แชร์

บทที่ 430

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
“แม่นาง... เอ่อ... แม่นางจิ่ว นี่... น่าขยะแขยงเกินไป...” ผู้อาวุโสหนึ่งคนอดไม่ได้ที่ต้องมีอาการคลื่นไส้สองที

และการกระทำต่อไปของจั๋วซือหรานยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากอาเจียนมากขึ้น

จั๋วซือหรานยื่นมือออกและไปล้วงเนื้อที่ดูอ่อนนุ่มของเฟิงจู๋...

"อ๊วก"(เสียงอาเจียน)

"แหวะ"(เสียงอาเจียน)

"อู๊บ โอ๊ก"(เสียงอาเจียน)

ผู้อาวุโสทุกคนอาเจียนพร้อมกัน

จากนั้นพวกเขาเห็นว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าหรือการแสดงออก แม้ว่านางต้องเผชิญกับร่างกายที่เสียโฉมของเฟิงจู้ก็ตาม

ในขณะนี้ นางขมวดคิ้วเพราะพวกเขาอาเจียน

เหล่าผู้อาวุโส "..."

นี่ทำให้พวกเขารู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย

จั๋วซือหรานกล่าวว่า "ในกรณีนี้ ข้าคงต้องรีบรักษาพวกเจ้า และให้พวกเจ้าออกจากห้องใต้ดินแห่งนี้ กลิ่นเหม็นเกินไป... "

คำพูดนี้ทำให้เหล่าผู้อาวุโสยิ่งรู้สึกละอายใจมากขึ้น

พวกเขากระซิบ "ส่วนใหญ่เป็นเพราะแม่นางจิ่ว เจ้า... กล้าหาญมาก"

จั๋วซือหรานยังคงทำในสิ่งที่นางกำลังทำต่อไป นางล้วงเข้าไปในเนื้อและเลือดของศพเฟิงจู๋ จากนั้นนางกระซิบว่า "มันดูเหมือนขี้ผึ้ง ยิ่งจับมัน ยิ่งรู้สึกใช่เลย"

จากนั้นจั๋วซือหรานหดมือกลับ

พวกเขายังคิดอยู่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 431

    จากหางตาของจั๋วซือหรานเห็นเหล่าผู้อาวุโสหันตัวและยืนอยู่ตรงมุม เหมือนพวกเขากำลังสำนึกผิดนางรู้สึกตัวเองทำผิดเล็กน้อยเช่นกัน แต่นางรู้สึกตัวเองทำผิดไม่ได้เป็นเพราะนางจูบกับเฟิงเหยียนนางรู้สึกตัวเองทำผิด เพราะการที่นางจูบกับเฟิงเหยียนทำให้เหล่าผู้อาวุโสต้องหันหลังและยืนไปมองกำแผงเฟิงเหยียนปล่อยริมฝีปากของนาง เสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อยจั๋วซือหรานรู้ด้วยว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ดีต่อสุขภาพของ เฟิงเหยียน ซึ่งผู้ที่เป็นชายที่กระฉับกระเฉงทรงพลัง เขาต้องประสบกับความกระตือรือร้นและหลายหนในเวลาอันสั้นเฟิงเหยียนลดสายตาลงและถามด้วยเสียงต่ำ “เจ้าพร้อมหรือยัง”“พร้อมแล้ว” จั๋วซือหรานพยักหน้าเบา ๆ เฟิงเหยียนปล่อยนาง เขาก้าวไปข้าง ๆ และนั่งลงบนม้านั่งหินที่เสียมุม เพื่อซ่อนปฏิกิริยาของร่างกายของเขาไว้เหล่าผู้อาวุโสได้ยินจั๋วซือหรานพูดว่านางพร้อมแล้ว จากนั้นพวกเขาจึงหันตัวกลับมาพวกเขาไม่มีเวลาสนใจสถานะปัจจุบันของเฟิงเหยียน พวกเขาต่างจ้องมองไปที่จั๋วซือหราน“ แม่นางจิ่วจะเริ่มแล้วหรือ” เหล่าผู้อาวุโสถามจั๋วซือหรานพยักหน้า "ข้าจะลองมือแล้ว เชิญผู้อาวุโสยืนไกล ๆ หน่อย"ทุกคนปฏิบัติตามคำพูดข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 432

