แต่แผนการตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงการมีตัวตนของกู้เฉิน ตลอดจนถึงจุดอ่อนที่อยู่ในมือของเขา ทําให้หลี่ฮุ่ยหรานต้องเลือกทางที่ขัดต่อความประสงค์ของเธอ เพื่อความปลอดภัยของหลินเฟิง เธอจำเป็นต้องเสียสละตัวเอง“ไม่ต้องดูแล้ว ตอนนี้พี่หลินเฟิงเป็นของฉันเรียบร้อยแล้ว”หลี่ซืออวี่พูดเบา ๆ ข้างหลี่ฮุ่ยหราน เธอเป็นผู้หญิงเหมือนกับหลี่ฮุ่ยหราน ย่อมรู้ความหมายในสายตาของอีกฝ่าย ดังนั้นจึงรีบแสดงความเป็นเจ้าของออกมา“อะไรนะ?”หลี่ฮุ่ยหรานมองหลี่ซืออวี่ด้วยความนิ่งอึ้ง เธอน่าจะเป็นแค่นักศึกษาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอ?แต่งตัวเปลือยโป๋แบบนี้ หน้าตาก็ธรรมดา พึ่งพาการแต่งหน้าทั้งหมด และดูจากคำพูดเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าไม่รู้จักคิดหลินเฟิงจะตกหลุมรักผู้หญิงอย่างเธอได้อย่างไร?ความประหลาดใจในดวงตาของหลี่ฮุ่ยหราน ทำให้ปมด้อยในก้นบึ้งของหัวใจของหลี่ซืออวี่แอบกําเริบขึ้นมาหลี่ฮุ่ยหรานเกิดมาสวยงามธรรมชาติ ท่าทางสง่างาม แม้ว่าช่วงนี้ซูบผอมลงไปไม่น้อย แต่อูฐที่ตายก็ยังใหญ่กว่าม้าหลี่ซืออวี่ก็แค่ผู้หญิงที่รู้จักแต่แต่งตัวแต่กลับไม่มีสมบัติผู้ดีภายใต้ใบหน้าที่สวยงามของหลี่ฮุ่ยหราน มองยังไงก็มองไม่พอด้วยซ้ำแ
หลินเฟิงได้รับสายของเหยาปินที่โทรเข้ามาเสียงปลายสายของเหยาปินที่กำลังหอบแฮ่กๆ แม้แต่แรงจะพูดก็ลดลงไม่น้อย“คุณหลิน เราทำสำเร็จแล้ว โอวหยางชิ่งและโอวหยางป๋อพ่อของเธอ เชื่อคำพูดของผม เชื่อว่าไม่นานคุณจะได้รับข่าวการขายไผ่กลืนทองแน่นอน”“อืม ลำบากคุณแล้ว ว่าแต่ทำไมเสียงหายใจคุณถึงอ่อนแรงแบบนี้ล่ะ?”หลินเฟิงจับโทรศัทพ์ขึ้นมา และถามอย่างแปลกใจ“หึหึ มันเป็นแผนทรมานร่างกายเพื่อให้ข้าศึกไว้ใจนิดหน่อยน่ะครับ ซี้ด...ฝีมือของผู้หญิงคนนั้นชั่วร้ายมาก ซี่โครงของผมหักไปหลายซี่ เกือบตายคามือเธอ” เหยาปิดถึงแม้จะหัวเราะอยู่ แต่หลินเฟิงก็รับรู้ได้ถึงการฝืนหัวเราะของเหยาปิน“คุณมีเวลาก็ไปที่สำนักไป๋เกาแล้วแจ้งชื่อผมได้เลย จะมีคนให้การรักษาคุณอย่างดี”“ครับ”เหยาปินรับปากในทันที แต่หลังจากนั้นเธอก็พูดด้วยความกังวลเล็กน้อยว่า “คุณหลิน ผมอยากเตือนอะไรคุณหน่อย ไอ้เฒ่าปีศาจโอวหยางป๋อนั่นคือปรมาจารย์อันดับต้น ๆ ของลำดับโลก ตอนที่คุณสู้กับเขา คุณต้องระวังเขาให้มาก” “อืม ผมรู้แล้ว”หลินเฟิงวางสายไป แล้วขับรถพาหลี่ซืออวี่กลับไปยังอ่าวเทียนสุ่ยรอหลินเฟิงกลับมายังอ่าวเทียนสุ่ยเขาเห็นชายวัยกลางคนในช
