แชร์

บทที่ 89

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
เข็มในมือฟู่จาวหนิง ปักลงไปบนหน้าอกเขาครู่หนึ่ง นางก็เก็บเข็มลงไป ยื่นมือไปกุมมือขวาของเซียวหลันยวน ออกแรงกดลงไปที่จุดชีพจรหลายจุดใกล้ๆ กับง่ามนิ้ว

กลิ่นอายของอ๋องเจวี้ยนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

"ท่านคือพระชายาอ๋องเจวี้ยนหรือ? พระชายารีบประคองอ๋องเจวี้ยนนอนลงช้าๆ เถิด" หมอหลวงเฉินเหลือบมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง ในใจเองก็อดชื่นชมขึ้นมาไม่ได้ ฟู่จาวหนิงคนนี้สวยงามเกินคนจริงๆ

แต่ว่าตอนนี้ในในใจเขามีแต่เรื่องจับชีพจรอ๋องเจวี้ยน

ฟู่จาวหนิงมองออกถึงความดีอกดีใจของหมอหลวงเฉิน พอเห็นว่าเซียวหลันยวนล้มลงไปก็มีโอกาสให้ได้จับชีพจรตรวจอาการป่วยของเขาแล้ว หมอหลวงเฉินเลยดีใจขึ้นมาหรือ?

"ท่านเป็นใคร?" ฟู่จาวหนิงยังไม่ปล่อยมืออ๋องเจวี้ยน มองหมอหลวงเฉินแล้วยิ้มขึ้นมา "ใครบอกเจ้าว่าท่านอ๋องเป็นลมล้มไป? พวกเราสามีภรรยาแค่คุยกันแล้วก็กอดกันเท่านั้น ไม่ได้หรือ? ไปขวางหูขวางตาอะไรเจ้ากัน?"

พรวด!

ขนาดชิงอีก็เกือบจะทนพรวดออกมาไม่ไหว

พระชายาคำพูดนี้มันช่าง

มันดูหน้าด้านเอามากๆ เลยจริงๆ นะ

นางเมื่อครู่ไม่ใช่ว่าเพิ่งปฏิเสธข้อเสนอที่ท่านอ๋องให้แกล้งเป็นสามีภรรยาที่ให้เกียรติกันและกันต่อหน้าคนอื่นหรอกหรือ?

ตอนนี้ก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   ่บทที่ 90

    หมอหลวงเฉินรู้สึกว่าสมองกับตาของตนเองมีปัญหาเสียแล้วสิ่งที่อาจารย์มอบให้เขาก่อนหน้า แทบจะส่งคืนอาจารย์ไปจนหมดแล้วเมื่อครู่ตอนที่เห็นอ๋องเจวี้ยนล้มลงไปเช่นนั้น จะท่าทางการเคลื่อนไหว ดูอย่างไรก็คือสภาพการล้มลงไปเพราะสิ้นสติสัมปชัญญะชัดๆยิ่งไปกว่านั้น ชิงอีกับหญิงสาวคนนั้นก็ยังส่งเสียงตกใจเลยแล้วก็ ตอนที่เขามาก็เห็นอ๋องเจวี้ยนพิงอยู่บนตัวฟู่จาวหนิงตลอด เท้ายังบิดเอียงด้วยซ้ำ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นสภาพที่มีสติแล้วยืนได้อย่างมั่นคง ไม่ถ้าไม่ใช่เป็นลมแล้วจะเป็นอะไรกัน?หมอหลวงเฉินรู้สึกว่าที่องค์จักรพรรดิเลือกเขา ส่งเขามาจวนอ๋องเจวี้ยน แน่นอนว่าเพราะเขาฉลาดมาก พลังการสังเกตแข็งแกร่ง ละเอียดละออ วิชแพทย์เองก็ยอดเยี่ยมที่สุดแต่ตอนนี้เขารู้สึกเริ่มสงสัยชีวิตตนเองขึ้นมาเสียแล้ว"อ๋องเจวี้ยนไม่รู้สึกไม่สบายตรงไหนบ้างจริงหรือ?" หมอหลวงเฉินงัดกับแรงกดดันของอ๋องเจวี้ยน ปลุกความกล้าขึ้นย้อนถาม "ข้าน้อยกังวลต่อสุขภาพของท่านอ๋องจริงๆ ไทเฮาฮองเฮาในวังพวกนางก็ล้วนเชิญให้ข้ามาจับชีพจรให้ท่าน ให้ข้าน้อยตรวจชีพจรให้ท่านอ๋องดีไหม?"ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ยื่นมืออกมา ให้ข้าจับชีพจรเถอะท่านอ๋อง!