    แต่จั๋วซือหรานรู้สึกตัวเองอย่าท้าทายกับความอ่อนแอของเหล่าผู้อาวุโสเลยดีกว่านางกำลังจะยกมือขึ้นแล้ว เมื่อคิดเช่นนี้ นางวางลงอีกครั้งวินาทีต่อมา จั๋วซือหรานตกตะลึง เพราะมือของชายคนนั้นยื่นออกมาจากด้านข้าง มือข้างนั้นมีข้อต่อที่ชัดเจน นิ้วยาว และมีหนังด้านหยาบอยู่ที่ปลายนิ้วเจ้าของมือนั้นค่อย ๆ ปาดเหงื่อเล็ก ๆ ที่ปลายจมูกของนางออก“ขอบคุณ” จั๋วซือหรานกล่าวมีผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งที่เพิ่งอาเจียนเสร็จ บัดนี้เขายังหายใจไม่ดีอยู่เล็กน้อย เขาพูดว่า " แม่นางจิ่ว แม่กู่อยู่ในหัวของพวกเขาไม่ใช่หรือ หากไม่อยู่... ทำไมเจ้าถึงตีหัวพวกเขา"จั๋วซือหรานเหลือบมองหลุมดำบนหัวของตัวที่ถูกอาศัย เมื่อครู่นางยิงหัวนั้น ไม่มีแม้แต่เลือดไหลออกจากบาดแผล เหมือนเลือดในร่างกายของพวกเขาหายไปนานแล้ว“มันไม่อยู่ในหัว” จั๋วซือหรานตอบ จากนั้นนางหัวเราะ “จากว่าไป หากมันจะอยู่ในหัว ข้าล้วกหัวพวกเขา พวกเจ้าจะไม่อาเจียนหรือ”เหล่าผู้อาวุโสจินตนาการภาพนั้น แค่นึกภาพนั้น พวกเขาก็ทนไม่ไหวแล้วจั๋วซือหรานดึงมือของนางออกจากหน้าอกของศพที่ถูกแม่กู่อาศัย มือของนางสะอาดและไม่มีคราบสกปรกใด ๆจั๋วซือหรานมองไปที่มือของนาง น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 433

    หน้าอกของร่างศพนั้นโค้งขึ้นก่อน ดูเหมือนมันต้องการเข้าใกล้มือของจั๋วซือหราน หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือ มันต้องการเข้าใกล้เนื้อและเลือดของจั๋วซือหรานจากนั้น ร่างกายส่วนบนทั้งหมดก็ค่อย ๆ โค้งงอและยืนขึ้นสำหรับคนทั่วไป ฉากนี้ดูน่าขนลุกเห็นได้ชัดว่าคนที่เสียชีวิตเต็ม ๆ แล้วได้ฟื้นความสามารถในการเคลื่อนไหวตัวแม้แต่นี่เป็นการกระทำง่าย ๆ ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกน่าทึ่งเหล่าผู้อาวุโสมองด้วยความตกตะลึง แม้ว่าพวกเขาทุกคนทราบกันดีว่า เฟิงจู๋ตายเสียนานแล้ว เขาเสียชีวิตแล้วจริง ๆแต่เมื่อพวกเขาเห็นฉากนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่ต้องเรียก “จูเอ๋อร์”แน่นอนว่าไม่มีการตอบกลับจั๋วซือหรานเอียงศีรษะเล็กน้อย นางมองดูร่างศพที่มีแม่กู่อยู่ บัดนี้ร่างศพนี้กำลังค่อย ๆ ยกขึ้นที่ใต้มือของนาง นางเลิกคิ้วขึ้น แผลบนฝ่ามือของนางเริ่มหายดีด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากนั้น ราวกับว่ามีดาบคมที่มองไม่เห็นอีกอันในอากาศ กระทบกับบาดแผลเดิมในมือของนางอีกครั้งเลือดกำลังไหลออกมาเร็วขึ้นจั๋วซือหรานกำมือของนางเบา ๆ เพื่อให้เลือดหยดเร็วขึ้นนางโค้งมุมปากของนางขึ้นเล็กน้อย “ชอบพวกนี้หรือ เอาน่า มาเลย…”

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 434

    พวกเขามองจั๋วซือหรานอีกครั้ง ดวงตาของพวกเขาแสดงความลึกเล็กน้อยหนอนพิษกู่นี้น่ากลัวจริง ๆหากเป็นเรื่องจริงอย่างที่เหยียนเอ๋อร์พูด หนอนพิษกู่นี้อาจสามารถควบคุมคนที่ถูกอาคมหนอนพิษกู่ได้ในระดับหนึ่งดวงตาของจั๋วซือหรานเปล่งประกาย และเห็นได้ชัดว่านางเริ่มสนใจแม่กู่นี้มากขึ้นเรื่อย ๆ นี่ช่างน่าสนุกเหลือเกินนางไม่เคยเจอของเช่นนี้มาก่อนในชาติที่แล้ว เพราะในโลกของชาติที่แล้วไม่มีของเช่นนี้จริง ๆ ...จั๋วซือหรานรู้สึกถึงควมรู้สึกอันนุ่มนวลระหว่างปลายนิ้วของนาง นางมั่นใจนางสัมผัสมันได้แล้วเพียงแต่ดูเหมือนว่ามันจะหยั่งรากอยู่ใน 'รัง' นี้ นางดึงมันออกมาไม่ได้เลยช่างเป็นตัวเล็กที่ดื้อรั้นจริง ๆแต่ดูเหมือนว่ามันแค่ห่วงแต่ของอร่อย ๆมิฉะนั้น เห็นได้ชัดมันไม่ต้องเปิดเผยตัวเองเลย แต่มันถูกดึงดูดโดยพลังวิเศษอันแข็งแกร่งของการแพทย์สายวิเศษที่อยู่ในพลังทางจิตวิญญาณของไม้ ในเลือดของนางพลังทางจิตวิญญาณของไม้สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสิ่งมีชีวิตอยู่แล้ว เมื่อคู่กับความมีชีวิตชีวาของพลังการแพทย์สายวิเศษนั้นจะไม่น่าดึงดูดได้อย่างไรแต่เมื่อจั๋วซือหรานเอื้อมมือออกไป นางได้ใช้ความสามารถขอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 435

