แต่ในขณะเดียวกัน ชาติชายก็รีบโทรศัพท์บอกเจ้านายว่าตัวเองได้เผลอพูดความจริงออกไปแล้ว ทำให้ปราบต้องรีบตามหงส์หยกกลับไปที่บ้านทันที“ไอ้ชาติ ไอ้ตัวแสบ ฆ่าทิ้งดีไหมเนี่ย” ปราบบ่นพร้อมกับขับรถ ATV ออกจากสวนทันที เพื่อจะได้ตามหงส์หยกให้ทัน จากนั้นเขาก็ขับมาถึงหน้าออฟฟิศในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะอยู่ในบริเวณนี้ เขาจึงกระโดดลงจากรถแล้วเดินเท้าตามหา เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเร็วกว่ารถที่เขาขับ“อยู่ที่บ้านเราหรือเปล่าวะ” เขาคิดถามตัวเองแต่คนโกรธแบบนั้นมีหรือจะกลับบ้านพัก ต้องกลับบ้านตัวเองสินะ“พวกเอ็งเห็นคุณหยกหรือเปล่า ผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าน่ะ เดินมาทางนี้หรือไหม” ปราบถามด้วยความร้อนใจ“เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเหรอครับนาย ผมเห็นหลังไวๆ เดินไปที่โรงจอดรถของคนงานน่ะครับ”“อะไรนะ! โรงจอดรถของคนงานอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ” เมื่อฟังอย่างนั้นแล้วก็มีสิ่งเดียวคือเธออาจจะให้คนงานไปส่งก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบว
“เอา พี่จะเอา จะเอาหยกตอนนี้ เดี๋ยวนี้” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหื่นกระหายก่อนจะผงกศีรษะขึ้นแล้วขยี้จูบที่ปากอิ่มอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ทำเอาปากบางแทบพังและแสบเพราะหนวดเคราถูไถ ขณะที่เรียวลิ้นร้อนส่งออกมาลากเลียไปตามเรียวปากแห้งผาก ก่อนจะสอดแทรกเข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตวัดลิ้นเกาะและสูบกลืนลมหายใจกันเอาไว้ จูบดูดดื่มร้อนแรงจนทำให้กลางกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ท่อนเนื้อภายใต้กางเกงยีนส์มันกำลังดีดดิ้นและถูไถกับกลางลำตัวของเธอ กระตุ้นให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนอย่างรุนแรงและจากมือที่เกาะกุมมือเธออยู่ค่อยๆ ปล่อยเคลื่อนลงมาตามลำคอ จนถึงเนินอกอวบ เขาบีบเค้นแรงๆ ขณะที่ปากยังคงบดขยี้จูบ ก่อนจะละเรียวปากขยับลงมาขบเม้มที่ซอกคอและดูดจนเป็นรอยแดงจ้ำ มือก็ขยำทรวงอกอย่างหนักหน่วง จากนั้นก็เลื่อนมืออีกข้างลงไปที่หน้าท้องแบนราบ กระทั่งถึงขอบกางเกง เขาจึงปลดกระดุม รูดซิบ ก่อนจะสอดฝ่ามือล้วงเข้าไปอย่างรวดเร็ว“อืม” เธอครางในลำคอเมื่อฝ่ามือหนาลูบไล้บนเนินสวาทแผ่วเบา พร้อมกับสอดแทรกนิ้วมือแกร่งแหวกว่ายหยอกเย้ากับกลีบสวาท กรีดกรายนิ้
