเฉินผิงครอบครัวเดียว“ท่านลุง ท่านดูไม่กังวลเลยนะ ไม่กลัวว่าพวกเราจะไม่กลับมาหรือ? ”เฉินผิงยิ้ม “ข้าจะกังวลอะไรกัน สองสามวันมานี้เจ้าทั้งให้เงินเหวินให้เนื้อสัตว์แก่พวกเรา ถ้าไม่ได้หวังดีกับพวกเราอย่างจริงใจ จะตั้งใจทำไปเพื่ออะไรกัน”“แต่ว่า!” เฉินผิงหุบยิ้ม “วันนี้พวกเรากลับมาดึกดื่นขนาดนี้ พวกเรากังวลจริงๆ กังวลว่าพวกเจ้าจะเจออุบัติเหตุด้านนอก”“โอ้ย! ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว พวกเจ้ากลับมาก็ดีแล้ว” เฉินผิงหันหน้าไปพูดกับนางเจิ้งผู้เป็นภรรยา“พวกเฉินฝานเพิ่งจะกลับมา ต้องทั้งเหนื่อยทั้งหิว เจ้ารีบพาลูกสาวคนโตเข้าไปทำอาหารให้พวกเขา”“รับทราบ!”นางเจิ้งพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า นางพาลูกสาวคนโตวิ่งตรงไปที่ห้องครัวของเฉินฝานในมือของนางยังหิ้วตะกร้าใบหนึ่ง ในตะกร้านั้นล้วนเป็นอาหารเห็นอาหารที่ปรุงสุกเย็นแล้ว ตอนนี้ก็เอาไปอุ่นในครัวเฉินผิงเดิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 89

    เห้อครอบครัวนี้นี่มัน...ในใจของเฉินฝานทั้งรู้สึกจนปัญญาและซาบซึ้ง“เอ้อร์ยา มา ช่วยพี่ฝานกินไข่ฟองหนึ่งสิ” เฉินฝานนำไข่หนึ่งฟองไปไว้ในถ้วยของเอ้อร์ยา“พี่ฝาน... ”เอ้อร์ยามองไปที่พ่อแม่ของตนเองไม่แตะต้องไข่ทอดในถ้วย“ท่านลุงท่านป้า ข้ารู้ว่าพวกท่านต้องการจะสื่ออะไร ทว่าตอนนี้เอ้อร์ยากำลังอยู่ในวัยกำลังโต นางต้องการมัน! อีกอย่าง ท่านป้าเมื่อครู่ท่านก็พูดไม่ใช่หรือว่าพวกเราคือครอบครัวเดียวกัน? เหตุใดครอบครัวเดียวกันยังต้องแบ่งแยกซึ่งกันและกัน ? ”ฟังเฉินฝานพูดจบประโยคนี้ นางเจิ้งพูดอย่างสะอึกสะอื้น “ลูกรอง พี่ฝานของเจ้าให้เจ้า เจ้าก็กินเถอะ”นางกับเฉินผิงไม่มีลูกชาย อีกทั้งยังไม่มีสมบัติอะไรซักอย่าง งานวิวาห์ของลูกสาวคนโตก็พังล้มเหลวไม่เป็นท่าชาตินี้ครอบครัวของพวกเขาคงไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้คนในหมู่บ้านมีผลประโยชน์ที่ดี เรื่องอะไรจะนึกถึงพวกเขา ทว่าใครก็ตามอยากทำผลประโยชน์ที่ดีให้กับตระกูลเฉิน ล้วนไปที่บ้านเฉินเจียงกันหมดทว่าเงินทองที่เฉินฝานหามาด้วยตัวเอง ไม่ได้นำไปไว้ที่บ้านเฉินเจียง และไม่ได้ให้ผลประโยชน์ที่ดีกับบ้านเฉินเจียง ทว่าดูแลพวกเขาที่ไม่มีอำนาจที่สุดอย่างไร้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 90

