แพรวาครุ่นคิดตาม ไม่แน่ ฮ่องเต้อาจไม่ไม่เคยรู้เรื่องที่แพรวารู้ก่อน คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด แพรวาต้องลอง ถามความจริงดูสักครั้งและ อาจจะให้อภัยเขาชุดฮั่นฟูสี เหลืองสวยที่ ลี่มี่คัดสรร เพื่อให้ ขับผิวเนียนสีน้ำผึ้งซึ่งบัดนี้ เกือบจะขาวตามแบบฉบับ ของหญิงสาวเมืองหนาว คงเป็นเพราะอากาศที่ เย็นสบาย บางครั้งถึงกับหนาว ทำให้ ใบหน้าคมด้วยรูปหน้าที่ครบเครื่องของแพรวายิ่งน่ามองยิ่งนัก หากแววตาเปี่ยมสุขเหมือนทุกครั้งที่ไม่มีแววตาเป็นกังวลนั้นปะปนอยู่ แพรวาจะนับว่าสวยจน หาใครเทียบเคียงเดินตามทางเดินทอดยาว อากาศสดชื่น.. ใบไม้อ่อนอ่อนเริ่มผลิใบตามกิ่งก้านสีเขียวอ่อน ทำเอารู้สึกสดชื่นได้ไม่ยาก ลี่มี่เดินตามช้าช้า ทั้งคู่ไม่ได้เร่งรีบอะไรจนมาถึงตำหนักใหญ่ของฮ่องเต้ แพรวาเคยเข้าไปภายในแบบไม่ต้องขออนุญาตใครมาแล้วหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นเวลางอนฮ่องเต้ หรือเวลาที่ฮ่องเต้ เรียกหาวันนี้ก็เช่นกันลี่มี่หยุดยืนอยู่หน้าห้องแพรวาผลักประตูเข้าไปเหมือนทุกครั้ง เดินเข้าไปจนถึง แท่นบรรทม ภาพที่เห็น เหมือนกงล้อที่หมุนวนมาอีกครั้งมันวนเวียนซ้ำรอยเดิมหัวใจแพรวาเกือบหยุดเต้นเหมยหลิวอยู่ในชุดชั้นใน แบบจีนโบราณที่มี เพียงผ้าบาง
“มาเถิดมากับข้า เข้าไปนั่งข้างในก่อน” แพรวาเดินตามอย่างว่าง่าย ภายใน บรรยากาศอึมครึม แสงใดใดแทบไม่เล็ดลอดเข้ามา ชา อุ่นบนเตาถูกรินส่งให้แพรวา มือเย็นเฉียบกุมถ้วยชา ไว้ ก่อนจะยกขึ้นจิบ“สถานที่ต้องห้ามสำหรับ คนทั่วไป แต่สำหรับข้ามันที่ที่พักพิงสุดท้าย”น้ำเสียงเศร้าสร้อย แพรวา รู้สึกหดหู่ตาม นางต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหน ดูจากซีรีส์จีน ใครที่ต้องเข้าไปอยู่ในสุสานบรรพชน นี่ถือว่าต้องทรมานทั้งกายใจ“ข้าหย่าจิ้ง แม่นางน้อยมีนามว่าอะไร”“ข้า เฟยลี่ เป็นข้าหลวงหญิงหน้าพระพักตร์ของ ฮ่องเต้”“เจ้าหมายถึง หยางหลง ใช่ไหม” แพรวาพยักหน้า“ข้าอยู่นานไป จนเกือบลืมว่าแผ่นดินแสนสงบนี้ กลายเป็นของหยางหลงไปเสียแล้ว อย่างไรก็ดีหยางหลงผู้นี้ไม่เหมือนพ่อของเขา ที่มักใหญ่ใฝ่สูงเจ้าอยู่ข้างกายเขาคง ปกติสุขไม่น้อย”ดวงตาเศร้าสร้อยทอดยาวไปไกล เหมือนกำลังคุ้นคิดอะไรบางอย่าง แพรวาอยากหาคำพูดปลอบใจมากไปกว่านี้แต่ไม่รู้ว่าจะหาคำพูดไหนมาปลอบใจนาง“ข้าปกติสุขดี....” อยากต่อท้ายด้วยคำว่า ท่านแม่เหลือเกิน“ไหน ไหนก็มาแล้ว อยู่เป็นเพื่อนคุย กับข้าสักพักคงไม่ถือว่าเป็นการรบกวนเจ้า ใช่ไหมแม่นางน้อย” ชาถูกรินเติมลงในถ้วย“ข้
