Share

บทที่ 29

Penulis: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update Terakhir Diperbarui: 2024-04-03 10:54:41
จ้านเป่ยว่างมองดูที่ซ่งซีซีด้วยความตกใจ ความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้ของนางแค่เก่งกว่าเขาเพียงยชนิดหน่อยได้อย่างไร? แม้ว่ามีเขาเป็นสิบคนร่วมมือกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซ่งซีซีได้

นางต่อสู้เป็นด้วย ทำไมไม่เคยบอกเรื่องนี้มาเลย?

ซ่งซีซีถือรายการสินเดิมแล้วยิ้มให้เขา รอยยิ้มนี้สดใสราวกับดวงอาทิตย์ที่สดใสในช่วงกลางฤดูร้อน

แต่แล้วนางก็โยนใบรายการสินเดิมขึ้นในกลางอากาศ และเมื่อมันตกลงอีกครั้ง ใบรายการนั้นก็กลายเป็นเศษกระดาษไปแล้ว ราวกับหิมะสีขาวที่ตกลงมาในฤดูหนาว

"อ๊า เจ้าทำรายการสินเดิมเสียหาย" ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านใจจะขาดอยู่แล้วเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ และนางก็โกรธมาก "ช่างบังอาจ ออกไปซะ ข้าวของของจวนแม่ทัพเจ้าไม่สามารถเอาออกไปแม้แต่ชิ้นเดียว แม้แต่เสื้อผ้าของเจ้าด้วย"

ซ่งซีซียิ้มและพูดว่า "เจ้าคิดว่า ของที่ข้าต้องการเอาออกจากจวนแม่ทัพ มีคนมาห้ามได้เหรอ"

ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านโกรธเกรี้ยว "เจ้ากล้าดียังไง ถ้าเจ้ากล้าเอาไป ข้าจะไปฟ้องกับสำนักรัฐ เจ้าถูกไล่ออก เจ้าอย่าคิดจะเอาสินเดิมไปแม้แต่เบี้ยเดียว!"

นางจูงมือแม่นม แล้วออกคำสั่งอย่างเร่งรีบ "ใครก็ได้ ไล่นางออกไป แม้แต่คนที่นางพามาด้วยอย่าให้ไปไหน
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP
Komen (7)
goodnovel comment avatar
Thitiwan Suwanpanich
โอ้ย มาช้าเหมือนตำรวจไทย
goodnovel comment avatar
Erawady Mitrabhakdi
ค่อย ok หน่อย
goodnovel comment avatar
กรวรรณ ตามัน
อิเต้น่ารังเกียจชมัดชิ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 30

    ซ่งซีซีคำนับให้ ค่อยๆ ผ่อนคลายไหล่ของนางออก พระราชโองการนี้มาช้ามาก แต่โชคดีที่มาทันเวลา "ซ่งซีซีขอบพระทัยความเมตตาของพระองค์เพคะ!"จ้านเป่ยว่าง ซีดเซียวและตกตะลึงตอนนั้นที่ซ่งซีซีเข้าวังกลับเพื่อขอให้ฮ่องเต้อนุญาตให้หย่าโดยสันติงั้นเหรอ?ไม่ใช่เพื่อขัดขวางการแต่งงานของเขากับยี่ฝาง?นับตั้งแต่ที่นางรู้เรื่องการพระราชทานอภิเษกสมรสแล้ว นางก็วางแผนจะหย่าโดนสันติเหรอ?เขาเคยคิดว่าวิธีการทั้งหมดที่นางใช้เป็นเพียงต้องการผูกขาดเขา ดังนั้นเขาจึงคิดว่านางเป็นคนขี้อิจฉา ตระหนี่ เห็นแก่ตัว ใจแคบ ใจแคบ ไม่ยอมผู้อื่น และถึงขั้นน่ารังเกียจด้วยซ้ำแต่ปรากฎว่าไม่ใช่...จ้านเป่ยว่างมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกในใจ เมื่อดูซ่งซีซีรับพระราชโองการ รอยยิ้มอันอบอุ่นก็ปรากฏบนใบหน้าของนาง มันดูสดใสและน่าประทับใจอย่างอธิบายไม่ได้ ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าครั้งแรกที่เขาเห็นนาง เขาถูกดึงดูดความสนใจโดยรูปร่างหน้าตาของนางทันทีทันทีที่เขาเห็นนางครั้งแรก ขนาดทำให้เขาลืมหายใจด้วยซ้ำแต่ต่อมา เขาได้พบกับยี่ฝาง...ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านไม่คาดคิดว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ นางไม่เคยคาดคิดว่า ซ่งซีซีจะเป็นฝ่ายขอหย่าโดยส