    “ท่านพ่อ ลูกสาวยื่นนิ้วมือออกมาเก้านิ้ว เดือนหนึ่งพี่ฝานจะให้เงินครอบครัวพวกเราเก้าตำลึง”“เก้า เก้าตำลึง!”เฉินผิงและนางเจิ้ง ตาโตพร้อมกันเงินเก้าตำลึง สำหรับเฉินผิงกับนางเจิ้งแล้ว นั่นมันจำนวนยิ่งใหญ่กว่าตัวเลขระดับจักรวาลเสียอีกนะรวมรวบเงินที่พวกเขาสองคนแต่งงานกันมานานสิบปีกว่า ยังหาได้ไม่เยอะขนาดนี้“หลานฝาน เยอะเกินไป เยอะเกินไปแล้ว ข้ารับไว้ไม่ได้ รับไว้ไม่ได้!”“ถูกต้อง! หลานฝาน” นางเจิ้งรีบพูดต่อจากเฉินผิงทันที “ถึงแม้พวกเราจะขาดแคลนทุนทรัพย์ ทว่าก็ไม่สามารถเอาเงินมาจากเจ้าเช่นนี้”“ท่านลุง ท่านป้า!” เฉินฝานเก็บสีหน้าที่เปื้อนยิ้ม พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “เงินนี้ไม่ถือว่าเยอะ ให้เงินก้อนนี้แก่พวกท่าน ข้าต้องการพวกท่านจริงๆ งานที่พวกท่านทำก็สมราคากับเงินก้อนนี้”หลังจากที่เฉินฝานพูดจบ ในบ้านก็เงียบสนิทครอบครัวเฉินผิงปฏิเสธไม่ได้ ทว่าก็กระอักกระอ่วนที่จะรับไว้“เห้อ เงินเยอะก็ดีแล้ว! หลังจากนี้ลูกสาวคนโตของพวกเราก็สามารถแต่งงานกับบ้านสามีที่ดีได้แล้ว ดีที่ตระกูลหูที่หมู่บ้านหลิงนั้น ไม่มาสู่ขอลูกสาวคนโตของพวกเรา ทำให้พวกเขาเสียใจภายหลังกันเถอะ!”เดิมทีลูกสาวคน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 91

    วันนี้พวกเขาได้ 208 ตำลึงจากทักษะจับปลา และ 201 เหวินจากการขายปลาย่าง 67 ตัว เมื่อบวกกับ 400 ตำลึง-เหวินจากยอดเดิม วันนี้พวกเขาน่าจะได้ 208 ตำลึง 601 เหวินจ่ายค่าแรงจับปลาให้กับครอบครัวเฉินผิง 50 เหวิน ซื้อรถม้าใช้ไป 30 ตำลึง ซื้ออาหารแห้ง เนื้อ น้ำมันและของใช้ประจำวันใช้ไป 3 ตำลึงยอดคงเหลือจริงปัจจุบันคือ: 175 ตำลึง 551 เหวิน“อืม!”เฉินฝานพยักหน้าอย่างพอใจ “เรามีเงินซ่อมแซมเรือนทั้งห้าห้องแล้ว”“ใช่แล้ว!” ฉินเย่ว์โหรวรู้สึกดีใจมากเช่นกัน “ตอนนี้ข้ากับพี่สามก็ไปนอนอีกห้องได้แล้ว”“หืม”เฉินฝานลืมตาขึ้นทันทีมีบางอย่างไม่ถูกต้อง!“อะไรนะ พวกเจ้าไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับข้าขนาดนั้นเชียวหรือ”ถ้าเช่นนั้นเขาซ่อมแซมห้องจำนวนมากขนาดนั้นทำไม!ควรซ่อมแซมสามห้องตามแผนเดิม หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องเก็บของและหนึ่งห้องครัวก็เพียงพอแล้ว“ไม่ใช่ ๆ!” ฉินเย่ว์โหรวส่ายหัวไปมาและรีบปฏิเสธ “พวกข้าไม่มีเจตนาไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับนายท่านเจ้าค่ะ!”หากเฉินฝานยังคงเป็นเฉินฝานคนเก่า พวกนางไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับเขาจริง ๆแต่เฉินฝานคนปัจจุบัน......ฉินเย่ว์โหรวก้มศีรษะลง อาการเขินอายแสดงที่ใบหน้าข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 92