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 91

    อ๋องเจวี้ยนตกตะลึงไปครู่ เท้าชะงักไปฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ทำไมกัน? พอได้ยินชื่อปรมาจารย์ฉือเชิน เขาก็เหมือนตกตะลึงไป?"เจ้าเคยได้ยินชื่อปรมาจารย์ฉือเชินไหม?" อ๋องเจวี้ยนถามนางฟู่จาวหนิงส่ายศีรษะ "ไม่เคย""พ่อของเจ้า เป็นศิษย์ฆราวาสของเขา" อ๋องเจวี้ยนพูดประโยคนี้ก็ปล่อยมือนางออก ตนเองสาวเท้าเข้าไปในโถงก่อนบิดานาง? ฟู่จิ้นเชิน?ฟู่จิ้นเชินเคยมีพระอาจารย์ด้วยหรือ?เรื่องเหล่านี้นางก็ไม่รู้เลยจริงๆ ผู้เฒ่าฟู่ไม่ได้พูดอะไรเลย และไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงไม่เคยเอ่ยถึงบิดามารดาของนาง"พระชายา ท่านก็เข้าไปเถิด" ผู้ดูแลทำสัญญาณมือ "ปรมาจารย์ฉือเชินเอ่ยถึงท่านอยู่""ได้เลย"ในเมื่อมาแล้วก็จัดการให้เรียบร้อยแล้วกัน ฟู่จาวหนิงเองก็เดินเข้าไปในโถงมีคนนั่งอยู่หลายคน ข้างกายพวกเขาล้วนมีผู้ติดตาม เพิ่งเข้ามาก็สัมผัสได้ถึงความคึกคัก ฟู่จาวหนิงพอเข้ามา สายตาคนทั้งหมดก็กวาดมาบนตัวนางทันทีถ้าเป็นคนอื่น คงจะรู้สึกถึงแรงกดดันจนก้าวขาไม่ออกไปแล้วแต่ฟู่จาวหนิงแค่ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเดินต่อไปทางเซียวหลันยวน ยืนอยู่ข้างกายเขาสิ่งแรกที่นางเห็นคือพระชราในชุดจีวร คิ้วและขนตาของพระล้วน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 92

    เซียวหลันยวนตอนนี้ก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ"ใครกันแน่ที่บังอาจ?"เขากับฟู่จาวหนิงแม้เป้าหมายที่แต่งงานกันจะไม่บริสุทธิ์ใจ แต่ตอนนี้ฐานะของนางก็คือพระชายาอ๋องเจวี้ยน ยืนอยู่ข้างกายเขาตัวเขาเองไปรังแกนั้นได้อยู่ แต่คนนอกจะมาหน้าใหญ่เช่นนี้ได้ด้วยหรือ?"ที่นี่คือจวนอ๋องเจวี้ยน ข้าเองก็ยืนอยู่ที่นี่ ฮูหยินชรากำลังมาอวดเบ่งบารมีอะไรหรือ?"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงไป มองไปทางเซียวหลันยวนนางคิดไม่ถึง ว่าเขาจะงัดกับฮูหยินชราคนนี้ตรงๆคนที่ไท่ซ่างหวงไหว้วานให้มาส่งของขวัญให้เขา ไม่ใช่ว่าควรจะต้องเคารพนอบน้อมหรือไรกัน?ฮูหยินชราเองก็นิ่งแข็งไป นางไม่อยากจะเชื่อ "อ๋องเจวี้ยน?""ฮูหยินชราก็ยังรู้จักอ๋องเจวี้ยนอย่างข้านี่" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงฟู่จาวหนิงเดินมายังที่นั่งหลักของโถงใหญ่ เข้ามานั่งลงด้วยกันกับเขาอย่างไม่สะทกสะท้าน"ฮูหยินชิงเหตุใดต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กกัน? อามิตตาพุทธ" ปรมาจารย์ฉือเชินพนมสองมือ ก่อนหน้าที่ฮูหยินชิ่งจะเอ่ยปากก็แย่งพูดมาก่อน "โยมน้อยฟู่เองก็ไม่รู้จักพวกเราจริงๆ""เด็กหรือ? นางแต่งงานกับคนอื่นแล้วยังเป็นเด็กอีกหรือ?" ฮูหยินชิ่งร้องเชอะ จากนั้นเลิกหนังตากวาดไปยังฟู่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 93

