“ใครเขาอยากพูดดีกับแก ไอ้แก่ ไอ้...” ถ้อยคำสุดท้ายถูกกลืนลงลำคอหนา นิธิเหนื่อยใจที่จะฟังคำด่าทอของหญิงสาวแล้ว เขาจงใจจูบลึกล้ำ ราวกับจะสูบเอาวิญญาณออกจากร่างเธอ จูบแล้วจูบเล่า เนิ่นนานเท่าไรก็ไม่อาจจะรู้ได้ รู้เพียงแต่ตอนที่เขาตัดใจถอนริมฝีปากอย่างอ้อยอิ่ง คนใต้ร่างก็หอบเอาลมเข้าปอดด้วยการหอบหายใจแรงจนน่า
สงสาร นิธิมองท่าทางของหญิงสาวด้วยความเอ็นดูและรักสุดหัวใจ
“ทีนี้จะมาพูดกันดีๆได้หรือยัง”
เพียงฟ้าเม้มปากแน่น เบี่ยงหน้าหนี ไม่ยอมสบตา ไม่ยอมพูดอะไรทั้งสิ้น หนุ่มใหญ่ถอนหายใจ โน้มใบหน้าลงจูบแก้มเนียนเบาๆ หญิงสาวถลึงตาใส่อย่างแง่งอน
“ฟ้า ให้โอกาสผมบ้าง อย่าเอาแต่ปั้นปึ่ง แง่งอนใส่กันแบบนี้”
“ก็แกทำร้ายฉันก่อน แกทำลายชีวิตฉัน”
“ผมขอโทษ ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่างที่ทำผิดต่อคุณไว้ ขอเพียงคุณให้โอกาสผมบ้าง อย่าเอาแต่ปฏิเสธกันแบบนี้” เพียงฟ้าเงียบ จ้องหน้าคนพูดนิ่ง
“ฟ้าครับ ผมอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุด แต่ขอให้เชื่อเถอะว่า ผมเป็นผู้ชายที่จะดูแลคุณและลูกตลอดไป”
“ฉันดูแลตัวเองกับลูกได้ ฉันมีเงินเลี้ยงลูกเองได้” นิธิยิ้มอ่อน หัวเราะในลำ
“มีแต่คนอยากเอาเยอะแยะ แต่ไม่เคยอยากเอาใครเท่าคนที่นั่งตรงหน้าสักคน” เพียงฟ้ากระแทกช้อนส้อมลงแรงๆจนเกิดเสียงดัง หญิงสาวยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปล้างมือ ไม่ยอมมองหน้าคนพูดไม่เข้าหู แต่ขณะที่กำลังจะก้าวเท้าออกจากห้องครัวมือใหญ่ก็จับหมับเข้าที่ข้อมือของเธอ“ไปเก็บโต๊ะ แล้วก็เอาจานชามไปล้าง” เสียงเข้มสั่งจริงจัง สายตาคมดุที่มองมาทำให้เพียงฟ้าหวาดๆ แต่ยังคงถือดีไม่อยากทำตาม“ไม่! ฉันไม่เคยล้างจาน ลุงเป็นคนเทกับข้าวลงชาม ตักข้าวใส่จานเอง ลุงก็ล้างเองสิ” นิธิถอนหายใจแรง“คุณต้องเก็บโต๊ะแล้วก็ล้างจาน จะเป็นแม่คนแล้วต้องหัดทำ”“ไม่! ไม่ทำอะไรทั้งนั้น ให้มาเป็นเมียไม่ใช่เหรอ ไม่ได้บอกว่าจะให้มาเป็นคนใช้นี่” นิธิรู้สึกระอาใจเหลือเกินกับนิสัยและท่าทางเชิดหน้าเอาแต่ใจเหมือนเด็กของหญิงสาว เห็นทีจะต้องอบรมบ่มนิสัยกันใหม่เสียแล้ว ขืนปล่อยไปแบบนี้มีหวังได้ใจ ทำอะไรตามอำเภอใจไม่จบไม่สิ้น นี่เขาได้เมียหรือลูกมาอยู่ด้วยนะ“ดี! ในเมื่ออยากอยู่ในฐานะเมียอย่างเดียว ไม่อยากเป็นคนใช้ ถ้าอย่างนั้นก็มาทำหน้าที่เมียกันเถอะ” นิธิช้อนอุ้มเอาร่างบางขึ้นแน
