Share

บทที่ 131

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ใช่ น้องห้ารีบกินก่อนเถอะ ประเดี๋ยวอาหารเย็นแล้วไม่อร่อย”

ฉินเย่ว์โหรวเร่งฉินเย่ว์ฉู่ให้รีบรับประทาน

“กินนี่!” ฉินเย่ว์เจียวตักปลาใส่เข้าไปในถ้วยของฉินเย่ว์ฉู่หนึ่งถ้วย “น้องห้า เจ้าลองชิมดู ปลาผักกาดดองที่นายท่านทำอร่อยมาก”

ฉินเย่ว์ฉู่มองพี่สาวทั้งสองคนของตน และเฉินฝานที่กำลังก้มหน้ารับประทานอาหารด้วยความตะลึงงัน

เขา...

มองดูแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนไป หน้าตาเหมือนเดิม สีหน้าก็ดุร้ายยิ่งนัก

ทว่ากลับไม่เหมือนเดิมแม้แต่น้อย

เขาในอดีตทำงานหาเงินไม่เป็น ทั้งยังไม่ทำงานบ้าน

ตอนนี้ไม่เพียงทำงานบ้าน ทั้งยังทำด้วยความชำนาญ

“อร่อยจริงๆ!”

อาหารเอร็ดอร่อย ทำให้ฉินเย่ว์ฉู่เปิดใจขึ้นมาก ในที่สุดใบหน้าของนางก็มีรอยยิ้มที่เด็กน้อยควรมี

นางลอบมองเฉินฝาน เสียงแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อย พูดด้วยความรวดเร็ว

“ขอบคุณเจ้าค่ะ”

เฉินฝานรู้สึกว่าตนไม่เอาไหนจริงๆ

คิดไม่ถึงว่าเพราะคำขอบคุณของเด็กคนหนึ่ง จะทำให้เขามีความสุขราวกับคนบ้าได้

หลังจากทานอาหารเสร็จ ฉินเย่ว์ฉู่นั่งบนเตียงมองไปรอบๆ เรือน

เครื่องนอนใหม่ โต๊ะตัวใหม่ หน้าต่างอันใหม่ ตู้เสื้อผ้าหลังใหม่ กะละมังล้างหน้าใบใหม่

แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่นางส
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 132

    หลังจากหยุดจอด ลวี่ซิงฟาจะย้ายพวกข้าเข้าไปอยู่ในถังไม้ ถังไม้นั้นเล็กมาก พวกข้าห้าคนนั่งแออัดกันอยู่ข้างใน ข้ารู้สึกว่าถังไม้ดิ่งลงตลอดเวลา สุดท้ายถังไม้หยุดลง พวกข้านอนอัดกันในถังไม้ข้ามคืนเจ้าค่ะ”“ถึงว่าเมื่อครู่เจ้าหลับลึกยิ่งนัก พื้นที่เล็กๆ แบบนั้น แล้วยังมีตั้งห้าคนจะนอนได้อย่างไร?”ฉินเย่ว์โหรวหัวใจบีบรัดด้วยความเจ็บปวด“ลวี่ซิงฟาอำมหิตยิ่งนัก”ฉินเย่ว์เจียวเงียบ เดินไปที่มุม คว้าคันธนูที่อยู่บนกำแพงขึ้นมา แล้วพุ่งตรงออกไป“หยุดก่อน! แขวนคันธนูกลับไปที่เดิมเดี๋ยวนี้!”“นายท่าน ท่านทนได้แต่ข้าไม่อาจทน ข้าจะยิงเขาให้ตายในดอกเดียว”ไม่จำเป็นต้องมอง ฉินเย่ว์เจียวในเวลานี้ต้องโมโหจนหน้าดำหน้าแดงแน่นอน“เจ้าไปสิ ไปยิงเขาให้ตาย จากนั้นเจ้าจะถูกลากตัวไปประหารกลางตลาดต่อหน้าทุกคน น้องสาวทั้งสองคนของเจ้า ต้องถูกเนรเทศไปทำงานตรากตรำที่ชายแดน และข้า...”“เวลานี้บุรุษน้อยสตรีมาก อย่างมากสุดข้าก็เพียงถูกโบยยี่สิบทีก็ปล่อยตัวกลับมาแล้ว ปีหน้า ทางการจะคัดสรรสตรีมาให้ข้าคนถึงสองคน ข้ายังคงใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ”“เจ้าไปสิ!”ภายในห้องเงียบไปครู่หนึ่ง ค่อยกลับมามีเสียงอีกครั้งเป็นเสียง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 133