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-03
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 31

    “ได้!” ดวงตาของซ่งไท่กงเต็มไปด้วยน้ำตา เขามองเห็นหญิงสาวตรงหน้าไม่ชัดเจน แต่เขารู้สึกได้ว่านางมีออร่าสูงส่ง เขายินดีอย่างยิ่ง “ที่นี่ไม่ควรอยู่ต่อ มีแต่โชคร้าย ข้าขอตัวไปก่อน เจ้าก็ให้ออกไปเร็วๆ ด้วย”"เจ้าค่ะ!" ซ่งซีซีลุกขึ้นและมองส่งเขาและซ่งซื่ออันออกไปด้วยความเคารพหญิงชราจากบ้านรองก็ถือโอกาสจากไปเช่นกัน เดิมทีนางต้องการออกมาพูดสักหน่อย แต่นางไม่ได้พูดอะไรตอนที่ซ่งซีซีโดนรังแกนั้น บัดนี้ก็ไม่มีหน้าจะพูดอะไรอีก ถือซะว่าวันนี้นางไม่ได้มาที่นี่เลยทุกคนในตระกูลจ้านยืนนิ่งอยู่กับที่ และดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ ซ่งซีซีกลายเป็นบุตรีของฮูหยิงเอกของจวนเสนาบดีกั๋วกง ส่วนสามีสามีของนางสามารถสืบทอดตำแหน่งเสนาบดีกั๋วกงได้ด้วยนี่มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี่น่ะ? เป็นไปได้อย่างไรที่จะให้คนต่างสกุลมาสืบทอดตำแหน่งนี้?แต่อย่างไรก็ตาม พระราชโองการของพระองค์บอกให้ชัดเจนว่ามันเป็นไปได้ หากเป่ยว่างไม่หย่ากับนาง งั้นเป่ยว่างก็สามารถสืบทอดตำแหน่งได้ความเจริญที่หาได้ยากนั้นพวกเขากลับพลาดไปทั้งอย่างนั้นหลังจากวางแผนมาซะจริงจังขนาดนั้น สุดท้ายกลับไม่ได้

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 32

    ตกเย็น ยี่ฝางส่งคนไปตามหาจ้านเป่ยว่างออกไปพวกเขาทั้งสองกำลังเดินไปตามทะเลสาบ จ้านเป่ยว่างยังคงเงียบและไม่พูดอะไรตลอดทางยี่ฝางยังไม่รู้สถานการณ์ เดิมทีนางคิดว่าเมื่อนัดเขาออกมา เขาจะริเริ่มบอกสถานการณ์การหย่าร้าง แต่ไม่คิดว่าเขาไม่ได้พูดอะไรสักคำเลย อีกทั้งใบหน้าของเขาก็ดูเหมือนกับโดนแมวข่วนอย่างไรอย่างนั้นเดินไปได้สักพัก นางก็หยุดลง และอดไม่ได้ที่จะถามว่า "หย่าหรือยัง ยึดสินเดิมไว้ครึ่งหนึ่งหรือเปล่า"ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง สะท้อนใบหน้าที่ค่อนข้างเข้มของยี่ฝาง ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงใบหน้าที่สดใสและสวยงามของซ่งซีซี จู่ๆ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดขึ้นมาทันที"เจ้าไม่ได้ยึดไว้เหรอ?" ยี่ฝางเห็นว่าเขาเงียบ และดูเศร้าๆ นางอดไม่ได้ที่จะโกรธเล็กน้อย "ข้าไม่ได้ส่งคนไปส่งจดหมายให้เจ้าเหรอ บอกให้เจ้าต้องยึดสินเดิมไว้ครึ่งหนึ่งไม่ใช่หรือ จวนแม่ทัพ ไม่เหลืออะไรแล้ว หากเราไม่ยึดข้าวของพวกนั้นไว้ต่อไปเราจะใช้ชีวิตยังไง"จ้านเป่ยว่างมองดูนาง "แต่นั่นเป็นสินเดิมของนาง ไม่ใช่ของข้า ข้าไม่ใช่คนหามา ยี่ฝาง เจ้าแต่งงานกับข้าเป็นเพราะกลัวที่จะใช้ชีวิตยากจนลำบากใช่หรือไม่?""ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น" ยี่ฝางห