เขาจูบดูดดื่มรุนแรงจนเธอแทบสำลักลมหายใจ แล้วอุ้มกระเตงเธอขึ้นสูง ก่อนจะกดสะโพกเธอลงให้สวมครอบลำกายแกร่ง เพียงขวัญกรีดร้องระงมเมื่อถูกดันติดกผนังห้องน้ำ ชายหนุ่มโจนจ้วงโหมห่มกายเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง หนักแน่นเร่าร้อนจนเธอแทบขาดใจ จนในที่สุดทั้งสองก็จับมือกันโจนทะยานสู่สุดยอดความสุขสมในเพลงรัก ทั้งคู่อ้อยอิ่งอยู่กับจูบแสนหวาน ต่างสัมผัสกันและกันด้วยสิเน่หาที่ยังคุกรุ่นอยู่รอบกาย คำบอกรักแว่วหวานจากปากซึมลึกสู่หัวใจ ที่เกี่ยวพันกันไว้ด้วยหัวใจรักที่ไม่มีเล่ห์ใดๆ“คุณเหมมาที่นี่ทำไมคะ ขวัญอยากเจอฟ้าเร็วๆ” เพียงขวัญถามอย่างแปลกใจเมื่อเหมันต์เลี้ยวรถเข้าจอดสถานที่ราชการแห่งหนึ่ง“มีธุระสำคัญ” เหมันต์ดับเครื่องยนต์ แล้วเปิดประตูลงจากรถ เพียงขวัญเปิดประตูลงจากรถตาม หญิงสาวกวาดสายตาอ่านป้ายชื่อสถานที่ที่เธอยืนอยู่“ที่ว่าการอำเภอ คุณเหมมีธุระอะไรที่นี่หรือคะ” เหมันต์ยิ้มหวานให้ แล้วเดินเข้ามากุมมือบางพาออกเดินไปพร้อมกัน“พาเมียมาจดทะเบียนสมรส” ชายหนุ่มก้มลงกระซิบแผ่วเบา“ตายละ!” เพียงขวัญอุทาน เงยหน้ามองเขาอย่างตกใจ“ทำไมทำหน้าตาอย่างนั้น ไม่อยากเป็นเจ้
“ไม่เอานะ ฟ้ายังไม่พร้อม” หญิงสาวยันคางสากไว้ด้วยมือทั้งสอง“เดี๋ยวก็พร้อม เชื่อลุงนินะคะคนเก่ง” นิธิออดอ้อนคำหวาน ส่งสายตาเว้าวอนล่อหลอกเมียตัวน้อย มือร้อนๆลูบไล้ไปตามผิวเนื้อเนียนของกายสาว จมูกโด่งพรมจูบใบหน้างามอย่างแสนรัก เขาได้ยินเสียงประท้วงว่าไม่พร้อมดังอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งริมฝีปากอิ่มถูกปิดทาบด้วยปากเขานั่นแหละ ถ้อยคำประท้วงถึงได้เงียบลงเพียงฟ้าหูอื้อตาลายไปกับสัมผัสเร่าร้อนของคนมากประสบการณ์ เขาประทับตราความเป็นเจ้าของเธอด้วยปากร้อนไปทั่วร่าง ไม่มีว่างเว้นแม้ตารางเซนติเมตรเดียว ร่างสาวบิดส่ายโอนอ่อนไปกับสัมผัสปลุกเร้า เพลิงพิศวาสในกายถูกโหมกระพือจนสุดกู่ จนต้องเรียกร้องขอเอาจากเขาอย่างหน้าไม่อาย“ลุงนิ ช่วยฟ้าด้วย อื้อ!”นิธิไม่ได้หยาบคายรุนแรงเหมือนครั้งนั้น ตรงกันข้ามเขาสัมผัสทะนุถนอมราวกับเธอเป็นเด็กทารกบอบบาง เรียวลิ้นร้อนและเล็มตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มือหนาลูบไล้กดคลึงร่างงามในบางจุดอย่างเป็นจังหวะและรู้ดีว่าส่วนไหนของร่างสาวที่ควรกดหนักส่วนไหนควรกดเบา“สวยที่สุด เมียของลุงนิ” นิธิหอบหายใจแรงในตอนที่ผงกศีรษะขึ้นมองเนินเนื้ออวบอูม
หนุ่มใหญ่ผู้รวดร้าวรีบแต่งตัวโดยไม่หันไปมองร่างขาวโพลนที่นอนเปลือยอยู่บนเตียง นิธิจัดการตัวเองได้ในเวลาไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ เขาเปิดประตูออกแล้วปิดลงในทันที กลัวว่าหากช้ากว่านี้ เขาอาจจะเปลี่ยนใจกระโจนขึ้นเตียงจัดการอะไรที่มันค้างคาให้มันจบอย่างใจต้องการแทนเพียงฟ้าขยับตัวลุกขึ้นนั่ง หญิงสาวมองประตูที่ปิดลงแล้วถอนหายใจแรง ทำไมพอเขาออกไปแล้วถึงรู้สึกโหวงๆ มีบางอย่างที่แล่นพล่านอยู่ในกาย รุมเร้าเธอจนร้อนและแทบจะทนไม่ได้ หญิงสาวจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำ เปิดสายน้ำเย็นฉ่ำให้ราดรดตัว หากแต่มันไม่สามารถบรรเทาอาการภายในได้เลยเพียงฟ้าเดินลงมาจากบันไดหลังจากนิธิประมาณสามสิบนาที หญิงสาวชะงักเท้าที่จะก้าวลงบนพื้น เป็นจังหวะเดียวกับที่เพียงขวัญหันมาเห็นพอดี“ฟ้า!” เพียงขวัญลุกขึ้นจากโซฟาโผเข้าหาน้องสาวทันที เพียงฟ้าปล่อยโฮออกมาในตอนที่ร่างของเธอถูกสวมกอดจากพี่สาวต่างสายเลือด หากแต่ความอบอุ่นคุ้นเคย ความผูกพันที่เคยอยู่ร่วมกันมาตลอดทำให้เพียงฟ้าวางใจ อุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเพียงขวัญ“ฟ้าขอโทษ ฟ้าขอโทษ” เมื่อไม่มีแม่ในโลกนี้แล้ว เพีย
“เอ่อ...ฟ้าใจเย็นๆก่อนนะ”“ไม่เย็นแล้วขวัญ ฟ้าจะไม่ทน ไปกันเถอะ ขวัญนอนไหน ฟ้าก็จะนอนที่นั่น”“ฟ้า...ลุงนิขอโทษ ไหนบอกว่าจะให้โอกาสลุงนิไงล่ะคะ” เหมันต์มองหน้าคนสนิทงงๆ แทบไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างนิธิจะพูดหวานๆออดอ้อนอย่างนี้ก็เป็นด้วย“ก็ลุงนิขี้โกหก นี่ก็ไม่รู้ว่าจะโกหกอะไรฟ้าอีก เมื่อกี้ก็โกหกว่าไม่เจ็บ แต่ก็ทำฟ้าเจ็บ ดีนะที่ขวัญกับพี่เหมมาพอดี ไม่อย่างนั้นฟ้าต้องเจ็บตัวเหมือนครั้งแรกที่ลุงนิทำอยู่ตรงบันไดนั่นแน่ๆ” เงียบ!...ทุกคนนิ่งเงียบราวกับที่นี่คือป่าช้า เพียงฟ้ากลอกตาใช้ความคิดเพียงครู่ก็หน้าแดงซ่าน นิธิรีบลุกขึ้นรวบเอาร่างบางกอดแนบอกแล้วอุ้มวิ่งหายเข้าไปทางห้องครัวทันที เหมันต์สบตาเพียงขวัญแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์“ที่บ้านสวนไม่มีบันได ที่บ้านใหญ่มีแต่ก็คนเยอะไปหน่อย” เพียงขวัญส่งค้อนวงใหญ่ให้คนหื่นอย่างรู้ทัน“ฟ้าคะ ทำไมพูดอะไรไม่รู้จักระวัง ถ้าขืนยังพูดอะไรไม่ระวังแบบนี้อีกลุงนิจะตีก้น”“อย่านะ” เพียงเบี่ยงตัวหลบฝ่ามือใหญ่ที่เงื้อขึ้นสูง“ก็ลุงนิทำฟ้าเจ็บจริงๆนี่”“เรื่องแบบนี้ใครเขาเอาไปพูดให้คนอื่นได้ยินกันล่ะ”“ก็ฟ
หนึ่งสัปดาห์แล้วที่เพียงฟ้าเกาะติดเพียงขวัญแจ หญิงสาวไม่ยอมกลับบ้านไปกับนิธิ เหมันต์เองก็จนปัญญา เพราะเพียงขวัญขอร้องให้เห็นใจเธอกับน้องสาวที่เพิ่งสูญเสียมารดาไป จึงจำเป็นที่จะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกันสองสาวนอนในห้องนอน ส่วนสองหนุ่มนอนที่โซฟาด้านนอก ตื่นเช้ามาเหมันต์และนิธิก็ออกจากบ้านไปออฟฟิศพร้อมกัน ตกเย็นทั้งคู่ก็กลับมาพร้อมกัน เหมือนจะเป็นชีวิตที่มีความสุขดี ตื่นเช้ามาทำงานตามปกติ ตกเย็นกลับบ้านก็ได้เห็นหน้าเมีย กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่พอตอนจะนอนนี่สิทุกข์ถนัด พี่น้องคู่นี้ทำตัวติดกันเป็นปลาท่องโก๋ คุยกันกระหนุงกระหนิงแล้วก็แวบเข้าห้องไปนอนเฉย นิธิกับเหมันต์ได้แต่จ้องมองหน้ากันเซ็งๆ“คุณนิธิวันนี้คุณต้องพาฟ้ากลับไปให้ได้นะ”“ก็อยากพากลับอยู่ล่ะครับ แต่ผมมันประเภทใจอ่อน แค่เห็นหน้าเศร้าๆของเมียแล้วก็อดที่จะตามใจไม่ได้” นิธิกับเหมันต์กระซิบกระซาบกันสองคน แล้วหันไปมองพี่สาวน้องสาวที่กำลังพูดคุยกันหลังรับประทานอาหารมื้อค่ำเสร็จ เพียงขวัญแกะส้มยื่นป้อนน้องสาว เพียงฟ้าอ้าปากกินแล้วก็หัวเราะคิกคัก“คุณนิธิผมขอสั่งคุณให้พาฟ้ากลับไปวันนี้เลย ไม่อย่างน