    นอกจากหวาดกลัวมากแล้ว ฉินเย่ว์ฉู่เกลียดเฉินฝานมากกว่าเพราะเขาขายนาง จึงทำให้ชีวิตของนางอนาถเช่นนี้ใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนมนุษย์มานานกว่าครึ่งปี ไม่อาจลบล้างด้วยอาหารหนึ่งมื้อหรือคำพูดดีๆ ไม่กี่ถ้อยคำได้เฉินฝานที่พักผ่อนสายตาอยู่ เบิกกว้างขึ้นมา เพราะไม่ทันตั้งตัว ฉินเย่ว์ฉู่จึงไม่อาจเบือนสายตาของตนเองได้ทันท่ามกลางความกระวนกระวาย นางรีบพูดขึ้น “นาย... นายท่าน!”เฉินฝานจับจ้องฉินเย่ว์ฉู่อยู่นานครู่หนึ่ง กว่าจะตอบอื้มสั้นๆเจ้าเด็กคนนี้ผิวขาวมากขาว?!ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวของเฉินฝานตอนที่เขาหันหน้าไปอีกทางไม่ได้มองฉินเย่ว์ฉู่เฉินฝานหันหลัง ฉินเย่ว์ฉู่ลอบยกกำปั้นขึ้นทำทีจะต่อยเขา เฉินฝานรู้ดี แต่เขาแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นร่างเดิมทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ ต้องให้เจ้าเด็กน้อยคลายความคับแค้นใจบ้างยามค่ำคืนอีกด้านหนึ่งของเตียง ใครคนหนึ่งกำลังพลิกตัวไปมา ศีรษะน้อยๆ เงยขึ้นเป็นครั้งคราว มองอีกฟากหนึ่งด้วยความระมัดระวัง“เด็กน้อย แม้กระทั่งพวกพี่สาวของเจ้าข้ายังไม่แตะต้อง ข้าจะแตะต้องเจ้าหรือ?”เสียงเรียบเฉยของเฉินฝานดังขึ้นกะทันหันร่างบางแข็งทื่อ หลังจากนั้นก็ล้มตัวลงแ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 134

    วันนี้เฉินฝานอยู่ที่เรือนแขกนานกว่าหนึ่งชั่วยามแล้วค่อยออกมาหลังออกมาจากเรือนแขกสำราญสุข เขาไม่ได้ไปโรงงานปลาแห้ง และไม่ได้พาพวกภรรยาเดินเที่ยวในอำเภอเหมือนทุกคน แต่เดินทางออกนอกอำเภอโดยตรงเห็นเฉินฝานออกจากอำเภอ จูต้าอันรีบไปรายงานลวี่ซิงฟา“เหตุใดจึงวิ่งเช่นนี้?”เห็นจูต้าอันวิ่งจนหายใจหอบ ลวี่ซิงฟาจึงเอ่ยถาม“เจ้านั่นออกจากตลาดแล้วหรือ?”ก่อนหน้านี้ลวี่ซิงฟาสะกดรอยตามเฉินฝานหลายวัน พบว่าเฉินฝานส่งปลาทุกวัน หลังจากนั้นก็ตรวจดูความเรียบร้อยของโรงงาน แล้วไปตลาด แม้ไม่ซื้อข้าวสารอาหารแห้งข้าวบ้าน ก็จะพาภรรยาไปซื้อขนมลวี่ซิงฟาบอกจูต้าอัน ขอเพียงเฉินฝานออกจากเรือนแขกสำราญสุขไปตลาด ให้เขารีบมารายงานตนทันทีเพราะเขาออกไปเวลานี้ เมื่อถึงประตูอำเภอ เฉินฝานก็ใกล้ถึงประตูอำเภอเช่นเดียวกัน“เขาไม่ได้ไปตลาด!”จูต้าอันมือท้าวสะเอวหายใจหอบ วิ่งด้วยความรีบร้อน เหงื่อเต็มหน้า“ไม่ได้เข้าตลาด?”“ขอรับ! พี่ซิงฟา พี่ว่าเจ้านั่นจะหนีหรือเปล่า?”“ไม่มีทาง!” ลวี่ซิงฟาส่ายหน้า พูดด้วยความมั่นใจการกระทำของเฉินฝาน ในสายตาของลวี่ซิงฟาแล้วเป็นเรื่องปกติ“แล้วเหตุใดก่อนหน้านี้ไปตลาดทุกวัน แต่ตอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 135