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 33

    จ้านเป่ยว่างเงียบ เพราะในการต่อสู้วันนี้ เขาพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งน่าอายมากที่จะพูดถึงมัน“สรุปเป็นเรื่องจริงหรือไม่?” ยี่ฝางถามต่อจ้านเป่ยว่างถอนหายใจ "ช่างเถอะ ไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า"ยี่ฝางชกเขาและพูดอย่างอ่อนโยนว่า "รู้อยู่ว่าเจ้าโกหกข้า ช่างมัน ไม่ว่าจะเป็นการหย่าหรือการหย่าโดยสันติ ตราบใดที่เรื่องได้รับการจัดการแล้วก็พอ ในเมื่อนางไม่สนที่จะร่วมสามีเดียวกันกับข้า งั้นข้าก็ไม่ต้องการด้วย เล่ห์เหลี่ยมที่นางใช้ในฝ่ายใน ข้าสู้นางไม่ได้หรอก นั่นแหละเป็นความสามารถที่แท้จริงของนางต่างหาก"นางเอียงศีรษะต่อหน้าเขา "ความสามารถเช่นนั้น ข้าเรียนไม่เป็นด้วยจริงๆ แต่ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าเลียนแบบนางให้พูดอ่อนโยนและหวานๆ ข้าก็ทำได้นะ"นางประสานมือไว้ข้างหน้า ยิ้มเล็กน้อยโดยไม่เผยให้เห็นฟัน และเรียกเบาๆ ว่า "ท่านสามี!"หลังจากที่นางเรียกจบ นางก็แสร้งทำเป็นตัวสั่นไปทั้งตัว “โอ้แม่เจ้า มันน่าขยะแขยงจริงๆ มันเสแสร้งมาก นางจะเสแสร้งขนาดนี้ได้ยังไง?”จ้านเป่ยว่างก็ตัวสั่นเช่นกัน แต่เป็นเพราะการแกล้งทำโดยเจตนาของยี่ฝาง อันที่จริงซ่งซีซีไม่เคยทำท่านี้มาก่อน นางพูดเสียงเบาก็จริง แต่ไม่เสแสร้ง ทัศ