    จั๋วซือหรานรู้สึกว่านางค่อนข้างเข้าใจหลักการของหนอนพิษกู่นี้เส้นใยเหล่านี้ที่พองตัวขึ้นอย่างกะทันหันเป็นวิธีที่ใช้ในการควบคุมการกระทำของเฟิงจู๋และคนอื่น ๆดังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บที่ข้อต่อของแขนขา แต่พวกเขาก็ไม่สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวแต่พวกเขายังคงสามารถเคลื่อนไหว เพียงเพราะเส้นใยเหล่านี้กำลังดึงร่างกายของพวกเขา เหมือนหุ่นเชิด...เหมือนผู้ที่ถูกควบคุมเพียงเพราะหนอนพิษกู่ตัวนี้ไม่แข็งแรงพอ พลังของเส้นใยเหล่านั้นจึงไม่เพียงพอที่จะควบคุมแขนขาของพวกมันได้อย่างแม่นยำและพิถีพิถันดังนั้นเมื่อเฟิงช่าน เฟิงจู๋และคนอื่น ๆ ถูกควบคุม การเคลื่อนไหวของพวกเขาจึงดูกระตุกและแข็งทื่อมากหากมันเป็นหนอนพิษกู่ที่แข็งแกร่งพอ...จั๋วซือหรานบอกการคาดเดาของนางให้เฟิงเหยียนและผู้อาวุโสฟังผู้อาวุโสทุกคนต่างตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้“ แม่นางจิ่ว เจ้าหมายถึง...เจ้าหมายถึง...”จั๋วซือหรานเหลือบมอง 'ขนมชาม' ที่อยู่ในมือของนาง "ข้าคิดว่าหากมันเป็นหนอนพิษกู่ที่มีความแข็งแกร่งเพียงพอ มันจะสามารถควบคุมร่างกายของเฟิงจู๋ เฟิงช่านและคนอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่ การเคลื่อนไหวของพวกเขาคล่องแคล่วมา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 436

    ก่อนที่เหล่าผู้อาวุโสเดินออกจากตำหนักใต้ดิน พวกเขาทั้งหมดมองจั๋วซือหรานด้วยสายตาที่ซับซ้อนมากแม้ว่าพวกเขามีอายุมากกว่านางหลายปีก็ตาม แต่พวกเขายังต้องยอมรับว่า ผู้หญิงคนนี้ทำตามที่นางพูดจริง ๆก่อนที่พวกเขาเดินออกจากตำหนักใต้ดิน จั๋วซือหราน กล่าวว่า "ใช่แล้ว ข้ามีเรื่องหนึ่งที่ต้องปรึกษากับผู้อาวุโส"ตอนนี้เหล่าผู้อาวุโสปฏิบัติต่อจั๋วซือหรานอย่างมีมารยาทที่พอสมควรดังนั้นเราต้องยอมรับว่า บางครั้งหากเราต้องการได้รับความเคารพจากผู้อื่น เราต้องชิงความเคารพนั้นด้วยความแข็งแกร่งและความสามารถของตัวเอง“ เชิญแม่นางจิ่วพูด” เหล่าผู้อาวุโสกล่าว“วางศพของสามคนนี้ไว้ที่นี่ มีแต่จะเพิ่มความเสี่ยง ให้ข้าจัดการจะดีกว่าไหม” จั๋วซือหรานแนะนำเหล่าผู้อาวุโสตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งที่จั๋วซือหราน พูดถึงคือร่างศพสามคนนั้นที่แม่กู่อาศัยเหล่าผู้อาวุโสลังเลเล็กน้อย ดูเหมือนพวกเขาตัดสินใจลำบาก“ แม่นางจิ่ว ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากสัให้เจ้า เพียงแต่...”จั๋วซือหรานพยักหน้าเมื่อนางได้ยินคำพูดของพวกเขา นางพูดว่า "ข้าเข้าใจความกังวลของพวกเจ้า เพราะต้องรีบนำคนที่เสียชีวิตไปฝัง พวกเขาจะไปขึ้นสวรรค์อย่างม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 437

