แชร์

บทที่ 767

ผู้เขียน: ไห่ตงชิง
ชนเผ่าเร่ร่อนในทุ่งหญ้ามักนับถือสัญลักษณ์ของหมาป่า ต่างจากชาวฮั่นแห่งแผ่นดินต้าฉินที่ยึดถือมังกรเป็นเครื่องหมาย

การเคารพหมาป่าในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำให้พวกเขาเชิดชูพลังอำนาจ และเชื่อมั่นในหลักการที่ว่า ผู้แข็งแกร่งย่อมอยู่รอด ส่วนผู้ที่อ่อนแอก็ต้องถูกกลืนกิน

คำพูดของหลี่เฉินที่เพิ่งกล่าวออกไป จึงมีความหมายแฝงสองนัย เหล่าคนแคว้นเหลียวที่อยู่ในที่นั้น แม้จะรู้สึกไม่พอใจและอึดอัดใจเพียงใด ก็ไม่อาจหาคำมาคัดค้านได้

เย่ลู่กู่จ้านฉีที่ยืนอยู่มุมหนึ่งของพระที่นั่งไท่เหอ มองเย่ลู่เสินเสวียนด้วยดวงตาที่แดงก่ำด้วยความตื่นเต้น

องค์รัชทายาท ท่านเห็นหรือยัง นี่แหละคือองค์รัชทายาทแห่งต้าฉิน ปากคมเสียยิ่งกว่าคมหอกคมดาบ สามารถปลุกคนตายให้ลุกขึ้นมาโกรธได้เลยทีเดียว ท่านต้องระวังตัว อย่าตกหลุมพรางของเขาเด็ดขาด

เย่ลู่เสินเสวียนยิ้มเล็กน้อย ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยังคงสง่างาม "ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทแห่งต้าฉินจะไม่ต้อนรับพวกเราเลยนะ"

"จริงอย่างว่า"

หลี่เฉินกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ต้าฉินและแคว้นเหลียวเป็นศัตรูกันมานานนับศตวรรษ ศพผู้คนที่ตายจากความขัดแย้งของสองแคว้น หากนำมาต่อกันคงทอดยาวจากพระราชวั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 768

    เมื่อกล่องผ้าดำถูกเปิดออก สิ่งที่ปรากฏอยู่ภายในคือศีรษะมนุษย์ที่เน่าเปื่อยจนแทบดูไม่ได้!ศีรษะนั้นถูกปกคลุมด้วยเลือดดำคล้ำที่แห้งกรัง บาดแผลลึกตัดขวางไปทั่วใบหน้าจนดูเหมือนหัวหมูที่ถูกสับด้วยมีด ความเน่าเปื่อยทำให้เนื้อหนังผุพัง ผมพันกันยุ่งเหยิง และระหว่างเนื้อที่เน่าผุยังมีหนอนสีขาวเล็กๆ ไต่ยั้วเยี้ยไปมาภาพนั้นทำให้แม้แต่แม่ทัพผู้ชินชากับการฆ่าฟันยังรู้สึกขนลุกฮาเลยต้าลี่ที่เป็นคนถือกล่องถึงกับสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นสิ่งนั้นเป็นคนแรกหลังจากตกตะลึง เขาก็โกรธจัด เงยหน้าขึ้นตะโกนใส่หลี่เฉินด้วยความเดือดดาล "เจ้ากล้าลอบสังหารองค์รัชทายาทของพวกเราอย่างนั้นหรือ!?"หลี่เฉินยังคงสีหน้าราบเรียบ พลางเอ่ยคำสั่งสั้นๆ "ตบปาก"เพียะ!เพียะ! เพียะ!เสียงฝ่ามือตบดังขึ้นสามครั้งติดเป็นซานเป่าที่เข้าไปตบฮาเลยต้าลี่ด้วยฝ่ามือทั้งสองข้างจนเกิดเสียงดังชัดเจนแม้รูปร่างของซานเป่าจะเล็กและผอมกว่า แต่ฮาเลยต้าลี่ที่ดูราวกับหมีสีน้ำตาลกลับไม่อาจสู้เขาได้เลยแม้แต่จะตั้งตัวฮาเลยต้าลี่ยังไม่อาจทำได้ อย่าว่าแต่ต่อต้านเลย ใบหน้าของเขาจึงถูกซานเป่าตบเข้าที่หน้าเต็มๆ ถึงสามครั้งโดยไม่สามารถตอบโต้ได้แม้แต