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 34

    ซ่งซื่ออันเรียกลูกน้องของตระกูลซ่งมาช่วย เพื่อขนของลงและจัดเก็บพวกมันทั้งหมดให้เรียบร้อยหลังจากยุ่งมาสักพักใหญ่ ซ่งซื่ออันและซ่งซีซีก็เดินไปรอบๆ จวนด้วยกัน ในจวนเคยมีชีวิตชีวามาก แต่ตอนนี้ มันกลับร้างมากซ่งซื่ออันกล่าวกับนาง "บัดนี้เจ้าเป็นเจ้านายเพียงคนเดียวในจวนเสนาบดีกั๋วกง และคนรับใช้ก็เป็นเพียงคนที่เจ้าพากลับมาจากบ้านสามีของเจ้าเท่านั้น เจ้าต้องหาพ่อบ้านมาช่วยดูแลบ้านก่อน แล้วค่อยหาสาวใช้และพวกทาสด้วย ห้องครัวและสวนต่างๆ และรถม้าก็ต้องมีคนคอยดูแล หากเจ้าไม่สะดวก ข้าก็ช่วยหาให้เจ้าได้"ซ่งซีซีกล่าวอย่างซาบซึ้งว่า "ท่านลุงต้องยุ่งกับธุรกิจ ข้าไม่กล้าไปรบกวนเวลา แม่นมฮวงและแม่นมเหลียงจะจัดการเรื่องนี้เองเจ้าค่ะ"ซ่งซื่ออันมองดูนาง แล้วถอนหายใจ "เราเป็นสายเลือดเดียวกันจะว่าเป็นรบกวนได้ยังไง? ในสมัยก่อนตอนที่ท่านพ่อของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ทุกครั้งที่เขากลับมาจากชายแดนมักจะชวนพี่น้องเช่นเรามารวมตัวกันเสมอ ฟังเขาเล่าเรื่องอันตรายในสนามรบ ทำเอาเราทั้งชื่นชมและรู้สึกเป็นห่วงกับเขาด้วย แต่ก็รู้สึกภูมิใจมากกว่าเพราะคนของตระกูลซ่งของเราปกป้องบ้านเมืองอยู่ แต่จากนั้นมาตระกูลซ่งของเราก็ไม่ม

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 35

    แม้ว่าจวนเสนาบดีกั๋วกงจะเป็นตระกูลทหาร แต่คุณหนูก็เป็นคนที่ได้รับการศึกษาที่ดีมา และย่อมหวังว่าคนที่รับใช้ข้างกายนางจะอ่านหนังสือเป็นด้วย“เอาล่ะ พวกเจ้าอยู่ต่อเลย ให้รับใช้คุณหนูเลย ส่วนชื่อของพวกเจ้า เดี๋ยวจะให้คุณหนูตั้งให้”ทั้งสี่คนดีใจกันมาก "ขอบคุณมากนะแม่นม!"แม่นมฮวงพูดอย่างจริงจังว่า "อย่าเพิ่งขอบคุณข้า อยู่ข้างกายคุณหนูก็ต้องเรียนรู้กฎเกณฑ์ด้วย หากเรียนรู้ไม่ดี จะเป็นได้แค่สาวใช้ชั้นสองหรือชั้นสามเท่านั้น"ทั้งสี่คนได้ยินดังนั้นก็คารวะว่า “ข้าน้อยจะต้องเรียนรู้กฎเกณฑ์ให้ดีแน่นอนเจ้าคะ”หลังจากเลือกคนทั้งสี่คนนี้แล้ว แม่นมทั้งสองก็เลือกสาวใช้และชายรับใช้สองสามคนด้วย จากนั้นให้นายหน้าช่วยหาคนขับรถม้า ช่าง ผู้ดูแลม้าและสวนด้วยสำหรับหัวหน้าดูแลฝ่ายนอกและนักบัญชี ย่อมไม่สามารถให้นายหน้าช่วยหาให้หลังจากที่นายหน้ารับเงินไปก็ยิ้มกว้าง "ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ข้าจะส่งคนไปให้แม่นมเลือกเอาเอง"หลังจากที่เขามอบโฉนดขายเป็นทาสแล้ว เขาก็มอบซองแดงแก่แม่นมทั้งสองก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม "ฝากแม่นมด้วยนะ หากท่านต้องการอะไรในอนาคต ติดต่อเราได้เลย เราทำงานเกือบทุกสายเลย"แม่นมรับซองแดง พลางพยั