หลี่ซืออวี่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหงื่อเย็นไหลซึมออกมาที่หน้าผากของเธอโรงแรมไป๋ถิงนี่บังเอิญเป็นสถานที่ที่เธอคิดวางแผน เพื่อให้หลินเฟิงเกิดความเข้าใจผิดว่ามีความสัมพันธ์กับเธอ และภายในโรงแรมไป๋ถิงมีกล้องวงจรปิดทั้งทางเดินและในลิฟต์แอบถ่าย?หรือว่าพฤติกรรมของตัวเองในวันนั้น จะมีคนแอบถ่ายเอาไว้ได้?หรือว่าที่คุณหนูตระกูลไป๋คนนี้ต้องการที่จะคุยกับหลินเฟิง เป็นเพราะเรื่องนี้กันนะ ?หากถูกเปิดโปงเข้างั้นก็ไม่ต้องพูดว่าหลินเฟิงจะโกรธมาก สิ่งของที่เขาได้มอบให้เธอก็จะถูกเอากลับคืนทั้งหมด และชีวิตรุ่งโรจน์ที่เธอฝันไว้ก็คงดับสลายไปเช่นกันเมื่อคิดมาถึงตอนนี้ หลี่ซืออวี่รีบฝืนยิ้มแล้วมองไปที่หลินเฟิงพร้อมกับพูดว่า “พี่หลินเฟิงคะ วันนี้ฉันเหนื่อยแล้ว ขอกลับห้องไปพักก่อนนะคะ”“อืม เธอไปเถอะ”เมื่อได้เห็นท่าทีที่ผิดปกติของหลี่ซืออวี่ หลินเฟิงก็เกิดความสงสัยเป็นอย่างมากจริงนั่นแหละในฐานะเทพปรมาจารย์ขั้นเทพ ความสามารถควบคุมตนเองแข็งแกร่งมากหากดื่มเหล้าจนหมดสติจริงๆ เขาจะทำเรื่องมิดีมิร้ายกับหลี่ซืออวี่ได้ยังไง?และในวันต่อมาเขาก็ไม่ได้พบความผิดปกติใดๆในร่างกายของตัวเองจริงๆ แล้วหลินเฟ
แต่หลินเฟิงนิ่งเฉยเหมือนภูเขาในเมื่อสงสัยว่าเธออาจจงใจวางแผนใส่ร้ายตัวเอง หลินเฟิงจะเปิดโอกาสให้เธอได้อย่างไร?“ซืออวี่ ช่วงนี้ผมยุ่งมาก เรื่องชายหญิงยังไม่ขอพิจารณาในตอนนี้”พูดพลาง หลินเฟิงก็นำเสื้อผ้าตัวหนึ่งของเขาคลุมบนร่างของซืออวี่ไว้ จากนั้นผลักเธอออกจากประตู และล็อกประตู“คุณ!”หลี่ซืออวี่ยืนเท้าเปล่าอยู่หน้าประตูของหลินเฟิง เธอกระทืบเท้าด้วยความโกรธแค้นภาพนี้บังเอิญถูกหลินเสวี่ยฮุ่ยที่ตื่นมาตอนกลางคืนเห็นเข้าพอดีเธอเห็นท่าทางของหลี่ซืออวี่แบบนี้ ก็มีความคิดบางอย่างเช้าตรู่ของวันต่อมาหลินเฟิงที่พักผ่อนอย่างเต็มที่ก็ได้ขับรถพาหลี่ซืออวี่ไปที่ตระกูลไป๋เมืองหนานโจวกับเขาหลี่ซืออวี่ดูต่อต้านเล็กน้อย และพูดอ้อน: “พี่หลินเฟิง ไม่อย่างงั้นพี่ไปคนเดียวเถอะ ฉันยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำอยู่……”“ฉันต้องการยืนยันเรื่องหนึ่ง วางใจเถอะ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก”ความเย็นชาของหลินเฟิงทําให้หลี่ซืออวี่ตื่นตระหนกมากขึ้นระหว่างทาง สีหน้าของหลี่ซืออวี่เปลี่ยนไปแย่ลงเรื่อย ๆเมืองหนานโจวไม่ไกลจากเมืองเจียงโจว ใช้เวลาขับรถไปกลับประมาณ 2 ชั่วโมงเมื่อมาถึงคฤหาสน์ของตระกูลไป๋ หลี่ซืออวี
ในใจมีความสงสัยอยู่เล็กน้อย จากนั้นหลินเฟิงเข้าไปในห้องรับแขกไป๋ชิงเฉี่ยนก็รออยู่ที่นี่อยู่ก่อนแล้ว ผมดกดำ ชุดสีขาว โดดเด่นเป็นอย่างมากนอกจากไป๋ชิงเฉี่ยน และยังมีคุณหนูของตระกูลต่งอีกคนก็อยู่ที่นี่ด้วยต่งหลิงอวี้เมื่อเห็นหลินเฟิงเข้ามา ไป๋ชิงเฉี่ยนก็รีบลุกขึ้นทักทาย หลินเฟิงทำตัวสุภาพ และได้มีการสอบถามไป๋ชิงเฉี่ยนว่าช่วงนี้สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง“ขอบคุณคุณหลินที่นึกถึงกันค่ะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ต้องขอบคุณหลินที่ให้การช่วยเหลือ”“อืม”หลินเฟิงพยักหน้า