“ถ้าอยากชิมอีกก็ต้องทำเอง ผมอนุญาตให้ชิมทั้งตัวเลย นอกจากปากแล้ว ตรงไหนที่ขวัญเคยชิมแล้ว ก็อย่าลืมชิมมันอีกนะ จะได้รู้ว่ามันหวานขึ้นไหม” เหมันต์เลื่อนมือลงกดสะโพกมนให้ส่วนกลางกายสัมผัสกัน เพียงขวัญรับรู้ถึงความแข็งขึงของลำกายแกร่ง“คุณเหม!” เพียงขวัญตาโต ทุบอกแกร่งแบบไม่จริงจัง“นะครับที่รัก” เพียงขวัญพยักหน้ารับน้อยๆ จึงได้รับหอมฟอดใหญ่เป็นรางวัล“น่ารักจัง” เพียงขวัญตอบแทนคำชม ด้วยการชิมเขาไปทั้งร่างตามที่คนขี้เอา...แต่ใจต้องการ เหมันต์แทบแดดิ้นในตอนที่ถูกปากเล็กโอบรัดลำกายแกร่งไว้ ชั้นเชิงอ่อนด้อยนักแต่เร้าใจจนเขาต้องยกธงยอมแพ้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะสูญเสียเมล็ดพันธุ์ไปโดยเปล่าประโยชน์ในอุ้งปากนุ่มแน่นอน“ขวัญครับ มานี่เถอะที่รัก” เหมันต์ดึงร่างบางขึ้นมาจนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน จูบเอากลิ่นรสของตนจากปากน้อยนุ่มนิ่ม เกี่ยวกระหวัดรัดร้อยดูดดึงเอาลิ้นเล็กเข้าสู่อุ้งปากร้อนผ่าว มือหนาบีบแก้มก้นงอนเคล้นคลึงหนักๆด้วยอารมณ์รักที่ลุกฮือรุนแรง“เร็วเถอะคนเก่ง ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้เลย” เหมันต์ดันร่างหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง ส่งสายตาอ้อนวอนหวานเชื่อม“
“มานอนกันเถอะเมียจ๋า พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้านะคะ” นิธิกวักมือเรียกเมียตัวน้อยที่กระเถิบไปจนสุดขอบเตียงอีกข้าง เพียงฟ้ามองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ“ลุงนิจะไม่ทำแบบนั้นจนกว่าจะถึงเวลาที่เราตกลงกันไว้ แต่ยังไงเราก็ต้องนอนด้วยกัน เพราะลุงนิจะต้องคุยกับลูกในท้องของฟ้า และอีกอย่างฟ้าจะได้คุ้นเคยกับลุงนิพอถึงเวลาเอา...จริง จะได้ไม่ตื่นเต้นไงคะ” เพียงฟ้าผงะแทบตกเตียงตอนที่เขาเน้นหนักตรงคำว่าเอา...จริง นิธิหัวหัวเราะในลำคอกับท่าทางของเมียตัวน้อย“มาสิคะ ถ้าเด็กดื้อ ผู้ใหญ่จะไม่รักษาสัญญานะคะ” หนุ่มใหญ่เอนกายลงนอนกางแขนออกแล้วตบเบาๆที่ต้นแขนของตน เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเธอควรจะนอนตรงไหน เพียงฟ้าค้อนวงเล็กให้แล้วค่อยๆคลานไปนอนหนุนต้นแขนกำยำตามความต้องการของคนตัวโต นิธิโอบรัดเอาร่างเล็กไว้ทันทีที่หญิงสาวแนบกายลงนอนเคียงข้าง“ลุงนิห้ามลักหลับฟ้านะ” หญิงสาวอุบอิบบอกกับอกกว้าง“เป็นความคิดที่ดี”“ลุงนิ!” เพียงฟ้าหยิกเนื้อช่วงเอวสอบสุดแรง“โอ๊ย!” นิธิอุทานแล้วหัวเราะจนอกกระเพื่อมกับเสียงตวาดแหว“ไม่ทำหรอกค่ะ ลุงนิเป็นผู้ใหญ่ใจดี