    ตื่นเต้นเพราะเฉินฝานจะเชิญพวกเขาไปจับปลาไม่สบายใจเพราะกังวลว่าเฉินฝานมีเงินให้พวกเขาจริง ๆ หรือไม่?“ทำไมพวกเจ้ามาที่นี่เร็วจัง มาถึงแล้วทำไมไม่เคาะประตู ข้างนอกหนาวขนาดนี้”หลายคนหนาวจนหน้าแดงหูแดงและตัวสั่นระริก“เอ่อ!” เฉียนลิ่วเกาหัวด้วยความเกรงใจ “ก็กลัวจะรบกวนพวกท่านไงล่ะ!”เมื่อคืนคนกลุ่มนี้ไม่ได้นอน ตอนที่เฉินฝานเห็นพวกเขา พวกเขานั่งยอง ๆ อยู่ข้างนอกเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง-ชั่วยาม“ใช่ กลัวจะรบกวนพี่ฝานและพี่สะใภ้” จูจื้ออันยิ้มอย่างซื่อบื้อ สองมือหนาวจนแดงระเรื่อ“เฮ้อ พวกเจ้า…...”เฉินฝานรีบผลักประตูออกให้กว้างที่สุด“ทุกคนเข้ามาก่อน ข้างนอกหนาว”เมื่อฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวได้ยินเสียงดังกล่าว ก็ลงจากเตียงเตาและออกจากห้อง“เย่ว์เจียว เย่ว์โหรว รีบก่อไฟสองกองมาวางตรงนี้หน่อย”ที่เรือนมีเก้าอี้ไม่มากนัก เดิมทีเฉินฝานอยากให้ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวย้ายฟืนออกจากห้องเก็บของเพื่อให้ทุกคนได้นั่งคนเหล่านี้พากันกล่าวปฏิเสธและพูดว่านั่งพื้นได้เมื่อพูดจบ ทุกคนก็นั่งล้อมเตาอั้งโล่ที่พื้นทันทีแสงไฟส่องบนใบหน้าของพวกเขา ทุก ๆ ใบหน้าแสดงรอยยิ้มที่ตื่นเต้นเอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 93

    “วันนี้มีพวกเจ้าทั้งหมดสิบเก้าคน จับปลาไนตัวเล็กคนละสามสิบตัวและปลาเฉาฮื้อตัวใหญ่คนละหกตัว”เช่นนี้ก็จะได้ปลาไนตัวเล็ก 570 ตัว และปลาเฉาฮื้อตัวใหญ่114 ตัวจำนวนปลาต้องได้มากกว่าที่ต้องการแน่นอน เพราะวันนี้เฉินฝานต้องส่งปลาเป็นและอาจมีปลาตายระหว่างทางที่สำคัญหลี่ซานไม่ใช่พ่อค้าประเภทที่ไม่ยอมคิดเงินเมื่อจำนวนเพิ่มขึ้นเสียหน่อยทันทีที่เฉินฝานพูดจบ เฉียนลิ่วและคนอื่น ๆ ก็รวมตัวกันเริ่มนับทันที "ปลาไนตัวเล็กสามสิบตัว ห้าตัวหนึ่งเหวิน ปลาเฉาฮื้อตัวใหญ่หกตัว ตัวละหนึ่งเหวิน......"คนที่มาที่นี่โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนยากจนในหมู่บ้าน ไม่เคยเรียนการคำนวณ พวกเขาคิดคำนวณร่วมกันอยู่ครู่ใหญ่ก็คิดไม่ออก“โอ้ย ทำไมเจ้าถึงใช้เวลาคิดนานขนาดนั้นล่ะ” ต้ายาอดไม่ได้จึงกล่าว“ปลาไนตัวเล็กสามสิบตัว ได้เงินคนละหกเหวิน ปลาเฉาฮื้อตัวใหญ่หกตัว ได้เงินคนละหกเหวินเหมือนกัน เมื่อนำมารวมกันแล้ว จะได้เงินวันละสิบสองเหวินต่อคน”“สิบสองเหวิน?!”ชาวบ้านเงยหน้าขึ้นและมองดูต้ายาด้วยความไม่เชื่อจับปลาเพียงสิบกว่าตัวก็ได้เงินสิบสองเหวินแล้วรึ!เมื่อก่อนไม่มีใครยอมกินปลา ตอนนี้เพียงแค่จับมันก็ได้เงินแล้ว ที่สำคัญย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 94