“อย่างนั้นสู้ หลานถวายนางกำนัลสักสองสามคน เพื่อเป็นเพื่อนคุยคลายเหงา”“คนรู้ใจ หาได้ไม่ง่าย ใครจะอยากมาอยู่กับคนแก่ อย่างป้า”แพรวาหลบอยู่ หลังโต๊ะหมู่บูชาที่วางพระพุทธรูปได้ยินทุกคำพูด คิดว่าคงหาโอกาสแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ลืมเรื่องขุ่นเคืองใจชั่วขณะ กระโดดออกมาจากที่ซ่อน“ข้าน้อยเฟยลี่อาสามา รับใช้ท่านป้าเอง ค่ะ”ฮ่องเต้ตาโตด้วยความดีใจ แพรวาสะบัดหน้าไม่มองอย่างไรเสียต้องอนุญาต“ไม่ได้ ไม่ได้ ช้าไม่อนุญาตเจ้าเป็นข้าหลวงหญิงหน้าพระพักตร์ ถ้าเจ้ามา แล้วใครจะ...อยู่รับใช้ข้า”“ฝ่าบาท ใจร้าย ฝ่าบาทไม่มีสิทธิ์มากะเกณฑ์เฟยลี่ ในเมื่อฝ่าบาทก็มีเหมยหลิวทั้งคนก็ให้นางเป็นข้าหลวงหญิง หรือจะแต่งตั้งนางเป็นฮองเฮาก็ไม่น่าจะยาก ส่วนเฟยลี่ขออยู่รับใช้ท่านป้า”ฮ่องเต้อมยิ้ม หย่าจิ้งส่ายหน้ามองคนทั้งคู่สลับกันไปมา“กลับไปกับข้าเถิด เฟยลี่ข้าขอโทษ”แพรวาไม่พูดได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นความผิดแบบนี้จะใช้คำว่าขอโทษได้อย่างไร นี่แหละหนาผู้ชาย สามวันจากนารีเป็นอื่นแต่ผู้ชายแค่เพียงวันเดียวก็เปลี่ยนใจเดินไปยืนเกาะแขน หย่าจิ้งเหมือนต้องการคนช่วย“ฝ่าบาท เมื่อพบคนแล้วก็กลับไปเถิด ส่วนเรื่องที่นางจะกลับไปรับใช้
“แน่เสียยิ่งกว่าแน่ ฮ่องเต้หลายฝ่ายเป็นห่วงเรื่องนี้ สักวันจะเสียทีให้กับคนที่คิดไม่ซื่อรีบแต่งตั้งสนมฮุ่ยเป็นฮองเฮา รีบมีรัชทายาท เมื่อนั้นก็ไม่มีใครทำอะไรฝ่าบาทได้ เมื่อตระกูลใหญ่ทั้งสี่สนับสนุน ฐานะบนบัลลังก์มั่นคงอย่างนั้น”นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นเพราะฮ่องเต้องค์เก่า ที่เหมือนกับหยางหลงเหลือเกินรักความสงบปกครองบ้านเมืองอย่างสงบสุข ไม่รบรากับใครเทิดทูนความรักไม่ยอมมีรัชทายาทกับสนมคนใดรอเพียงให้มีกับหย่าจิ้งคนเดียว ซึ่งนางก็ให้กำเนิดเพียงแค่องค์หญิง สุดท้ายก็ต้องถูก แย่งชิงบัลลังก์จากเซี้ยนตี้ ถอนหายใจอีกครั้งหรือว่าประวัติศาตร์จะซ้ำรอย“ลูกขอเวลาตรึกตรอง ตอนนี้เองฮุ่ยเหนียงก็ยังไม่พ้นมลทินคงต้องรอให้นางพิสูจน์ตัวเองเสียก่อน”“แม่หวังว่าฝ่าบาทจะคิดให้ถ้วนถี่เฟยลี่ฝ่าบาทจะให้นางดำรงตำแหน่งอะไรก็ได้ จะอยู่กับนางทุกคืนก็ได้นางให้ได้แค่ความสำราญ พระทัย แต่เพื่อความมั่นคงของฝ่าบาทต้องเป็นสนมฮุ่ยเท่านั้น”ไทเฮาจากไป ฮ่องเต้หนุ่มอยากจะไปบอกข่าวดีนี้แก่แพรวาเหลือเกิน แต่นึกถึงใบหน้าเย็นชานั้นเล่าจะหายไปหรือยังป่านนี้คงได้ข่าว เรื่องเหมยหลิวที่ เล็ดลอดออกไปแพร่สะพัดไปทั่ว หยางหลงฮ่องเต้