เขารู้ว่าตัวเองพูดเรื่องไร้สาระจริง ๆสุขภาพของไป๋ชิงเฉี่ยนหลินเฟิงนั้นรู้ดีกว่าตัวเธอเองหลังจากการรักษาของหลินเฟิง ไป๋ชิงเฉี่ยนไม่เพียงกำจัดโรคภายใน จนกระทั่งเปิดจุดเทียนจิงโดยบังเอิญ ทำให้การฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยความพยายามเพียงครึ่งเดียว“พี่หลินเฟิงเชี่ยวชาญด้านทักษะทางการแพทย์ด้วยเหรอ?”หลี่ซืออวี่ที่เพิ่งเข้ามาก็เหลือบมองหลินเฟิงด้วยความประหลาดใจไม่นานนัก เธอที่รูปลักษณ์สวยงามเหมือนนางฟ้าบัวขาวของไป๋ชิงเฉี่ยนดึงดูดความสนใจไปครั้งก่อนเป็นเพราะว่าไป๋ชิงเฉี่ยนได้รับบาดเจ็บ ออร่าของเธอเองถูกรบกวนจ
หลินเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาไป๋ชิงเฉี่ยนตกตะลึง: “คุณหลินเฟิง เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะคะ?” “ไม่มีอะไร”หลินเฟิงโบกมือพูดว่า: “ที่คุณพูดว่าโรงบู๊หยินเฉวียน พวกเขาจะเปิดรับลูกศิษย์เมื่อไหร่?”“พรุ่งนี้ตอนเที่ยง”“พรุ่งนี้เหรอ?”หลินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไป๋ชิงเฉี่ยนแอบสังเกตดูสีหน้าของหลินเฟิงอยู่สักพัก เอ่ยปากว่า: “จากที่นี่ ใช้เวลาขับรถไม่ถึงสามสิบนาทีไปยังโรงบู๊หยินเฉวียน ถ้าหากคุณหลินไม่รังเกียจ วันนี้ก็พักที่ตระกูลไป๋ของฉันสักคืน?” “ก็ดี”หลินเฟิงก็ไม่เกรงใจเช่นกันเขามองดูหน้าของไป๋ชิงเฉี่ยนก็รู้ว่าเธอยังมีเรื่องที่อยากจะพูดอีก ดูเหมือนว่าเรื่องต่อไปก็คงเป็นเรื่องของโรงแรมไป๋ถิ่งแล้วในเวลานี้ อยู่ ๆ หลี่ซืออวี่ก็ลุกขึ้นเธอยิ้มอย่างฝืน ๆ พูดว่า: “ดูเหมือนว่าคุณไป๋ต้องการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่ละเอียดอ่อนกับพี่หลินเฟิง งั้นฉันก็เลี่ยงไปก่อนก็ได้ค่ะ”ไป๋ชิงเฉี่ยนเหลือบมองไปที่หลี่ซืออวี่ และไม่ได้หยุดรั้งเธอไว้ไป๋ชิงเฉี่ยนสั่งต่งหลิงอวี้ว่า: “หลิงอวี้ คุณไปเป็นเพื่อนคุณหลี่ซืออวี่เดินเล่นที่สวนดอกไม้เถอะ” “ฉันไม่เอา” ต่งหลิงอวี้ต่อต้านหลี่ซืออวี่อย่างเห็นได้ชัด
กลุ้มใจหลี่ซืออวี่กลุ้มใจอย่างมากเธอเดินเร็วในคฤหาสน์โบราณของตระกูลไป๋ ดอกไม้สดใสที่อยู่ข้างๆ เธอไม่สามารถทําให้อารมณ์ของเธอสงบลงได้แม้แต่น้อย“ไอ้ตระกูลไป๋ที่สมควรตาย! ไอ้เลว!”ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของไป๋ชิงเฉี่ยนยังคงอ้อยอิ่งอยู่ในใจ หลี่ซืออวี่กําหมัดแน่นและด่าทอด้วยเสียงต่ํา: “พวกไอ้สารเลว ทั้งหมดก็แค่อิจฉาตาร้อนที่ฉันมีชีวิตที่ดีขึ้น”“โจวเสี่ยวหางก็เป็นแบบนี้ หลี่ฮุ่ยหรานก็ด้วย ตระกูลไป๋ ก็เป็นแบบนี้!”“ฉันไปหาเรื่องพวกคุณแกเหรอ?!”ยิ่งคิด หลี่ซืออวี่ก็ยิ่งน้อยใจ สุดท้ายก็อดใจไม่ได้ นั่งยอง ๆ กับพื้นปิดหน้าแล้วร้องไห้ออกมา“ฉันแค่อยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ฉันผิดอะไร? พวกแกทำไมทำทุกวิถีทางเพื่อแกล้งฉัน?!”