    ตึ้ง!”ไม้ปลุกสติในมือนายอำเภอเคาะโต๊ะอีกครั้ง“ใครคือลวี่ซิงฟา?”“ใต้เท้า ข้าคือลวี่ซิงฟาเองขอรับ!” ลวี่ซิงฟาเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว โค้งคำนับตอบคำถามนายอำเภอ“เฉินฝานชาวบ้านในหมู่บ้านซานเหอเปิดเผยว่า เจ้ากักขังหญิงสาว บังคับให้พวกนางลักขโมย เป็นความจริงหรือไม่?”“ใต้เท้าขอรับ นี่เป็นการปรักปรำ! เขากล่าวหาข้าเช่นนี้มีหลักฐานหรือไม่?”“เฉินฝาน!” นายอำเภอหันไปมองเฉินฝาน “เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”“ใต้เท้าขอรับ ภรรยาของข้าเป็นพยานได้ขอรับ!” เฉินฝานหันไปมองฉินเย่ว์ฉู่ที่อยู่ข้างๆ พยักหน้าให้กำลังใจนางฉินเย่ว์ฉู่เม้มริมฝีปาก แล้วเดินขึ้นหน้า“ใต้เท้า ข้าฉินเย่ว์ฉู่ เขา!” ฉินเย่ว์ฉู่ชี้ไปที่ลวี่ซิงฟา กัดฟันพูด “เขากักขังข้า สอนวิธีการลักขโมย ให้ข้าไปขโมยของทุกวัน หากไม่ทำตามคำสั่ง เขาจะทุบตีทำร้ายข้าอย่างทารุณเจ้าค่ะ”ฉินเย่ว์ฉู่ดึงแขนเสื้อขึ้น แขนของนางเต็มไปด้วยรอยแผลทุกคนในเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอหรือเจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการ ต่างสูดลมหายใจเข้า”“บาดแผลทั้งหมดนี้ล้วนมาจากการทุบตีของลวี่ซิงฟา ไม่เพียงที่แขนเท่านั้น ข้ามีบาดแผลทั่วร่างกาย”เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นควา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 136

    หลังจากอวี๋ไหวบอกเล่าความผิดของฉินเย่ว์ฉู่ นายอำเภอพูดทันที“ฉินเย่ว์ฉู่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตนทำความผิด!”“ใต้เท้า!” ฉินเย่ว์ฉู่คุกเข่า “ข้าถูกปรักปรำ ทุกอย่างที่ข้าทำล้วนถูกลวี่ซิงฟาบีบบังคับเจ้าค่ะ!”“ข้าบังคับเจ้าเนี่ยนะ?” ลวี่ซิงฟายกมุมปากขึ้นด้วยความทระนง “เจ้าไม่ใช่ภรรยาของข้า ยิ่งไม่ใช่ญาติมิตรของข้า ข้าบังคับเจ้าแล้วเจ้าจะเชื่อฟังข้าเช่นนั้นหรือ?”“ครึ่งปีก่อน นายท่านขายข้าไปเป็นทาสของเจ้า”“ขายเจ้าให้ข้าเช่นนั้นหรือ? มีหลักฐานใด? อีกเรื่องหนึ่ง กฎหมายต้าชิ่งไม่อนุญาตให้มีการซื้อขายภรรยาของตน นายท่านของเจ้ารู้กฎหมายแล้วยังจะทำผิดกฎหมายหรือ? เขาไม่มีสมองหรืออย่างไร?”
ตอนลวี่ซิงฟาพูดคำว่าไม่มีสมอง เสียงของเขาดังมากเขาต้องการจะให้คนในศาล หัวเราะเยาะเฉินฝานที่ไร้สมองเฉินฝานต้องหงุดหงิดมากกระมัง แต่จะทำอะไรได้ เขากล้าโต้เถียงตนหรือ?“เจ้า...” ฉินเย่ว์ฉู่โฒโหจนตาแดงก่ำ “เจ้ามันคนชั่วพูดบิดเบือนข้อเท็จจริงก่อน ! บาดแผลบนตัวข้ามาจากการทุบตีของเจ้าไม่ใช่หรือ?"
“ข้าทุบตีเจ้า? ใครเห็นหรือ?”“เจ้าไม่เพียงทุบตีข้า พวกเพื่อนๆ คนอื่นก็ถูกเจ้าทำร้ายร่างกายเหมือนกัน”“อ๋อ พวกเพื่อนๆ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 137

    แม้ข้าไม่ใช่ญาติภรรยาของเฉินฝาน แต่ในฐานะมนุษย์ที่มีจิตสำนึกคนหนึ่ง ข้ารับไม่ได้กับการกระทำของเขาจริงๆ ตั้งแต่พี่น้องตระกูลฉินแต่งงานกับเฉินฝาน เฉินฝานทำร้ายร่างกายพวกนางมาโดยตลอด ซึ่งหนึ่งในนั้น”ลวี่ซิงฟาชี้ไปที่ฉินเย่ว์โหรวแล้วพูด “ขาของนางถูกเฉินฝานทุบตีจนหัก กระทั่งทุกวันนี้ยังไม่หายดี”เช่นเดียวกับการห้ามซื้อขายภรรยา กฎหมายต้าซิ่ง สามีห้ามทุบตีภรรยาโดยไร้เหตุผลและเป็นเพราะตอนนี้บุรุษน้อยสตรีมาก ขอเพียงไม่ถึงแก่ความตาย ก็ไม่มีใครสนใจลวี่ซิงฟาคิดมาดีแล้ว เขาร้องเรียนบนชั้นศาลในเวลานี้ นายอำเภอไม่อาจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่อีก“สำหรับพยาน คนทั้งหมู่บ้านซานเหอเป็นพยานได้ ใต้เท้าส่งคนไปถามก็จะได้คำตอบเองขอรับ”“เฉินฝาน!” คิ้วหนาของนายอำเภอขมวดเป็นปม ถามเฉินฝานด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกิดเรื่องนี้ขึ้นจริงๆ หรือไม่?”เขาผิดหวังกับเฉินฝานเล็กน้อย ไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้เขาให้รางวัลเฉินฝาน เฉินฝานไม่กล้ารับ ที่แท้เป็นเพราะเฉินฝานไม่ใช่คนขาวสะอาดนี่เองช่วงหลังที่ผ่านมานี้ ได้ยินข่าวสามีทุบตีภรรยารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บุรุษบางคนกล้าทุบตีแม้กระทั่งคุณหนูตระกูลใหญ่ เรื่องนี้ไปถึงฮ่องเต้แล้วฮ่อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 138