    คนรับใช้ที่อยู่ด้านข้างถามด้วยความเคารพ " เจ้าหุบเขา กำลังพูดถึงแม่กู่เส้นไหมที่ท่านปรับแต่งมาก่อนและจัดเตรียมส่งไปยังแคว้นชางหรือ"“ใช่” เสียงอันมีเสน่ห์นั้นตอบเบา ๆ “มันเป็นเพียงหนอนที่ปรับแต่งไม่สำเร็จ ทางนั้นต้องการ ข้าเลยเอาให้พวกเขา”“ตายแล้วหรือ” คนรับใช้ที่ยืนอยู่ด้านข้างถามแม้ว่าในเวลานั้น พวกเขาเอาหินนำทางให้ทางนั้นแล้ว จากการเปลี่ยนแปลงของหินน้ำทาง ผู้ที่ถือหินนำทางสามารถรับรู้ได้ว่าแม่กู่ตายหรือไม่แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหุบเขาในฐานะที่เป็นผู้ปรับแต่งแม่กู่เหล่านั้นยังคงมีความสามารถระดับหนึ่งที่รับรู้การเปลี่ยนแปลงของแม่กู่เพราะเวลากลั่นพิษกู่ในระดับนี้ ต้องใช้เลือดของหัวใจดังนั้นการตอบสนองที่ผู้กลั่นมีต่อหนอนพิษกู่ไม่เหมือนหินนำทางที่รับรู้แค่ว่าหนอนกู่นั้นตายหรือไม่ ผู้กลั่นรับรู้ถึงละเอียดมากกว่า“มันยังไม่ตาย” ชายผู้มีดวงตาสองสีที่ถูกเรียกว่า เจ้าหุบเขา พูด “บางทีมันอาจจะมีชีวิตที่ดีกว่า”“เช่นนั้นทางเราต้องการส่งข้อความถึงแคว้นชางหรือไม่” คนรับใช้ถามชายผู้มีดวงตาสองสีคิดอยู่ครู่หนึ่ง รูปลักษณ์และลักษณะใบหน้าของเขาดูมิติมาก เผยให้เห็นลักษณะของคนต่างแดน เขายิ้ม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 438

    เด็กผู้หญิงบนที่นั่งไม่พูดอะไร และหลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางจึงพูดเบา ๆ “มันยังไม่ตาย มันแค่หรี่ลงนิดหน่อย บางที... ตัวถูดแม่กู่อาศัยตายแล้ว”เจาหมิ่นยิ้มและพูดอย่างเย็นชา "อย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นพรสวรรค์ที่โดดเด่นของตระกูลเฟิง แต่ตระกูลเฟิงละทิ้งพวกเขาโดยไม่ลังเลใด ๆ ช่างเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองหลวงของแคว้นชางอย่างแท้จริง"“ถ้าอย่างนั้น... ตอนนี้องค์หญิงจะไปเยี่ยมจวนของตระกูลเฟิงหรือไม่” หนึ่งในนั้นถามอีกครั้งเจาหมิ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางยกมุมปากขึ้นแล้วยิ้มอย่างไร้ความอบอุ่น “อย่ากังวล รออีกสักสองสามวัน หากตัวที่ถูกแม่กู่อาศัยตาย เช่นนั้นเรารอให้แม่กู่ระเบิด เมื่ออาคมหนอนพิษกู่ถูกแพร่กระจายร้ายแรงในจวนของตระกูลเฟิงแล้ว ถึงเวลานั้น ข้าค่อยเสนอตัวล้างพิษให้พวกเขา จากนั้นพวกเขายิ่งขอบคุณข้า”......ในจวนเฟิง บรรยากาศเคร่งขรึมและเงียบอย่างมากผู้พิทักษ์เงาของเฟิงเหยียนได้กลับมาถึงจวนเฟิงกันแล้ว และตอนนี้พวกเขารวมตัวกันอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ของหอพักของเฟิงเหยียน“ท่านสั่งพวกข้าเลยขอรับ”ผู้พิทักษ์เงาทุกคนแต่งกายด้วยชุดสีดำและมีอารมณ์ที่น่าเกรงขาม พวกเขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกทีละคน

