Share

บทที่ 87

Author: กานเฟย
สาว ๆ คนอื่นที่ดูอยู่ก็หัวเราะออกมาเช่นกัน

มีคนพูดขึ้นมาอย่างเหยียดหยาม “ช่างไร้ยางอายจริง ๆ ที่สอนลูกเช่นนี้!”

“แม่เป็นเยี่ยงไรลูกก็เป็นเยี่ยงนั้นสินะ! พระชายามีความหยิ่งผยอง ลูกชายที่นางเลี้ยงก็หยิ่งผยองตามนาง! เพื่อที่จะประจบนาง จึงแยกไม่ออกว่าอะไรคืองามอะไรคือน่าเกลียด!”

พระชายาผิงหยางพูดอย่างเกรี้ยวกราด “พระชายาอ๋องอี้ เจ้าอย่าได้ปกปิดไว้เลย เปิดผ้าคลุมหน้าเถิด! พวกเราจะไม่หัวเราะเจ้าหรอก!”

หัวเราะกันหมดนี่แหละ จะไม่หัวเราะได้หรือ!

หลิงอวี๋มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยกระของพระชายาผิงหยาง แป้งหนา ๆ ก็ยังปิดไม่มิด จึงหัวเราะพลางเอ่ย “ในเมื่อพระชายาพูดเช่นนี้แล้ว!”

“พวกเจ้าอยากดูถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ดูเถิด!”

หลิงอวี๋ค่อย ๆ เปิดผ้าคลุมหน้า พวกของเสิ่นจวนเตรียมตัวจะระเบิดหัวเราะ เพื่อดึงดูดผู้คนให้เห็นใบหน้าที่น่าเกลียดของหลิงอวี๋มากขึ้น

ไหนเลยจะคิดว่า พอผ้าคลุมหน้าเปิดออก ใบหน้าของหลิงอวี๋ค่อย ๆ ปรากฏต่อหน้าทุกคน…

เห็นว่าใบหน้าที่เมื่อสิบกว่าวันที่แล้วเห็นแต่รอยแส้เต็มหน้านั้น ได้เปลี่ยนเป็นในหน้าที่สวยดุจบัวผุดขึ้นเหนือน้ำ

ใบหน้านี้ มีผิวหน้าที่เกลี้ยงเกลา ในความขาวก็ยังมีสีแดงอ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Nopparuch
เกือบ 10 ตอน เนื้อหาย่ำอยู่กับที่ มีแต่เรื่องไร้สาระ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 88

    พระชายาผิงหยางรูปร่างอ้วน เมื่อใส่ชุดที่หนา ๆ เช่นนี้ ร้อนเสียจนเหงื่อกาฬออกแป้งหนา ๆ ที่อยู่บนใบหน้าชุ่มเหงื่อ แล้วก็หลุดออกไปบางส่วนแล้วแม้ว่าจะยังไม่ถึงขนาดที่เป็นด่างเป็นดวง แต่ถ้าอยู่อีกสักหน่อย มันจะกลายเป็นรอยด่างบนหน้าจริง ๆ แล้วเดิมทีหลิงอวี๋ก็ไม่ใช่คนใจร้าย เพียงแต่พอถูกคนคนนี้วุ่นวายมานานมากแล้วก็เลยรำคาญ ความใจร้ายของนาง ถึงได้พูดจาเยาะเย้ยไปสองสามประโยคแต่สองสามประโยคนี้ พระชายาผิงกลับหยางรับไม่ไหวแล้ว นางยกมือขึ้นจับหน้าตนเองโดยไม่รู้ตัว บนมือนั้นเช็ดแป้งออกมาเป็นชั้นเลยนางหน้าแดงหูแดงทันที รู้สึกว่าสายตาของทุกคนต่างก็กำลังเยาะเย้ยนาง!นางโกรธจนผลักหลิงอวี๋อย่างแรง พลางตะคอก “หลิงอวี๋ เจ้ารังแกข้ามากเกินไปแล้ว… เจ้า… เจ้ารอก่อนเถอะ… เจ้ากับข้าเห็นดีกันแน่!”พูดจบ พระชายาผิงหยางก็ปิดหน้าวิ่งไปอย่างตระหนก นางต้องไปหาที่แต่งหน้า!“เอ๊ะ เหตุใดจึงไปแล้วเล่า! ข้าเจตนาดีนะ! ข้ายังอยากจะแนะนำตำรับยาพื้นบ้านที่ใช้ดูแลความงามกับนางเลย!”“เห้อ พระชายาผิงหยางนี่ใจแคบนัก เมื่อครู่นางว่าข้าไว้ตั้งมากมายถึงเพียงนั้น ข้าก็มิได้โกรธอันใด! ข้าว่านางไปแค่สองประโยค นางก็รับมิได