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 769

    สำหรับเย่ลู่เสินเสวียน การสูญเสียบุตรชายไปหนึ่งคนไม่ใช่เรื่องใหญ่เขาเป็นบุรุษที่มีหญิงล้อมหน้าล้อมหลัง หากร่างกายยังแข็งแรง บุตรหลานย่อมไม่ใช่สิ่งที่ขาดแคลนแม้ว่าเขาจะชื่นชอบเย่ลู่ฉีหมิง แต่ก็ไม่ถือสาอะไรนัก ลูกๆ ที่คอยเอาใจเขามีอยู่มากมาย และเขาก็สามารถสร้างทายาทใหม่ขึ้นมาได้ทุกเมื่อ เพราะตัวเขายังหนุ่มแน่นแต่สิ่งที่เขาไม่อาจยอมรับได้ คือการที่บุตรชายของเขาถูกองค์รัชทายาทแห่งต้าฉินสังหาร แล้วส่งหัวเน่าเปื่อยมาทิ้งไว้ต่อหน้าเขานั่นเท่ากับว่า หลี่เฉินเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขาอย่างจงใจแม้เย่ลู่เสินเสวียนจะไม่พูดอะไรออกมา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครกล้าเอ่ยแทนเขาเย่ลู่กู่จ้านฉีโกรธจัดจนกระโดดขึ้นมาพูดทันที "เจ้าโกหก! ข้ายืนยันตัวตนของเย่ลู่ฉีหมิงแล้ว เขาไม่ได้แอบอ้างเป็นใครทั้งนั้น และเจ้าเองก็ไม่เคยสงสัยในตัวเขาสักนิด จนกระทั่งเจ้าฆ่าเขา ตอนนี้กลับมาบอกว่าเขาแอบอ้าง นี่มันโกหกชัดๆ!"หลี่เฉินเหลือบมองเย่ลู่กู่จ้านฉีด้วยความประหลาดใจเขาเริ่มคิดว่า หรือในช่วงเดือนที่ผ่านมา อ๋องเก้าผู้นี้จะหิวโหยจนเพี้ยนไปแล้วหลี่เฉินยกมือขึ้นเล็กน้อยก่อนกล่าวอย่างเย้ยหยัน "อ้อ? แสดงว่าเขา

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 770

    ที่แท้ก็รออยู่ตรงนี้เองแคว้นเหลียวไม่สิ้นความทะเยอทะยานจริงๆหลี่เฉินเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของการมาเยือนครั้งนี้ของเย่ลู่เสินเสวียนแล้วมันไม่ใช่เพื่อแก้แค้นให้บุตรชายที่ถูกฆ่าและไม่ใช่เพื่อทวงคืนศักดิ์ศรีของท่านอ๋องเก้าที่ทำให้แคว้นเหลียวต้องอับอายขายหน้าแต่คือการผลักดันให้การเจรจาระหว่างต้าฉินและแคว้นเหลียวเกิดขึ้นอีกครั้งเบื้องหน้าดูเหมือนจะเป็นความร่วมมือ แต่แท้จริงแล้วคือความทะเยอทะยานที่จะเปิดเส้นทางผ่านด่านเย่ว์หยาเพื่อบุกโจมตีต้าฉินโดยไร้การต่อต้านเย่ลู่เสินเสวียนเอ่ยเสียงดังต่อไปว่า "เพื่อแสดงความจริงใจของแคว้นเหลียว เราพร้อมจะลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพกับต้าฉิน และพร้อมคืนครึ่งหนึ่งของแคว้นเยี่ยนอวิ๋นสิบหกหัวเมือง เพียงแค่ต้าฉินพยักหน้าตกลง แคว้นเหลียวก็จะมอบหัวเมืองเหล่านั้นให้ก่อนทันที จากนั้นต้าฉินค่อยเปิดเส้นทางด่านเย่ว์หยาให้เรา"คำพูดนี้ทำให้พระที่นั่งไท่เหอปั่นป่วนในทันทีเหล่าขุนนางทั้งฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋น หลายคนแสดงท่าทีลังเลและสนใจในข้อเสนอขุนนางคนหนึ่งก้าวออกมา กล่าวว่า "องค์ชาย แคว้นเหลียวมีกำลังเหนือกว่าพวกเราอย่างมาก ในสถานการณ์เช่นนี้ที่พวกเขายัง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 771