“พี่แดน!” เสียงหัวเราะของชายหนุ่มทำให้เด็กสาวงอน จนเผลอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง ใบหน้าที่น่ารักจิ้มลิ้มบูดบึ้งจนน่าขำ“ดูทำหน้าสิ ไม่น่ารักเลย”“ไม่น่ารักก็ไม่ต้องมารัก พี่แดนอยากมาหัวเราะพี่ข้าวก่อนทำไม” บุรินทร์วางจอบที่แบกไว้บนบ่าลง แล้วกอดอกพิงหลังกับต้นทองกวาว ชายหนุ่มสวมเสื้อยืดทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีหม่น กางเกงยีนส์สีซีดกับรองเท้าบูธสีดำ โดยมีผ้าขาวม้าคาดเอวไว้ด้วย เพราะเขาถือว่ามันเป็นผ้าสารพัดประโยชน์ ต้องคาดติดเอวไว้ตลอดเวลา“พี่ไม่ได้หัวเราะพี่ข้าวสักหน่อย พี่หัวเราะไอ้หน้าแหลมโน่น” ชายหนุ่มพยักพเยิดไปยังควายเพศผู้ที่และเล็มหญ้าอยู่ไม่ไกล ไอ้หน้าแหลมเป็นควายที่บุรินทร์รับซื้อมาตั้งแต่ยังเล็ก เจ้าของเดิมเป็นชาวบ้านแถวนี้ขอร้องให้เขารับซื้อมันไว้เพราะเดือดร้อนเงิน ชายหนุ่มจึงรับซื้อไว้ด้วยความสงสาร และเลี้ยงมันมาจนโต“ไอ้หน้าแหลมมันจะทำอะไรให้พี่แดนหัวเราะได้ ในเมื่อมันก้มหน้าก้มตากินหญ้าอยู่อย่างเดียว”“อ้าว! ก็พี่ข้าวมัวแต่เซลฟี่อยู่ไง ก็เลยไม่เห็น ควายอะไรไม่รู้กินหญ้าอยู่ดีๆก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มตัวเดียว เดี๋ยวก็ทำแก้มป่อง เดี๋ยวก็ขยิบ
“แก้วจ๋า” คนไม่อยากนอนเรียกเสียงอ่อนเสียงหวาน“พ่อง่วง เลิกคุยกันเสียที” หนุ่มสาวสะดุ้งจ้องมองตากันในความมืด ทำได้แค่เพียงนอนจับมือกันไว้แค่นั้น เข้าหอคืนแรกก็โดนพ่อตากันท่าซะแล้ว แล้วคืนพรุ่งนี้ และคืนต่อๆไปล่ะ ถ้าพ่อตาเข้ามานอนด้วยทุกคืน เขาจะทำเช่นไร บดินทร์อยากจะกรีดร้อง มันแน่นอกมากปังๆๆ เสียงทุบประตูยามดึกสงัดดังจนคนทั้งสามสะดุ้งลุกขึ้นนั่ง บดินทร์ลุกขึ้นไปเปิดไฟทันที“พี่กำนัน! ออกมาเดี๋ยวนี้นะ” กำนันเกื้อเหลียวหน้าเหลียวหลัง ก็นึกว่าเมียหลับแล้ว เลยแอบย่องออกมาเป็นไม้กันหมาให้ลูกสาว คนเกรงใจเมียหน้าซีดเผือด“พี่กำนันจะออกมาดีๆ หรือออกมาด้วยน้ำตา” เสียงตวาดแหวถามเข้ามาทำเอากำนันเกื้อสะดุ้งโหยง“พ่อดิน พ่อลูกเขยคนดี พ่อยอดขมองอิ่มของพ่อ ช่วยบอกแม่ติ๋มให้ทีว่าพ่อหลับแล้ว แล้วก็อย่าเปิดประตูนะ” บดินทร์สบสายตาเว้าวอนของพ่อตา ชายหนุ่มมีสีหน้าเห็นใจ“ได้ครับพ่อตา” ร่างสูงเดินไปใกล้ประตูแล้วเอ่ยเสียงดังให้ได้ยินทั้งคนข้างนอกข้างใน“แม่ติ๋มครับ พ่อตาให้บอกว่าพ่อตาหลับแล้วครับ” กำนันเกื้อถึงกับสะดุ้ง มองหน้าลูกเขยด้วยความแค้นใจ
“แดนมาก็ดีเหมือนกัน พี่ขวัญฝากให้อยู่เป็นเพื่อนพี่ข้าวแป๊บหนึ่งนะคะ พี่ขวัญจะพาน้องขิงไปเอาขวดนมที่รถ นี่เริ่มงอแงแล้ว สงสัยจะหิวนม” เด็กหนุ่มยิ้มบาง“ครับ”“พี่ข้าวอยู่กับพี่แดนก่อนนะลูก คุณแม่พาน้องขิงไปเอาขวดนมที่รถแป๊บเดียวนะคะ”“ค่า” เด็กหญิงตอบรับเสียงสดใสเมื่ออยู่ลำพังสองคน บดินทร์ขยับเข้าใกล้ไกวชิงช้าเบาๆ เด็กหนุ่มมองใบหน้าจิ้มลิ้มของน้องน้อยด้วยสายตาอ่อนโยน“พี่แดนค้า ไกวชิงช้าแรงๆหน่อยสิค้า พี่ข้าวอยากไกวแรงๆ”“ไม่ได้ครับ เดี๋ยวตก” เด็กหญิงเงยหน้ามองคนตัวสูงที่ยืนอยู่ด้านหลัง ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มงอง้ำเมื่อถูกขัดใจ“พี่แดนใจร้าย พี่ข้าวอยากไกวชิงช้าแรงๆ ฮึกๆ” เมื่อเห็นน้องน้อยร้องไห้บุรินทร์จึงใจอ่อน“เอาอย่างนี้นะครับ พี่แดนจะนั่งด้วย แล้วให้พี่ข้าวนั่งตัก เราถึงจะไกวชิงช้าแรงๆได้” เด็กหนุ่มแหงนมองเชือก ดูความแข็งแรงของชิงช้าและกิ่งไม้ใหญ่ ประเมินแล้วว่ามันแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักเขาและเด็กหญิงได้แน่นอน หทัยรักยิ้มกว้างทั้งน้ำตา“พร้อมมั้ยครับเจ้าหญิงน้อย” เมื่อคนที่มีฐานะเป็นพี่นั่งก่อนแล้วให้น้องน้อย
“แก้วจ๋า แก้วของพี่สวยเหลือเกิน” ชายหนุ่มซุกหน้าลงกับความสวยงามที่เขาพร่ำเพ้อ แก้วใจสะท้านไปทั้งร่าง สองมือจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่น ริมฝีปากสีสวยเม้มแน่นเป็นเส้นตรง เธอไม่กล้าส่งเสียงน่าอายออกไปทั้งที่หวามไหวซ่านกระสันแทบคลั่ง “แก้วจ๋า หวานหอมที่สุด” บดินทร์ครางแนบชิดเนื้อนาง จูบซ้ำๆ ดูดดึงและซอกซอนรีดเค้นเอาความหวานจากร่างเล็ก แก้วใจเกินจะเก็บกักความวาบหวามไว้ในอกได้ หญิงสาวครวญครางแว่วหวาน กระถดสะโพกหนีความซ่านหวิวที่ตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ หากแต่ถูกดึงรั้งตรึงเอาไว้มั่น เธอจึงทำให้แค่เพียงส่ายสะบัดหน้าเร็วๆและกรีดร้องออกมาในที่สุด “อ๊า! พี่ดิน! กรี๊ดดด!” หน้าท้องแบนราบเกร็ง ร่างกายเบาหวิวปลิดปลิวไปกับสายลมรัก บดินทร์เคลื่อนกายขึ้นมาคร่อมร่างบางไว้ พรมจูบไปบนใบหน้าชื้นเหงื่อจนทั่ว ไปหยุดอยู่ตรงปากนุ่มๆ คลอเคลียดูดดึงเบาๆ ก่อนจะปรนเปรอเจ้าสาวของตนด้วยจูบ แสนหวานปานจะกลืนกินเธอลงท้องเสียให้ได้ “พี่รักแก้ว” ชายหนุ่มกระซิบคำบอกรักแนบอยู่กับกลีบปากบาง แก้วใจลืมตาขึ้นมาสบตาเข
หลังจากเสร็จพิธีบายศรีสู่ขวัญและผูกข้อไม้ข้อมือกันแล้ว ก็เป็นการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ ปล่อยให้ทั้งสองอยู่ในห้องกันลำพังเพื่อให้บ่าวสาวได้พักผ่อน ก่อนจะออกมาต้อนรับแขกอีกครั้งในงานเลี้ยงตอนเย็นแก้วใจนอนนิ่งอยู่บนเตียงที่โรยด้วยกลีบกุหลาบแดงรูปหัวใจสองดวง โดยมีเจ้าบ่าวนอนกอดตัวเธออยู่ ประตูห้องถูกปิดลงเมื่อสักครู่ แว่วเสียงพ่อเจ้าบ่าวกับพ่อเจ้าสาวถกเถียงกันจะไม่ยอมให้ล็อกประตู หากแต่สุดท้ายแล้วแม่ ติ๋มก็จัดการล็อกประตูจากด้านนอกจนได้“พะ...