    เฉินฝานและหลี่ซานทำงานร่วมกัน เรื่องนี้นายอำเภอย่อมรู้ เขานึกว่าหลี่ซานมาขอความเมตตาให้เฉินฝานหากเป็นเมื่อก่อน เขาลงโทษสถานเบาได้ ทว่าตอนนี้ไม่ได้“ใต้เท้า! เฉินฝานเคยทุบตีภรรยาของตนเอง เป็นความผิดที่สมควรลงโทษ แม้เทพเซียนจากสวรรค์ลงมา ก็ไม่อาจลบล้างความผิดของเขาได้”หากหลี่ซานไม่มีความสามารถมากพอที่จะรู้ข่าววงใน เช่นนั้นตระกูลหลี่ คงไม่อาจมีอำนาจในอำเภอผิงอันถึงทุกวันนี้ได้เขารู้ว่าตอนนี้นายอำเภออยากจับคนทำร้ายภรรยาสี่ห้าคนมาเป็นตัวอย่าง เวลานี้เขายิ่งช่วยขอความเมตตาให้เฉินฝาน โทษของเฉินฝานก็จะยิ่งหนักได้ยินคำพูดของหลี่ซาน นายอำเภอโล่งอกแม้จะกล่าวว่าลำดับชนชั้นเรียงจากบัณฑิต กสิกร กรรมกรและพ่อค้าวาณิชย์แต่การที่มีเงินมากทำให้ทำงานง่ายขึ้นข้าราชการในพื้นที่ หรือปัญญาชนที่มีชื่อเสียง แม้เบื้องหน้าจะดูแคลนพ่อค้า แต่ยามพ่อค้ามอบประโยชน์ให้พวกเขา พวกเขาแต่ละคนรับไว้ไม่ใช่น้อยๆหลายปีมานี้ตระกูลหลี่ช่วยนายอำเภอแก้ปัญหาการเงินไม่น้อยหากหลี่ซานจะมีปัญหากับเขาในศาล เพราะเรื่องของเฉินฝาน เช่นนั้นก็ยุ่งยากไม่น้อยแน่นอนคนที่มีความสุขที่สุดคือลวี่ซิงฟาเรื่องของเฉินฝานในวันนี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 139

    “ใต้เท้า พวกนางปรักปรำข้า หลี่ซานกับเฉินฝานร่วมมือกัน ใช่ๆ!” คล้ายความหวังสุดท้ายของลวี่ซิงฟา เขาชี้ไปที่หลี่ซาน “เป็นเช่นนี้ เจ้ากับเฉินฝานร่วมมือกันทำร้ายข้า หญิงสาวพวกนั้นมาจากหอนางโลมอี๋ชุนย่วนของเจ้าใช่ไหม”“หึ!” หลี่ซานหัวเราะในลำคอ “เรือนด้านในสุดของตลาดฮวาหลี่ ตอนนี้ยังมีหญิงสาวอีกหนึ่งคน ถึงขั้นไม่อาจลุกเดิน หมอกำลังรักษานางอยู่ เจ้าอยากไปดูนางหรือไม่?”“หากเจ้าอยากไป...” หลี่ซานคารวะนายอำเภอ “ข้าขอความเมตตาจากท่านใต้เท้าให้เจ้าได้ นำเจ้าหน้าที่สองคนพาเจ้าไปดู”“อ๋อ!” หลี่ซานชะงักครู่หนึ่ง พูดต่อ “เมื่อครู่ เจ้ายอมรับเองว่าเรือนด้านในสุดของตลาดฮวาหลี่เป็นของเจ้า ข้าเชื่อว่าไม่ได้มีแค่ข้าเท่านั้นที่ได้ยิน ท่านใต้เท้าก็ได้ยินแน่นอน”สีหน้าของลวี่ซิงฟาแปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันที เหงื่อผุดเต็มหน้าผากตอนหลี่ซานมา เขาไม่ได้นำตัวหญิงสาวทั้งสามคนมาตั้งแต่แรก แต่เจตนาใกล้ชิดเขาที่แท้ก็เพื่อหลอกให้เขาตอบว่าเรือนหลังนั้นเป็นของเขา โทษได้เพียงว่าเมื่อครู่เขาดีใจจนประมาททำให้ยอมรับไปแค่ว่า...เขาส่ายหน้าพร้อมกับพูดพึมพำด้วยความเหลือเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร เจ้า