    ชิงอีหน้าดำเป็นเส้น แต่เขาก็ยังไม่พูดอะไร แต่ยืดหลังตรงยืนอยู่ข้างๆ ไม่มีสีหน้าที่มากเกินไปอีกท่าน่องเดิมทีไม่คิดจะให้หน้าคนเหล่านี้อยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นลูกน้องก็จะทำให้ท่านอ๋องขายหน้าไม่ได้ก็แค่ตระกูลฮู่กับตระกูลชิ่งไม่ใช่หรือ?"อา แต่ข้าไม่เคยได้ยิน" ฟู่จาวหนิงกลับถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น "เป็นตระกูลที่สูงส่งกว่าและมีอำนาจเหนือกว่าราชวงศ์หรือ? ควบคุมอยู่เหนือราชวงศ์?""ไร้สาระ!""อย่าพูดเหลวไหล!"ฮูหยินชิ่งกับนักปราชญ์ชราหน้าเปลี่ยนสีตะคอกเสียงขึ้นพร้อมกันเอาบาปใหญ่ขนาดนี้วางลงมา พวกเขากล้าแบกเสียที่ไหน?ใครจะกล้าพูดว่าควบคุมอยู่เหนือราชวงศ์?นี่มันการก่อกบฎแล้ว?ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก "ในเมื่อไม่ใช่ เช่นนั้นพวกท่านจะมาทำท่าทางราวกับพวกท่านใหญ่โตที่สุดในฟ้าดินนี้ต่อหน้าท่านอ๋องเจวี้ยนทำไมกัน? ถุด"นางยิ้มประชดประชันเดิมทีฮูหยินชิ่งกับนักปราชญ์เฒ่าที่อวดดีเสียเหลือเกินก็ถูกแทงปล่อยลมออกพร้อมกัน"โยมน้อยฟู่ อาตมาฉือเชิน" ปรมาจารย์ฉือเชินยิ้มๆ ยังอยู่ในท่าทีใจดี"ท่านปรมาจารย์ ท่านปรมาจารย์" ฟู่จาวหนิงโบกมือให้อย่างมีไมตรีจิตการปฏิบัติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ยิ่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่94

    ฟู่จาวหนิงคิดๆ จากนั้นก็โยนกล่องไปให้กับชิงอีชิงอีตกใจสะดุ้งโหยง รับเอาไว้แน่น"ข้าออกไปส่งท่านปรมาจารย์แล้วกัน พวกท่านคุยกันไปนะ"ถึงอย่างไรภารกิจของนางก็น่าจะเสร็จสิ้นแล้วกระมัง? ถัดจากนี้เซียวหลันยวนจะไปงัดอย่างไรกับสองคนนั้น นางก็จะไม่ฟังแล้วไม่ว่าท้ายสุดเขาจะได้รับของอะไร ก็ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับนางฟู่จาวหนิงส่งปรมาจารย์ฉือเชินออกมาด้านนอก ใต้ต้นกานพลูในสวนต้นหนึ่ง ปรมาจารย์ฉือเชินยืนนิ่งอยู่ เขามองฟู่จาวหนิง จู่ๆ ก็ยื่นมือออกมา นิ้วมือยังกำลูกประคำไว้ ตบลงไปที่กระหม่อมฟู่จาวหนิงทีหนึ่ง"!"ฟู่จาวหนิงเกือบจะลงมือแล้ว แต่พอประสานกับสายตาใจดีของปรมาจารย์ฉือเชิน นางก็ควบคุมเอาไว้นางยืนอยู่ที่นั่น ยอมให้ปรมาจารย์ฉือเชินตบลงไปที่กระหม่อมถึงสามทีก๊องก๊องก๊องฟู่จาวหนิงราวกับได้ยินเสียงสามเสียงดังขึ้นแว่วๆ ห่างไกล คล้ยกับระฆังโบราณ และดูคล้ายกับทำนองพุทธบางอย่างนางมึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง ลืมไปหมดว่าตนเองอยู่ที่ใด ข้างกายคือใคร เสียงรอบๆ ก็ราวกับสลายหายไปไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เสียงของปรมาจารย์ฉือเชินก็ดังขึ้นมา"โยมน้อย"หลังจากได้ยินเสียงของเขา เบื้องหน้าฟู่จาวหนิงก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 95

    "ในเมื่อไม่หย่ากันแล้วชั่วคราว เช่นนั้นท่านก็ต้องมีชีวิตไว้ก่อน ข้าไม่อยากเพิ่งแต่งงานสามีก็ตาย"ฟู่จาวหนิงคิดเข้าใจแล้ว ตัวตนฐานะพระชายาอ๋องเจวี้ยนนี้มีทั้งคุณและโทษ ในเมื่อตอนนี้หย่าร้างไม่ได้ นางก็ทำให้มั่นคงเสียก่อนแล้วค่อยว่ากันแต่ถ้าหากหลังจากแต่งงานกับพวกเขาไปได้ไม่กี่วันอ๋องเจวี้ยนก็มาตายลง เช่นนั้นทั่วทั้งเมืองหลวงคงได้มีข่าวลือที่ไม่เป็นประโยชน์กับตัวนางมากมายแน่ๆคงมีคนมาพูดว่านางสังหารสามีของเธอแน่ยิ่งไปกว่านั้น องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาจ้องเขม็งที่ตราประทับแคว้นเจากับองครักษ์เงามังกรในมืออ๋องเจวี้ยนตาเป็นมันอย่างเห็นได้ชัด หากเขาตายไป ของเหล่านั้นจะให้ไปอยู่กับองค์จักรพรรดิอย่างราบรื่นไม่ได้ หญิงสาวตัวเล็กอ่อนแอที่แขวนตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนไว้ที่คอ อย่างนางจะต้องเจอกับพายุฝนกระหน่ำแน่นอนดังนั้น ตอนนี้เขาจึงยังตายไม่ได้เด็ดขาดแต่เมื่อครู่เขาเป็นลมเลือดกำเดาไหลแล้ว ตอนนี้ยังตัวเย็นจนเป็นน้ำแข็งอีก ตอนนางจับชีพจรให้เขาก็พบว่าเขาเหยียบเท้าข้างหนึ่งไปที่ประตูยมโลกแล้วเรียบร้อยเซียวหลันยวนถูกนางพูดจนใจตื้อไปหมดไม่อยากแต่งงานใหม่สามีก็มาตาย?แต่ว่าเขาเองก็ทนไม่ไหวแ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 96