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 36

    แต่เรื่องนี้ไม่มีทางสอบสวนได้อีกแล้ว สายลับตายบ้าง คนที่ไม่ตายก็หนีกลับไปที่เมืองซีจิงแล้ว และหาไม่เจออีกเลยนางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงท่านพ่อและพี่ชายของนางอีกครั้ง รู้สึกทั้งเสียใจและเจ็บปวดใจด้วยท่านพ่อและพี่ชายเคยยึดเขตหนานเจียงกลับคืนมา แต่ปกป้องไม่ดีเองก็ถูกแย่งชิงไปอีก ในที่สุดทั้งท่านพ่อและพี่ชายต่างก็เสียชีวิตอย่างอนาถในสนามรบหากเป่ยหมิงอ๋องได้ชนะสงคราม และยึดเขตหนานเจียงกลับคืนมา ก็ถือว่าสนองความปรารถนาของท่านพ่อและพี่ชายของนางด้วยคืนแรกที่กลับบ้าน ซ่งซีซีนอนไม่หลับ ความฝันของนางเต็มไปด้วยฉากที่ท่านแม่ พี่สะใภ้ หลานชาย และคนอื่นๆ ที่ถูกฆ่าตาย นางตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วไม่สามารถเข้านอนได้อีก นางจ้องมองเพดานด้วยดวงตาเบิกกว้าง สมองของนางเอาแต่คิดอะไรไปเรื่อยมองจากอาการบาดเจ็บของพวกเขาก็สามารถพิจารณาได้ว่าพวกฆาตกรโหดเหี้ยมแค่ไหน และฆาตกรกำลังระบายความโกรธชัดๆเมื่อทั้งสองประเทศทำสงคราม แม้ว่าเมืองซีจิงจะพ่ายแพ้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนี้ออกนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาพ่ายแพ้ พวกเขาเคยพ่ายแพ้ให้กับท่านพ่อและพี่ชายจนไม่เป็นท่า ถูกสังหารทหารและม้าไป สามหมื่นนาย แต่สายลับจา

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 37

    ฮูหยินผู้เฒ่ากระทืบเท้าแล้วพูดว่า "ให้เขาขนของไปหมด ไม่เหลืออะไรแล้ว ต่อไปจวนแม่ทัพแม้แต่ค่ายาของข้าก็จ่ายไม่ไหวแล้ว"จ้านเป่ยว่างรู้สึกอึดอัดใจมาก แต่เขาทำได้เพียงปลอบใจท่านแม่ "ไม่ต้องห่วง สงครามที่เขตหนานเจียงต้องให้ข้าและยี่ฝางไปเร็วๆ นี้ ข้าจะต้องสร้างผลงานกับมาอีกครั้ง"ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านร้องไห้อย่างหนัก "นางจะใจร้ายขนาดนี้ได้ยังไง ก็แค่ภรรยาเท่าเทียมกันนี่เอง ทำไมนางถึงทนไม่ได้ล่ะ เป็นเด็กกำพร้าชัดๆ นางยังคิดว่าตัวเองเป็นลูกคุณหนูสูงส่งจริงๆ เหรอ?"จ้านเป่ยว่างกระตุกริมฝีปากของเขา ยามนี้ นางเป็นบุตรีของฮูหยิงเอกของจวนเสนาบดีกั๋วกงแล้ว แน่นอนว่านางเป็นลูกคุณหนูสูงส่ง"สมควรที่นางถูกสังหารทั้งโคตร สมน้ำหน้า สมน้ำหน้าจริงๆ!" ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านพูดด้วยความโกรธสำหรับเรื่องที่ว่าตระกูลซ่งถูกสายลับของเมืองซีจิงฆ่าสังหารนั้นจ้านเป่ยว่างก็รู้สึกแปลกๆ เช่นกัน เหตุใดสายลับของเมืองซีจิงจึงฆ่าคนแก่และผู้อ่อนแอเหล่านั้น? มันไม่คุ้มค่าโดยสิ้นเชิงแต่เรื่องของตระกูลซ่งไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไปแล้ว และเขาจะไม่เสียเวลาไปสนใจมันอีกซ่งซีซีจะต้องเสียใจภายหลัง อันที่จริง ตอนเขารู้เรื่องนี้เขา