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1086

    คนแก่คนนี้คือฝูป๋อ คนที่เคยช่วยเฉินฝานดับไฟที่เมืองตงเจียวในตอนแรก เดิมทีเขาไปที่เมืองตงเจียวเพื่อจะไปหาลูกชายคนเล็ก เพิ่งกลับมาเมื่อวาน มิคิดว่าเมื่อเข้าเขตวังหลวงก็พบว่าพวกเหมียวเหลียงจื้อกำลังจะกระโดดหน้าผาและได้ยินมาว่าเฉินฝานจะเดินทางมาจัดการ เขาจึงให้หลานคนโตพาเขามาที่นี้ทันที“ดี ๆ!” ฝูป๋อพยักหน้าหงึก ๆ “โชคดีของข้าที่ได้เจอใต้เท้า ตอนนี้ข้าสบายดีเป็นอย่างมาก!”เฉินฝานกำลังจะพูด ทว่าก็ถูกฝูป๋อชิงพูดตัดบทไปอีกแล้ว“พวกเด็กเปรต ช่างมิรู้จักผิดชอบชั่วดีเสียจริง!” ฝูป๋อยกไม้เท้าชี้ไปที่ฝูงชนด้านหน้าเขาฝูป๋อค่อนข้างมีอำนาจในกลุ่มฝูงเหล่านี้ ฝูป๋อตีพวกเขาก็ยังไม่มีใครกล้าต่อต้าน“มีความรู้อันน้อยนิด ก็กล้าพูดช่วยพวกเดียวกันเองแล้วรึ? พวกเจ้ารู้หรือว่าสิ่งใดเรียกว่าช่วยพวกเดียวกันเอง?”“ขุนนางเหล่านั้นตายไปแล้ว นอกจากทำให้พวกเจ้าคลายความเคียดแค้นลงไปได้เล็กน้อย แล้วมันทำให้ชีวิตต่อจากนี้ของพวกเจ้าดีขึ้นงั้นรึ? ก็ยังคงจะต้องใช้ชีวิตอดมื้อกินมื้อด้วยความยากลำบากทุกวันมิใช่หรือกระไร?”“ตอนนี้ใต้เท้าให้ขุนนางเหล่านั้นสร้างความชอบชดเชยความผิด พวกเขาจะทุ่มเทแรงกายคิดหาทุกวิธีทางให้พว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1085

    “เฉินฝานมองข้ามเหมียวเหลียงจื้อไปที่เหล่าเสนาบดีด้านหลังเขาแทน “พวกเจ้าก็ด้วย ยังมิรีบไปหาสถานที่พัฒนาเศรษฐกิจอีก!”“พัฒนาเศรษฐกิจงั้นรึ?”เหล่าขุนนางเงยหน้าเล็กน้อยมองเฉินฝานด้วยความสงสัย“โอ้ ถ้าพูดในแบบพวกเจ้าก็คือคิดหาวิธีที่ทำให้ราษฎรหาเงินได้ดีขึ้น หากราษฎรมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี ก็จะจ่ายภาษีได้มากขึ้น เงินในท้องพระคลังจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”หลังจากที่ขุนนางเหล่านั้นพยักหน้าเข้าใจแล้ว น้ำเสียงของเฉินฝานก็เปลี่ยนเป็นดุดันทันที “อย่าหาว่าข้ามิเตือน หลังจากนี้ห้าปีหากเหมียวเหลียงจื้อทำเป้าหมายที่ข้าพูดเมื่อครู่มิได้ พวกเจ้าทุกคนจะถูกตัดหัวเหมือนกับเหมียวเหลียงจื้อ”เฉินฝานเพิ่งกล่าวจบก็มีขุนนางพูดโพล่งขึ้นมาทันที“ใต้เท้า ข้าน้อยขอกราบลาขอรับ”คนแรกทูลลาเสร็จ ก็มีคนที่สองตามมาทันที“ใต้เท้า ข้าน้อยขอกราบลาเช่นกันขอรับ”ขุนนางเหล่านี้ทยอยกันทูลลาจากไป ในใจพวกเขาคิดเพียงแค่ว่าอยากออกไปโดยเร็วเพื่อไปแย่งชิงเมืองที่ดีในการพัฒนาเศรษฐกิจเฉินฝานผายมือกว้าง “ไปเถอะ!”“ขอบคุณท่านอัครเสนาบดี!”เพิ่งจะได้รับการอนุญาตจากเฉินฝานได้มินาน ขุนนางเหล่านั้นรีบวิ่งแข่งกกันเพื่อไปเขตพระราช