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 978

    จั๋วซือหรานส่งสายตาปลอบโยนให้นาง "ไม่ต้องเครียด"หานกวงกลับผ่อนคลายไม่ลง การคุกคามชีวิตในคำพูดนั้นของชายหนุ่มเจ้าเล่ห์คนนี้ก็เรื่องหนึ่ง ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง นางฟังออกว่า แม่นางจิ่วเหมือนจะสนใจขึ้นมาจริงๆ แล้ว!แต่ แต่ว่า...! หานกวงรู้ว่านายท่านกับแม่นางจิ่วหวานชื่นมีอะไรกันแล้วนะดังนั้นอันที่จริงก็จินตนาการไม่ออกเลย ภาพที่แม่นางจิ่วไม่ได้ตกร่องปล่องชิ้นกับนายท่าน แต่กลับไปอยู่กับคนอื่นแทนหลังจากนั้น หานกวงก็เห็นแม่นางจิ่วนั่งลงบนเก้าอี้ เอนหลังเข้าหาเก้าอี้ สองมือกอดที่หน้าอก มองเรียบๆ ไปทางปันอวิ๋นท่าทางนี้ของแม่นางจิ่ว...หานกวงรู้สึกคุ้นเคย รู้สึก...เหมือนว่าตอนแม่นางจิ่วจะเริ่มเจรจาเงื่อนไขกับใคร หรือเริ่มจะหลอกลวงใคร ก็จะมีท่าทางประมาณนี้ปรากฏขึ้นดังนั้นหานกวงที่เดิมทีเตรียมจะอ้าปากเตือน จึงอดทนเอาไว้ อยากจะเห็นว่าแม่นางจิ่วจะมีปฏิกิริยาเช่นไรจั๋วซือหรานมองปันอวิ๋น "เช่นนั้นก็ไม่ต้องลำบากเจ้าหุบเขาช่วยข้าจัดการองครักษ์เงาหรอก เพียงแต่ว่า เจ้าหุบเขาในเมื่อคิดจะเจรจาร่วมมือกับข้า..."ในตาจั๋วซือหรานมีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นมา สวยงามมากแต่ตอนที่ปันอวิ๋นเห็นรอยยิ้มที่สวยง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 977

    ปันอวิ๋นจุ๊ปาก พูดกับตนเองเสียงต่ำ "หญิงสาวที่เก่งเกินไปจะไม่ยอมใครง่ายๆ สินะ"จั๋วซือหรานยกมุมปากขึ้น "เจ้าหุบเขาถ้าหากบอกว่าหญิงสาวที่ฉลาดเกินไปหลอกยากล่ะก็ มันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ"ปันอวิ๋นครุ่นคิด เอ่ยต่อว่า "เฟิงเหยียนหมั้นไปแล้วแท้ๆ ถ้าเจ้าแต่งกับข้า ก็จะยิ่งทำให้เขาโมโหไม่ใช่รึ?""เจ้าหุบเขาไปรู้มาจากไหนว่าข้าเป็นคนที่จะใช้ชีวิตตัวเองเข้าไปล้างแค้นผู้อื่น?" จั๋วซือหรานถามขึ้น "เขาจะไปหมั้นกับใครก็ดี หรือจะไปแต่งกับใครก็ดี ล้วนไม่คู่ควรให้ข้าเอาชีวิตของข้าไปเดิมพันว่าเขาจะเสียใจไม่เสียใจ"ปันอวิ๋นเห็นรอยยิ้มบนหน้านางงดงามมาก เสียงเองก็ดูสงบมั่นคงเหมือนพูดเรื่องหนักให้เป็นเบา "ไม่มีใครคูควรให้ข้าเอาชีวิตไปเดิมพันว่าอีกฝ่ายจะเสียใจหรือไม่ ชีวิตข้าสำคัญที่สุด""จุ๊" ปันอวิ๋นจุ๊ปากอีกครั้ง คิ้วงามขมวดขึ้น "ดูท่าจะกล่อมอย่างไรก็ไม่คล้อยตามเลยนะ""เจ้าหุบเขาถ้าหากชอบข้าขนาดนี้ ก็ลองคิดหาวิธีอื่นเถอะ" จั๋วซือหรานยิ้มเรียบๆ ทำสัญญาณมือไปทางประตู "หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็อย่าทำให้ข้าเสียเวลาการตรวจไข้เลย กว่าข้าจะมานั่งตรวจให้มันไม่ง่ายนะ"หานกวงที่อยู่ข้างๆ ยังคงมองชายตรงหน้าอย่าง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 976