เรามาทำความรู้จักกับ บรรดาผู้ที่เป็นตัวละครของเรื่องนี้กันค่ะฮ่องเต้ (หยางหลง) -ลูกของฮ่องเต้ องค์ก่อนที่ชิงบัลลังก์มาจากพ่อของแพรวา ซึ่งปู่ของแพรวาและฮ่องเต้ เป็นลูกพี่ลูกน้องกันแพรวา -อายุ หกขวบก็ เดินทางข้ามเวลามาที่ไทยโดยการกระโดดลงน้ำพร้อมกับ ฮองเฮาหย่าจิ้งผู้เป็นมารดา และพออายุได้18 ปีก็เดินทางกลับมายังที่เดิมอีกครั้งชินอ๋อง-น้องต่างมารดา ที่แม่เป็นสนมเอกของเซี้ยนตี้ (พ่อของหยางหลงฮ่องเต้) และตาเป็นถึง ขุนนางใหญ่ในราชสำนัก กุมอำนาจทางทหารไว้ทั้งหมด แต่ถูกเลี้ยงดูและ ฟูมฟักโดยไทฮองไทเฮาที่เป็นย่าเพราะชินอ๋องมีความเหมือนปู่ (ซึ่งเป็นปู่ของ หยางหลงฮ่องเต้ด้วย แต่หยางหลงฮ่องเต้ ได้นิสัยรักสงบจิตใจอ่อนโยนมาจากแม่) ชินอ๋องเป็นคนที่คนข้างเด็ดขาด และค่อนข้างโหดตามนิสัยทหาร ถ้าชินอ๋องมีความภักดี หยางหลงจะได้ทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๋เลยที่เดียวโหวหยางจื้อ- น้องชายต่างมารดา ของหยางหลงฮ่องเต้ ซึ่งแม่เป็นสามัญชนเหมือนแม่ของหยางหลง แต่ เป็นที่โปรดปรานของเซี้ยนตี้ถึงกับแต่งตั้งให้เป็นกุ้ยเหริน มีความภักดีต่อพี่ชาย และ มักจะเก่งทางด้านบุ๋น เป็นเหมือนมันสมองของ หยางหลงไทเฮา- ผู้ที่ดำรงตำแหน่งฮองเฮ
“ถาม ถามยังไม่หมด แล้วฝ่าบาททำไมถึง ...รักเหมยเจียง”แพรวาถามไปอย่างนั้นเพราะคิดคำถามไม่ออก ฮ่องเต้เลิกคิ้วสูงคาดไม่ถึงกับคำถามนั้น“เหมยเจียงเป็นสิ่งเดียวหลังจากที่ท่านแม่ตายไปนางเป็นทั้งเพื่อนเล่น และพี่สาวในเวลาเดียวกัน เหมยเจียงเป็นผู้ใหญ่เกินตัวทั้งยังมีจิตใจอ่อนโยนโอบอ้อมอารี”ดีเว่อร์ไปไหมถ้าเทียบกับแพรวา ที่ไม่มีคุณสมบัติที่ว่าเลยตำหนักไทฮองไทเฮา“ย่า ว่าเราคงต้องจัดการทุกอย่าง ให้มันเร็วขึ้นกว่าเดิมเสียแล้ว”ไทฮองไทเฮาใบหน้าเคร่งเครียด ยามที่เปล่งวาจาชินอ๋องก้มหน้านิ่งอย่างใช้ความคิด“เหมยหลิวไม่สามารถดำเนินแผนการให้สำเร็จได้ เพราะไทเฮาที่มาขัดขว้างนาง ช่างมาได้ถูกจังหวะทำให้แผนของเราปั่นป่วนตั้งแต่ครั้งที่แม่ของเจ้าต้องโทษให้ถูกจองจำในตำหนักเย็นก็เป็นไทเฮา”ชินอ๋องตาวาวโรจน์ด้วย อารมณ์คุกรุ่นภายใน เมื่อคำพูดเสียดแทงจิตใจ“หลานยังเตรียมการได้ไม่ดีเท่าที่ควร อยากให้เสด็จย่ารออีกสักระยะให้ทุกอย่างรัดกุมกว่านี้”ไทฮองไทเฮาทำเสียงจิจ๊ะ อย่างขัดใจ“ดอกเหมยจะงามเมื่อถึงเวลาเบ่งบาน เสด็จย่าโปรดรอวันที่หลานจะได้นั่งบัลลังก์”ไทฮองไทเฮายิ้มอย่างสมใจ“ถ้าเป็นเจ้าชินอ๋องหากว่าเซี้ยนตี้
“ข้าน่าจะปล่อยให้ ชินอ๋อง ... บอกเจ้ากี่ครั้งนิสัยดื้อรั้นของเจ้าตำหนักข้าน่าเบื่อมากหรืออย่างไร เจ้าถึงต้องนั่งดื่มอยู่ ในตำหนักชินอ๋อง” แพรวาเม้มปากแน่นรู้ว่าผิดแล้วจะตอกย้ำทำไม สะบัดแขนใจให้หลุดจากการลากถูนั้นแต่เปล่าประโยชน์“แค่อยากออกมาเดินเล่นเท่านั้นพอดีเจอชินอ๋อง จะปฏิเสธอย่างไรเล่าในเมื่อเขาเป็นอนุชาของ ฝ่าบาท”ฮ่องเต้ถอนหายใจ“ในวังหลวงแห่งนี้ เจ้าคิดว่าใครบ้างที่จริงใจกับเจ้าเหมือนข้าต้องรู้จักระวังตน ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจจะพลาดท่าเสียที จำเอาไว้ “แพรวา ทำตาละห้อยสำนึกผิดหากหยางหลงฮ่องเต้มาไม่ทัน จะเกิดอะไรขึ้นแพรวาไม่อาจคาดเดา“ลมหนาวแม้ พัดตามฤดูกาล หากแต่ก็มีช่วงเวลาที่พัดผ่านคนเราหากไม่รอเวลาที่เหมาะสมไหนเลยจะพบกับความสุข เจ้าอดทนรอ อีกสักนิด เมื่อเวลานั้นมาถึงทุกอย่างในวังหลวงแห่งนี้ข้าแบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง จะไปไหนทำอะไรข้าจะไม่หวงห้ามเจ้าเพียงแต่ตอนนี้เรายังไม่อาจคาดเดา หลายคนหลายฝ่ายได้เท่านั้นเอง”แพรวาพยักหน้า เป็นเชิงเข้าใจลี่มี่ประคองชินอ๋องก่อนจะเรียกให้หญิงรับใช้สองสามคนมาดูแล ยืนนิ่งมองด้วยความสงสารจับใจ หันหลังกลับเดินตามหยางหลงฮ่องเต้และแพรวา กลับวังหลวงด้ว
“ไม่จริงเสด็จย่า หลานหวังเพียงแต่นางเพียงผู้เดียว”ไทฮองไทเฮายิ้มเยือกเย็น“เป็นเช่นนั้นเจ้าต้องเร่งมือทำการ ใหญ่ให้สำเร็จเสียก่อนแล้วเฟยลี่ก็คง... ไม่พ้นมือเจ้า”ชินอ๋องจากไป ไทฮองไทเฮาเรียกองครักษ์คนสนิทเข้าพบหมุนแหวนหยกบนนิ้วชี้ไปมายิ้มโหดเหี้ยม“ข้าให้เจ้า สืบเรื่องของข้าหลวงหญิงไปถึงไหนแล้ว ป่านนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดใด”“ขอไทฮองไทเฮาโปรดอภัยข้าน้อยตามสืบเรื่องของข้าหลวงหญิงแต่ไร้ร่องรอยของนาง ไม่เพียงเท่านั้นยังไม่เคยมีใครได้พบเจอนางมาก่อน”ไทฮองไทเฮาตบ โต๊ะดังสนั่น“นางที่มาที่ไปไร้ร่องรอย นางเป็นใครกันแน่”“แต่ที่ประหลาดคือ ทุกทุกเดือนหมอหลวงจะนำยาเทียบหนึ่งมาให้นางเป็นประจำ และนางเองมักจะ มีเรื่องพูดคุยกับหมอหลวงเป็นประจำ”“ฮึฮึ.. อย่างนั้นข้าคงต้อง เรียกตัวหมอหลวงเข้าพบเสียทีดูว่าหมอหลวงเจ้าเล่ห์จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง ที่่บังอาจปิดบังข้าได้”เพียงครู่เดียวหมอหลวงชราก็อยู่ต่อหน้าไทฮองไทเฮา“ข้า จางจื้อเยว่หมอหลวง ถวายพระพรไทฮองไทเฮา อายุยืนหมื่นปีหมื่นปีมีเรื่องอันใดให้ข้าพระองค์รับใช้ข้าพระองค์น้อมรับบัญชา”ยิ้ม ที่เหมือนฉาบทาด้วยยาพิษ“ข้าไม่ใช่คนอ้อมค้อม เพียงแค่อยากรู
คะนิ้งลืมตาตื่นมาบนแท่นนอนหนานุ่ม บรรยากาศน่านอนจนไม่อยากชันกายลุกขึ้น รู้สึกว่าผิวแก้มเย็นเฉียบ ยกมือขึ้นลูบแก้มทั้งที่ยังไม่ลืมตา กลิ่นกำยานกลิ่นแปลกๆ โชยมาเข้าจมูกเป็นระยะๆ รู้สึกหนักบนอกอิ่มเหมือนมีอะไรอุ่นๆ มากดทับขยับตัวลำบาก พรึ่บลืมตาตื่นด้วยความตกใจ“กรี๊ดดดดดด” คะนิ้งส่งเสียงร้องดังลั่นเมื่อเห็นว่ามีผู้ชายมานอนอยู่ข้างกาย ….