“อืม” เขาครางออกอยู่ในลำคอเมื่อปากอิ่มบดขยี้จูบอย่างดูดดื่ม สิ่งที่เขาสอนเธอมาหลายครั้ง เธอจำแม่นและนำมาใช้กับเขา ซึ่งทำได้ดีจนเขาแทบคลั่งเลยทีเดียว แต่จูบได้ไม่นานนักเธอก็ถอนออกก่อนจะไล่เรียวปากจูบแก้มที่สากไปด้วยเครา ไล่มาที่ซอกคอและดูดเม้มแรงกว่าเขาด้วยซ้ำ“อืม แม่เสือสาว ร้อนแรงจัง” เขาครางและบอกอย่างพอใจอีกครั้ง พลางกัดฟันและยิ้มกับตัวเอง จากนั้นปากอิ่มก็จูบจนถึงแผงอกกว้างที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามแน่น ๆ ปลายลิ้นร้อนไร้เดียงสาของเธอถูกส่งออกมาโลมเลียตวัดไปมากระทั่งถึงยอดอก ครั้งนี้เธอจะเอาคืนบ้างจึงใช้ลิ้นเลียตรงยอดอกระรัว ทำให้เขาสะท้านและบิดเกร็งลำตัว“ซี๊ดดดด อ่า ดีจัง ดีมากเลย” เขาออกปากชมและครางด้วยความพอใจครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ลิ้นและเรียวปากอิ่มดูดเลียยอกอกอย่างร้อนแรง กลางลำตัวของเขาก็ดีดดิ้นขึงขัง แข็งจนอยากจะออกมาหายใจ เธอสัมผัสได้ว่ามันดิ้นเมื่อเนินสวาทถูไถไปมา“โอ้ว หยกจ๋า อ่า ช่วยพี่ที” คราวนี้เป็นทีของเขาที่จะต้องเอ่ยปากขอร้องบ้าง และเมื่อได้ยินดังนั้
“พี่ปราบ... อ๊ะ! อ๊ะ! โอ้ว” เธอร้องครางเสียงดังลั่นเมื่อคว้าเอาจุดหมายไว้ได้ ร่างกายกระตุกเกร็งพร้อมทั้งจิกเล็บลงบนท่อนแขนของเขาอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์ เรือนกายส่วนนั้นกระตุกตอดเป็นจังหวะกระตุ้นให้เขาซอยถี่ๆ อีกเพียงไม่กี่ครั้งก็ตามเธอไปติดๆ“ซี๊ดดดด โอ้ว พี่เสร็จแล้ว” จบคำเขาก็กดสะโพกหนักๆ กับเนินสวาท แล้วโน้มตัวลงไปจูบเธอก่อนจะกอดเอาไว้แนบแน่น และปลดปล่อยน้ำอุ่นๆ เหนียวๆ หลั่งไหลออกมาผสมกัน ร่างกายทั้งคู่เบาหวิวล่องลอยราวกับขึ้นสวรรค์ ทว่าน้ำเสียงยังคงหอบพร่าเหมือนกับเพิ่งออกกำลังกายมาอย่างหนัก ริมฝีปากบดเคล้าจูบอย่างดูดดื่ม ขณะที่ท่อนเนื้อแข็งแกร่งยังคงดุนดันดีดดิ้นและพุ่งพ่นน้ำรักออกมายังไม่หมด แต่ด้วยความที่อ่อนเพลียหมดแรงเมื่อจูบอย่างพอใจแล้วเขาจึงกอดเธอเอาไว้แล้วซบหน้าลงไปบนเนินอกเปลือยเปล่า ฟังเสียงหัวใจดวงน้อยเต้นถี่ๆ เธอยกมือขึ้นสอดไปที่เรือนผมของเขาแล้วหลับตาลงผ่อนลมหายใจเข้าออกด้วยความเหนื่อยล้านานจนรู้สึกว่าทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ แต่ไม่รู้จะเริ่มคุยกันอย่างไรดี เขาจึงผงกศีรษะขึ้นแล้วจูบเบาๆ ต