    ทุกย่างก้าวที่หลี่เฉินเดินผ่าน เสียงพูดคุยที่เคยดังสนั่นในพระที่นั่งไท่เหอพลันเงียบลงทันทีสายตาของทุกคนจับจ้องไปยังร่างของหลี่เฉินที่เคลื่อนไหว โดยไม่เข้าใจว่าเหตุใดองค์รัชทายาทถึงได้ก้าวลงจากบัลลังก์มังกรอย่างกะทันหันจนกระทั่งหลี่เฉินเดินไปหยุดที่หน้าประตูพระที่นั่งไท่เหอ เขายืนอยู่หลังธรณีประตู และจ้องมองเย่ลู่เสินเสวียนที่ยืนอยู่อีกฟากหนึ่งหลี่เฉินชี้ไปที่ธรณีประตู ก่อนกล่าวว่า "ธรณีประตูนี้ ด้านในคือพระที่นั่งไท่เหอ คือดินแดนต้าฉิน"เย่ลู่เสินเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่า หลี่เฉินต้องการจะสื่ออะไร แต่ก็ตอบกลับไปว่า "เจ้าหมายความว่า ด้านนอกธรณีประตูนี้ เป็นดินแดนของแคว้นเหลียวอย่างนั้นหรือ?"เย่ลู่เสินเสวียนคิดว่าตนเองตอบได้อย่างมีชั้นเชิงแต่หลี่เฉินส่ายศีรษะ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น "ไม่ใช่ สิ่งที่ข้าต้องการจะบอกคือ นอกธรณีประตูนี้ ใต้ฟ้าสีเหลืองแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาล ล้วนเป็นดินแดนของต้าฉิน""และดินแดนต้าฉิน จะไม่มีวันให้ใครยืมใช้โดยเด็ดขาด""หรือไม่องค์รัชทายาทแห่งแคว้นเหลียวลองพิจารณาส่งภรรยาของท่านมาให้ข้าเล่นสักคนสองคนดีหรือไม่?"คำพูดหยาบโลนที่ราวก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 772

    แกร๊ก…เสียงกระดูกนิ้วมือของเย่ลู่เสินเสวียนดังขึ้นขณะที่เขากำหมัดแน่นไม่มีสิ่งใดที่น่าอับอายมากไปกว่านี้อีกแล้วเย่ลู่เสินเสวียนสูดลมหายใจลึก ก่อนหันไปมองเย่ลู่กู่จ้านฉีและกัดฟันกล่าวว่า "ยังไม่รีบมาอีก!?"เย่ลู่กู่จ้านฉีราวกับเพิ่งตื่นจากฝัน รีบลุกขึ้นและวิ่งไปหาเย่ลู่เสินเสวียนทันทีเมื่อไปถึงหน้าประตูพระที่นั่งไท่เหอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเย่ลู่กู่จ้านฉีตื่นเต้นเกินไป หรือว่าร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไป ขณะที่กำลังจะก้าวข้ามธรณีประตู เขากลับสะดุดล้มลงกับพื้นเสียงดังตุบ เย่ลู่กู่จ้านฉีล้มลงในท่าหมอบหน้าแนบพื้นอย่างน่าอับอาย"ฮะ…ฮ่าๆๆๆ!"เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างไม่เกรงใจจากบางคนแม้แต่ซูเจิ้นถิงเองก็เผลอเผยรอยยิ้มที่มุมปาก แต่แล้วเขาก็รู้สึกตัวว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่ควรหัวเราะ ขณะที่เขากำลังจะหันไปเตือนคนที่หัวเราะเสียงดังนั้น กลับเห็นว่าผู้ที่หัวเราะเสียงดังที่สุดคือบุตรชายของเขาเอง…เย่ลู่เสินเสวียนมองดูเย่ลู่กู่จ้านฉีที่หน้าขึ้นสีด้วยความอับอาย สีหน้าของเขาดำคล้ำด้วยความโกรธ"น่าอับอายสิ้นดี!"เขาเค้นคำออกมาจากไรฟันด้วยน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อแล้วหมุนตัวเด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 773

    ขุนนางวัยกลางคนผู้นั้น แม้จะไม่ใช่บุคคลสำคัญระดับสูงสุดในพระที่นั่งไท่เหอ แต่ก็ถือว่าเป็นชนชั้นนำในหมู่ประชากรหลายสิบล้านคนของต้าฉิน การที่เขาก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่สามารถยืนในพระที่นั่งไท่เหอได้ อย่างไรเสียก็คือหนึ่งในชนชั้นยอดของยุคสมัยนี้และเมื่อเขาเอ่ยปากพูด ก็ใช้คำกล่าวที่ยกตนขึ้นสูงในทันทีหวังที่จะใช้ถ้อยคำนี้กดดันหลี่เฉิน"อ้อนวอนเพื่อแผ่นดิน"คำพูดนี้ทำให้หลี่เฉินโกรธจนหัวเราะออกมา "ดี! ช่างเป็นการอ้อนวอนเพื่อแผ่นดินที่ยอดเยี่ยมเสียจริง!""ถ้าเจ้าคือผู้ที่อ้อนวอนเพื่อราษฎร เช่นนั้นข้าก็คงเป็นองค์รัชทายาทที่ไม่สนใจเสียงของราษฎร เป็นผู้ปกครองที่ไร้สติและโง่เขลาใช่หรือไม่!?"เมื่อเผชิญกับคำถามที่ดังก้องและชัดเจนของหลี่เฉิน ขุนนางวัยกลางคนก็เริ่มหวั่นไหวเหงื่อซึมออกมาจากหน้าผากของเขา ก่อนกัดฟันตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นๆ "กระหม่อม…กระหม่อมไม่ได้หมายความเช่นนั้น""เช่นนั้น เจ้าหมายความว่าอย่างไร!?"หลี่เฉินเบิกตากว้าง ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พร้อมกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงดุดัน "แคว้นเหลียวที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ข้าได้เตือนพวกเจ้าไว้ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว! แคว้นเหลียวไ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 774