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-19

Bab terbaru

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1342

    เนื่องจากฝ่าบาททรงส่งชีกุ้ยไปปฏิบัติหน้าที่ข้างนอก งานดูแลเรือนจำจึงถูกมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของหอต้าหลี่ดูแล และผู้ที่รับหน้าที่นี้คือเซี่ยหรูหลิงไม่นานนัก เซี่ยหรูหลิงก็เดินทางมาที่จวนเป่ยหมิงอ๋องเพื่อพบซ่งซีซี บอกว่ามีเรื่องที่เขาตัดสินใจไม่ได้ และขอให้ซ่งซีซีช่วยแนะนำซ่งซีซีรีบกินข้าวเพียงสองสามคำแล้วออกมาพบเขา เพราะกังวลว่าอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับฮูหยินจีและเด็กๆแต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่เซี่ยหรูหลิงกล่าว นางก็พบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหลูทั้งสองคนหลังจากถูกส่งตัวเข้าเรือนจำก็วิตกกังวลทุกวัน อีกทั้งอาหารยังแย่ยิ่งกว่าอาหารที่เคยให้สุนัขกิน หลังจากนั้นไม่กี่วันก็เริ่มอาเจียนและท้องเสียก่อนหน้านี้ ซ่งซีซีเคยให้ยากับฮูหยินจี ซึ่งรวมถึงยาสำหรับอาการท้องเสียและปวดท้องเพราะไม่ชินสภาพแวดล้อม ยาทำให้อาการดีขึ้น แต่เพราะต้องกินอาหารแบบนั้นต่อไป อาการจึงกลับมาแย่ลงอีก และหวังชิงหลูก็มีไข้สูงฮูหยินผู้เฒ่าร้องขออย่างน่าสงสารให้ช่วยหาหมอ เซี่ยหรูหลิงไม่กล้าตัดสินใจ จึงออกมาขอคำปรึกษาจากซ่งซีซีซ่งซีซีถามว่า “แล้วคนอื่นล่ะ? มีอาการเหมือนกันหรือไม่?”“เดิมที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1341

    แต่ครั้งนี้เมื่อเข้าไปในวัง กลับไม่ได้พบฝ่าบาท อู๋ต้าปั้นออกมาแจ้งข่าวว่า วันนี้ฝ่าบาทไอจนมีเลือดปนและเกือบหมดสติ ตอนนี้หมอหลวงกำลังรักษาซ่งซีซีรีบถาม “เป็นเพราะพระวรกายอ่อนแอ หรือถูกลอบวางยาพิษ?”คำถามนี้ชัดเจนว่าแฝงด้วยความระแวง หากเป็นสถานการณ์ปกติหรือคนอื่น ซ่งซีซีคงไม่กล้าถามแต่สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างออกไป อีกทั้งคนที่นางเผชิญหน้าอยู่คืออู๋ต้าปั้น นางจึงถามอู๋ต้าปั้นถอนหายใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “หมอหลวงวินิจฉัยว่าไม่ได้ถูกวางยาพิษ แต่เพราะฝ่าบาททรงวิตกกังวลอย่างหนัก พักผ่อนน้อยและเบื่ออาหาร อีกทั้งสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ทรงติดเชื้อและไอมาแล้วหลายวัน แม้จะดื่มยามาหลายวันแต่ไม่ได้ผล วันนี้ไอไม่หยุดจนกระทั่งมีเลือดปนและแทบหายใจไม่ออก”เมื่อได้ยินว่าไม่ใช่การวางยาพิษ ซ่งซีซีก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย หากเป็นการวางยาพิษ ก็หมายความว่ามีคนแฝงตัวเข้ามาในวังแล้ว ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ยากลำบากยิ่งขึ้นการไอเป็นเลือดอาจเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ได้ ซ่งซีซีจึงยังไม่จากไป แต่เฝ้ารออยู่ด้านนอกเพื่อรอหมอหลวงออกมาแจ้งสถานการณ์นอกจากซ่งซีซีแล้ว ยังมีขุนนางอีกหลายคนที่รอเพื่อกราบทูลเรื่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1335