“ฉันทำผิดอะไร?!”หลี่ซืออวี่ยิ่งร้องไห้ก็ยิ่งเสียงดังมากขึ้น ในที่สุดก็ดึงดูดไป๋เจิ้นหัวที่อยู่ด้านข้างในตอนที่ไป๋เจิ้นหัวเห็นหลี่ซืออวี่ครั้งแรก สายตาก็แสดงการดูถูกเหยียดหยามออกมาเล็กน้อยแต่แล้วเขาก็ดูเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้ ตบมือขึ้นมา เผยยิ้มแย้มอย่างพอใจออกมา“คุณชื่อหลี่ซืออวี่ใช่ไหม? เป็นแฟนของคุณหลินเฟิงใช่ไหม?”ไป๋เจิ้นหัวมองหลี่ซืออวี่ด้วยสายตาที่ใจดี
ในไม่นาน ร่างกายของหลี่ซืออวี่ก็สั่น เธอดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ รีบเงยหน้าขึ้นและถามว่า: “ถ้าเกิดออกจากบ้านตระกูลไป๋ล่ะ? ถ้าเกิดออกจากบ้านตระกูลไป๋ คุณไป๋เจิ้นหัว ท่าน……ท่านยังสามารถที่จะปกป้องฉันได้อยู่รึเปล่า?” “เอ่อ…..”ไป๋เจิ้นหัวเสแสร้งลำบากใจ ส่ายหัวไปมาพูดว่า: “ขอโทษคุณหลี่ซืออวี่ ถ้าออกจากตระกูลไป๋ไป เกรงว่าคุณหลินเฟิงก็จะไม่สามารถที่จะเกรงใจพวกเราแล้ว” หลี่ซืออวี่ตกใจหนักมาก ความสบายใจเมื่อกี้ตกลงไปในเหวอีกครั้งทันที“คุณไป๋ ได้โปรดช่วยฉันด้วย ได้โปรดช่วยอธิบายกัยคุณหลินเฟิงให้ฉัน ฉันแค่...... ฉันแค่สับสน ฉันไม่ได้หมายถึงอย่างอื่นเลยจริง ๆ ฉันชอบคุณพี่หลินเฟิง ฉัน……”เห็นผู้หญิงคนนี้โง่แบบนี้ ถูกตัวเองเล่นงานได้ง่ายขนาดนี้ ไป๋เจิ้นหัวดูถูกเธอสุดขั้วในใจของเขา แต่การแสดงสีหน้าก็ไม่สามารถที่จะทำออกมาได้เพราะว่าเขาจะผลประโยชน์จากผู้หญิงคนนี้ ทำแผนการของตัวเองให้สำเร็จ“งั้นอย่างนี้”หลังจากที่เสแสร้งครุ่นคิดอยู่สักพัก ไป๋เจิ้นหัวไปข้างหน้า ใจดีช่วยพยุงหลี่ซืออวี่ขึ้นจากพื้น และแอบกระซิบข้างหูของเธอว่า: “จะให้คุณหลินปล่อยคุณไป เกรงว่าจะไม่มีวิธีแล้ว”“เรื่องราวมาถ
“ไอ้สารเลว แกยังกล้ากลับมาอีกนะ!”ทันทีที่จางกุ้ยหลานเห็นหลี่เหวินเชา สีหน้าก็เปลี่ยนไป ก่อนที่จะเริ่มด่าทอหลี่เหวินเชาทำเธอเจ็บปวดอย่างมากสุดท้ายหากไม่ใช่หลินเฟิงที่เป็นคนโดนโกง แล้วเอาที่ดินที่ขายไม่ออกตรงนั้นไปเธอก็คงจะเดือดร้อนมากแน่ ๆไม่เพียงแค่สูญเสียวิลล่าหรูหราเท่านั้น ถึงขั้นที่ถูกคนไล่ล่าอีกด้วยจุดจบแบบนั้น แค่คิดก็ทำให้จางกุ้ยหลานสั่นไปทั้งตัวเมื่อเห็นตัวการสำคัญคนนี้ จางกุ้ยหลานก็ไม่สามารถระงับความโกรธในใจได้อีกต่อไป ก่อนจะชี้ไปที่หน้าของหลี่เหวินเชาและด่าทอเสียงดัง“ไอ้สารเลวน่ารังเกียจ แกต้องการจะฆ่าแม่ของแกให้ตาย! แล้วตอนนี้แกยังกล้าโผล่หน้ามาเจอฉันอีกเหรอ?!”“แม่ แม่ก็พูดเกินไป”หลี่เหวินเชาเกาหัว ก่อนจะยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน สุดท้ายก็วางดอกไม้ที่พามาด้วยไว้บนโต๊ะที่อยู่ด้านข้างจางกุ้ยหลานแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจางกุ้ยหลานจะไม่ซาบซึ้งเลยแม้แต่น้อยก่อนจะปัดช่อดอกไม้ร่วงตกไปอยู่บนพื้น“แกออกไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก ฉันไม่มีลูกชายสารเลวที่หลอกได้แม้กระทั่งแม่อย่างแก!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของหลี่เหวินเชาก็เปลี่ยนไปแต่เมื่อเขาคิดถึงราคาที่ดินตรงนั้น