    ขุนนางวัยกลางคนคนนั้นไม่คิดว่าหลี่เฉินจะลงโทษเขารุนแรงเช่นนี้ เขาจึงดิ้นรนพลางตะโกนเสียงดัง "องค์รัชทายาท! ท่านไม่ใส่ใจสถานการณ์ของชาติ ทำทุกอย่างตามอำเภอใจ นี่คือการทำลายรากฐานของแผ่นดิน!""เกียรติยศของแคว้นและความผาสุกของลูกหลานในอนาคต ไม่สามารถได้มาด้วยเลือดร้อนเพียงอย่างเดียวได้ กองทัพหกแสนของแคว้นเหลียวจ้องมองเราอย่างดุดัน ทั้งภายในและภายนอกแคว้นก็มีแต่ปัญหา ท่านยังจะดึงดันใช้นโยบายแข็งกร้าวเช่นนี้ต่อไป และไม่ยอมฟังคำเตือนจากพวกเรา ในที่สุด แผ่นดินนี้จะต้องล่มสลายด้วยน้ำมือของท่านเอง!""ข้าซึ่งเป็นข้าราชการที่กินเงินเดือนของราชสำนัก ย่อมต้องทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แม้จะต้องสละชีวิตนี้ ข้าก็ไม่อาจทนเห็นท่านทำลายรากฐานที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้!"ขณะที่เขากล่าวนั้น ทหารสองนายก็เดินเข้ามาใกล้เพื่อจะจับกุมตัวเขาแต่ด้วยพละกำลังที่เกิดจากสัญชาตญาณในยามวิกฤติ เขาผลักทหารทั้งสองออกไปได้อย่างไม่น่าเชื่อเขารู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้ การขอความเมตตาย่อมไร้ประโยชน์ แต่หากเขาสามารถปลุกเร้าความโกรธของขุนนางคนอื่นๆ ได้ อาจจะมีความหวังรอดชีวิตอยู่บ้างขุนนางผู้นี้กัดฟันแน่นก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 775

    ขุนนางวัยกลางคนที่พยายามจุดกระแสความไม่พอใจในพระที่นั่งไท่เหอ ย่อมไม่ยอมแพ้ง่ายๆเขากัดฟันกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "สิ่งที่ข้าพูดออกไปนั้น คือความจริงจากใจ! องค์ชายอาจไม่ชอบฟัง แต่สิ่งที่ข้ากล่าวนั้นคือความจริง""เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเกลียดอะไรพวกเจ้าที่สุด!?"หลี่เฉินที่โกรธจนถึงขีดสุด หัวเราะเยาะก่อนตะโกนลั่นด้วยความเดือดดาล "สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุด ก็คือพวกเจ้าทำตัวเหมือนเป็นผู้มีศีลธรรมสูงส่ง แสดงออกว่าใส่ใจแผ่นดินและราษฎร แต่ในความเป็นจริง พวกเจ้าล้วนคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง!""เมื่อมีผลประโยชน์ พวกเจ้าก็พุ่งเข้าใส่เหมือนสุนัขบ้า แต่ถ้าไม่มีผลประโยชน์ ก็ทำราวกับสิ่งนั้นเป็นงูพิษที่ต้องหลีกหนี""เมื่อใดก็ตามที่ผลประโยชน์ส่วนรวมขัดแย้งกับผลประโยชน์ส่วนตัวของพวกเจ้า พวกเจ้าก็จะลุกขึ้นมาพูดถึงคุณธรรม จริยธรรม แสดงตัวว่าเป็นขุนนางผู้ซื่อสัตย์ที่อ้อนวอนเพื่อราษฎร ชี้นิ้วด่าว่าคนอื่นผิดพลาด แม้กระทั่งชี้หน้าด่าข้าว่าโง่เขลา พวกเจ้าคิดว่าการด่าว่าคนอื่น จะทำให้พวกเจ้าเป็นวีรบุรุษที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์หรืออย่างไร!?""แต่ข้าไม่มีวันยอมรับพวกเจ้าเด็ดขาด!"พูดจบ หลี่เฉินหันไป