    หลังจากที่นิ่งงันไปชั่วคราว รอยยิ้มบนหน้าก็ค่อยๆ เก็บลงไป จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า "เช่นนั้นหรือ ไร้เมตตาขนาดนี้เชียว นี่ข้าคิดว่าที่ข้าส่งนางพญากู่ให้เจ้าไปเจ็ดตัว กระทั่งอาวุธกู่ก็ยังหาขยะไปส่งให้ตรงหน้าเจ้า ข้าคิดว่าพวกเราควรจะ...สนิทสนมกันบ้างแล้วเสียอีก?"จั๋วซือหรานพอได้ยิน คิ้วก็ขมวดขึ้นมา ม่านตาหดลง มองไปทางเขาทันควัน "เจ้าคือ...ปันอวิ๋นสินะ?""ข้าเอง" รอยยิ้มบนใบหน้าปันอวิ๋นยังไม่หายไปไหน พูดไปด้วย พลางยื่นมือขยับไปมาท่าทางง่ายๆ เช่นนี้ ถ้าหากในสายตาคนอื่น ก็อาจจะรู้สึกแปลกประหลาดอยู่แต่พออยู่ในสายตาจั๋วซือหราน ก็ไม่ได้เห็นเป็นเช่นนั้น เพราะท่าทางง่ายๆ นี้ ชายหนุ่คนนี้ก็จัดการผ่อนหนักเป็นเบา ถอนไหมกู่ที่พันอยู่บนตัวเหล่านั้นออกไปจนหมดนี่แข็งแกร่งกว่าพวกปรมาจารย์กู่ดินแดนทางใต้ที่ค่ายคุ้มกันเหล่านั้นไม่รู้กี่เท่า พวกเขารวมกันก็ยังไม่ร้ายกาจเท่าปันอวิ๋นเลยจั๋วซือหรานไม่เคยดูแคลนศัตรูแหวนเสวียนเหยียนถูกนางปิดออกแล้ว ชัว่พริบตา พลังยิ่งใหญ่ระดับปกฟ้าคลุมดินก็แผ่กว้างออกไปโดยมีนางเป็นศูนย์กลางในสายตาก่อนหน้านี้ของปันอวิ๋นก็ค่อนข้างสนใจแล้ว ตอนนี้พอสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 975

    เสียงจั๋วซือหรานไม่มีความอบอุ่นอยู่อีก ที่นางพูดมาก็ไม่ใช่เรื่องหลอกนางเองก็เพิ่งมีปฏิกิริยาพริบตาที่จับชีพจรเขา ชีพจรประหลาดแบบนี้ เป็นความอ่อนแอใกล้ตายอย่างไรอย่างนั้นแต่พลังวิญญาณคนผู้นี้ก็แข็งแกร่งมากจริงๆ ชีพจรโบราณเช่นนี้จั๋วซือหรานไม่เคยพบมาก่อนตัวนางเองนอนนี้ก็ชีพจรเช่นนี้ หรือก็คือ หลังจากที่ตนเองมีเจ้าก้อนเนื้อทั้งเจ็ด ชีพจรก็จะเริ่มประหลาดไปพูดให้เข้าใจง่ายอีกหน่อยก็คือ...ชีพจรของปรมาจารย์กู่จะแปลกแบบนี้เพราะปรมาจารย์กู่ที่เก่งกาจจะเลี้ยงแมลงกู่ไว้ในร่าง เพื่อให้สะดวกปล่อยมาใช้านยิ่งไปกว่นั้นเพราะวิชากู่สามารถควบคุมได้ จึงเลี้ยงไว้ในตนเองเสียเลย แล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีผลร้ายกับร่างกาด้วย แล้วยังประหยัดกล่องแมลงกู่ได้อีกดังนั้นจั๋วซือหรานพริบตานี้จึงรู้ถึงอาชีพของอีกฝ่าย บวกกับเสื้อผ้าเขาที่มีลายไม่ค่อยชัด...ดูไม่ใช่ลักษณะแของแคว้นชางเลยยิ่งไปกว่านั้นพอจินตนาการถึงเหล่าปรมาจารย์กู่ดินแดนทางใต้ที่หนีออกมาจากค่ายคุ้มกัน จั๋วซือหรานจึงโจมตีขึ้นเป็นอันดับแรกคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายกลับรับไว้อย่างสบายสิ่งนี้ทำให้ในใจจั๋วซือหรานดำดิ่ง จนต้องมองตรงๆ คนตรงหน้านี้ เ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 974

    ส่วนมือของหานกวง กระทั่งทาบไว้บนกระบี่ที่เอวแล้วแต่คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะตรวจจั๋วซือหราน สีหน้ากลับไม่มีความเป็นศัตรูเลยจั๋วซือหรานตอนนี้ก็เงยหน้ามองคนตรงหน้าอดพูดไม่ได้เลย ว่านี่เป็นใบหน้าที่หล่อเหลามาก คนเราพอเจอกับคนที่หน้าตาดี ในใจก็มักจะใจกว้างขึ้นมาจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้เพราะเห็นหน้าเฟิงเหยียนมากไป ดังนั้นเรื่องการตัดสินความสวยความหล่อนี้จึงสูงมากแต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในใจก็ยังอดยอมรับไม่ได้ ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ หน้าตาดีเอามากๆหล่อเหลา แล้วยังเป็นแบบนี้เฟิงเหยียนยังไม่อาจเทียบได้ สองคนลักษณะแตกต่างกันเฟิงเหยียนให้ความรู้สึกเหมือน หล่อแบบหาที่ติไม่ได้แต่ชายหนุ่มตรงหน้านี้ เทียบจะบอกว่าหล่อเหลา สู้บอกว่างามสง่าดีกว่า ใบหน้าแม้จะดูสง่างาม แต่มองจากรายละเอียดเค้าโครงหูตาจมูก ก็ดูอ่อนโยนกว่า ไม่ได้แข็งกระด้างนักยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เขายิ้ม ในดวงตาก็มีแววเจ้าเล่ห์เล็กๆอยู่ ทั่วทั้งตัวดูมีท่วงท่าความเจ้าเล่ห์แผ่ออกมาว่าอย่างไรดี คือ...ไม่ใช่คนดีนั่นล่ะเขานั่งอยู่ตรงหน้าจั๋วซือหราน มองนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม สายตาพิจารณาไปมาอยู่บนตัวนางจากนั้นจึงหัวเราะเส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 973