“ถ้าไม่รัก ไม่ชอบพี่ แล้วหยกจะยอมเหรอ ฮืม พี่รู้ว่าหยกคิดเหมือนพี่ เพียงแต่จะพูดคำนั้นออกมาเมื่อไหร่เท่านั้นเอง” ดูเหมือนเขาจะมั่นใจเสียเหลือเกิน“ให้หยกพร้อมกว่านี้นะคะ”“พี่จะทำทุกๆ วัน ทุกๆ คืนให้หยกพร้อมที่จะพูด” พูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร เธอก็ใจขาดตายก่อนพอดี“เอ่อ ไม่ต้องทุกวันทุกคืนก็ได้ค่ะ หยกไม่อยากสำลัก ความสุขตายซะก่อน” เธอบอกอย่างเอียงอายพลางเบือนหน้าหนีเมื่อเขากำลังกดริมฝีปากลงไปตรงซอกคอ“ตกลงว่าอยู่กับพี่นะ ไม่ต้องไปไหนแล้ว ห้ามหนีด้วย” เขากระซิบเสียงนุ่ม“หยกมาแต่ตัวนะคะ ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเลย”“พี่ต้องการแค่นี้แหละ เสื้อผ้ามันสำคัญตรงไหน เดี๋ยวก็ถอดอยู่ดี” ให้ตายสิน้ำเสียงของเขาฟังดูแล้วหื่นชอบกล“ให้หยกใส่เดินออกจากบ้านบ้างสิคะ”“ช่วงนี้กำลังหวง ขอขังเอาไว้ในห้องบนเตียงนี้อย่างเดียวได้หรือเปล่า ฮืม” พูดจบเขาก็กดจูบท
สวนส้มสุริยะฉัตร เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในแม่ฮ่องสอน ปลูกส้มมากกว่าสิบสายพันธุ์ แต่รู้จักกันมากก็คือ ส้มสายน้ำผึ้งเพราะได้รับความนิยม วันนี้ทุกคนทำงานอย่างขะมักเขม้นเหมือนอย่างเคย เพราะมีคิวที่ต้องส่งส้มเข้าสู่โรงงานหนึ่ง ซึ่งทางโรงงานต่างๆ ต้องมารับเองตามที่รับปากกันเอาไว้ ทว่าบางที่มันไม่เป็นอย่างที่คิดส้มกำลังถูกลำเลียงใส่ในตะกร้าพลาสติกสีเขียวทรงสี่เหลี่ยม แล้วนำมาวางเรียงรายกันที่หน้าสวนเป็นจุดๆ คนงานค่อนข้างจะเครียดเพราะอากาศร้อน อีกทั้งมีหัวหน้ามายืนเฝ้ายิ่งเครียดกันไปอีกเพราะต้องเร่งมือทำ ขณะที่หัวหน้ากำลังยืนคุมอยู่นั้น คนงานคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหา“หัวหน้าครับมีตัวแทนจากโรงงานของเจ้าสัวบุญเสริมมาขอพบครับ” คนงานรายงานด้วยเสียงเรียบปกติ“ฮืม ตัวแทนจากโรงงานเจ้าสัวเหรอ ทำไมไม่เข้ามาหาฉันที่นี่วะ เขารออยู่ไหน” ชาติชายซึ่งเป็นหัวหน้าถามพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย“รออยู่ออฟฟิศครับ” คนงานตอบ“ปกติมาที่นี่ไม่ใช่เหรอ ไหงไปรอที่ออฟฟิศ บอกนายหรือยังเนี่ย”“ยังไม่บอกครับ เธอเพิ่งมาถึงอีกอย่างผมก็ไม่เคยเห็นหน้าด้วย น่าจะเป็นตัวแทนของเจ้าสัวคนใหม่ล่ะมั้งครับ ท่าทางไฟแรงน่าดู ยังเด็กอยู่ด้วย”