บทล่าสุด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 950

    เมื่อได้ฟังคำบ่นโอดครวญของซ่งอิงซิง หลี่เฉินก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ พลางกล่าวว่า “ที่แท้เจ้ากังวลเรื่องนี้เองหรือ?”“ไม่ต้องห่วง ข้ารู้ดีว่าสิ่งนี้ผลิตได้ยากเพียงใด ดังนั้น ข้าย่อมไม่บังคับให้พวกเจ้าสร้างสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าฉินออกมาจำนวนมากในคราวเดียว ที่ข้าพูดกับหวงจี๋เทียนไป ก็เพียงเพื่อหลอกเขาเท่านั้น ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาหลงเชื่อหรือไม่ แต่เจ้ากลับเป็นฝ่ายหลงเชื่อเสียก่อนแล้ว”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งอิงซิงถึงกับถอนหายใจโล่งอกราวกับได้ชีวิตใหม่กลับคืนมา เขารีบถามต่อว่า “เช่นนั้น เรื่องที่องค์รัชทายาทกล่าวถึงรุ่นที่สองก่อนหน้านี้…”“ก็แค่เรื่องหลอกลวงเหมือนกัน”หลี่เฉินโบกมือพลางกล่าวว่า “ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดของพวกเจ้าคือ เพิ่มกำลังการผลิต ส่วนเรื่องพัฒนาเวอร์ชันใหม่ สามารถเลื่อนไปก่อนได้ ตอนนี้สิ่งที่เราต้องการคือ ปริมาณ ไม่ใช่คุณภาพ”ซ่งอิงซิงได้ยินดังนั้นก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ “องค์รัชทายาท สิ่งนี้ต้องอาศัยเทคนิคขั้นสูง คนที่สามารถสร้างมันได้มีเพียงไม่กี่คน แม้จะทำงานกันทั้งวันทั้งคืน แต่ต่อให้ทำเต็มกำลัง ก็ผลิตได้เพียง วันละสามถึงสี่ลูกเท่านั้น ไม่อ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 949

    เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่เฉิน หวงจี๋เทียนกลับรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาเล็กน้อยเขารู้สึกว่าคำพูดของหลี่เฉินจริงใจและซื่อตรงท้ายที่สุดแล้ว อานุภาพของอาวุธชนิดนี้ ทุกคนก็เห็นกับตาอยู่แล้ว หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา ตัวเขาคงต้องถูกบรรจุลงในโลงศพและส่งกลับแคว้นแน่นอนแต่หากมีรุ่นที่สองที่ทรงประสิทธิภาพยิ่งกว่า และปลอดภัยกว่า แน่นอนว่าย่อมเป็นเรื่องดียิ่งไปกว่านั้น องค์รัชทายาทต้าฉินได้ให้คำมั่นแล้วว่า หากมีรุ่นที่สองออกมา จะมอบให้เขาหนึ่งชุดเป็นการตอบแทน…เพียงแค่คำมั่นนี้ ก็เพียงพอแล้ว“องค์รัชทายาททรงรอบคอบยิ่งนัก”หวงจี๋เทียนประสานมือคารวะ ตอบรับอย่างเหมาะสมหลี่เฉินยิ้มพลางกล่าวว่า “เวลานี้ก็คงถึงเวลามื้อเย็นแล้ว ไยอาเกอสิบสามไม่อยู่รับประทานมื้อเย็นร่วมกับข้าก่อน แล้วค่อยกลับไป?”หวงจี๋เทียนตอบกลับอย่างสุภาพ “ข้าเคยได้ยินมานานแล้วว่า ดินแดนจงหยวนอุดมสมบูรณ์ ผู้คนมากความสามารถ อาหารเลิศรสยิ่งมีมากมาย ข้าเองก็อยากลองลิ้มรสอาหารของแผ่นดินจงหยวนมานานแล้ว ในเมื่อองค์รัชทายาททรงเชื้อเชิญ ข้าก็ต้องขอรับไมตรี ไม่อาจปฏิเสธ”หลี่เฉินหัวเราะเสียงดัง ก่อนหันไปสั่ง “แจ้งห้องครัวให้เตรียมจัดเลี้ยง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 948