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1084

    “ข้าถามพวกเจ้าหน่อย มิรู้สึกผิดอันใดบ้างรึ?”“เหล่าราษฎรมากมายปานนั้นต้องเสียชีวิตอยู่ในกองเพลิงครั้งนี้ พวกเจ้ามีสามัญสำนึกอยู่หรือไม่ พวกเจ้ามิกลัวว่ากลางดึกพวกเขาจะเอาวิญญาณของพวกเจ้าไปงั้นรึ?”“แปะ!”“แปะ ๆ ๆ ๆ!”เฉินฝานเพิ่งพูดจบ ทั่วบริเวณเกิดเสียงดังขึ้นเกรียวกราวราษฎรที่มามุงดูปรบมือจนเจ็บมือ ทว่าก็ยังคงปรบมือต่อไป“พูดได้ดีมาก!”“ท่านอัครเสนาบดีพูดได้ดีมาก!”เหล่าราษฎรล้วนน้ำตาไหลทุกคนเฉินฝานได้พูดความเกลียดชังและความคับแค้นใจของพวกเขาออกไปแล้วขุนนางที่อยู่บนพื้น มีบางส่วนที่สอบขุนนางได้จากหมูบ้านเล็ก ๆ ตอนที่พวกเขายังเด็กก็มีชีวิตที่ยากลำบากเช่นกันท่ามกลางเสียงกล่าวถามของเฉินฝานและเสียงเชียร์ของเหล่าราษฎร ไม่นานนักพวกเขาก็กลั้นน้ำตาไว้มิอยู่สีหน้าพลันปรากฎความเศร้าสลด“เพียะๆ!”มีขุนนางจำนวนหนึ่งเริ่มตบหน้าตัวเอง“หลงผิด ตอนนั้นข้าถลำตัวหลงผิดเกินไปแล้ว!”ขุนนางที่ตบหน้าตนเองเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดเหลือเพียงเหมียวเหลียงจื้อ เขาสีหน้าไร้อารมณ์ ทำเพียงก้มหน้าคุกเข่าอยู่ตรงนั้นเฉินฝานยกมือขึ้นเล็กน้อย“ทุกคนจงหยุดเถอะ!” อวิ๋นเต๋อออกคำสั่งให้ขุนนางเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1083

    เมื่อถึงหุบเขาซื่อสัตย์แล้ว เฉินฝานก็เปิดม่านลงรถม้าทันทีในขณะที่เขารีบสาวเท้ารุดหน้าขึ้นไป ก็ยื่นมือไปทางองครักษ์ข้างกาย “กระบี่!”เมื่อได้ยินดังนั้น องครักษ์รีบนำกระบี่ประจำกายส่งให้เฉินฝานทันที เฉินฝานรับกระบี่มา มิพูดพร่ำทําเพลงขว้างกระบี่ออกไปอย่างสุดแรงทันที“ปึก!”กระบี่ที่เฉินฝานขว้างลอย ปักเข้ากับเรือนร่างเหมียวเหลียงจื้อที่กำลังจะกระโดดหน้าผาพอดี“เอื้อ...”เหมียวเหลียงจื้อกรีดร้องเพียงเล็กน้อยก็ล้มลงไปทันทีกระบี่ของเฉินฝานพุ่งเข้าหาเหมียวเหลียงจื้อจากทางด้านหน้า ดังนั้นจึงทำให้เขาล้มหงายหลังลงไปเหมียวเหลียงจื้อลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เมื่อเห็นเฉินฝานแล้วก็จะกระโดดหน้าผาทันที ขุนนางคนอื่นจึงพากันทำตาม“ขวางพวกเขาไว้!”ในขณะที่เฉินฝานตะโกนลั่น ก็ขว้างกระบี่ออกไปอีกสองเล่มองครักษาพระองค์ที่ติดตามเฉินฝานมาด้วย รีบรุดหน้าเข้าไปลากเหล่าเหมียวเหลียงปิงจากหน้าผาเข้ามาทันทีคำสั่งของเฉินฝานเด็ดขาดมากพอ เหล่าพลทหารก็ลงมือทำได้อย่างรวดเร็วทันท่วงทีเช่นกัน ทว่าก็มีสองสามาที่กระโดดลงหน้าผาได้สำเร็จ“อ้าก!”เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาด้านล่างหุบเขาเฉินฝานส่ายหน้าคนที่อยาก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1082