ออฟฟิศของสวนส้มสุริยะฉัตรมีลักษณะคล้ายกับร้านกาแฟแต่ใหญ่กว่าหลายเท่า ตัวออฟฟิศเป็นกระจกหนารอบด้าน ทั้งหมดมีผ้าม่านสีขาวรอบด้านเช่นกัน ส่วนโครงสร้างเป็นไม้เชอร์ร่าสีดำ ภายในตกแต่งให้คล้ายร้านกาแฟคือมีเก้าอี้ไว้นั่งดื่ม รับแขก อีกทั้งเป็นโต๊ะทำงานของผู้ช่วยและเลขาฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่แต่ละตำแหน่ง ห้องส่วนทำงานของปราบมีอีกห้องที่ต่อเติมเพิ่มนั่นเอง ส่วนแขกผู้มาเยือน นั่งรออยู่ที่โซฟารับแขก หงส์หยก เธอเป็นสาวสวย บุคลิกมีความมั่นใจสูง ภายนอกดูเหมือนหยิ่งจองหองจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ใบหน้าสวยเฉียวดึงดูดความสนใจของเหล่าพนักงานชายและหญิงได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากหยักยิ้มเล็กน้อยคล้ายจะเย้ยหยันในที ทว่าเธอไม่ได้เย้ยหยันใคร เพียงแต่เป็นบุคลิกประจำตัวเท่านั้น หญิงสาวได้แต่จิบกาแฟสดไปอย่างเพลินใจ พร้อมกับรับความเย็นสบายจากอากาศภายนอกที่โกรกเข้ามาทางหน้าทางบานสไลด์เพราะไม่ได้เปิดแอร์แต่อย่างใดเนื่องจากอากาศค่อนข้างเย็น แต่ระหว่างที่หงส์หยกกำลังนั่งดื่มกาแฟและรอเจ้าของสวนอยู่นั้น คนงานคนเดิมที่เพิ่งจะมาต้อนรับเธอ ก็เดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยขึ้น “เอ่อขอโทษครับ นายขอให้คุณไปพบที่สวนตรงที่มีรถโรงงานจอดขนส้
“อะไรนะ! ไม่มาอย่างนั้นเหรอ แกไปบอกเขาว่ายังไง” เจ้านายขี้ยั้วถามอย่างหัวเสียเมื่อมะเดี่ยวกลับมารายงาน“ผมบอกอย่างงที่นายบอกเลยครับ แต่เธอไม่ยอมมา และจะไม่ยอมกลับด้วย จะรออยู่ออฟฟิศจนกว่านายจะขึ้นไป” “ก็ดี รอได้ก็ให้รอไป”“นายครับ จะดีเหรอครับคนของเจ้าสัวไปจะฟ้องเจ้าสัวเอาได้นะครับว่าเราไม่ยอม” ชาติชายเสริมขึ้นเพราะกลัวว่าความเย่อหยิ่งของเจ้านายจะพาลเสียงาน และยกเลิกการซื้อส้มจากที่นี่ไปเลยก็ได้“ปกติแล้วเรากับคนของเจ้าสัวไม่เคยมีปัญหากัน ทำไมให้เด็กใหม่มาทำงาน จองหองสิ้นดี ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร” “ก็อาจจะไม่รู้ครับท่าทางเธอใหม่มาก” มะเดี่ยวแทรกขึ้น“เจ้าสัวไม่เคยให้ผู้หญิงมาติดต่อ แต่ทำไมคราวนี้...” “เขาว่าผู้หญิงเวลาเจรจางานการ ธุรกิจ หรือแม้แต่เจรจาศึก เขาว่าได้ผลดีนักแล ท่านเจ้าสัวอาจจะคิดแบบนี้ ยิ่งเจ้าของสวนเป็นพวกห่างไกลความเจริญ ป่าเถื่อน ดุ ไหนจะขี้ยั้วอีก แบบนี้ก็ต้องใช้ผู้หญิงมาเจรจาว่าความ จริงไหมครับ” ชาติชายอธิบายพร้อมกับแซวไม่ดูตาม้าตาเรือเอาเสียเลย“แกว่าใครว่าวะ ก็สวนผลไม้มันต้องอยู่ห่างไกลความเจริญอยู่แล้ว มึงบ้าหรือเปล่า” ปราบถามเสียงเรียบแต่ก็ไม่ได้โกรธเคือง “