    หวงจี๋เทียนถึงกับตกตะลึงในเวลานี้ เขาอดไม่ได้ที่จะมีข้อสงสัยขึ้นมาในใจในโลกนี้เหตุใดจึงมีคนไร้ยางอายถึงเพียงนี้?ก่อนจะได้ของยังกล้าหน้าด้านหน้าทนไล่ถามโดยไม่สนใจความลำบากใจของผู้อื่น แต่เมื่อรู้ว่าต้นทุนสูงลิ่วก็พลันเปลี่ยนท่าทีไปโดยสิ้นเชิงหวงจี๋เทียนรู้สึกแน่นหน้าอกจนต้องหัวเราะฝืดๆ ออกมา ทันใดนั้นก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้น เขาคำนับหลี่เฉินแล้วกล่าวว่า "องค์รัชทายาทต้าฉิน กระหม่อมมีเรื่องหนึ่งที่ไม่สมควรร้องขอ ไม่ทราบว่าจะกล่าวได้หรือไม่?""ไม่ได้"หลี่เฉินปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดเวลานี้ หวงจี๋เทียนใช้วิธีเดียวกับที่หลี่เฉินเคยทำตอนที่ขอข้อมูลช่องทางการสื่อสาร ไม่สนใจความลำบากใจของอีกฝ่าย แล้วเสนอคำขออย่างตรงไปตรงมาหากยังมีความละอายใจอยู่บ้าง เช่นเดียวกับตัวเขาเมื่อครู่ ก็คงปฏิเสธได้ไม่ง่ายนักที่สำคัญที่สุด หวงจี๋เทียนรู้ดีว่า แม้วิธีนี้ดูเหมือนจะได้ผลดี แต่ต้นทุนกลับสูงเกินไป ถึงขนาดพวกเขาเองยังรู้สึกว่าน่าเสียดาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลยดังนั้นเขาจึงกล้าพูดออกมาอย่างไม่ลังเลทว่าตอนนี้ หวงจี๋เทียนนำวิธีของหลี่เฉินมาใช้กับหลี่เฉินเอง แต่กลับล้มเหลว!คำที่หลี่เฉินเอ่ยออกมาอย

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 947

    สีหน้าลังเลและท่าทีปฏิเสธของหวงจี๋เทียนชัดเจนเสียจนคนตาบอดก็มองออกแต่หลี่เฉินกลับทำราวกับมองไม่เห็นอย่างแท้จริง ไม่มีแม้แต่คำพูดทำนองว่า (หากลำบากใจก็ช่างเถอะ หรือไม่อยากบังคับให้เจ้าลำบากใจ)เขาเพียงแค่ยืนตรงอยู่อย่างนั้น รอให้หวงจี๋เทียนเป็นฝ่ายตอบกลับมาเองเมื่อเห็นว่าหลี่เฉินไม่ยอมปล่อยผ่านง่ายๆ หวงจี๋เทียนได้แต่ยิ้มฝืดเฝื่อน ก่อนกล่าวว่า “องค์รัชทายาทต้าฉิน ความจริงแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นความลับที่ยิ่งใหญ่อะไร”“ในเมื่อไม่ใช่ความลับอันยิ่งใหญ่ เช่นนั้นอาเกอสิบสามก็โปรดแบ่งปันแก่ข้าด้วยเถิด” หลี่เฉินยิ้มอย่างอารมณ์ดีรอยยิ้มของเขาทำให้หวงจี๋เทียนชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ซับซ้อน จากนั้นจึงกล่าวว่า “ความจริงแล้ว วิธีส่งสารของพวกเรา ไม่ได้พึ่งพาเพียงแค่แรงงานมนุษย์เท่านั้น”หลี่เฉินพยักหน้าอย่างเข้าใจก็แน่อยู่แล้ว ต่อให้มนุษย์มีความสามารถมากเพียงใด ก็ยังมีขีดจำกัดระยะทางไกลขนาดนี้ หากสามารถส่งสารไปกลับภายในวันเดียวได้ นับว่าเป็นความเร็วที่น่าตกตะลึงในยุคสมัยนี้เว้นเสียแต่ว่าแคว้นจินจะร่ำรวยจนสามารถมีเซียนบนดินเป็นกลุ่มใหญ่ หรืออย่างน้อยก็ต้องมียอดฝี

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 946

    หลี่เฉินยิ่งพูดยิ่งมั่นใจ เขายิ้มพลางกล่าวว่า “หากมองดูยุทธวิธีของกองทัพม้าโดยรวม ไม่ว่าจะแตกแขนงไปมากเพียงใด แต่หากมองถึงแก่นแท้ ก็เป็นเพียงการใช้ความได้เปรียบด้านความเร็วของทหารม้าเบาเพื่อเคลื่อนพลอย่างคล่องตัวในสนามรบ จากนั้นจึงใช้ทหารม้าหนักเป็นหน่วยกระหน่ำโจมตีโดยตรง ซึ่งโดยปกติ เพียงสามถึงห้ารอบ ก็สามารถบดขยี้ศัตรูได้จนหมดสิ้น”“แต่การจัดรูปขบวนเช่นนี้ นำมาซึ่งปัญหาประการหนึ่ง นั่นคือ ‘ความหนาแน่น’”หลี่เฉินมองสีหน้าที่เคร่งขรึมของหวงจี๋เทียน ก่อนยิ้มกล่าวว่า “ยิ่งกองทัพม้ารวมตัวกันอย่างหนาแน่นเท่าใด ก็ยิ่งเป็นเป้าหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับอาวุธชิ้นนี้”หวงจี๋เทียนไม่กล่าวอะไรภายในหัวของเขาเต็มไปด้วยภาพกองทัพม้าจำนวนมหาศาล ถูกแรงระเบิดถล่มจนกระจัดกระจาย คนล้มม้ากระเด็นเขาย่อมต้องกังวลแคว้นเหลียวแม้จะเป็นผู้นำของชนเผ่าเร่ร่อน และเชี่ยวชาญด้านกองทัพม้าแต่แคว้นจินของพวกเขา ต่างหาก ที่มีชนเผ่าหนี่เจิน ซึ่งเป็นชนเผ่าดั้งเดิมที่สร้างชื่อเสียงในทุ่งหญ้าแห่งนี้ เป็นชนเผ่าที่เกิดมาบนหลังม้าโดยแท้จริง!หนี่ว์เจินมีเพียงสามพัน ก็ยังคงเป็นหนี่ว์เจิน แต่หากมากกว่าสามพันเมื่อใด ย่อมนำ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 945