พี่ดิน” หญิงสาวขยับกาย พยายามขยับออกห่างจากร่างใหญ่ที่กอดเธอไว้เสียแน่น แต่เขาไม่ยอมปล่อย“หืม...ว่าไงครับ” ริมฝีปากร้อนผ่าวประทับจูบลงบนหน้าผากมน แก้วใจเงยหน้าขึ้นสานสบกับดวงตาวาววับคู่คมแล้วสะเทิ้นอาย จนต้องก้มหน้าหลบเสียเอง“เขาออกกันไปหมดแล้ว ลุกขึ้นได้แล้วค่ะ”“อยากนอนกอดแก้วแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ขอกอดต่ออีกนิดนะ” บดินทร์กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีกนิด“ฮื่อ...แก้วเมื่อย ลุกเถอะค่ะ” ร่างใหญ่ยอมลุกขึ้นแต่โดยดี คนที่ตื่นเต้นกับสัมผัสแนบชิดจนแทบจะเป็นลมรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งตาม วงแขนแข็งแรงรีบกอดเกี
“อือ...” การขานรับในลำคอแบบไม่ค่อยเต็มใจของสามีทำให้แม่ติ๋มส่ายหน้า คงต้องรอให้เวลาผ่านไปสักหน่อย เดี๋ยวคงทำใจยอมรับลูกเขยได้เองเหมันต์และเพียงขวัญมาร่วมงานแต่เช้า โดยมีลูกๆทั้งสามติดตามมาด้วย หทัยรักหรือพี่ข้าวของน้องๆลูกสาวคนโตอายุสี่ขวบ หทัยกานต์หรือเข้มลูกชายคนกลางอายุสองขวบ และหทัยชนกหรือน้องขิงลูกสาวคนเล็กอายุหนึ่งขวบ คุณแม่ยังสาวจัดชุดครอบครัวใส่โทนสีเดียวกันคือสีฟ้า ลูกสาวทั้งสองอยู่ในชุดกระโปรงสีฟ้าลายดอกไม้สีขาวเล็กๆ ลูกชายและสามีสวมเชิ้ตแขนยาวสีฟ้ากับกางเกงยีนส์และรองเท้าหนังสีน้ำตาล ส่วนเธอสวมชุดเดรสสีฟ้ายาวคลุมเข่าสวมรองเท้าสานสีขาวเหมือนกับลูกสาวทั้งสองนิธิและเพียงฟ้าพานิดาหรือหนูดาลูกสาวคนโตวัยสี่ขวบกว่า และนทีหรือนทวัยหนึ่งขวบมาร่วมงานด้วย เพียงฟ้าได้กล่าวคำขอโทษกับแก้วใจ เรื่องที่เธอเคยทำร้ายหญิงสาวเมื่อหลายปีที่แล้ว ทั้งสองปรับความเข้าใจกันและตกลงนับถือกันเป็นพี่น้องพิธีการเริ่มขึ้นหลังจากวางสินสอดซึ่งฝ่ายเจ้าบ่าวจัดมาสมกับฐานะเจ้าสาวแล้ว ขณะทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนาน เหมันต์และเพียงขวัญจึงพาลูกๆเลี่ยงไปนั่งเล่น
“ตื่นกันหรือยังคะ” เพียงขวัญส่งเสียงดังมาก่อน“ตื่นแล้วครับ” นิธิตอบกลับไป ยกมุ้งครอบขึ้น พาตัวเองลงมายืนอยู่ข้างศาลาเรือนไทย หนุ่มใหญ่จัดการสวมชุดให้ตัวเองและภรรยาหลังจากที่บทเพลงรักสุดท้ายจบลงอย่างเร่าร้อน จึงไม่ต้องห่วงว่าใครจะมาเห็นภาพที่ไม่สมควรเห็น“ป๊ะป๊า” ลูกสาวส่งเสียงเรียกอย่างดีใจ เมื่อเห็นหน้าผู้เป็นพ่อ นิธิยื่นมือออกไปรับลูกมาไว้ในอ้อมกอด“ว่าไงคะ หนูดาดื้อกับป้าขวัญหรือเปล่าลูก” คุณพ่อหอมแก้มลูกสาวอย่างรักใคร่“หนูดาเพิ่งตื่นค่ะ ตื่นมาไม่เจอคุณพ่อคุณแม่ แกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ขวัญเลยอุ้มมานี่ล่ะค่ะ เอ่อ...ฟ้ายังไม่ตื่นเหรอคะ” เพียงขวัญชะเง้อคอมองเข้าไปในมุ้งครอบ เห็นแต่ผ้าห่มผืนใหญ่คลุมร่างน้องสาวอยู่“ยังครับ” นิธิตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย“เอ่อ...เดี๋ยวขวัญไปเตรียมอาหารเช้ารอนะคะ”“ขอบคุณครับ” หนุ่มใหญ่กล่าวคำขอบคุณแล้วพาลูกน้อยมุดเข้าไปในมุ้งครอบหลังใหญ่ เพียงขวัญมองแล้วอมยิ้ม ก่อนจะเดินหันหลังกลับเข้าไปในบ้านแรงดูดจ๊วบๆที่ยอดอกทำให้คุณแม่ที่หลับใหลอยู่สะดุ้งตื่น แล้วหลุบตามองหน้าอกตัวเองด้วยความตกใจเล็กน