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหลี่เหวินเชาต้องการที่จะเลี่ยงความรับผิดชอบชายที่ถูกเรียกว่ารองประธานโจวก็ลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะเดินไปข้าง ๆหลี่เหวินเชา แล้วจับคอเสื้อของเขา พร้เอมกับด่าทอว่า :“แล้วมันไม่ใช่ความคิดของไอ้สารเลวอย่างแกเหรอ? ที่บอกว่าเอาที่ดินตรงนี้ ไปหลอกเอาเงินแม่ของแกเพื่อมาใช้หนี้พนัน.....”“แม่งเอ๊ย ตอนนี้กลับเป็นคนในครอบครัวของแกได้เปรียบไป”รองประธานโจวโยนหลี่เหวินเชาลงบนโซฟาแล้วตะโกนใส่ว่า :“ฉันจะให้เวลาแกสามวันไปคิดหาทางซื้อที่ดินตรงนี้คืนจากกลับมาให้ฉัน หากซื้อคืนกลับมาไม่ได้ นายก็รอถูกตัดหัวได้เลย!”หลังจากที่พูดคำนี้จบ ประธานโจวก็ทุบโต๊ะ“รปภ.!”ทันใดนั้น ประตูบานคู่ของสำนักงานก็เปิดออก ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่ดูแข็งแกร่งและสูงสองเมตรจะเดินเข้ามา“จับมันโยนออกไป!”รองประธานโจวชี้ไปที่หลี่เหวินเชา พร้อมกับตะโกนขึ้น“ครับ รองประธานโจว”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนหิ้วปีกหลี่เหวินเชาออกไปจากบริษัทราวกับจับลูกไก่ แล้วไปโยนทิ้งไว้บนถนนเหมือนกับสุนัขที่ตายแล้วตัวหนึ่ง“พวกแก....พวกแกจะเกินไปแล้วนะ!”หลี่เหวินเชาลุกขึ้นจากพื้น พร้อมกับป
เขาอุ้มหลินเสวี่ยฮุ่ยออกมาจากในอ่างอาบน้ำ วางลงบนเตียงก็อยากจะออกจากห้องของเธอไปทั้งแบบนี้แต่เห็นท่าทางหลับสนิทของหลินเสวี่ยฮุ่ย และผมกับร่างกายที่เปียกชุ่ม หลินเฟิงก็อดไม่ได้หากจะเดินจากไปโดยตรงถ้าหลับต่อไปแบบนี้ ต้องไม่สบายแน่นอนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลินเฟิงถึงได้ทำการตัดสินใจยังไงเธอก็หลับแล้ว ไม่รู้อะไรทั้งนั้นหลินเฟิงค้นหาเสื้อผ้าของหลินเสวี่ยฮุ่ยในตู้เสื้อผ้า และใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดร่างกายให้เธอสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นชุดแนบเนื้อที่สะอาดสะอ้านระหว่างนี้ หลินเฟิงถึงแม้จะพยายามเต็มที่แล้ว แต่สิ่งที่ควรดูไม่ควรดูเขาก็ดูจนหมดแล้วเขารู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างมาก แต่โชคดีที่สุดท้ายก็เปลี่ยนเสร็จหลินเฟิงถอนหายใจยาวๆ ออกจากห้องของหลินเสวี่ยฮุ่ยเหมือนหนีตาย......หลินเฟิงไม่กล้าอยู่ต่อนานนักเขากลัวว่าหลังจากหลินเสวี่ยฮุ่ยตื่นขึ้นมา เมื่อนึกถึงบรรยากาศกระอักกระอ่วนระหว่างทั้งสองคน ดังนั้นจึงรีบขับรถออกจากเมืองเจียงโจวในคืนเดียวกันวันต่อมาเขาปรากฏตัวที่เมืองเจิ้งเต๋อ มารายงานตัวที่หลี่ซื่อกรุ๊ปตรงเวลาในฐานะหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป งานของหลินเฟิงพูดได้ว