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 89

    คนที่ตามหลังท่านอดีตเสนาบดีมาติด ๆ คือหลิงเสียงเซิงพ่อของหลิงอวี๋ ผู้เป็นอาลักษณ์สำนักฮั่นหลินเขาอายุสี่สิบกว่าปี รูปร่างผอมเพรียว ที่กรามเรียว ๆ ของเขามีเคราบาง ๆ อยู่สองชั้นหลิงเสียงเซิงมองมาทางนี้จากที่ไกล ๆ เห็นหลิงอวี๋ก็เบือนหน้าหนีไปเหมือนเป็นคนแปลกหน้ากัน!ต่อจากหลิงเสียงเซิงก็คือหลิงเยี่ยนผู้เป็นน้องสาวต่างมารดาของหลิงอวี๋ เป็นเด็กสาวอายุประมาณสิบห้าปีนางสวมกระโปรงผ้าตาข่ายสีชมพู ที่เอวผูกผ้าสีเดียวกัน ผมสีดำสนิทประดับด้วยปิ่นติดผมหยกเขียวและไข่มุกติดสลับกัน ชุดนี้ดูหรูหราแต่ก็คงความมีชีวิตชีวาอยู่!ดูท่าทางแล้วเป็นที่รักของคนในครอบครัว!ใบหน้าที่งดงามของนางยังไม่ได้เปิดเผยออกมาเต็มที่ แต่ในความเยาว์วัยนั้นก็เผยเสน่ห์แล้ว!หลิงเยี่ยนเห็นหลิงอวี๋ ในแววตาก็ฉายแววประหลาดใจ จ้องมองจากทางนี้อยู่นาน ในสายตานั้นก็เปลี่ยนเป็นความดูถูก…ด้านหลังของหลิงเยี่ยนคือหลิงเฟิง ลูกชายคนโตของหลิงเสียงเซิง หลิงเฟิงได้รับการถ่ายทอดด้านรูปร่างหน้าตาของหลิงเสียงเซิงมา เขาผอมและสูงเขาจมูกโด่ง สายตาที่มองคนอื่นนั้นจะมีความมืดมนอยู่เล็กน้อย แค่มองก็รู้เลยว่าเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นยากเขาไม่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 90

    ต่อหน้าคนเยอะถึงเพียงนี้ มันไม่ดีที่หลิงอวี๋จะทะเลาะกับเซียวหลินเทียนนางจึงโน้มตัวเข้าไปใกล้เขาแล้วยิ้มเยาะพลางกระซิบ “เซียวหลินเทียน ท่านไม่ได้เห็นพวกเราเป็นคนในครอบครัว ก็อย่าคิดว่าพวกเราจะสนใจท่าน!”“สิ่งที่หม่อมฉันติดหนี้เจ้าไว้หม่อมฉันคืนหมดแล้ว! แต่เยวี่ยเยวี่ยไม่ได้ติดค้างอะไรท่านทั้งนั้น!”“ท่านถามใจตัวเองดูเถิดว่า เป็นผู้ชาย แม้ว่าจะเป็นคนแปลกหน้ากัน ท่านจะใจร้ายกับเด็กเยี่ยงนี้หรือไม่? ”“ตั้งแต่ที่เขาเกิดมา ท่านมิสนใจเขาก็ช่าง! แต่ตอนนี้เขาเพิ่งจะกี่ขวบเอง? ท่านก็ต้องการให้เขาไม่สะทกสะท้านอะไรเหมือนกับผู้ใหญ่ ท่านไม่คิดว่า ท่านบังคับใจคนอื่นมากไปหรือ?”“เซียวหลินเทียน จะตัดสินโทษว่าใครฆ่าใครก็ต้องมีหลักฐาน! ท่านมาพูดแบบปั้นน้ำเป็นตัวว่าหม่อมฉันเป็นขโมย ท่านมีหลักฐานหรือไม่?”“แค่เยวี่ยเยวี่ยเกิดเร็วไปสองเดือน ท่านก็สงสัยว่าเขาไม่ใช่ลูกท่านแล้ว! ท่านคิดว่ามันยุติธรรมกับเยวี่ยเยวี่ยหรือ?”“ไทเฮาเองก็ให้กำเนิดองค์จักรพรรดิตอนแปดเดือนมิใช่รึ? หรือว่าองค์จักรพรรดิเองก็เป็นลูกชู้เช่นกัน?”“หากวันหนึ่ง หม่อมฉันยืนยันได้ว่าเยวี่ยเยวี่ยเป็นลูกของท่าน ท่านคิดเอาเถิดว่า การกระ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 91