แต่เดี๋ยวก่อนผู้ชายหรือผู้หญิงวะ ทำไมผมยาว ใบหน้าขาวใส เหมือนผู้หญิง แต่จมูกเชิดหยิ่งน่าดึงเล่น ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงเป็นทอม แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็คงจัดว่าหล่อทีเดียว ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวแน่น ผู้ชายแน่ๆคนที่นอนกอดอยู่สะดุ้งสุดตัว“เอะอะ อะไรของเจ้า” น้ำเสียงงัวเงียแต่ทุ้มนุ่มหูพิลึก“นาย นายเขามาได้ยังงัย”นึกขึ้นได้ที่นี่ไม่ใช่ที่นอนของเธอ แต่เป็นที่ไหน สภาพแปลกไป ผ้าม่านยาวบางที่ล้อมแท่นนอนวงกลมปลิวสะบัด โต๊ะตั่งก็แปลกตา แม้แต่หมอนยังเหมือนกับ….หรือว่า ไม่นะ ไม่ไม่ไม่“เจ้านี่อย่างไรกัน ทำไมต้องเอะอะ” คะนิ้งยกมืออุดปากตัวเองเมื่อรู้ว่าไม่ได้สื่อสารด้วยภาษาไทยแต่เป็น ภาษาจีนที่เรียนมาตั้งแต่อยู่อนุบาล“นอนๆ เจ้าจะรีบตื่นไปไหน” เสียงประตูเปิดออกมา หนุ่มน้อยอีก
หย่าจิ้ง ไทฮองไทเฮาและไทเฮาดื่มชาคารวะจากบ่าวสาวพร้อมเพรียงกัน หยางหลงและแพรวาหันมาสบตากันนิ่งนาน“ต่อแต่นี้สิ่งร้ายๆ ได้ผ่านไปแล้ว ย่าหวังว่าจะมีสิ่งดีๆให้ได้ชื่นใจบ้าง”“เสด็จย่า คอยเวลาอุ้มเหลนตัวน้อยได้แล้ว อีกไม่นานหลานหวังอย่างนั้น”เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน ชินอ๋องเผลอสบตาลี่มี่ด้วยประกายตาลึกซึ้ง ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีต้องขอบคุณเฟยลี่ที่นางทำให้ทุกอย่าง เป็นไปตามที่คาดหวังไว้แพรวาสวมชุดเจ้าสาวสีแดงที่ส่งให้แพรวางดงามอย่างหาที่ติไม่ได้บนศีรษะสวมมงกุฎบ่งบอกฐานะฮองเฮาชัดเจนมือบางลูบคลำราวสะพาน ด้วยความรู้สึกขอบคุณ เบื้องล่างน้ำใสไหลเชื่องช้า ลี่มี่ยืนอยู่ด้านหลังถือเสื้อคลุมอากาศหนาวจับใจแต่ภายในอบอุ่นอย่างประหลาดคำพูดของหมอหลวงที่บอกแพรวาก่อนหน้านั้น“ห้วงเวลาที่แม่นางข้ามผ่านถูกปิดแล้วนับจากนี้ไม่ว่าแม่นางอยากจะจากไปแค่ไหนก็ไม่อาจที่จะไปได้ เพราะทุกอย่างเหมือนถูกสวรรค์ลิขิตไว้แล้วแม้แต่ข้าเองยังไม่สามารถข้ามผ่านไปได้เช่นกัน แม่นางแพรวาได้สาบสูญไปจากภพภูมิของนางเหลือเพียงเยว่ถิงหรือแม่นางเฟยลี่เท่านั้นที่ยังอยู่ที่นี่.ในฐานะฮองเฮา”“ฮองเฮาเพคะอากาศหนาว สวมเสื้อคลุมจะดีก
ภาพความทรงจำที่ผุดขึ้นให้เขาเห็นช้ำแล้วช้ำเล่าเมื่อคราวที่แพรวารับกระบี่แทนเขา มันมิใช่เพียงเพิ่งเกิดขึ้นหากเกิดขึ้นถึงสองครั้งสองครา คราวนั้นเขาไม่สามารถมองเห็นเจ้าของกระบี่ แต่ภาพความทรงจำเด่นชัดคราวนี้เป็นเท้าจางที่ส่งกระบี่คมลงกลางอกของแพรวาหากแต่ดีที่ไม่ถูกจุดสำคัญ อย่างนี้จะให้เขายังมีสิ่งใดที่ต้องสงสัยในตัวของเฟยลี่ได้อีกเป็นเขาที่ติดค้างนาง“ฝ่าบาททรงคิดถึงเฟยลี่ใช่ไหม”ใบหน้าหวานยิ้มยียวน“ไม่เคยคิดถึงหากแต่คิดอยู่เสมอว่าทำอย่างไรจะให้เจ้าฟื้นคืนมาเจรจาเหมือนอย่างนี้ได้”“ฝ่าบาททำอย่างไรกับสนมฮุ่ย”“นางในที่รอดชีวิตจากการช่วยเหลือของเสี่ยวโอ เมื่อคราวหลบหนีออกจากวังยอมให้พูดความจริงเรื่องที่ฮุ่ยเหนียงใช้ยาบำรุงครรภ์จนแท้งแต่กลับโยนความผิดให้เจ้าเฟยลี่ ใต้เท้าจางลงมือสังหารหมอที่นำเข้ามาจากนอกวัง แล้วยังสังหารเหล่านางในนับสิบที่รู้เรื่องนี้ ส่วนนางในคนที่เหลือกำลังจะหาทางหนีดีที่เสี่ยวโอพบเข้าเสียก่อน สนมฮุ่ยข้าให้นางสำนึกผิดในตำหนักเย็นชั่วชีวิตของนาง”แพรวาเลิกคิ้วฟังอย่างตั้งใจรู้สึกสบายกายสบายใจอย่างประหลาดแต่ก็อดที่จะสงสารสนมฮุ่ยไม่ได้เพราะเคยดูซีรีส์จีนตำหนักเย็นโดดเดี่ย
แสงเรืองรองตรงขอบฟ้านั่น แพรวาขยับตัวบิดตัวไปมารู้สึกถึงความวาบหวามจากคนข้างกายพลิกตะแคงกอดร่างใหญ่ข้างๆ มือใหญ่ลูบไล้แก้มเนียน“หายป่วยแล้วสงสัยจะได้ยาดี”“ไออุ่นจากฝ่าบาทนั่นอย่างไรที่ทำให้ข้า จากป่วยไข้ก็กลายเป็นสบายดี”หยางหลงเขย่าหัวเบาๆ ยังไม่ทันได้ชื่นจิตเสียงฝีเท้าหนักๆ ก็ดังเล็ดลอดเข้ามาภายในกระท่อมหยางหลงพลิกตัวแพรวาให้ลงไปนอนด้านข้างเตียง เสียงวิ่งกรูกันเข้ามาบ้างมาจากด้านหน้า และวิ่งมาจากด้านหลังถูกล้อมกรอบถึงเพียงนั้นหยางหลงฉุดแขนแพรวาลุกจากที่ยังนอนอยู่ใช้กระบี่ในมือแหวกเป็นทางเพื่อพาตัวเองและแพรวาฝ่าวงล้อมออกไปใต้เท้าจางและทหารองครักษ์นับสิบยืนดาหน้าในมือมีอาวุธครบครัน“ฝ่าบาท ตามข้าน้อยกลับวังหลวงจะดีกว่า ตอนนี้คนของข้าได้เข้ายึดวังหลวงไว้เสียสิ้นฝ่าบาทออกมาเช่นนี้ข้าเห็นทีต้องเชิญฝ่าบาทกลับไปประทับยังวังหลวงตามเดิม”หยางหลงขมวดคิ้วคิดไม่ถึงว่าใต้เท้าจางจะคิดการใหญ่ถึงเพียงนี้ข่าวเรื่องเขาออกจากวังไม่มีใครรู้แต่ทำไมใต้เท้าจางถึงฉวยโอกาสนี้บุกยึดวังหลวง"เหตุใดท่านถึงคิดการใหญ่ขนาดนี้ในเมื่อท่านก็ได้ทุกอย่างไปหมดแล้วทั้งอำนาจก็มีเสียมากมายมีสิ่งใดที่ท่านต้องการอีก”“ฝ
“ปล่อยข่าวออกไปเรื่องที่ข้าสำเร็จโทษพวกนางนั่นเป็นเพราะพวกนางไม่ดูแลพระสนมที่กำลังทรงครรภ์ให้ดีจึงต้องโทษถึงตาย และต่อไปต้องเป็นคราวของแม่นางเฟยลี่บ้างแล้ว เป็นการกดดันฝ่าบาทไม่ให้ใจอ่อนกับหญิงงามล่มเมืองคนนั้น"“แต่ใต้เท้าฝ่าบาทจะทรงสอบสวน”“ข้าจะนำเหล่าขุนนางทั้งหลายร่วมกันกดดันฝ่าบาทอีกทาง อย่างไรเสียพระสนมต้องไม่มีผู้ใดเทียบเคียงหากเรายังต้องการยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดในแผ่นดินนี้”ใบหน้าเหี้ยมเกรียมแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียดท้องฟ้ามืดไร้ดาราและจันทราส่องแสง นางในนางหนึ่งหอบห่อผ้าที่บรรจุของมีค่าเล็กน้อย วิ่งหลบหลีกเร้นกายตามเงามืดด้วยความรุกลี้รุกรนแต่ดวงตาคมกริบคู่หนึ่งที่จับจ้องความเคลื่อนไหวอยู่ก่อนแล้วกับทะยานขึ้นสู่หลังคาตำหนักวิ่งตามไปทางเดียวกับที่นางเร้นกายทว่าวิชาตัวเบาเยี่ยมยอดจนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าแม้แต่น้อยอีกด้านทหารยามหน้าห้องขังถูกชายลึกลับที่โพกหน้าด้วยผ้าดำสกัดจุด จนหมดสติแล้วก็ลากร่างหนักอึ้งให้ไปนอนแผ่คุดคู้แสนสบายข้างกำแพงห้องขังกุญแจถูกหยิบมาใช้อย่างง่ายดายแพรวานอนขดตัวด้วยความหนาวเหน็บ ชุดนักโทษสีขาวบางเบาไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้ ชายลึกลับไขกุญแจเข้าไปภายในห้องขั