“เธอถูกพิษ อดทนหน่อย กลับไปฉันจะถอนพิษให้เธอ”หลินเฟิงกัดฟัน อดกลั้นกับร่างกายหญิงสาวที่อ่อนนุ่ม ตั้งสมาธิทั้งหมดไปที่บนถนนที่อยู่นอกรถ“อื้อ...อืม”หลินเสวี่ยฮุ่ยครวญคราง แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างเชื่อฟังกว่าจะกลับมาถึงอ่าวเทียนสุ่ยได้หลินเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง อุ้มหลินเสวี่ยฮุ่ยเข้าไปในห้องของเธอโดยตรง โชคดีที่ตอนนี้ในคฤหาสน์ไม่มีคนพอดีจ้าวเฉียวอวิ๋นก็กำลังยุ่งอยู่ที่ในร้าน ไม่ได้กลับมาส่วนอิ่นนั่วเจียกับพวกอวี๋จื่อเสวียนออกจากมหาวิทยาลัยไปที่บริษัท หลังจากเสร็จสิ้นงานรับปริญญาของพวกเธอตอนนี้ก็ยังไม่กลับมานี่เป็นโอกาสดีที่หาได้ยากมาก...เพิ่งคิดถึงตรงนี้ หลินเฟิงก็เกือบจะทนไม่ไหวจนตบหน้าตัวเอง โอกาสดีที่หาได้ยากอะไรกัน?หลินเฟิงฝืนยิ้มออกมา ภายในห้องรับน้ำอาบอ่างใหญ่ ละลายยาแก้พิษ และใช้พลังชี่แท้เร่งให้ออกฤทธิ์ไม่นานนัก น้ำในอ่างอาบน้ำนี้ก็ส่งกลิ่นยาออกมา“เอาล่ะเสวี่ยฮุ่ย ตอนนี้เธอ...”หลินเฟิงเพิ่งหันหน้าไป ก็เห็นหลินเสวี่ยฮุ่ยในตอนนี้แต่งตัวเย็นสบายอย่างมาก สวมแค่เพียงชุดชั้นใน เห็นสายตาตะลึงงันของหลินเฟิง เธอก็ยิ้มซื่อๆ เหมือนกับดื่มเหล้าเมาและพูดว่า:“ร้อนมาก ฉั
“พี่หลินเฟิง...”ในตอนนี้เอง หลินเสวี่ยฮุ่ยเดินโซเซเข้ามาที่ด้านข้างของหลินเฟิง และหายใจหอบพูดขอร้องว่า:“พี่หลินเฟิง ไม่เอา...อย่าวู่วามนะ ถ้าหากฆ่าเขา...พี่ก็จะเดือดร้อน!”“พี่หลินเฟิง อย่าวู่วามเด็ดขาด อย่า...”หลินเสวี่ยฮุ่ยจับแขนของหลินเฟิงไว้ พูดขอความเมตตาได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆๆ ก็หลับตาลง และหมดสติล้มไปบนพื้น“เสวี่ยฮุ่ย!”หลินเฟิงเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ยหมดสติ จึงไม่สนใจเจียงปินอีกต่อไปเขารีบผลักเจียงปินไปที่ด้านข้าง ประคองหลินเสวี่ยฮุ่ยขึ้นมา และหลับตาลงตรวจภายในร่างกายของหลินเสวี่ยฮุ่ยไม่นานนัก หลินเฟิงก็พบว่าภายในร่างกายของหลินเสวี่ยฮุ่ยมีไฟหยินกลุ่มหนึ่งที่ยิ่งอยู่ยิ่งโหมกระหน่ำสำหรับอาการแบบนี้ หลินเฟิงงงงวยเล็กน้อย แต่ไม่นานนัก จู่ๆ เขาก็นึกถึงเหล้าที่เจียงปินฝืนกรอกปากให้หลินเสวี่ยฮุ่ยในเหล้านั้น คงจะผสมยาที่กระตุ้นอารมณ์บางอย่าง เพิ่มไฟหยินขึ้นมา“ไอ้สารเลว!”หลินเฟิงจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าเจียงปินคิดอะไรอยู่เขาจึงโกรธขึ้นมาฉับพลัน แต่ติดตรงที่ตรงนี้อยู่ภายใต้สายตาของทุกคน ไม่สามารถถอนพิษให้เสวี่ยฮุ่ยที่ตรงนี้ได้ ดังนั้นทำได้เพียงไว้ชีวิตเจียงปินก่อนชั่วคราว