    “ข้าอยากไปเดินเล่นข้างนอกได้หรือไม่?”กลัวว่าเฉินฝานจะไม่อนุญาต นางจึงรีบพูดเสริมทันที “ ขืนยังนอนต่ออีก ข้าก็จะอ้วนกว่าเดิมแล้ว”“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้ชอบสตรีที่ผอมบางร่างน้อยเสียหน่อย”คำพูดของเฉินฝานทำให้โอวหยางน่าหลันหยุดชะงักไปทันที“โอ้!”โอวหยางน่าหลันนั่งกลัดกลุ้มอยู่บนเตียง ผิดหวังอย่างมากที่ช่วงนี้เฉินฝานไม่ให้นางลงจากเตียงช่วงแรกนางก็ดีใจอย่างมาก เพราะความเป็นห่วงและความใส่ใจของเฉินฝาน ต่อมานางก็ไม่ดีใจแล้ว เพราะนอนอยู่บนเตียงตลอดช่างทรมานเหลือเกิน“เด็กโง่!”เฉินฝานยื่นมือไปหยิกจมูกโอวหยางน่าหลันเบาๆ จับมือของนางไว้ “ไปกันเถอะ!”ช่วงก่อนที่เขาไม่ยอมให้โอวหยางน่าหลันลงจากเตียง เพราะนางมีความเสี่ยงที่จะแท้งบุตร ดังนั้นจึงไม่ให้นางลงจากเตียง ที่ไม่ได้บอกเหตุผลกับนางเพราะกลัวว่านางจะกังวลเกินเหตุเมื่อครู่หมอหลวงบอกเขาว่าตอนนี้เด็กในครรภ์ของโอวหยางน่าหลันปลอดภัยแล้ว“อะไรนะ?”โอวหยางน่าหลันมองเฉินฝานด้วยสายตาเหลือเชื่อ“งงอันใดอีกเล่า เมื่อครู่โวยวายอยากจะออกไปมิใช่รึ? หรือว่าตอนนี้ไม่อยากออกไปแล้ว?”“ไปสิ ข้าอยากออกไป!”โอวหยางน่าหลันกระโดดลงเตียง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1081

    เฉินฝานจับคอเสื้อโจวหยางชิงกระชากเขาลงมาจากเก้าอี้“ฝ่าบาท ๆ ช่วย...”โจวหยางชิงที่ถูกเพิ่งเฉินฝานกระชากตัวออกมา รีบขอความช่วยจากโอวหยางกว่างเซวียนทันที เขาพูดไม่ทันจบ ศีรษะก็ถูกตัดตกลงพื้นไปเรียบร้อยแล้วศีรษะของโจวหยางชิงไหลลงบันไดไปทีละขั้นพร้อมกับเลือดสดที่ไหลนองเป็นทางขุนนางฝ่ายบุ๊นส่วนใหญ่มิเคยเห็นเหตุการณ์นองเลือดเช่นนี้มาก่อน บางคนไม่กล้าดู บางคนอาเจียนออกมามิหยุด ถึงขั้นมีบางคนที่ขี้กลัวเป็นลมหมดสติไปทันทีทว่าคนส่วนใหญ่ล้วนตกตะลึงทำอันใดไม่ถูกโจวหยางชิงเป็นมหาราชครูของโอวหยางกว่างเซวียนและเป็นคนที่โอวหยางน่าหลันเคารพนับถือ คิดไม่ถึงว่าเฉินฝานจะลงมือสังหารจริงและยังเป็นตอนที่กำลังปรึกษาหารือในพระราชวังอีกด้วยเฉินฝานรูปร่างดูสะอาดเกลี้ยงเกลา หน้าตาดูใจดีมีเมตตา มิคิดว่าเขาจะโหดเหี้ยมกว่าโอวหยางน่าหลันเสียอีกเพียงโอวหยางน่าหลันคนเดียวพวกเขาก็จวนจะรับมือไม่ไหวแล้ว ตอนนี้มีเฉินฝานเพิ่มมาอีกหลังจากนั้น...บรรยากาศในพระราชวังน่าอึดอัดใจสุดขีด ทุกคนล้วนท้อแท้ใจกับอนาคตโดยเฉพาะพรรคพวกเหมียวเหลียงจื้อและเหล่าเสนาบดีที่ยืนระนาบเดียวกันกับโจวหยางชิง คนเหล่านั้นล้วนมีสีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1080

    โอวหยางกว่างเซวียนขมวดคิ้วจนเป็นปม ขอบตาเริ่มแดงก่ำ ดูเหมือนจะร้องไห้แล้ว“ร้องไห้อะไร ฝ่าบาททรงเป็นชายชาตรี ห้ามร้องไห้นะพ่ะย่ะค่ะ!”น้ำตาของโอวหยางกว่างเซวียนหดกลับไปเพราะเสียงตวาดของโจวหยางชิง เขาเม้มปาก เลื่อนบั้นท้ายไปบนบัลลังก์มังกรด้วยความไม่เต็มใจ“ใต้เท้าโจวพูดถูกต้อง ชายชาตรีจะร้องไห้ไม่ได้ แต่ยิ่งไม่อาจให้ผู้อื่นมาตวาดใส่ตามใจชอบได้!”เฉินฝานพูดพลางเดินเข้ามาในท้องพระโรงโอวหยางกว่างเซวียนที่ตอนแรกยังอืดอาดชักช้า คราวนี้เขากระโดดพรวดมาอยู่ตรงหน้าเฉินฝานราวกับลิงที่กระโดดขึ้นฟ้า “พี่หญิงของข้าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”ใบหน้าของโอวหยางกว่างเสวียนเต็มไปด้วยความห่วงใย แม้เขาจะเป็นเด็กโง่เขลา สติปัญญาเทียบเท่าเด็กอายุห้าหกขวบ แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อโอวหยางน่าหลันนั้นเป็นของจริง“ท่านยังมีหน้ามาถามอาการพี่สาวของท่านอีกหรือ?”เฉินฝานถลึงตาใส่โอวหยางกว่างเซวียนด้วยความเดือดดาล เขาโมโหแล้วจริง ๆ ความไม่รู้ของโอวหยางกว่างเซวียนเกือบจะทำให้ภรรยาและลูกที่ยังไม่เกิดมาของเขาต้องตายเสียแล้วโอวหยางกว่างเซวียนเอามือขยุ้มเสื้อแน่นราวกับเด็กที่ทำผิด ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาว่า “เซวียนเอ๋อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1079