    ไทเฮาเหลียงกวาดมองฝูงชนรอบ ๆ อย่างสุภาพสุขุมงามสง่า เมื่อพบหลิงอวี๋ก็คลี่ยิ้มเล็กน้อย“ตัวข้าผู้เป็นไทเฮารู้สึกตื้นตันใจอย่างยิ่งที่ทุกท่านมาอวยพรให้แก่ข้า ทุกท่านลุกขึ้นเถิด!”“ขอบพระทัยไทเฮา!”ฝูงชนแสดงความขอบคุณและทยอยกันลุกขึ้น ก่อนนางกำนัลของวังหลวงจะพาไปยังที่นั่งหลิงอวี๋ก็ลุกขึ้นเช่นกัน เพียงรู้สึกว่ารอยยิ้มของไทเฮาที่มีต่อตนนั้น ได้มลายความน่าเกรงขามอำนาจและเกียรติศักดิ์ลงไปมากอักโขนางจูงมือหลิงเยวี่ยคิดหาที่นั่งนั่งลง บัดนี้พบว่าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีแบ่งที่นั่งกันเป็นสองฝั่ง ส่วนเซียวหลินเทียนถูกลู่หนานเข็นไปทางฝั่งอาคันตุกะบุรุษเรียบร้อยแล้วนางจูงมือหลิงเยวี่ยไปทางฝั่งอาคันตุกะสตรี เพียงแต่ไม่มีนางกำนัลคอยนำทางตน นางเลยไม่รู้ว่าควรนั่งแห่งใดผ่านไปไม่ช้า ทุกคนล้วนนั่งลงหมดแล้ว เหลือเพียงนางกับหลิงเยวี่ยที่ยังยืนอยู่ จากนั้นทุกสายตาก็เพ่งเล็งลงบนร่างพวกนางในบัดดลหลิงอวี๋รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย สายตารีบกวาดมองที่นั่งเหล่านั้นหมายหาที่นั่งว่างนั่งลงให้เร็วที่สุดอย่างไรเสียหลังกวาดมองไปรอบหนึ่งแล้ว กลับพบว่าที่นั่งเต็มสิ้นไม่เหลือที่นั่งว่างอย่างสิ้นเชิงหัวใจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 92

    “หลิงอวี๋ เจ้ายังไร้ยางอายอยู่อีกรึ! ปลอมแปลงเทียบเชิญของไทเฮามีความผิดมหันต์!”“เจ้ายังขวัญกล้าติดสินบนขันทีเซี่ย แม่นมเว่ยและราชองครักษ์ผางรึ ทั้งหมดทั้งมวลนี้มิรู้มีความผิดตั้งเท่าใดแล้ว!”เจิงจื่ออวี้แสร้งทำเป็นกล่าวอย่างประหลาดใจ“ได้ยินมานานว่าชายาอ๋องอี้ไร้กาลเทศะ นึกไม่ถึงว่าจะไร้กาลเทศะถึงขั้นนี้!”“ปลอมแปลงเทียบเชิญ ติดสินบนข้าราชบริพาล ช่างขวัญกล้าเทียมฟ้าจริง ๆ!”“นางปลอมแปลงเทียบเชิญแค่เพื่อโผล่หน้ามาในวังหลวงรึ? มิน่า วันนี้ถึงแต่งตัวสวยพริ้งเยี่ยงนี้! นี่กำลังคิดจะล่อลวงผู้ใดอีกอยู่หรือไม่?”“ท่านอ๋องอี้พิกลพิการแล้ว บางทีอาจไม่ทำให้นางพออกพอใจได้ ฉะนั้นจึงรีบหาคนเกาะกินคนใหม่!ฝูงชนด้านล่างต่างครหากันกระจัดกระจาย วิพากษ์วิจารณ์กันทุกรูปแบบ…จักรพรรดิอู่อันฟังได้ไม่ชันเจนนัก ก่อนจะเริ่มเดือดดาลขึ้น เขาลอบมองไปทางขันทีเซี่ยด้วยแววตาไม่พอใจขันทีเซี่ยรีบคุกเข่าลงพื้นทันควันกล่าวคำ “ฝ่าบาท กระหม่อมถูกใส่ไคล้พ่ะย่ะค่ะ! เทียบเชิญนั้นเป็นของจริง กระหม่อม แม่นมเว่ยและราชองครักษ์ผางล้วนไม่เคยรับเงินของพระชายาอ๋องอี้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”“ไยจะไม่รับ? หลิงอวี๋ยอมรับกับปากหมดแล้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 93