“ก็ฟ้าหมายถึงเมื่อก่อนนี้ ไม่ได้หมายถึงตอนนี้” แก้ตัวอุบอิบ“งั้นก็ไม่ต้องไปง้อ เพราะฟ้าไม่ผิด คุณนิธิเข้าใจผิดไปเอง” เพียงขวัญสรุปแล้วเอื้อมมือไปปิดไฟ ก่อนเอนกายลงนอน หันหลังให้น้องสาว“อ้าว!” เพียงฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ นั่งคิดชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจนำผ้าห่มผืนหนามากั้นฝั่งตัวเองไว้ แล้วก้าวลงจากเตียง เปิดประตูห้องออกไป เพียงขวัญหัวเราะเบาๆ ลุกขึ้นเปิดไฟมองดูความเรียบร้อยบนเตียงกว้างอีกครั้ง“นอนกับป้านะคะหนูดา ให้คุณพ่อคุณแม่ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์สักคืนนะคะ อุ๊ย!” วงแขนแกร่งที่กอดรัดเอาร่างตัวเองลอยขึ้นจากเตียงทำให้เพียงขวัญอุทานตกใจ“คุณเหม”“ฟ้าออกไปหาคุณนิธิแล้ว เราลงไปนอนพื้นกันเถอะ ปล่อยให้เด็กๆนอนบนเตียง”“นอนด้วยก็ได้ แต่ไม่ทำอะไรนะคะ เกรงใจลูกกับหลาน” เพียงขวัญต่อรอง ขณะยืนมองสามีปูที่นอนลงข้างเตียง“อือ...” เหมันต์ส่งเสียงในลำคอ เมื่อปูที่นอนเสร็จก็หันมารวบร่างภรรยาเอนกายลงนอนพร้อมกัน“คุณเหม...” เพียงขวัญปรามเสียงเบา เพราะกลัวลูกกับหลานจะตื่นขึ้นมา“ครับ”“ไหนบอกไม่ทำอะไรไงคะ”“ใครบอก”
“เดี๋ยวเรียกป้าโอ๋มาอยู่เป็นเพื่อนหนูดาก็ได้นะคะ” เพียงฟ้าหันมายิ้มให้สามี“ไม่เป็นไร ลุงนิจะอยู่กับลูกเองนะคะ” หญิงสาวหน้างอง้ำ สะบัดหน้าหนีงอนๆ“ลูกหลับอยู่ เรารึก็อุตส่าห์จะอาบน้ำให้ แต่ถ้าลุงนิอยากอยู่กับลูกก็ตามใจนะคะ” พูดจบก็เดินสะบัดก้นออกจากห้องไปทันที หนุ่มใหญ่ยืนนิ่งกะพริบตาปริบๆ มองประตูห้องปิดลงงงๆ หลังจากนั้นไม่ถึงห้าวินาที เพียงฟ้าที่เดินขึ้นบนบ้านไปก่อนก็หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงสามีตะโกนดังลั่นบ้าน“ป้าโอ๋! ป้าโอ๋ครับ ป้าโอ๋อยู่หนายยย”เช้าวันต่อมานิธิไปส่งลูกเมียไว้ที่บ้านสวนของเหมันต์ แล้วรีบกลับเข้าเมืองไปทำงานทันที เพียงฟ้ากับลูกน้อยจึงอยู่กับเพียงขวัญ เหมันต์และเด็กหญิงหทัยรัก“อ้อนให้คุณนิธิพามาส่งจนได้นะเราน่ะ” เพียงขวัญเอ่ยกับน้องสาวยิ้มๆ ขณะที่นั่งป้อนข้าวลูกสาวอยู่ที่ศาลาเรือนไทยหลังบ้าน“ก็ฟ้าอยากคุยกับขวัญ อยากพาหนูดามาเล่นกับน้องข้าว” น้องสาวอ้อนพี่สาวยิ้มๆ“น้องข้าวคิดถึงน้าฟ้ากับหนูดามั้ยคะ” หทัยรักฉีกยิ้มกว้าง เด็กหญิงแย่งช้อนในมือมารดามาถือไว้ แล้วยื่นไปใกล้ปากเด็กหญิงอีกค