    “ข้า ข้าเปล่านะ!”ปกติม่อเกินเซิงเป็นเด็กฉลาด แต่เมื่อพูดถึงเฉินต้ายาเขาจะเริ่มพูดติดอ่าง“ข้า ข้าขี้เกียจพูดกับพวกท่านแล้ว ข้าจะเอาเงินนี้กลับไปให้แม่ของข้าและให้นางเอาไปซื้อข้าวสาร!”ม่อเกินเซิงพูดจบก็วิ่งออกไปขณะวิ่ง มือข้างหนึ่งจับกระเป๋าเสื้อแน่น ข้างในนั้นมีเงินสิบสองเหวินที่เขาเพิ่งได้รับ“ข้าก็จะกลับแล้วเหมือนกัน เมียของข้ารออยู่”“พ่อของข้าก็รอเหมือนกัน ตอนเช้าที่ข้าออกไปข้างนอก เขายังตำหนิข้าอยู่เลย บอกว่าเสี่ยวฝานโกหกพวกเรา ข้าจะเอาเงินกลับไปแล้วดูว่าเขาจะพูดอะไรได้อีก”“ข้าก็เหมือนกัน ข้าไม่เพียงแต่จะกลับไปพูด แต่ข้ายังจะบอกพวกเขาด้วยว่าเสี่ยวฝานให้เงินพวกเราแล้ว และตอนนี้เสี่ยวฝานเป็นคนดีมาก!”“ใช่ ๆ ๆ!”ชาวบ้านที่ได้รับเงินกล่าวขอบคุณเฉินฝานเสร็จก็พากันกลับ“พี่ลิ่ว จื้ออัน!”เฉินฝานเรียกเฉียนลิ่วกับจูจื้ออันหลังจากเก็บปลาเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการขนย้ายเพื่อลดการสูญเสียปลา เฉินฝานต้องการนำปลาใส่ลงถังเก็บน้ำหลายใบ จากนั้นนำขึ้นเกวียนและส่งไปยังตัวอำเภอแม้ว่าหัวใจของพวกเขากลับบ้านไปแล้ว แต่เฉียนลิ่วกับจูจื้ออันก็หันกลับมาทันทีที่เฉินฝานกล่าว“เสี่ยวฝาน

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1070

    “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหตุใดจึงกระวนกระวายเช่นนี้?”เมื่อเห็นคนคนนั้น อวิ๋นเต๋อรีบเดินไปถามทันที คนที่มาคือหัวหน้าทหารเวรรักษาพระองค์ในวันนี้“ผู้นำอวิ๋น จู่ๆ นอกวังหลวงก็มีชาวบ้านมากมายมา พวกเขาต้องการเข้าพบท่านอัครเสนาบดีขอรับ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น โอวหยางน่าหลันที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรโมโหเล็กน้อย “เรื่องเล็กแค่นี้ กลับกระวนกระวายขั้นนี้ อวิ๋นเต๋อ เอาตัวเขาออกไป!”เมื่อครั้นโอวหยางน่าหลันเพิ่งครอบครองอำนาจ มักจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้นโอวหยางน่าหลันจึงเคยชินแล้ว สำหรับนางนี่เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ“องค์หญิง!”หัวหน้าทหารเวรคุกเข่าลง สีหน้าลำบากใจ“ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งพ่ะย่ะค่ะ ไม่ว่ากระหม่อมจะใช้วิธีการใด พวกชาวบ้านก็ไม่ยอมไป ยิ่งไล่พวกเขาก็ยิ่งบุกเข้ามา กล่าวว่าแม้พวกเขาต้องตาย พวกเขาก็ต้องขอพบท่านอัครเสนาบดีให้ได้!”โอวหยางน่าหลันโบกมือด้วยความรำคาญ “เช่นนั้นก็ไล่ด้วยวิธีที่รุนแรงขึ้นอีก หากมีคนตาย เช่นนั้นก็ส่งอาหารสำหรับสามปีไปให้ครอบครัวเขา เจ้าไปจัดการด้วยตนเอง!”นี่คือวิธีการที่โอวหยางน่าหลันใช้เป็นประจำ เมื่อก่อนให้เงิน ตอนนี้ข้าวสารล้ำค่ากว่าเงิน เช