“ถ้าไม่รัก ไม่ชอบพี่ แล้วหยกจะยอมเหรอ ฮืม พี่รู้ว่าหยกคิดเหมือนพี่ เพียงแต่จะพูดคำนั้นออกมาเมื่อไหร่เท่านั้นเอง” ดูเหมือนเขาจะมั่นใจเสียเหลือเกิน“ให้หยกพร้อมกว่านี้นะคะ”“พี่จะทำทุกๆ วัน ทุกๆ คืนให้หยกพร้อมที่จะพูด” พูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร เธอก็ใจขาดตายก่อนพอดี“เอ่อ ไม่ต้องทุกวันทุกคืนก็ได้ค่ะ หยกไม่อยากสำลัก ความสุขตายซะก่อน” เธอบอกอย่างเอียงอายพลางเบือนหน้าหนีเมื่อเขากำลังกดริมฝีปากลงไปตรงซอกคอ“ตกลงว่าอยู่กับพี่นะ ไม่ต้องไปไหนแล้ว ห้ามหนีด้วย” เขากระซิบเสียงนุ่ม“หยกมาแต่ตัวนะคะ ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเลย”“พี่ต้องการแค่นี้แหละ เสื้อผ้ามันสำคัญตรงไหน เดี๋ยวก็ถอดอยู่ดี” ให้ตายสิน้ำเสียงของเขาฟังดูแล้วหื่นชอบกล“ให้หยกใส่เดินออกจากบ้านบ้างสิคะ”“ช่วงนี้กำลังหวง ขอขังเอาไว้ในห้องบนเตียงนี้อย่างเดียวได้หรือเปล่า ฮืม” พูดจบเขาก็กดจูบท
“พี่ปราบ... อ๊ะ! อ๊ะ! โอ้ว” เธอร้องครางเสียงดังลั่นเมื่อคว้าเอาจุดหมายไว้ได้ ร่างกายกระตุกเกร็งพร้อมทั้งจิกเล็บลงบนท่อนแขนของเขาอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์ เรือนกายส่วนนั้นกระตุกตอดเป็นจังหวะกระตุ้นให้เขาซอยถี่ๆ อีกเพียงไม่กี่ครั้งก็ตามเธอไปติดๆ“ซี๊ดดดด โอ้ว พี่เสร็จแล้ว” จบคำเขาก็กดสะโพกหนักๆ กับเนินสวาท แล้วโน้มตัวลงไปจูบเธอก่อนจะกอดเอาไว้แนบแน่น และปลดปล่อยน้ำอุ่นๆ เหนียวๆ หลั่งไหลออกมาผสมกัน ร่างกายทั้งคู่เบาหวิวล่องลอยราวกับขึ้นสวรรค์ ทว่าน้ำเสียงยังคงหอบพร่าเหมือนกับเพิ่งออกกำลังกายมาอย่างหนัก ริมฝีปากบดเคล้าจูบอย่างดูดดื่ม ขณะที่ท่อนเนื้อแข็งแกร่งยังคงดุนดันดีดดิ้นและพุ่งพ่นน้ำรักออกมายังไม่หมด แต่ด้วยความที่อ่อนเพลียหมดแรงเมื่อจูบอย่างพอใจแล้วเขาจึงกอดเธอเอาไว้แล้วซบหน้าลงไปบนเนินอกเปลือยเปล่า ฟังเสียงหัวใจดวงน้อยเต้นถี่ๆ เธอยกมือขึ้นสอดไปที่เรือนผมของเขาแล้วหลับตาลงผ่อนลมหายใจเข้าออกด้วยความเหนื่อยล้านานจนรู้สึกว่าทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ แต่ไม่รู้จะเริ่มคุยกันอย่างไรดี เขาจึงผงกศีรษะขึ้นแล้วจูบเบาๆ ต
“อืม” เขาครางออกอยู่ในลำคอเมื่อปากอิ่มบดขยี้จูบอย่างดูดดื่ม สิ่งที่เขาสอนเธอมาหลายครั้ง เธอจำแม่นและนำมาใช้กับเขา ซึ่งทำได้ดีจนเขาแทบคลั่งเลยทีเดียว แต่จูบได้ไม่นานนักเธอก็ถอนออกก่อนจะไล่เรียวปากจูบแก้มที่สากไปด้วยเครา ไล่มาที่ซอกคอและดูดเม้มแรงกว่าเขาด้วยซ้ำ“อืม แม่เสือสาว ร้อนแรงจัง” เขาครางและบอกอย่างพอใจอีกครั้ง พลางกัดฟันและยิ้มกับตัวเอง จากนั้นปากอิ่มก็จูบจนถึงแผงอกกว้างที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามแน่น ๆ ปลายลิ้นร้อนไร้เดียงสาของเธอถูกส่งออกมาโลมเลียตวัดไปมากระทั่งถึงยอดอก ครั้งนี้เธอจะเอาคืนบ้างจึงใช้ลิ้นเลียตรงยอดอกระรัว ทำให้เขาสะท้านและบิดเกร็งลำตัว“ซี๊ดดดด อ่า ดีจัง ดีมากเลย” เขาออกปากชมและครางด้วยความพอใจครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ลิ้นและเรียวปากอิ่มดูดเลียยอกอกอย่างร้อนแรง กลางลำตัวของเขาก็ดีดดิ้นขึงขัง แข็งจนอยากจะออกมาหายใจ เธอสัมผัสได้ว่ามันดิ้นเมื่อเนินสวาทถูไถไปมา“โอ้ว หยกจ๋า อ่า ช่วยพี่ที” คราวนี้เป็นทีของเขาที่จะต้องเอ่ยปากขอร้องบ้าง และเมื่อได้ยินดังนั้
“เอา พี่จะเอา จะเอาหยกตอนนี้ เดี๋ยวนี้” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหื่นกระหายก่อนจะผงกศีรษะขึ้นแล้วขยี้จูบที่ปากอิ่มอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ทำเอาปากบางแทบพังและแสบเพราะหนวดเคราถูไถ ขณะที่เรียวลิ้นร้อนส่งออกมาลากเลียไปตามเรียวปากแห้งผาก ก่อนจะสอดแทรกเข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตวัดลิ้นเกาะและสูบกลืนลมหายใจกันเอาไว้ จูบดูดดื่มร้อนแรงจนทำให้กลางกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ท่อนเนื้อภายใต้กางเกงยีนส์มันกำลังดีดดิ้นและถูไถกับกลางลำตัวของเธอ กระตุ้นให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนอย่างรุนแรงและจากมือที่เกาะกุมมือเธออยู่ค่อยๆ ปล่อยเคลื่อนลงมาตามลำคอ จนถึงเนินอกอวบ เขาบีบเค้นแรงๆ ขณะที่ปากยังคงบดขยี้จูบ ก่อนจะละเรียวปากขยับลงมาขบเม้มที่ซอกคอและดูดจนเป็นรอยแดงจ้ำ มือก็ขยำทรวงอกอย่างหนักหน่วง จากนั้นก็เลื่อนมืออีกข้างลงไปที่หน้าท้องแบนราบ กระทั่งถึงขอบกางเกง เขาจึงปลดกระดุม รูดซิบ ก่อนจะสอดฝ่ามือล้วงเข้าไปอย่างรวดเร็ว“อืม” เธอครางในลำคอเมื่อฝ่ามือหนาลูบไล้บนเนินสวาทแผ่วเบา พร้อมกับสอดแทรกนิ้วมือแกร่งแหวกว่ายหยอกเย้ากับกลีบสวาท กรีดกรายนิ้
แต่ในขณะเดียวกัน ชาติชายก็รีบโทรศัพท์บอกเจ้านายว่าตัวเองได้เผลอพูดความจริงออกไปแล้ว ทำให้ปราบต้องรีบตามหงส์หยกกลับไปที่บ้านทันที“ไอ้ชาติ ไอ้ตัวแสบ ฆ่าทิ้งดีไหมเนี่ย” ปราบบ่นพร้อมกับขับรถ ATV ออกจากสวนทันที เพื่อจะได้ตามหงส์หยกให้ทัน จากนั้นเขาก็ขับมาถึงหน้าออฟฟิศในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะอยู่ในบริเวณนี้ เขาจึงกระโดดลงจากรถแล้วเดินเท้าตามหา เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเร็วกว่ารถที่เขาขับ“อยู่ที่บ้านเราหรือเปล่าวะ” เขาคิดถามตัวเองแต่คนโกรธแบบนั้นมีหรือจะกลับบ้านพัก