    "จินเสวี่ย ไม่รู้ว่าท่านอ๋องช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว ข้ากังวัลเหลือเกิน"หญิงสาวที่พูดหน้าตาสะสวย สวมชุดกระโปรงชมพูม่วงพื้นขาว ท่วงท่าสง่างาม ถ้าบอกว่าเป็นลูกคุณหนูจากบ้านใดบ้านหนึ่งก็ไม่มีคนสงสัยและหญิงสาวใบหน้ากลมที่นั่งอยู่ตรงข้ามนาง มีลักยิ้ม ดวงตามีแววขบขัน มองนางแล้วดูน่าคบหา เพียงแต่คิ้วคู่นั้นดูองอาจไปหน่อย ทำให้ความน่าคบหาของนางเป็นกลางไป ตอนที่นางไม่ยิ้มกลับดูเหมือนโกรธหน่อยๆ เสียด้วยซ้ำแต่แม่นางสองคนนี้ล้วนหน้าตาดีอย่างไม่ต้องสงสัย"ข้าเองก็กังวลท่านอ๋องเหมือนกัน ไม่รู้จากไปตั้งนานหลายปี ผู้ดูแลจงจะดูแลพวกคนใช้ในจวนได้ดีไหม จะปล่อยให้พวกเขาทำงานลวกๆ ไม่ได้ จะดูแลท่านอ๋องไม่ดีเอา""ถ้าไม่ใช่มีคนส่งจดหมายไปแจ้งให้ท่านอ๋องรีบกลับเข้าวังหลวงด่วน ท่านอ๋องคงไม่ทิ้งพวกเราสองคนไว้ ยิ่งไปกว่านั้นที่เร่งเดินทางกลับมา ร่างกายท่านอ๋องจะรับไหวได้อย่างไร""ถูกต้อง ท่านพี่ไป๋ซวง ท่านรู้ไหมว่ใครเขียนจดหมายถึงท่านอ๋อง? ทำไมท่านอ๋องของพวกเราถึงได้เชื่อคนที่เขียนจดหมายนั่น?"สาวใช้สองคนนี้ คือสาวใช้ใหญ่ระดับหนึ่งของจวนอ๋องเจวี้ยน จินเสวี่ยกับไป่ซวงพวกของชิงอีทำงานอย่างซักผ้าปะชุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 97

    รีบขนาดนั้นเลยหรือ?เขายังไม่ทันได้บอกพวกนาง ว่าตอนนี้ในจวนอ๋องมีพระชายาแล้วนะแต่ว่า ผู้ดูแลจงเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร สาวใช้สองคนนี้ติดตามท่านอ๋องมาโดยตลอด น่าจะรู้จักวางตัวนั่นล่ะพวกนางพอกลับมาก็ไม่สนที่จะพักผ่อน รีบร้อนตรงไปรับใช้ท่านอ๋องก่อน นี่ก็เป้นการแสดงออกในการดูแลท่านอ๋องด้วยล่ะนะมิน่าท่านอ๋องจึงพานางทั้งสองไปด้วยกันฟู่จาวหนิงแทบแทงเซียวหลันยวนจนเป็นเม่นไปแล้วนอกจากหน้าอกยังมีแขนทั้งสองขาและที่ขาด้วย"พวกเจ้าไปดูหน่อยว่าชิงเตรียมเสร็จหรือยัง ถ้าเตรียมเสร็จแล้ว ก็เอาเจ็ดส่วนลงจากหม้อเตรียมอาบให้กับเซียวหลันยวน ส่วนอีกสามส่วนนำไปต้มยาสักหนึ่งเค่อแล้วใส่เปลือกส้มหลายแผ่นกับเป้ยหมู่อีกช้อนหนึ่งลงไปด้วย จากนั้นต้มอีกหนึ่งเค่อแล้วพักใส่ชามไว้"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงไม่กล้ามองไปทางอ๋องเจวี้ยนเลยพอได้ยินคำพูดของฟู่จาวหนิงก็รีบรับคำแล้วออกไปทันที แง้มประตูไว้สาวใช้สองคนเพิ่งจะออกไป จินเสวี่ยกับไป๋ซวงก็เข้ามาพอดีองครักษ์ลับที่คอยคุ้มกันเรือนพอเห้นจินเสวี่ยกับไป๋ซวง ก็ไม่ได้ปรากฎตัวออกมาขวางพวกเขาล้วนรู้ว่า สองคนนี้เป็นสาวใช้ที่ท่านอ๋องพาไปไหนมาไหนตลอดจินเสวี่ยกับไป๋ซวงเข้