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1069

    เสียงฟิ้วดังขึ้นสองครั้ง โอวหยางกว่างเซวียนใช้หนังสติ๊กยิงก้อนหินออกไปแล้วสองก้อนเหตุเพราะเป็นการใช้หนังสติ๊กครั้งแรก ก้อนหินที่ยิงออกไป จึงไกลเพียงสองสามเมตรเท่านั้น“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?”ริมฝีปากของโอวหยางกว่างเซวียนจู๋เล็กน้อย สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ ถามเฉินฝาน “เหตุใดท่านจึงยิงไกลเช่นนั้น”เฉินฝานยิ้ม “เพราะข้าใช้เป็นประจำ ยกหนังสติ๊กให้ท่านแล้ว วันข้างหน้าท่านฝึกฝนทุกวัน ต้องยิงได้ไกลแน่นอน”“แต่ว่า...” โอวหยางกว่างเซวียนขมวดคิ้วเป็นปม “ท่านบอกให้ข้าใช้หนังสติ๊กยิงคนที่พูดถ้อยคำเหล่านั้นกับข้าไม่ใช่หรือ?”“ถูกต้อง แต่ข้าไม่ให้ท่านอยู่ห่างไกลเช่นนี้!”เฉินฝานยังพูดไม่จบ โอวหยางกว่างเซวียนก็พุ่งตัวออกมาราวกับฟ้าแลบเสียงฟิ้วดังขึ้นสองครั้งโอวหยางกว่างเซวียนใช้หนังสติ๊กยิงหัวหน้าเลขากรมขุนนางเหมียวเหลียงจื้อและราชครูโจวหยางชิง“พวกเจ้าสองคนนี่เอง ทหาร!”โอวหยางน่าหลันร้องตะโกนเสียงดัง“เอาตัวขุนนางชั่วพูดจาให้ร้ายผู้อื่น ทั้งสองคนออกไป จับพวกเขากักขังในคุกหลวง!”“องค์หญิง กระหม่อมถูกใส่ร้ายพ่ะย่ะค่ะ”เหมียวเหลียงจื้อและโจวหยางชิงคุกเข่าอ้อนวอนทันที“องค์หญิง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1068

    เฉินฝานโน้มตัวลง พูดกับโอวหยางกว่างเซวียนด้วยความอ่อนโยน “วังหลวงแคว้นหลู่คือบ้านของเซวียนเอ๋อร์ตลอดไป ข้าจะไล่ท่านออกไปได้อย่างไร?”“ข้าไม่เชื่อท่านหรอก พวกเขาบอกว่า แรกเริ่มท่านต้องพูดเช่นนี้กับข้าแน่นอน แต่หลังจากผ่านไปนานวันเข้า ท่านต้องเห็นว่าข้าขวางหูขวางตา แล้วไล่ข้าออกไปจากวังหลวง”“เซวียนเอ๋อร์ ถ้อยคำเหล่านี้ผู้ใดเป็นคนบอกเจ้า?” โอวหยางน่าหลันที่ยืนฟังอู่ข้างๆ ยิ่งฟังก็ยิ่งโมโห “เจ้าบอกพี่มา ข้าจะไปฉีกปากพวกเขา”“พวกเขา...” ทันใดนั้นเองโอวหยางกว่างเซวียนก็ปิดปากเงียบสนิท ไม่ว่าโอวหยางน่าหลันจะใช้ลูกไม้ได้ ถึงขั้นตำหนิ เขาก็ไม่อมพูดเฉินฝานเข้าใจแล้ว ทว่าเป็นเที่ยงตรงและกล้าคิดกล้าทำแม้โอวหยางกว่างเซวียนจะปัญญานิ่ม ทว่าเขาเป็นคนเที่ยงตรงและกล้าคิดกล้าทำราชวงศ์โอวหยางแคว้นหลู่ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ล้วนเป็นคนเที่ยงตรงและกล้าคิดกล้าทำ ทว่าพวกเขาค่อนข้างให้ความสำคัญกับสายเลือด ชอบให้ญาติมิตรสนิทชิดเชื้อแต่งงานกัน เมื่อถึงรุ่นของโอวหยางน่าหลัน มารดาของโอวหยางน่าหลัน มีลูกชายสามคนติดกัน สองคนแรกอายุไม่ถึงหนึ่งขวบก็สิ้นใจ ไม่ง่ายเลยอุตส่าห์เลี้ยงดูโอวหยางกว่างเซวียนจนเติบโต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1067

    ท่านราชครูบอกให้เซวียนเอ๋อร์มาขอรับ”“ท่านราชครู? โจวหยางชิงบอกให้เจ้ามา”โจวหยางชิงเป็นราชครูของโอวหยางกว่างเซวียน และเคยสอนเหมียวเหลียงจื้อ ภรรยาเป็นชาวเมืองหลวงแคว้นต้าชิ่ง“ขอรับ!” โอวหยางกว่างเซวียนพยักหน้า “ท่านราชครูกล่าวว่า เซวียนเอ๋อร์เป็นจักรพรรดิแคว้นหลู่ อายุสิบสามแล้ว ควรค่อยๆ ศึกษาการปกครองแคว้นหลู่ อย่าให้ท่านพี่เหนื่อยเช่นนี้ แต่ว่า...”จู่ๆ โอวหยางกว่างเซวียนก็ทำหน้ามุ่ย สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความเสียใจ“ฮือ!” โอวหยางกว่างเซวียนร้องไห้เสียงดัง แล้วกอดโอวหยางน่าหลัน “เซวียนเอ๋อร์ไม่อยากนั่งเก้าอี้ตัวนั้น เพราะเซวียนเอ๋อร์อยากไปชิ้งฉ่อง แต่ท่านราชครูบอกว่าไม่อาจไปได้หากยังไม่จบการประชุมราชสำนัก ทั้งยังไม่อาจเล่นกับแมลงได้”“ท่านพี่ ท่านรักเซวียนเอ๋อร์ที่สุด ท่านไปตำหนิราชครูได้หรือไม่ เซวียนเอ๋อร์ไม่อยากประชุมราชสำนักจริงๆ ขอรับ”โอวหยางกว่างเซวียนจับแขนเสื้อของโอวหยางน่าหลันแล้วอ้อนวอน สำหรับเขา ท่านแม่นอกจากใจดีกับเขาและท่านพ่อท่านแม่แล้ว ล้วนดุร้ายกับทุกคน อีกทั้งคนพวกนั้นก็กลัวท่านพี่มาก ขอเพียงท่านพี่ดุเล็กน้อย พวกเขาก็เชื่อฟังท่านพี่แล้วโอวหยางน่าหลันไม่ได้ตอบ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1066

    “ท่านพี่ฝาน ท่านหมายความว่า...” โอวหยางน่าหลันเงยหน้าขึ้น “ชาวต้าชิ่งช่วยเขาคิดแผนการนี้หรือ?”“มีความเป็นไปได้สูง” แววตาของเฉินฝานเย็นยะเยือก “พุ่งเป้ามาที่ข้าได้ แต่เอาสตรีของข้าเข้ามาข้องเกี่ยว เอาชาวแคว้นหลู่มาข้องเกี่ยว เช่นนั้นไม่ได้”“ท่านพี่ฝาน ฟังจากที่ท่านพูดหมายความว่า...” แววตาของโอวหยางน่าหลันแปรเปลี่ยนเป็นเหี้ยมโหดเช่นเดียวกัน “ไฟป่าแคว้นหลู่ในครั้งนี้ มีคนตั้งใจทำให้เกิดขึ้น”เฉินฝานพยักหน้าตลอดสี่เดือนที่ผ่านมานี้ เขาวิ่งวุ่นไปทั่วทุกเมืองของแคว้นหลู่ ไฟป่าทั้งรุนแรงและไม่รุนแรง เขาดับมามากมายกว่าพันแห่ง เขามั่นใจว่า ไฟป่าแคว้นหลู่ในครั้งนี้ เป็นฝีมือมนุษย์“ข้าจะมีราชโองการ ให้กรมยุติธรรมไปสืบเดี๋ยวนี้!”โอวหยางน่าหลันกำลังจะเอ่ยปาก ให้นางกำนัลคนสนิทนำม้วนหนังสือราชโองการ พู่กันและหมึกมา ก็ถูกเฉินฝานปราม“ต้องรีบสืบหาความจริง แต่ไม่อาจสืบหาเช่นนี้ ต้องดำเนินการอย่างลับๆ ท่านมีรับสั่งลับ ให้คนของอวิ๋นเต๋อไปสืบด้วยตนเอง”“ได้ ท่านพี่ฝาน ข้าฟังท่าน”ตอนโอวหยางน่าหลันมีรับสั่งลับ นางถามเฉินฝานอีกครั้ง “ท่านพี่ฝาน ท่านว่า เสิ่นหมิงหยวนจากแคว้นต้าชิ่งอยู่เบื้องหลัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1065