ต้องกลับบ้านตัวเองสินะ“พวกเอ็งเห็นคุณหยกหรือเปล่า ผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าน่ะ เดินมาทางนี้หรือไหม” ปราบถามด้วยความร้อนใจ“เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเหรอครับนาย ผมเห็นหลังไวๆ เดินไปที่โรงจอดรถของคนงานน่ะครับ”“อะไรนะ! โรงจอดรถของคนงานอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ” เมื่อฟังอย่างนั้นแล้วก็มีสิ่งเดียวคือเธออาจจะให้คนงานไปส่งก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบว
แต่ในขณะเดียวกัน ชาติชายก็รีบโทรศัพท์บอกเจ้านายว่าตัวเองได้เผลอพูดความจริงออกไปแล้ว ทำให้ปราบต้องรีบตามหงส์หยกกลับไปที่บ้านทันที “ไอ้ชาติ ไอ้ตัวแสบ ฆ่าทิ้งดีไหมเนี่ย” ปราบบ่นพร้อมกับขับรถ ATV ออกจากสวนทันที เพื่อจะได้ตามหงส์หยกให้ทัน จากนั้นเขาก็ขับมาถึงหน้าออฟฟิศในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะอยู่ในบริเวณนี้ เขาจึงกระโดดลงจากรถแล้วเดินเท้าตามหา เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเร็วกว่ารถที่เขาขับ “อยู่ที่บ้านเราหรือเปล่าวะ” เขาคิดถามตัวเองแต่คนโกรธแบบนั้นมีหรือจะกลับบ้านพัก ต้องกลับบ้านตัวเองสินะ “พวกเอ็งเห็นคุณหยกหรือเปล่า ผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าน่ะ เดินมาทางนี้หรือไหม” ปราบถามด้วยความร้อนใจ “เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเหรอครับนาย ผมเห็นหลังไวๆ เดินไปที่โรงจอดรถของคนงานน่ะครับ” “อะไรนะ! โรงจอดรถของคนงานอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ” เมื่อฟังอย่างนั้นแล้วก็มีสิ่งเดียวคือเธออาจจะให้คนงานไปส่งก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบวิ่งไปที่โรงจอดรถทันที แล้วก็ทันเส
“เต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ต้องไปด้วยกัน ดูให้รู้ว่าเราทำงานกันลำบากแค่ไหน แล้วก็คุยงานไปด้วย” เขานี่ก็ช่างแกล้งเธอเสียจริงทั้งที่เพิ่งจะส่งส้มเข้าโรงงานของเธอไปเมื่อเช้านี่เอง คิดแล้วก็นึกขัน“อ้าวนาย กลับมาเร็วจังครับ” ชาติชายทักขึ้นเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินมาพร้อมกับคู่ค้าคนเมื่อวาน แต่คราวนี้ดันจูงมือกันมาแบบนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่ธรรมดา“จะรีบกลับมาพาคุณหยกดูงานน่ะ” พูดแล้วเขาก็ปรายตามองเธออีกครั้ง“ชุดนี้นะเหรอครับ ร้อนแย่ผิวสวยๆ ไหม้กันพอดี” ชาติชายบอกว่าผิวสวยๆ อย่างนั้นหรือ ไม่เกรงใจกันเลย“มีหน้าที่ทำงานก็ทำไป” ปราบว่าเสียงดุเข้ม ชาติชายจึงต้องก้มหน้าเล็กน้อยแล้วรีบปลีกตัวไปห่างๆ ทันที ขณะเดียวกันหงส์หยกก็สะบัดจากการเกาะกุมของเขาอีกครั้ง และก็เป็นผลเพราะเขาปล่อยเธอให้เป็นอิสระ จะเดินไปทางไหนก็ตามใจก็แล้วกัน จากนั้นเขาจึงเดินไปคุมลูกน้องขนส้มเพื่อส่งเข้าอีกโรงงานหนึ่ง อีกทั้งแอบบอกทุกคนแล้วว่าหงส์หยกเป็นใครหงส์หยกจึงอาศัยเวลานี้ลองไ
“มันก็เกี่ยว แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะพี่ไม่มีงานให้”“อะไรนะ! ในเมื่อไม่มีงานให้ จะพาหยกกลับไปทำไม ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”“ก็หยกหนีมา! พี่ไม่ชอบ และถ้าหนีมาอีกพี่จะ...”“จะอะไร... จะทำไมหยกอีก เท่านี้ยังไม่พอใจอีกเหรอคะ ศักดิ์ศรีไม่มีแล้ว” เรื่องนี้มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีอย่างนั้นหรือ เขาคิดว่าเธอรู้สึกเหมือนกับเขาเสียอีก“มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีเหรอเนี่ย เพิ่งรู้”“จะอะไรก็ตาม พาหยกกลับเถอะค่ะ” เธอบอกเสียงแข็งเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น“โกรธพี่เหรอ พี่ไม่ได้ทำให้มันเป็นอุบัตินะ ตั้งใจทำทั้งคืนเลย”“หยกจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก จอดรถค่ะ ปล่อยหยกลงตรงนี้ก็ได้”“หยกเป็นคนไปหาพี่เอง ฉะนั้นไปจัดการเรื่องของเราให้จบ”“ไม่! หยกบอกให้จอดรถไง” คราวนี้น้ำเสียงของเธอสั่นเครือคล้าย
“มาได้ยังไงคะ รู้จักที่นี่ด้วยเหรอ” เธอถามด้วยความแปลกใจแต่สีหน้าของเขาบอกบุญไม่รับเลย“บ้านเจ้าสัวบุญเสริมใครบ้างไม่รู้จัก” ปราบตอบเสียงเรียบเหมือนกำลังไม่พอใจ“เอ่อ... มาทำไมคะ” เธอถามพลางหลุบเปลือกตาลงไม่อยากสบตาเขาเลย“พี่ควรถามน้องมากกว่า ว่าน้องกลับมาทำไมไม่บอกพี่สักคำ และเรายังไม่ได้คุยอะไรกันเลย” น้องอย่างนั้นหรือ เรียกราวกับรู้จักมักคุ้นกันเสียเหลือเกิน แต่เธอก็รู้สึกดีไม่น้อย“หยก... มีงานต้องทำค่ะ เลยรีบมา แล้วจะให้คนอื่นไปติดต่องานแทน หยกคงไม่...” เธอตอบแล้วก้มหน้าเหมือนเดิม“คนอื่นเหรอ พูดง่ายดี ทำอะไรไว้ทำไมไม่รับผิดชอบให้มันจบ”“หยกทำอะไรคะ” เธอเริ่มเสียงสั่นขณะที่เขาทำเสียงดุเข้มใส่“ทำงาน ไปทำงานให้เสร็จ...” จบคำเขาก็คว้าแขนเธอให้เดินไปด้วยทันที“ไม่! หยกไม่ไปแล้ว หยกจะไม่ไป” เธอพยายามสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมของเขาทว่าไร้ผ