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1872

    "หมอฟู่ออกมาก่อน ขุนพลโจวของพวกเรามีคำถาม! ทำให้การรักษาผู้ป่วยล่าช้า หมอฟู่แบกรับความรับผิดชอบนี้ไม่ไหวหรอกนะ!"ขุนพลน้อยคนนั้นยังคงตะโกนปาวๆ อยู่ใต้หอเมืองสีหน้าเซียวหลันยวนถมึงทึงไปแล้ว ถ้าไม่ใช่มีหน้ากากบังอยู่ หน้าของเขาตอนนี้คงจะดำยิ่งกว่าท้องฟ้าราตรีเสียอีกฟู่จิ้นเชินเองก็โกรธเหมือนกันเขายืนอยู่ข้างๆ เซียวหลันยวน คิดจะเตือนเขาว่าอย่าออกไปรับมือกับดจวติ้งเจินด้วยตนเอง แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าโจวติ้งเจินจะมีความคิดไปอยู่บนตัวจาวหนิง!ตอนนี้ฟู่จาวหนิงถ้าออกไป โจวติ้งเจินจะปล่อยนางกลับมาได้อย่างไร?พวกเขาคิดแผนของโจวติ้งเจินออกแทบจะทันที"เขาคิดจะควบคุมฟู่จาวหนิงไว้ แล้วเอาจาวหนิงมาคุกคามเจ้า" ฟู่จิ้นเชินทั้งเคืองทั้งโกรธ"ฝันไปเถอะ"เซียวหลันยวนกระโจนลงมาจากหอเมืองราวกับเหยี่ยวโฉบขุนพลน้อยคนนั้นรู้สึกเหมือนมีพลังวูบหนึ่ง เงยหน้าขึ้นอย่างหวาดผวา ยังไม่ทันได้เห็นชัดว่าเป็นใคร ก็ได้ยินเสียงดังพลั่ก ส่วนตนเองถูกเตะลอยออกไปแล้วการลอยนี้ ปลิวไปไกลมาก เหมือนกับลอยตามลม หล่นกระแทกพื้นห่างไปลิบๆจุดที่ตกอยู่ใกล้กับโจวติ้งเจินและเซียวหลันยวนหลังจากถีบคนออกไปแล้ว ก็ร่อนลงมาบนหลั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1871

    "วัตถุดิบยาในการรักษาไม่พอ แต่วัตุดิบยาที่เอาไว้ล้มคน ข้ายังมีอยู่ หลังสกัดให้บริสุทธิ์แล้ว แค่กำมือเดียวก็ล้มคนเป็นร้อยได้"ฟู่จาวหนิงเตรียมทำเรื่องนี้ไว้แล้ว ถ้าหากโจวติ้งเจินจะทำตัวโหดร้ายจริง เช่นนั้นนางก็ไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะมองประสบการณ์ที่จะไม่ลืมไปทั้งชีวิตให้กับเขา!ยาที่สกัดให้บริสุทธิ์ ในคลังสกัดยาของนางมีอยู่"ต่อให้ล้มได้แค่ครึ่งร้อย ก็เพียงพอแล้ว" อันเหนียนในดวงตามีรอยยิ้มใครบอกว่าฟู่จาวหนิงเป็นแต่วิชาแพทย์? ใครบอกว่านางเป็นแค่หมอคนหนึ่ง?ถ้าเป็นแบบนี้ พลังสังหารของนางแค่คนเดียวก็ยิ่งใหญ่มาก"ส่งคนออกไปเตรียม ถ้ามีใครได้ยินข่าวลือ ให้ช่วยปลอบประโลมพวกเขา เมืองเจ้อไม่มีทางส่งพวกเขาออกไป" เซียวหลันยวนเอ่ยกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยว"เข้าใจแล้ว ข้าน้อยจะไปทำเดี๋ยวนี้!"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวมีความมั่นใจขึ้นมากแล้วคุณชายฟู่ดูท้องฟ้าได้ อีกเดี๋ยวฝนจะตก บวกกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนคนเดียวก็สามารถตัดกำลังการรบของทหารนับพันได้ ส่วนโจวติ้งเจินที่แข็งแกร่ง ก็ยังมีอ๋องเจวี้ยนคอยรับอยู่ตรงนี้แล้วอ๋องเจวี้ยนเมื่อครู่บอกไว้แล้ว โจวติ้งเจินไม่ใช่คู่มือของเขาจุดนี้ ผู้บริหารท้องถิ่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1870

    ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวพูดความหมายของโจวติ้งเจินออกมา ฟู่จิ้นเชินก็สูดปาก"เขาคิดจะ..."คิดจะทำอะไรครึ่งหลังไม่พูดออกมา แต่ก็ทำให้ทุกคนฟังเข้าใจฟู่จาวหนิงรู้สึกเหมือนโลกทัศน์ตนเองจะแตกสลายอยู่แล้ว"นั่นมันคนสามพันกว่าคนเลยนะ!"บ้าไปแล้วหรือ?"ก็บ้าไปแล้วจริงๆ เพราะที่นี่ห่างจากเมืองหลวงนิดเดียว แล้วยังมีผู้ประสบภัยมากขนาดนี้ มีปัจจัยไม่ปลอดภัยอยู่มากมาย" อันเหนียนเอ่ยขึ้นถ้าทั้งหมดเป็นประชาชนเมืองเจ้อ ที่นี่ก็ถือว่าเป็นบ้านของพวกเขา ปิดเมืองเอาไว้ ถ้าพวกเขาไม่ออกจากเมืองก็ยังพอว่า แต่ใครให้ตอนนี้เมืองเจ้อรับผู้ประสบภัยนับหมื่นเข้ามากันล่ะ?ถ้าหากปิดเมืองมา ผู้ประสบภัยเหล่านี้จะไม่สงบในจิตใจ พวกเขาไม่มีบ้านอยู่ที่นี่ ถ้าหากไม่มีความรู้สึกร่วมไม่มีอาหาร ควต้องหาวิธีบุกออกจากเมืองแน่ถึงตอนนั้นผู้ประสบภัยที่ป่วยจำนวนมากถ้าทะลักไปทางเมืองหลวง นั่นจะเป็นเรื่องใหญ่ที่เลวร้ายมากฟู่จาวหนิงเองก็คิดถึงจุดนี้ด้วย"รักษาได้แล้ว ข้าเองก็สกัดยาออกมาแล้วด้วย แค่ขอเวลาหน่อยเท่านั้น โรคก็จะรักษาได้"ฟู่จาวหนิงร้อนรนขึ้นมา"จดหมายส่งไปถึงเมืองหลวงแล้ว แต่เกรงว่าจะไม่ทันการ" เซียวหลันยวนคว้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1869

    ทหารห้าพัน ถ้าล้อมโจมตีเขาคนเดียว แค่ยื้อเวลาเขาก็ตายได้แล้วยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกว่าองค์จักรพรรดิน่าจะใช้โอกาสนี้เอาชีวิตเซียวหลันยวนตอนนี้ถ้าเซียวหลันยวนออกไปคนเดียว ก็จะเข้าทางอีกฝ่ายพอดี"หนิงหนิง เจ้ามาทำไมกัน? กลับไปซะ"เซียวหลันยวนพอเห็นฟู่จาวหนิงเข้ามาก็ร้อนรนขึ้นแล้ว เดิมทีเขายังใจเย็นอยู่ แต่พอเห็นฟู่จาวหนิงยืนอยู่บนหอเมือง เขาก็หน้าเปลี่ยนสี"ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไร?"ฟู่จาวหนิงไม่สนใจเขา มองไปที่ใต้หอเมืองโจวติ้งเจินพอเหลือบมองก็เห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏตัวบนหอเมือง เขาหรี่ตาลง "หญิงสาวคนนั้นคือฟู่จาวหนิงพระชายาอ๋องเจวี้ยนหรึอ?"ถ้าจับฟู่จาวหนิงไว้ได้ อ๋องเจวี้ยนจะยอมแพ้หรือเปล่า?ถึงตอนนั้นถ้าล่อเขาไปที่ภูเขา ขณะที่โกลาหล อ๋องเจวี้ยนไม่ระวังสะดุดล้มในกองเพลิง ก็ไม่มีคนช่วยเหลือได้ทัน...ความคิดนี้ก็ไม่เลวอยู่กระมัง?"นั่นน่าจะเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ลือกันว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนกล้าหาญเกินใคร และยังหยิ่งทะนงมากด้วย ใช้วิชาแพทย์อหังการเข้าไปได้ถึงในวัง กระทั่งยังไม่เห็นองค์จักรพรรดิในสายตา หญิงสาวที่ยังกล้าขึ้นมาบนหอเมืองตอนนี้ ต้องเป็นนางแน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1868

    ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวได้ยินคำพูดอันเหนียน ชั่วขณะหนึ่งก็พูดไม่ออกอันที่จริงในใจเขาชัดเจนดี ต่อให้จะไล่คนป่วยในเมืองเจ้อเหล่านี้ออกไปตายข้างนอก พวกเขาที่อยู่ที่นี่ ก็ไม่มีทางกลับไปเมืองหลวงได้เช่นกันต่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ก็ยังต้องให้เมืองเจ้อยังคงอยู่ต่อไปอีกพักหนึ่ง เพื่อยืนยันวาไม่มีโรคระบาดแล้วอันเหนียนอยู่ที่นี่มานาน ต่อให้จะกลับไปได้ องค์จักรพรรดิก็คงหาวิธีไล่เขาออกจากเมืองหลวง แล้วไปหารังที่อื่นให้เขาอยู่จะยอมให้เขาอยู่ในราชสำนักต่อได้อย่างไร? อยู่ใกล้จักรพรรดิขนาดนี้ จักรพรรดิกลัวจะตายพอคิดถึงจุดนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวก็รู้สึกสิ้นหวังขึ้นมา"ศิษย์พี่คิดหาวิธีดีกว่า คนป่วยสามพันคนนั้น จะต้องส่งออกไปจริงไหม"อันเหนียนเห็นสีหน้าท้อแท้สิ้นหวังของผู้บริหารท้องถิ่นโหยว ก็รู้สึกทนไม่ไหวขึ้นมาแต่พวกเขาก็อยู่ในสถานการณ์นี้ด้วยผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกับอันเหนียนหันไปมองเซียวหลันยวนพร้อมกันเซียวหลันยวนมองไปนอกเมืองเงียบๆ โจวติ้งเจินยังคงนั่งอยู่บนหลังม้า มองมาทางนี้อย่างชัดเจนมองกันจากระยะไกล เซียวหลันยวนรู้สึกได้ถึงการประชดประชันของโจวติ้งเจินโจวติ้งเจินเองก็น่าจะก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1867

    อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอยู่ในเมืองเจ้อกับผู้ป่วยเหล่านี้มานานมาก พวกเขาก็ไม่ต้องหวังว่าจะกลับเมืองหลวงได้เลยองค์จักรพรรดิไม่มีทางให้พวกเขากลับไปอ๋องเจวี้ยนจะถูกขังอยู่ในเมืองเจ้อ ต่อให้ไม่ตายก็ต้องขังเขาไว้ให้ตาย"ท่านขุนพลฉลาดยิ่งนัก""ประจบประแจงน้อยๆ หน่อย ไฟกับน้ำมันทางหุบเขานั่นเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง?""เตรียมพร้อมแล้วขอรับ!" ขุนพลน้อยเอ่ยขึ้น มุมปากกระตุกอย่างอดไม่อยู่ พอคิดถึงเรื่องที่จะเกิดหลังจากนี้ เขาก็อดใจสั่นวาบไม่ได้"องค์จักรพรรดิมีราชโองการ ประชาชนที่ติดโรคร้ายพวกนั้นจะปล่อยไว้ไม่ได้ นี่เป็นการคิดเพื่อประชาชนที่มากกว่า เสียสละส่วนน้อยเพื่อปกป้องส่วนมาก นี่จึงจะเป็นจักรพรรดิที่ชาญฉลาด""ขอรับ ฝ่าบาทชาญฉลาดนัก"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกลับมาถึงหอเมือง อันเหนียนเองก็เข้ามาแล้ว"โจวติ้งเจินพูดอะไรบ้าง? คงไม่ใช่เรื่องดีแน่สินะ?" อันเหนียนถามผู้บริหารท้องถิ่นโหยวมือสั่นระริก"เขาจะให้ข้าส่งคนป่วยทั้งหมดออกจากเมืองเจ้อ ไปให้เขาจัดการทิ้ง""เขาจะจัดการอย่างไร"ในใจอันเหนียนรู้สึกไม่ค่อยดี ตอนที่เขามาถึงก็เพิ่งได้เห็นบัญชี มีทั้งหมดสามพันหนึ่งร้อยคนคนมากขนาดนี้ จะจั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1866

    โจวติ้งเจินจ้องมองผู้บริหารท้องถิ่นโหยว สายตากวาดผ่านสือลิ่วสือชีแต่เขาก็ไม่ได้บอกอะไรสือลิ่วสือชี แต่ส่งเสียงเย็นชาออกมาอีก "ผู้บริหารท้องถิ่นโหยว ตอนนี้คนป่วยในเมืองมีเท่าไร? เจ้าในฐานะข้าราชการดูแลเมืองเจ้อ ก็น่าจะมีทำสถิติไว้สิ?"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยว ยังคงหวังลมๆ แล้งๆ อยู่ "ตอนนี้ประชาชนกับผู้ประสบภัยที่ติดโรคระบาดมีแค่สามพันคน...""สามพันคน!"โจวติ้งเจินถามต่อ "นอกจากสามพันคนนี้ ประชาชนที่เหลือไม่ได้ติดโรคจริงหรือ?""ถูกตรวจรักษาไปแล้ว และมีการกักตัวแยกออกจากคนอื่นแล้ว แต่ว่าตอนนี้หมอฟู่ค้นคว้า....""เช่นนั้นตอนนี้ข้าจะแจ้งราชโองการของฝ่าบาท ใต้เท้าโหยว ภายในหนึ่งชั่วยาม จงไล่สามพันคนนั้นไปที่หุบเขา!" โจวติ้งเจินตัดบทเขาอีกครั้งผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใจสั่นกึก"ขุนพลโจว พวกเขาล้วนป่วยกัน จะไล่ไปที่หุบเขาทำไม? ที่นั่นไม่มีกินมีดื่ม แล้วก็ไม่มียา แล้วยังหนาวเย็นอีก...""นี่ไม่ใช่เรื่องที่ใต้เท้าโหยวต้องมากังวล! ใต้เท้าโหยวจัดการมาเกือบเดือน กลับทำให้คนป่วยมีมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ป่วยตายก็มากขึ้นเรื่อยๆ! เจ้าควรจะคิดได้แล้วว่าจะไปรับโทษกับฝ่าบาทอย่างไร! ตอนนี้เอาสามพันคนนั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1865