    หลังจากฟังคำอธิบายของเฉินฝานจบ โอวหยางน่าหลันโมโหจนตบโต๊ะ “เหมียวเหลียงจื้อ ช่างร้ายกาจเสียจริง ข้าจะประหารเจ้า”“อย่าโมโหขนาดนั้น เด็กในครรภ์ของท่านจะไม่สบายเอาได้” เฉินฝานรีบปลอบโอวหยางน่าหลัน“คุณชายฝาน ท่านพูดถูก ข้าไม่อาจทำร้ายลูกของเราเพราะคนร้ายกาจเช่นนั้น”โอวหยางน่าหลันจับท้องของตนเองเบาๆ พยายามให้ตนเองสงบลง“เฮ้อ ไม่สิ” โอวหยางน่าหลันที่จับท้องตนเองเบาๆ อยู่นั้น หยุดชะงักกะทันหัน “เหมียวเหลียงจื้อเป็นบุตรชายของเหมียวปิง แม้จะมีความสามารถ ทว่าไม่อาจเทียบชั้นเหมียวปิง แผนการชั่วร้ายอำมหิตเช่นนี้ เขาจะมีปัญญาคิดได้หรือ”“ยิ่งไปกว่านั้น เหมียวปิงสนับสนุนให้ท่านเป็นอัครเสนาบดี เมื่อครั้นตอนที่เขาถูกระเบิดของทหารหญิง เคยบอกข้า”“หากแคว้นหลู่อยากรอดจากวิกฤต ดำรงอยู่ในใต้หล้านี้ต่อไป มีเพียงวิธีเดียว ซึ่งก็คือให้ข้าแต่งงานกับท่าน ให้ท่านเป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่”“อ่อ ที่แท้การที่ท่านแต่งงานกับข้า ไม่ใช่เพราะชมชอบข้า แต่เพื่อใช้ประโยชน์จากข้า” เฉินฝานแกล้งทำเป็นโมโห“คุณชายฝาน ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าเพียงอยากบอกว่า ตั้งแต่เล็กจนโตเหมียวเหลียงจื้อเชื่อฟังเหมียวปิงมาโดย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1064

    หลังจากอ่านจดหมาย เฉินฝานรีบคัดค้านทันที ตอบกลับจดหมายในทันควัน นักส่งสารที่มาส่งจดหมายรีบขี่ม้าเร็วนำจดหมายตอบกลับของเฉินฝานส่งถึงมือโอวหยางน่าหลันประชุมราชสำนักเช้าวันที่สอง ตอนโอวหยางน่าหลันอ่านจดหมายตอบกลับของเฉินฝาน ทั่วท้องพระโรงตกอยู่ในความเงียบ“เหตุใดท่านอัครเสนาบดีจึงไม่เห็นด้วย หลังไฟป่าเผาทำลายทำให้ชาวบ้านไม่มีฟืนขาย ช่างเหล็กก็ไม่อาจผลิตเครื่องมือเหล็กได้เพราะไม่มีฟืนสำหรับเผา พวกเขาตกที่นั่งลำบาก หากราชสำนักไม่ช่วยพวกเขา แล้วพวกเขาจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร?”ขุนนางในราชสำนักแสดงความไม่เข้าใจและเคืองขุ่น ถึงขั้นมีคนรู้สึกว่าเฉินฝานตั้งใจเฉินฝานไม่อยากให้แคว้นหลู่ดีกว่าต้าชิ่ง เขาไม่เห็นแคว้นหลู่เป็นแคว้นของตนเองโอวหยางน่าหลันฟังแล้วหงุดหงิดยิ่งนักนางเชื่ออย่างหนักแน่นว่าเฉินฝานไม่มีทางไม่อยากเห็นแคว้นหลู่ดี แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายการกระทำนี้ของเฉินฝานอย่างไร เพราะนางเองก็ไม่เข้าใจ“จบประชุมราชสำนัก!”โอวหยางน่าหลันจบการประชุมราชสำนักเย็นวันเดียวกัน เฉินฝานเร่งเดินทางกลับถึงเมืองหลวงแคว้นหลู่“ท่านพี่ฝาน!”เฉินฝานเพิ่งไปถึงหน้าตำหนักองค์หญิง โอวหยางน่าหลันก็พยุ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1063