    แนวคิดเรื่องการระเบิดที่ชัดเจนที่สุดสำหรับคนยุคโบราณ ก็คือดอกไม้ไฟในเทศกาล และเสียงฟ้าร้องในพายุฝนแม้ว่าอาวุธประเภทระเบิด ซึ่งพัฒนาขึ้นจากดอกไม้ไฟ จะใช้ดินปืนเป็นแรงขับเคลื่อน แต่พลังทำลายของมันยังคงจำกัดอยู่ที่แรงกระแทกของลูกเหล็ก แม้ภายหลังจะมีการบรรจุดินปืนภายในเพื่อเพิ่มแรงระเบิดให้กระจายออกไปรอบๆ แต่มันก็ยังเทียบไม่ได้กับระเบิดมือที่ใช้ดินปืนเข้มข้นพร้อมกับลูกเหล็กที่พุ่งกระจายออกไปนี่จึงเป็นครั้งแรกที่ดินปืนถูกนำมาใช้เพื่อสร้างแรงระเบิดในสนามรบอย่างแท้จริงหวงจี๋เทียนตกตะลึง องครักษ์ที่ติดตามเขามาก็ตกตะลึง แม้แต่ทหารยามที่เฝ้าอยู่ห่างออกไปก็ยังตกตะลึงทุกคนต่างสงสัย หรือว่านี่คือพิโรธของสวรรค์?"ฮ่าๆๆ"หลี่เฉินพึงพอใจอย่างมากกับผลลัพธ์ของการระเบิดครั้งนี้ เขาเดินไปข้างกายหวงจี๋เทียนก่อนเอ่ยว่า “หากอาวุธนี้ถูกใช้ในสนามรบ เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร?”หวงจี๋เทียนพยายามสงบสติจากความตกใจ ก่อนตอบว่า “ไร้เทียมทาน”เขากลืนน้ำลายลงคอ พลางเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเคารพ “ข้าสังเกตว่ารัศมีของการระเบิดอยู่ที่ราวสิบห้าถึงยี่สิบก้าว แม้ว่าห่างออกไปยังอาจสร้างความเสียหายได้บ้าง แต่ก็ลดล

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 944

    “องค์รัชทายาทต้าฉิน สิ่งนี้คืออะไร?”เมื่อเห็นซ่งอิงซิงเปิดผ้าห่อออกทีละชั้น แล้วค่อยๆ ประคองสิ่งของสีดำทมิฬชิ้นหนึ่ง หวงจี๋เทียนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามด้วยความสงสัยหลี่เฉินยิ้มอย่างลึกลับ ก่อนกล่าวว่า “อย่าเพิ่งรีบร้อน อีกไม่นานพวกเจ้าก็จะได้เห็นแล้ว”พูดจบ เขาก็ส่งสัญญาณให้ซ่งอิงซิงส่งของสิ่งนั้นมาให้ตนซ่งอิงซิงตกใจจนหน้าถอดสี ในฐานะผู้คิดค้น เขาย่อมรู้ดีว่าเจ้าสิ่งนี้ แม้รูปลักษณ์จะไม่น่าดูนัก แต่พลังของมันมหาศาลเพียงใด มากพอที่จะส่งทุกคนในพระที่นั่งสีเจิ้งไปพบยมบาลพร้อมกัน“องค์รัชทายาท ขออภัยพ่ะย่ะค่ะ ของสิ่งนี้มีอานุภาพร้ายแรง ควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ให้กระหม่อมเป็นผู้สาธิตเองจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ?”เห็นซ่งอิงซิงตัวสั่นด้วยความหวาดหวั่น หลี่เฉินถึงกับรู้สึกหมดคำพูดแนวคิดนี้เขาเป็นคนเสนอขึ้นมาเอง แถมเขายังเป็นผู้เดินทางข้ามเวลามาอีกด้วย จะไม่รู้จักอานุภาพของระเบิดมือได้อย่างไร?และด้วยกระบวนการสกัดดินปืนของต้าฉิน พลังทำลายล้างของมันคงมีไม่ถึงหนึ่งในสามของระเบิดมือที่แท้จริงแต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น ก็เพียงพอแล้วอย่าลืมว่า นี่คือยุคอาวุธเย็น หากขว้างระเบิดมือลูกหนึ่งออกไป มั