คำแรกที่เห็นหน้าสนมฮุ่ย“ลูกไม่อยากให้โอกาสหลุดลอยไปเราส่งมือสังหารไปฝ่าบาทก็อยู่ที่นั่นปกป้องนาง ครั้งนี้ถือเสียว่ายืมมือฝ่าบาทจัดการกับนางแค่เรื่องปองร้ายพระสนมนางก็ไม่อาจหลุดพ้นโทษประหารแล้วยังจะโทษฐานทำให้ลูกต้องสูญเสียองค์รัชทายาท มีกี่หัวก็ไม่พอให้ตัด”“แล้วเจ้าได้อะไร ได้เพียงให้ตาย ตายจากไปแต่ไม่ช้าไม่นานฝ่าบาทก็จะมีสนมคนอื่นอีกแต่หากเจ้ารั้งที่จะไม่บอกใครเรื่องการสูญเสียองค์รัชทายาทอย่างน้อยข้าก็เตรียมการให้เจ้าแล้วข้าไปเกณฑ์คนที่อายุครรภ์เท่ากับเจ้ามากักไว้เพื่อให้เจ้าได้มีองค์รัชทายาทเป็นแม่ขององค์รัชทายาทและแม่ของแผ่นดิน เจ้ากับทำให้ทุกอย่างพังทลายลงไป”สนมฮุ่ยหน้าเสีย แต่สักพักก็กลับเป็นปกติ“ท่านพ่อ องค์รัชทายาทจะมีเมื่อไหร่ก็ได้ยังคงใช้แผนการของท่านพ่อได้เพียงแต่ลูกแสร้งว่ามีครรภ์แล้วเราก็สรรหาเด็กที่ไหนมาเป็นองค์รัชทายาทก็ได้ แต่โอกาสกำจัดนางนั้นหายากยิ่งตอนนี้ลูกยอมแลกทุกอย่างเพื่อการณ์นี้”“เจ้าอย่างไรก็ทำอะไรไม่หารือพ่อก่อน”“ลูกขออภัยท่านพ่อแต่ลูกเกลียดนาง นางแย่งฝ่าบาทและ แววตาอ่อนโยนของฝ่าบาทไปจากลูก”“ไม่จำเป็นต้องมีความรักความสงสาร มีเพียงอำนาจที่ได้รับเมื่อนั้
แพรวาอดขำไม่ได้“ถ้าอย่างนั้นเราต้องหาทางปกป้องพี่สาว”“ข้าว่าเราแทบไม่ต้องลงแรงตอนนี้ ฝ่าบาททรงมีพระทัยเอนเอียงมาทางแม่นางเฟยลี่เพราะเหตุใดข้าไม่ทราบแน่ชัดหรืออาจเป็นเพราะ สนมฮุ่ยทำการใดไม่รอบคอบจนฝ่าบาทเห็นธาตุแท้ของนางกับตาตนเองด้วยนิสัยของฝ่าบาททรงไม่ชอบการแก่งแย่งและการทำร้ายกันทรงมีความยุติธรรมพอ ไม่เห็นแก่คนผิด”ลี่มี่พยักหน้าหงึกหงัก“อย่างนี้เห็นทีว่าสนมฮุ่ยและใต้เท้าจางต้องหาโอกาสอันดีจัดการกับพี่สาวว่าแต่จะเป็นเรื่องอะไรนะ”แพรวาเริ่มใจคอตุ่มๆต่อมๆ ขึ้นมาบ้างสนมฮุ่ยไม่เหมือนวันวานนางเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดพร้อมทำทุกอย่างเพื่อความรักที่หวังครอบครองเท่านั้นหยางหลงสาวเท้าเร่งรีบไปยังตำหนักฝ่ายซ้าย หากแต่ที่มุมทางเดินสนมฮุ่ยเดินเยื้องย่างด้วยสีหน้าเรียบเฉยยังห้องของแพรวาสวนกันเพียงนิดเดียวแต่หยางหลงไม่อาจมองเห็นนางเนื่องจากมุมกำแพงสูงที่หักมุม ตรงทางเข้าตำหนักพอดีแพรวาอยู่ในห้องเพียงลำพังกับ ลี่มี่สาวใช้สองสามคนเดินเข้ามาในห้องของแพรวาด้วยแววตาประสงค์ร้าย“แม่นางเฟยลี่ พระสนมเรียกหาเจ้า”ลี่มี่คว้ามือแพรวามากำไว้กระซิบเบาๆ“พี่สาวระวังตัวด้วย ข้าน้อยจะไปตามฝ่าบาท”แพรวาพยักห