    กล่องผ้าไหมสีแดงเข้มชิ้นนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น ว่านกงกงเป่าฝุ่นออกก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ด แล้วเปิดกลไกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาเขาส่งสัญญาณให้มอบหยกชิ้นนั้นแก่เสนาบดีมู่เสนาบดีมู่รับมาด้วยความสงสัย เมื่อมองดู เห็นว่าหยกทรงวงแหวนชิ้นนี้แกะสลักลวดลายมังกร ชัดเจนว่าเป็นของจักรพรรดิ์องค์ก่อน"ท่านเสนาบดีลองดูด้านหลัง" ว่านกงกงกล่าวเมื่อเสนาบดีมู่พลิกดูด้านหลัง เขาถึงกับตะลึงจนเหมือนร่างแข็งทื่อด้านหลังยังคงมีลวดลายมังกร แต่ลวดลายนี้ห่อหุ้มใบเมเปิลหนึ่งใบ และข้างใบเมเปิลนั้นยังมีอักษร "สือ" เล็กๆ แกะสลักไว้ใบเมเปิลและตัวอักษรแบ่งพื้นที่คนละด้าน ใบหนึ่งใหญ่ ใบหนึ่งเล็กซ่งซีซีก็เห็นเช่นกัน แต่ไม่เข้าใจความหมายเสนาบดีมู่ถอนหายใจและอธิบายเบาๆ "สือจิ้ง เป็นนามอักษรของจักรพรรดิ์องค์ก่อน ส่วนชิวเหมิงเคยเดินทางในยุทธภพช่วงหนึ่ง และได้รับสมญานามว่า 'คุณชายเหล็กแห่งใบเมเปิล'""หยกชิ้นนี้จักรพรรดิ์องค์ก่อนประทานให้แม่ทัพชิว ด้านหลังเดิมมีเพียงลวดลายมังกร แต่ใบเมเปิลและอักษร 'สือ' นั้น แม่ทัพชิวแกะสลักเพิ่มเอง หยกนี้เขาพกติดตัวตลอด ใส่ไว้ในถุงผ้าไหม แต่ไม่รู้อย่างไรถูกจักรพรรดิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1334

    อย่างไรเสีย หัวข้อสนทนานี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เสนาบดีมู่จึงดื่มชาสองสามอึกก่อนจะกล่าวว่า "ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ในตอนนั้นมีการประกาศว่าชิวเหมิงกระทำการหมิ่นพระเกียรติ จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงกริ้วและปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะพระราชทานยศเจวี๋ยให้แทน มีข่าวลือเล็กๆ น้อยๆ หลุดออกมาจากในวังว่าเขาและอาจารย์ฉีมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือบางอย่าง เมื่อจักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงทราบ ก็ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ ด้วยความโกรธจึงตรัสคำดูหมิ่นเขาอย่างรุนแรง รวมถึงการลดตำแหน่ง ทำให้ชิวเหมิงรู้สึกหมดกำลังใจจนตัดสินใจออกจากเมืองหลวงไป"สำหรับเหตุผลนี้ ซ่งซีซีเคยคาดเดาไว้บ้าง แต่คิดว่าในฐานะคนที่ทำงานใกล้ชิดราชวงศ์ ไม่น่าจะกล้าแสดงความคิดหรือความรู้สึกเช่นนั้นออกมา อีกทั้งนางก็รู้จักอุปนิสัยของจักรพรรดิ์องค์ก่อนดี จึงยิ่งไม่น่าจะไม่ระมัดระวังตัวและหากการลดตำแหน่งเกิดจากเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แต่จากที่ได้ฟัง บางทีชิวเหมิงอาจมองจักรพรรดิ์องค์ก่อนเป็นเพื่อนจริงๆ จึงไม่ได้ปิดบังตัวเองมากนัก หรืออาจเพราะเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงไม

DMCA.com Protection Status