    เพราะตอนที่จั๋วซือหรานมา โรงหมอเปิดทำการแล้ว ดังนั้นในโรงหมอยังมีคนอื่นอยู่ ล้วนกำลังตรวจอาการกันจั๋วซือหรานเองก็มองออกง่าย ถึงอย่างไรก็มีหน้าตาแบบว่าพอได้เห็นก็ย้ายสายตาออกไม่ได้แล้วยิ่งไปกว่านั้นชื่อเสียงของแม่นางจั๋วจิ่ว ในเมืองหลวงเองก็ลือชื่อโด่งดัง ปกติไม่ค่อยได้เห็นตัว ตอนนี้พอได้เห็นก็ทำเอาคนอยากรู้จักกันขึ้นมาเอาแค่ใบหน้านี้ ก็คุ้มที่จะลงทุนแล้ว พอมองไปนานๆ อาการป่วยก็ไม่ค่อยจะเจ็บแล้วอีกต่างหากจั๋วซือหรานที่ถูกคนจ้องมองก็ไม่ยี่หระอะไร และไม่รู้สึกอึดอัดด้วยดังนั้นสิ่งที่นางควรพูดก็พูดหมดแล้ว จึงไม่สนใจอีกว่าจะถูกใครมองแต่คนรอบๆ ก็ยังจับจ้องนางอยู่ แม่นางที่สวยขนาดนี้ ดูดีละเมียดไปทุกอณู เค้าโครงใบหน้าก็สมบูรณ์แบบไปทุกส่วนสวมชุดแดงทั้งตัว พวกเขาไม่เคยเห็นใครสวยขนาดนี้ พอได้เห็นก็รู้สึกเหมือนเทพธิดาเสียอย่างนั้นแต่พอเปิดปากมาก็ให้ตายเถอะ เนื้อหาที่พูดมาดันเป็น...ช่วงนี้เอาแต่ฆ่าคนให้ตายสิ...สายตาพวกเขาก็แข็งทื่อกันไปแล้ว คนที่เหมือนเทพธิดานางสวรรค์...ทำไมพอเอ่ยปากจิตสังหารก็พุ่งขึ้นมาแบบนี้กันยิ่งไปกว่านั้นพอมองอย่างละเอียด ก็เหมือนไม่มีตรงไหนที่ผิดปกติ นางเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 972

    พูดได้แค่ว่าข้อมูลในคำพูดของแม่นางจิ่วนี้มากเกินไปจริงๆมากจนสมองนางเหมือนจะคิดไม่ทันเสียแล้ว!จั๋วซือรหานมองนาง เอ่ยต่ว่า "ข้าก็บอกไปแล้ว อย่ามาเติมฟืนให้นายท่านเจ้าอีก ดีที่สุดแล้วที่เขาจะจำไม่ได้ วันไหนถ้านึกออกขึ้นมา จั๋วซือหรานอย่างข้าต้องเอาคืนเขาแน่ๆ..."ในใจหานกวงแอบคิด นายท่านคงต้องระวังตัวเองเสียแล้วนะจั๋วซือหรานมองสีหน้าที่เหมือนปิดเครื่องไปแล้วของหานกวง ก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ตอนนี้จึงเดินหน้าต่อ เอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งว่า "เรื่องนี้เจ้ารู้ไว้ก็พอแล้ว ไม่ต้องไปบอกองครักษ์เงาคนอื่นล่ะ""แม่นางจิ่ววางใจเถิด ข้าน้อยทราบแล้ว" หานกวงรีบตอบกลับเสียงต่ำนางรู้แน่นอน เรื่องเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของหญิงสาว แม่นางจิ่วก็น่าจะเห็นว่านางเป็นหญิงสาว ถึงได้เอ่ยขึ้นมาขณะที่คุยกัน ก็มาถึงโรงหมอแล้วจั๋วซือหรานไม่ได้แล้วพักหนึ่ง ก็คิดไม่ถึงเลยว่า ถนนเส้นนี้หน้าตาจะเปลี่ยนไปแล้วพอเห็นว่านางมา ผู้จัดการก็รู้สึกตกใจมาก รีบเข้ามาต้อนรับ "คุณหนู! ท่านมาแล้ว!""อืม ช่วงนี้ยุ่งหน่อยน่ะ เลยไม่ได้เข้ามาเลย พวกเจ้ายังไหวกันไหม?" จั๋วซือหรานถาม"แน่นอน! คุณหนูวางใจได้เลย!" ผู้จัดการตอบกลับ"ข้าเพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 971