    สายตาเขาแหลมคม แผ่แสงเย็นวาบ ตอนที่มองคนก็ทำให้รู้สึกว่าเขาชักกระบี่ออกมาสังหารได้ตลอดเวลาว่ากันว่าคนมากมายล้วนหวาดกลัวโจวติ้งเจิน ตอนนี้พอเห็นสภาพเขา ก็ดูจะมีพลังที่ทำให้คนหวาดกลัวอยู่จริงๆผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเดิมทีไม่ได้กลัวโจวติ้งเจินในอดีตแม้พวกเขาจะไม่ลงรอยกันในราชสำนัก ต่างฝ่ายต่างไม่เห็นด้วยกับอีกฝ่าย แต่ก็ไม่ได้มีผลประโยชน์ที่ขัดแย้งอะไรกัน ถึงอย่างไรคนหนึ่งก็บู๊คนหนึ่งก็บุ๋น ห่างกันพอควรแต่ตอนนี้เบื้องหลังของเขา มีประชาชนและครอบครัวของเมืองเจ้อทั้งเมืองผู้บริหารท้องถิ่นโหยวจึงเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาพอควรมีจุดอ่อน ก็จะเกิดความกลัวได้"ขุนพลโจว ท่านนำทหารตั้งมากมายมาเมืองเจ้อด้วยเจตนาอะไร?" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเอ่ยถามขึ้นก่อน"องค์จักรพรรดิรู้ว่าประชาชนเมืองเจ้อติดโรคร้าย ระบาดรุนแรง แพร่กระจายทั่วเมือง ไม่มียารักษา"โจวติ้งเจินเสียงกังวาน ฟังแล้วมีการบีบคั้นเขาจ้องผู้บริหารท้องถิ่นโหยว เอ่ยถามต่อว่า "เรื่องนี้ เป็นจริงหรือไม่? ทำไมเจ้าจึงไม่เขียนรายงานองค์จักรพรรดิทันที""ข้าเขียนหนังสือราชการส่งไปวังหลวงแล้วสี่ครั้ง! ตอนนี้ในเมืองหลวงมีคนป่วยจริง แต่ว่า..."

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1864

    อันเหนียนเองก็โกรธจนเส้นเลือดแทบจะแตกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าองค์จักรพรรดิจะทำแบบนี้!เมืองเจ้อใหญ่ขนาดนี้ คิดจะทอดทิ้งก็ทิ้งเลยรึ!"รีบประคองข้าไปที่หอเมือง" อันเหนียนเองก็ตามไปด้วย เขาจะอยู่แต่ในนี้ไม่ได้เซียวหลันยวนมาถึงบนหอเมืองแล้ว ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรีบเข้ามารับ "ท่านอ๋อง!""สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?""ทหารห้าพันนาย! พวกเขาเข็นปืนใหญ่มาด้วย!" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวโกรธจัดจริงๆเมืองเจ้อส่งส่วยให้ทุกปีไม่เคยขาด ส่งเข้าคลังหลวงตรงเวลามาตลอด ตำแหน่งภูมิศาสตร์นี้ ก็ถือได้ว่าคอยคุ้มกันแทนเมืองหลวงอยู่ ส่งเส้นเลือดชีพจรเข้าไปให้ องค์จักรพรรดิต่อให้ใช้หัวเข่ามาคิด ก็จะทิ้งเมืองเจ้อไม่ได้!ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?เซียวหลันยวนยืนอยู่บนกำแพงเมืองลมพัดหวิว เขามองฝั่งตรงข้ามใต้กำแพงเมือง แม่ทัพที่นั่งอยู่บนหลังม้าอย่างองอาจ"โจวติ้งเจิน"โจวติ้งเจิน เป็นแม่ทัพที่ดุดันคนหนึ่ง แล้วยังเป็นพวกค่อนข้างป่าเถื่อน มนุษยสัมพันธ์ในราชสำนักแย่มาก แต่เพราะเขาจงรักภักดีสุดๆ กับองค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิมีเจตนาไหน ไม่ว่าจะไร้เหตุผลเพียงใด โจวติ้งเจินก็สามารถทำตามราชโองการได้อย่างเคร่งครัดตรงไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status