    “อ๊า!”เสียงกรีดร้องดังไปทั่วท้องพระโรง“หุบปาก!”ขณะที่เฉินฝานประคองโอวหยางน่าหลันไว้ เขาก็ตวาดใส่ขันทีที่อยู่ทางด้านข้างด้วยความเกรี้ยวกราดตอนที่กระบี่แทงมา คนที่กรีดร้องไม่ใช่โอวหยางน่าหลัน แต่เป็นขันทีข้างกายนางโอวหยางกว่างเซวียนอายุสิบสามปีก็ตัวสูง 185 เซนติเมตรแล้ว ส่วนโอวหยางน่าหลันสูง 165 เซนติเมตร เมื่อโอวหยางกว่างเซวียนแทงกระบี่ลงมา จึงแทงเข้าใส่ไหล่ของโอวหยางน่าหลันไม่ได้โดนจุดสำคัญ นี่เป็นความโชคดีในความโชคร้ายแล้ว“พี่หญิง พี่หญิง พี่หญิง”โอวหยางกว่างเซวียนจ้องมองกระบี่ที่แทงเข้าไหล่ของโอวหยางน่าหลัน ก่อนจะตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือด ริมฝีปากสั่นระริก “ไสหัวไป!” เฉินฝานเตะโอวหยางกว่างเซวียนที่อยากจะพุ่งเข้ามาให้ออกไป“ท่านพี่ฝาน...”โอวหยางน่าหลันที่อยู่ในอ้อมแขนของเฉินฝานข่มกลั้นความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสบนไหล่ จับคอเสื้อของเฉินฝานไว้แน่น “เซวียนเอ๋อร์แค่โง่เขลา ท่านอย่าต่อว่าเขาเลย”แม้โอวหยางกว่างเซวียนจะทำร้ายนาง แต่นางยังคงเป็นห่วงว่าเฉินฝานจะแก้แค้นคนนอกเอาแต่พูดว่าภรรยาของเฉินฝานล้วนเป็นมารคลั่งปกป้องสามี แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าเพราะเหตุใดพวกนางถึงปกป้อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1078

    โอวหยางกว่างเซวียนมองโจวหยางชิง แล้วหันหน้ากลับไปมองโอวหยางน่าหลัน สีหน้าดูลำบากใจ“เซวียนเอ๋อร์ เจ้ายังลังเลอะไรอีก? สังหารขุนนางชั่วที่นำภัยมาสู่บ้านเมืองและราษฎรผู้นี้เสีย!”โอวหยางน่าหลันเร่งเร้า โจวหยางชิงก็เร่งเร้าเช่นกัน“ฝ่าบาท พระองค์รีบลงมือเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“แต่ว่า...” โอวหยางกว่างเซวียนทำหน้านิ่ว ดูลำบากใจมากยิ่งขึ้นเสด็จพ่อเคยบอกเขาว่าเขาต้องเชื่อฟังคำพูดของพี่หญิงเขาเองก็ต้องเชื่อฟังคำพูดของท่านอาจารย์ด้วยแต่เพราะเหตุใดพี่หญิงถึงอยากฆ่าท่านอาจารย์ท่านอาจารย์ก็จะให้เขาฆ่าท่านอาจารย์ด้วยเขาไม่กลัวเจ็บเลยหรือไร?หลายวันมานี้ท่านอาจารย์เอาแต่พูดเรื่องความตายกับเขา ท่านอาจารย์บอกว่าตายแล้วก็จะไม่ได้พบคนผู้นั้นอีกตลอดกาลหากท่านอาจารย์ตายแล้ว เช่นนั้นเขาก็จะไม่ได้พบท่านอาจารย์ตลอดไปไม่ใช่หรือ?เขาไม่อยากไม่ได้เจอท่านอาจารย์ตลอดไป“....ขะ ข้ากลัวดาบ!”ในขณะที่โอวหยางน่าหลันกับโจวหยางชิงเร่งเร้าครั้งแล้วครั้งเล่า โอวหยางกว่างเซวียนก็เค้นคำพูดนี้ออกมาด้วยความร้อนรน“เจ้าเป็นฮ่องเต้ ฆ่าคนไยต้องให้เจ้าลงมือเองด้วยเล่า หลีกังหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็อยู่ที่นี่ เจ้า

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status