    หลังจากฉุนจวินกลับไป ดูแล้วก็เหมือนจะกลัดกลุ้มอยู่หน่อยๆแต่ว่าจั๋วซือหรานหลังจากกลับไปกรมสืบสวนพิเศษ ไม่ได้เจอกับฉุนจวิน จึงไม่ได้สังเกตเห็นอะไรสองวันต่อมา หานกวงจึงมาบอกกับนางจั๋วซือหรานกำลังไปดูร้านยาโรงแพทย์ของตนเอง หานกวงก็อยู่กับนางด้วยระหว่างทางก็บอกกับนาง หลังจากจั๋วซือหรานได้ยิน ก็ยังรู้สึกประหลาดใจ"นี่ฉุนจวินพูดมาหรือ?" จั๋วซือหรานถามขึ้นหานกวงพยักหน้า "ฉุนจวินวันนั้นตอนที่ไปรายงานกับท่านที่กรมสืบสวนพิเศษ ก็เจอกับนายท่านเข้า จากนั้นจึงคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง"หานกวงก็เอาไม่กี่คำที่ฉุนจวินคุยกับนายท่านเขา บอกให้จั๋วซือหรานฟังจั๋วซือหรานฟังไปครึ่งหนึ่งจึงยิ้มออกมา มุมปากนางกระตุก เอ่ยขึ้นว่า "อะไรคือคือตระกูลเฟิงเห็นเขาเป็นคนโง่กันนะ..."หานกวงพอได้ยินก็งงงัน ยังคิดว่าจั๋วซือหรานไม่เข้าใจคำพูดนี้ พอกำลังจะอธิบาย ก็ได้ยินแม่นางจิ่วหัวเราะขึ้นมา บอกว่า "เขามันก็คนโง่จริงๆ นี่นา?"หานกวง "..."ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้จริงๆ ว่าจะโต้กลับอย่างไรหานกวงกระแอมขึ้นมาทีหนึ่ง ไม่ได้ตอบกลับจั๋วซือหรานมองนาง "จากนั้นล่ะ? เขาพูดอะไรอีก?""ความหมายของนายท่านเหมือนว่าจะเป็น ต่อให้เข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 970

    ชิ่งหมิงคอยเฝ้าอยู่ข้างๆ ตลอด แม้จะไม่ถึงกับจ้องตาแป๋วน้ำลายไหล แต่ตาก็เป็นประกายอยู่ตลอดจั๋วซือหรานมองไปก็ยิ้มๆ พูดขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "มีแค่ตอนนี้นี่ล่ะ ที่จะได้เห็นเจ้าตอนที่ยังติดอ่างแบบตอนนั้น"นางยื่นมือออกไป คิดจะบีบแก้มชิ่งหมิงแต่ปฏิกิริยาชิ่งหมิงก็รวดเร็ว เขยิบถอยออกไปด้านหลังเลี่ยงนิ้วของนางออกไปอย่างไม่ตั้งใจและตอนที่จั๋วซือหรานยังไม่ทันได้ทันตั้งตัวว่าน้องชิ่งก็กลายเป็นชายหนุ่มเสียแล้ว จะมาหยิกแก้มแบบนี้ไม่ได้ชิ่งหมิงก็เดินเข้ามาก้าวหนึ่ง ยื่นแก้มตัวเองเข้าไปที่นิ้วของนางจั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง บีบเบาๆ "พอโตมา สัมผัสไม่ค่อยดีแล้วแฮะ"ชิ่งหมิงยกกับข้าวออกไปอย่างสมัครใจรอให้จั๋วซือหรานจัดการเสร็จแล้วค่อยกินด้วยกันแต่พอจั๋วซือหรานเสร็จงาน ยังไม่ทันได้จับตะเกียบ ก็มีคนเข้ามารายงานแล้ว"แม่นางจิ่ว"จั๋วซือหรานแหงนจามองฉุนจวินที่ตรงเข้ามารายงาน "ทำไม? เกิดอะไรขึ้นรึ?"ฉุนจวินกดเสียงต่ำ "จดหมาของฮูหยินส่งเข้ามาในเมืองหลวง เพิ่งส่งมาในจวนขอรับ"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ตกตะลึง "แม่ข้าหรือ?""ขอรับ"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ในจดหมายแม่ข้าบอกว่าอะไร?""ฮูหยินบอกว่าออกเด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status