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 943

    หวงจี๋เทียนรู้สึกว่าหลี่เฉินต้องเป็นบ้าไปแล้วทว่าหลี่เฉินกลับกล่าวกับเขาว่า “แม้แต่เจ้าเองยังคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เย่ลู่เสินเสวียนย่อมไม่มีทางคาดฝันว่า เมื่อเผชิญหน้ากับกองทัพหกแสนนายของเขา ข้ากลับไม่ได้คิดว่าจะดิ้นรนเอาชีวิตรอด แต่คิดจะพลิกกลับมาจัดการเขาเสียเอง”“สงครามคือศิลปะแห่งเล่ห์กล”“เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีกำลังเหนือกว่าโดยตรง หนทางเดียวที่จะได้รับชัยชนะ คือใช้กลอุบายให้เหนือกว่า ใช้ปัญญาให้ชนะอำนาจ”หลี่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “หรือเจ้าไม่อยากได้ความดีความชอบอันใหญ่หลวงนี้?”หวงจี๋เทียนถึงกับหายใจติดขัดต้องยอมรับว่าความดีความชอบครั้งนี้ล่อตาล่อใจเกินไปมันมากพอที่จะทำให้เขาสามารถโดดเด่นขึ้นมาจากเหล่าพี่น้องของตนเองได้“องค์รัชทายาทคิดจะทำเช่นไร?” หวงจี๋เทียนถาม“นอกด่านเย่ว์หยาเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ และทุ่งหญ้านั้นเป็นบ้านเกิดของทหารม้าแคว้นเหลียว ดังนั้น ไม่มีทางจะกำจัดพวกเขาที่นั่นได้เลย หากต้องการทำเช่นนั้น ก็ต้องปล่อยให้พวกเขาเข้ามาก่อน”หลี่เฉินกล่าวว่า “เปิดด่านเย่ว์หยา ปล่อยให้พวกเขาเข้าสู่เขตแดนต้าฉิน จากนั้นค่อยปิดประตูตีสุนัข”หวงจี๋เทียนตื่นตะลึ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 942

    แต่ละแคว้นล้วนมีองค์กรสายลับของตนเองหน่วยบูรพาของต้าฉิน องครักษ์ฝ่ายในของแคว้นเหลียว และเสวี่ยตีจื่อของแคว้นจินแม้ชื่อจะแตกต่างกัน แต่ล้วนเป็นข้ารับใช้ของผู้ปกครองในเส้นทางเดียวกันเพียงแต่ หน่วยบูรพาของต้าฉินมีโครงสร้างที่สมบูรณ์แบบกว่า อำนาจหน้าที่ก็ชัดเจนกว่า แต่ก็ใช่ว่าองครักษ์ฝ่ายในของแคว้นเหลียวหรือเสวี่ยตีจื่อของแคว้นจินจะด้อยไปกว่าเมื่อหวงจี๋เทียนกล่าวว่ายินดีมอบเสวี่ยตีจื่อสามพันนายให้โดยไม่คิดมูลค่า หลี่เฉินก็เข้าใจเจตนาของเขาทันทีเขาไม่ต้องการเสี่ยง แต่ก็ยังต้องการร่วมมือกับต้าฉิน ทว่าด้วยสถานการณ์อันปั่นป่วนของต้าฉินในเวลานี้ เขาไม่มีคุณสมบัติ และไม่กล้าใช้ชื่อของแคว้นจินวางเดิมพันทั้งหมด ดังนั้น เขาจึงเลือกเสียสละบางสิ่งก่อน และนำเดิมพันไปวางไว้ในตำหนักบูรพาขององค์รัชทายาท“เจ้าต้องการช่วยข้าแย่งชิงอำนาจหรือ?” หลี่เฉินเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มแฝงความนัยหวงจี๋เทียนตอบกลับอย่างจริงจังว่า “ไม่ว่าจะแคว้นใด องค์รัชทายาทคือองค์รัชทายาทโดยชอบธรรมเพียงหนึ่งเดียวตามกฎหมาย องค์รัชทายาทเป็นองค์รัชทายาทที่ฝ่าบาทแห่งต้าฉินทรงแต่งตั้งโดยชัดแจ้ง อีกทั้งยังมีอำนาจสำเร็จราชการแทนพระองค์

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status