คราวนี้เองที่เขาสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส จากร้ายกลับกลายเป็นดีมองแขนข้างที่เจ็บของหยางหลงมีมือบางเกาะเกี่ยวอยู่เขาอดถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่ได้ อย่างน้อยก็ตอนนี้ที่หยางหลงไม่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของสนมฮุ่ย“พระสนม ทำไมไม่เรียกหมอหลวงเพคะ”สนมฮุ่ยนอนกุมท้องด้วยความเจ็บปวด“ใครให้เจ้ามาออกความเห็น”สาวใช้หดตัวลงนั่งก้มหน้านิ่ง“อย่างไรเสียเจ้าหมอนั่นก็ไม่อาจให้มันล่วงรู้”“ทำไมเพคะ”“เด็กคนนี้ไม่แข็งแรงพวกเจ้าก็รู้ดี แต่อย่างไรเสียข้าต้องพยายามให้องค์รัชทายาทอยู่กับข้าให้ได้”แววตามุ่งมั่น“พระสนมหมอจากนอกวังเข้ามาต้องผ่านเหล่าขันทีตรวจสอบ และเหล่าองครักษ์เกรงว่าไม่อาจปิดบังฝ่าบาท”“ข้าให้ท่านพ่อจัดการแล้ว ก็แค่ท่านพ่อเป็นห่วงข้าส่งหมอที่ดีที่สุดเข้ามาดูแลข้าเป็นพิเศษก็เท่านั้น”“ท่านหมอมาแล้วเพคะ”หญิงรับใช้ปิดม่านจนทึบ สนมฮุ่ยนอนหงายลงบนแท่นนอน“พระสนมอาการท่านเป็นอย่างไรบ้าง”“ข้ารู้สึกปวดท้องจนไม่อาจทานทนได้”“ข้าน้อยขอตรวจดูชีพจรก่อน”สนมฮุ่ยยื่นแขนออกมานอกม่านกำบัง หมอชราจับชีพจรอย่างคล่องแคล่ว ขมวดคิ้วเข้าหากันใบหน้าเคร่งเครียด“พระอาญาไม่พ้นเกล้า พระสนมข้าน้อยไร้สามารถ”คุก
มือใหญ่เชยคางมนให้สบตา ก้มลงจูบหนักหน่วงที่ริมฝีปากบางอีกครั้ง เขาไม่อาจหักใจหากยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ริมฝีปากอ่อนหนุ่มกลิ่นกายหอม ผิวเนื้ออ่อนละมุน ซุกอยู่กับอกกว้างถอนริมฝีปากออก“เราเคยรักกันมาก่อนใช่ไหม ที่ไหน เมื่อไหร่ บอกข้ามาก่อนที่ข้าจะกลืนกินเจ้าไป”สายตาคาดคั้น“ฝ่าบาทเชื่อเรื่องการเดินทางผ่านกาลเวลาไหม”หยางหลงขมวดคิ้ว“เช่นไร”“ข้ากับท่านเราเคยพบกัน ก่อนที่ข้าจะหายไปจากฝ่าบาทและกลับมาอีกครั้ง”หยางหลงครุ่นคิดภาพที่เขาเห็นนั้นเล่าชัดเจนแจ่มชัดในความทรงจำ เหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้น“เจ้าใช้เวทมนตร์ใช่ไหม”“ไม่ใช่เวทมนตร์แต่มันคือเรื่องประหลาดที่ข้าไม่อาจอธิบายได้ และข้าเองมิได้กำหนดว่าจะมาจะไปตอนไหน สวรรค์เป็นผู้กำหนดเหมือนที่หมอหลวงบอกข้า ข้าเพียงแต่ไปมาตามแต่สวรรค์ต้องการ”“แล้วหมอหลวงทำไมถึงรู้ว่าเจ้าจะมา”“ท่านหมอบอกข้าว่าเขาเองไม่อาจเปิดเผยบัญชาสวรรค์ตัวเขาเองมีหน้าที่เพียง เป็นผู้แจ้งข่าว”ข้างนอกนั่น“ลี่มี่ เจ้าแน่ใจแล้วรึว่าฝ่าบาท ประทับอยู่ในห้องของแม่นางเฟยลี่”เหอหลงเอ่ยปากถาม“ ข้าเห็นมากับตา ฝ่าบาททรงหายเข้าไปในห้องของพี่สาวข้าจึงรีบมาแจ้งข่าวกับท่าน”เหอหลงยิ้มมี