    “เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?” โอวหยางน่าหลันขมวดคิ้วเป็นปมแคว้นหลู่มากไปด้วยภูเขาทว่าพื้นดินน้อย รายได้หลักมาจากการขายเครื่องมือเหล็กและฟืน อุตสาหกรรมอื่นๆ นั้น ล้วนอาศัยสองอุตสาหกรรมนี้ในการดำรงชีวิตไฟป่า เผาทำลายพื้นที่ป่ากว่าเจ็ดในสิบส่วนของแคว้นหลู่ชาวบ้านไม่มีต้นไม้ เช่นนั้นก็ไม่มีรายได้ช่างเหล็กไม่มีฟืน เช่นนั้นก็ไม่อาจทำเครื่องมือเหล็กได้ และไม่มีรายได้ช่างเหล็กและชาวบ้านที่ครอบครองผืนป่าไม่พอใจ เช่นนั้นก็เท่ากับชาวแคว้นหลู่ไม่พอใจเฉินฝาน“องค์หญิง ราษฎรคือแหล่งน้ำของแคว้น น้ำทำให้เรือแล่นและทำให้เรือจมได้เช่นเดียวกัน องค์หญิง ต้องคลายโทสะของชาวบ้านให้ได้พ่ะย่ะค่ะ” เหมียวเหลียงจื้อพูดด้วยสีหน้าลำบากใจโอวหยางน่าหลันมองเหมียวเหลียงจื้อด้วยแววตาเย็นชา “คลายโทสะของราษฎรที่เจ้าพูดถึง คืออยากให้ข้าถอดยศอัครเสนาบดีของเฉินฝาน แล้วให้เจ้าขึ้นเป็นอัครเสนาบดีแทนใช่หรือไม่?”“องค์หญิง!” เหมียวเหลียงจื้อรีบคุกเข่าทันที “กระหม่อมไม่กล้าคิดเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมตระหนักรู้ดีว่าตนไม่มีความสามารถเทียบใต้เท้าเฉินได้!”โอวหยางน่าหลันถลึงตามองเหมียวเหลียงจื้อ “ข้าว่าเจ้าก็คงไม่กล้า”เม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1062

    “ท่านคงไม่ได้...” เฉินฝานลุกขึ้นแล้วนั่งลงข้างโอวหยางน่าหลัน มองท้องน้อยที่นูนขึ้นมา แววตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นระมัดระวัง “ตั้งครรภ์หรือ?”“เจ้าค่ะ”พวงแก้มของโอวหยางน่าหลันแดงระเรื่อเล็กน้อย ดวงตางดงามเปี่ยมไปด้วยความรักของแม่ นางคว้ามือเฉินฝานขึ้นมาอีกครั้ง วางลงบนท้องน้อย “สามเดือนกว่าแล้วเจ้าค่ะ”เมื่อสามเดือนก่อน เฉินฝานจะไปเมืองเฟิ่งหวง โอวหยางน่าหลันเดินทางไกล ไปถึงเมืองหลวงต้าชิ่ง อยากตามเฉินฝานไปเมืองเฟิ่งหวงเฉินฝานไม่ให้นางไป ก่อนออกเดินทาง เพื่อปลอบโยนโอวหยางน่าหลันที่เดินทางมาไกล พวกเขาบรรเลงเพลงรักสุดเร่าร้อนบนรถม้านานหนึ่งชั่วยามกว่าเด็กน้อยในครรภ์ของโอวหยางน่าหลัน น่าจะมาจากตอนนั้นเฉินฝานก้มหน้าลงประทับจุมพิตลงบนท้องน้อยที่นูนขึ้นมาของโอวหยางน่าหลัน“เจ้าตั้งครรภ์แล้ว เราไม่อาจทำอะไรพร่ำเพรื่อได้”ขณะพูด เฉินฝานสวมเสื้อผ้าให้โอวหยางน่าหลัน ทว่าคิดไม่ถึง โอวหยางน่าหลันคว้ามือของเขา นางจับมือเฉินฝาน เลื่อนสูงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายวางมือเขาไว้ที่ยอดประทุม“?”เฉินฝานมองโอวหยางน่าหลันด้วยความฉงนเพราะตั้งครรภ์ยอดประทุมทั้งสองของนาง จึงอวบอิ่มกว่าเดิม เต่งตึงกว่าเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status