“ส่วบ!”หลินเฟิงยกมีดสปาต้าขึ้น ฟันลงอย่างแรงแต่หยุดลงบนหน้าผากของอันธพาลที่มุ่งหน้าเข้ามาด้วยความแม่นยำ ส่วนอันธพาลคนนัเนในตอนนี้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ที่เท้ายังมีของเหลวที่เหม็นสาบไหลลงมา“ไสหัวไป!”หลินเฟิงเหลือบมองซ้ายขวา ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ถ้าหากทำการฆ่าฟันต่อหน้าเหล่านักศึกษา เกรงว่าจะทิ้งความทรงจำที่เลวร้ายเอาไว้ให้พวกเขาดังนั้นหลินเฟิงจึงหยุดลงมือได้ทันเวลาและเมื่อเห็นภาพนี้ อันธพาลที่อยู่รอบๆ ก็รู้แล้วว่า หลินเฟิงเป็นผู้ฝึกฝน ถึงขั้นที่ยังเป็นนักบู๊พวกเขาที่เป็นเพียงแค่คนชั้นต่ำเหล่านี้ จึงไม่สามารถสร้างอันตรายใดๆ ให้กับหลินเฟิงได้กลับกันพวกเขาอาจจะกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิตอีกด้วยคิดถึงตรงนี้ พวกอันธพาลที่เจียงปินใช้เงินจ้างมาก็หันหลังหนีเตลิด ไม่สนใจเสียงร้องตะโกนแหบแห้งของเจียงปิน“ไอ้เวร อย่าหนีนะ!”“เอาเงินของฉันไป แต่ละคนต่างเป็นเหมือนกับคนปอดแหก!”“อย่าหนี! ลุยเข้าไปให้ฉัน!”เจียงปินจับอันธพาลที่วิ่งหนีได้คนหนึ่ง ดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้สุดแรง ไม่ให้เขาหนีไปแต่อันธพาลเห็นหลินเฟิงเดินมาทางเขา สีหน้าก็เปลี่ยนไปดุดันทันที“ฉันสู้เขาไม่ได้ ยังจะสู้แก
“พี่หลินเฟิง ไม่..ไม่ต้องสนใจฉัน พี่รีบหนีเร็ว!”หลินเสวี่ยฮุ่ยที่ยังคงมีสติอยู่ และเมื่อเผชิญหน้ากับอันธพาลที่ดุร้ายสี่สิบห้าสิบคน เธอก็รู้สึกว่าหลินเฟิงอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาขณะดิ้นรน ก็ตะโกนไปทางหลินเฟิง“เสวี่ยฮุ่ย.....”คิ้วของหลินเฟิงผ่อนคลายลง จากนั้นก็กำหมัดแน่น“หึ หลินเฟิง ทั้งหมดมันเป็นเพราะนาย ไอ้สารเลว วันนี้ทำให้ฉันต้องเสียหน้า ไม่ต้องห่วง หลังจากที่ฉันจัดการกับนายแล้ว ฉันก็จะปรนนิบัติสาวของแกเป็นอย่างดีเลย”เจียงปินดึงผมของหลินเสวี่ยฮุ่ย ก่อนจะเอาหน้าไปเข้าใกล้กับหลินเสวี่ยฮุ่ย แล้วสูดดม พูดอย่างเคลิบเคลิ้มว่า :“เป็นอย่างที่คิดไว้ สาวงามประเทศมังกรแตกต่างจากสาวต่างประเทศพวกนั้น ไม่เพียงไม่เหม็นสาบ แต่ยังมีกลิ่นที่หอมอีกด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊ หลินเฟิง นายมีน้องสาวที่ดี จริง ๆเลย ฮ่าฮ่าฮ่า....”เจียงปินหัวเราะเสียงดังลั่นหลินเสวี่ยฮุ่ยที่ถูกดึงผมเอาไว้รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากจนน้ำตาไหลนองหน้า แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ เธอก็ยังคงดิ้นรนต่อไป“พี่หลินเฟิง พี่รีบหนีไปเร็ว!”“ขอโทษ ฉันไม่ควรเรียกพี่มาเลย พี่หลินเฟิง พี่หนีไปเร็ว.....”“เฮ้อ....”หลังจากได้ยินคำพูดของเส
“ยังมีใครดีเลิศกว่าคุณอีก?”โจวเสี่ยวหางยกคิ้วขึ้น และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะพร้อมกับเอ่ยว่า :“คุณหลิน คุณนี่น่าสนใจจริง ๆ คุณเก่งเรื่องการให้ความหวังยิ่งกว่าประธานในบริษัทเหล่านั้นอีกนะ”“ดีกว่าคุณ....พูดได้น่าฟัง บนโลกนี้ยังจะมีอีกสักกี่คนที่เก่งกว่าคุณบ้าง?”“แค่กแค่ก นักศึกษาโจวเสี่ยวหางชมกันเกินไป จริง ๆแล้วผมก็เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ที่แต่งงานไปอยู่บ้านภรรยา แล้วถูกเขาไล่ออกมา”หลินเฟิงแตะที่จมูก พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า :“คนที่เก่งกว่าผมมีอีกตั้งมากมาย”“เอาล่ะ ไม่ล้อเล่นกับคุณแล้ว”โจวเสี่ยวหางพูดขึ้นน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังว่า :“เกี่ยวกับเสวี่ยฮุ่ย ฉันได้ถามลองเชิงเธอแล้ว และเธอก็ชอบคุณจริง ๆ”“คุณหลิน ถ้าหวังดีกับเสวี่ยฮุ่ย วันนี้คุณไม่ควรจะมาปรากฏตัวเลย และยิ่งไม่ควรทำตัวโดดเด่นขนาดนี้ต่อหน้าเธอด้วย”“ในเมื่อคุณทำถึงขนาดนี้แล้ว งั้นก็ต้องรับผิดชอบเธอด้วย”“เข้าใจหรือเปล่า? คุณหลิน?”โจวเสี่ยวหางพูดจริงจังอย่างมาก ก่อนจะจ้องมองไปที่หลินเฟิงหลินเฟิงรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย น้องสาวคนนี้อายุน้อยกว่าเขามาก แถมอาจารย์ก็ยังมอบความไว้วางใจให้เขาดู
เห็นได้ชัดว่าหลินเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกเสียใจอยู่เล็กน้อย แต่ก็ทำได้เพียงปล่อยหลินเฟิง แล้วเดินลงจากเวทีไปอย่างไม่เต็มใจ“คุณหลิน บอกฉันหน่อย คุณคิดยังไงกับหลินเสวี่ยฮุ่ย?”โจวเสี่ยวหางรับใบปริญญา พร้อมกับเอ่ยถามเสียงต่ำว่า :“เสวี่ยฮุ่ย? เธอเป็นน้องสาวของผม เป็นคนที่อาจารย์ของผมฝากฝังให้ดูแลไปตลอดชีวิต”หลินเฟิงยิ้มเบา ๆอย่างสงบเสงี่ยมแล้วพูดขึ้นว่า :“อืม ฉันเข้าใจแล้ว”โจวเสี่ยวหางพยักหน้า ก่อนจะโค้งคำนับหลินเฟิง แล้วเดินออกจากเวทีไปพร้อมกับใบปริญญาเมื่อมองไปที่ร่างของโจวเสี่ยวหาง หลินเฟิงก็เหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างเห็นได้ชัดว่าเด็กสาวคนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเพื่อน ๆหลังจากมอบใบปริญญาเสร็จแล้วก็เป็นการแสดงทางศิลปวรรณคดีอิ่นนั่วเจียขึ้นนำไปบนเวทีเพื่อแสดงเรียกน้ำย่อยก่อน แล้วร้องเพลงให้ครูและนักเรียนทุกคนฟัง ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตกตะลึง และทำได้แค่เพียงพูดว่าสมแล้วที่เป็นซูเปอร์สตาร์ของประเทศมังกร ไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ด้านการแสดงเท่านั้น แต่น้ำเสียงก็ยังยอดเยี่ยมอีกด้วยหลังจากที่อิ่นนั่วเจียลงจากเวทีไปก็มีคนที่ไม่คาดฝันปรากฏตัวขึ้น“ฮ่าฮ่า ศาสตราจารย์หลิน คิดไม่ถึงเ