    ทันในนั้นพลันมีความคิดมหาศาลแวบผ่านสู่สมอง ครั้นเห็นรอยยิ้มของขันทีเซี่ย ทฤษฎีสมคบคิดทั้งหมดก็มลายหายไปนางกระจ่างแจ้งเจตนาของไทเฮาแล้ว นี่คือโอกาสที่ไทเฮามอบให้ตนเพื่อล้างมลทิน!หลิงอวี๋กล่าวหนักแน่น “หลิงอวี๋ขอถามขันทีเซี่ยสักสองสามคำถามได้หรือไม่?”จักรพรรดิอู่อันจับจ้องนางอย่างสนใจใคร่รู้ ถือเทียบเชิญปลอมเข้าวังมายังสามารถนิ่งเฉยได้อยู่รึ?สตรีดาษดื่นเมื่อต้องเผชิญกับคำประณามจากผู้คนมากมาย คงหวาดกลัวร้องห่มร้องไห้ตั้งนานแล้ว หลิงอวี๋ผู้นี้ค่อนข้างน่าสนใจนัก!ขันทีเซี่ยคลี่ยิ้ม “พระชายาอ๋องอี้เชิญถามขอรับ!”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างกิริยางามสง่า “ขันทีเซี่ย ท่านกล่าวว่ากระดาษและมาตรฐานรูปแบบล้วนเป็นของแท้หรือ?”“ถูกต้อง!” ขันทีเซี่ยตอบไร้กังวล “และเทียบเชิญอื่น ๆ ล้วนผลิตจากกรมการผลิตในวังหลวงทั้งสิ้น ภายนอกไม่มีทางทำเลียนแบบได้ขอรับ!”“ขันทีเซี่ย ในเมื่อกระดาษมาจากในวังหลวงแล้วหมึกที่ใช้เล่า?” หลิงอวี๋เอ่ยถามหัวใจขันทีเซี่ยสั่นไหว เขาชำเลืองมองหลิงอวี๋อย่างเหนือคาดพลางตอบว่า “หมึกที่ใช้ก็จัดเตรียมมาเป็นพิเศษเช่นเดียวกันขอรับ!”หลิงอวี๋คลี่ยิ้ม “หลิงอวี๋ไร้ความสามารถ แต่ทราบว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 94

    หลิงอวี๋เร่งถามเร็วรี่ “พระชายาผิงหยางกล่าวว่าข้าแอบส่งคนไปขโมยแท่งหมึกฮุยโม่ที่จวนของใต้เท้าเฉิง ข้าหวังว่าใต้เท้าจะพูดอย่างสัตย์จริง!”“เป็นไปมิได้เด็ดขาด! แต่ไหนมาก็มิเคยมีการขโมยในจวนข้ามาก่อน!”“และแท่งหมึกฮุยโม่ชนิดพิเศษนี้ ข้าก็ทำมาแค่ห้าชิ้นเท่านั้นและทั้งหมดล้วนเก็บไว้ในวังหลวง มิเคยแพร่งพรายออกไปภายนอกได้ขอรับ!”ใต้เท้าเฉิงตอบอย่างเด็ดเดี่ยว“ขันทีเซี่ย เทียบเชิญใบนี้ใช้แท่งหมึกฮุยโม่ชนิดพิเศษของใต้เท้าเฉิงเขียนใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋หันไปเอ่ยถามทางขันทีเซี่ยขันทีเซี่ยสูดหายใจเข้าลึก นัยน์ตาฉายแสงความชื่นชมระลอกหนึ่งและผงกศีรษะกล่าวคำ“เทียบเชิญนี้ของพระชายาอ๋องอี้เขียนด้วยหมึกชนิดพิเศษของใต้เท้าเฉิงจริงขอรับ!”“ใต้เท้าเฉิง หลิงอวี๋ยังมีคำถามข้อสุดท้าย นอกจากท่านแล้วยังมีผู้ใดสามารถใช้แท่งหมึกฮุยโม่ของท่านได้อีกหรือไม่?”หลิงอวี่เอ่ยถามต่อเนื่อง“นั่นมีเพียงศิษย์ของข้าและไทเฮาเท่านั้น… ไทเฮาทรงโปรดปรานแท่งหมึกฮุยโม่ของข้าอย่างยิ่ง ข้าได้ถวายแก่พระองค์หนึ่งแท่งก่อนหน้านี้...”“กราบทูลฝ่าบาทเพคะ! กระดาษและมาตรฐานรูปแบบเทียบเชิญของหลิงอวี๋ จนกระทั่งหมึกล้วนเป็นสิ่งของใน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 95

    ชายาผิงหยางยื่นมือชี้ไปทางหลิงเยวี่ยพลางกล่าวด้วยดวงหน้าเหี้ยมเกรียม“บุตรนอกสมรสผู้นี้ ไร้ชื่อไร้แซ่ กระทั่งบิดาผู้ให้กำเนิดยังมิรู้ว่าคือผู้ใด!”“หลิงอวี๋ไม่รู้จักละอาย ทั้งยังพามาร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพ แต่ตัวข้าผุ้เป็นพระชายาในฐานะคนแห่งราชนิกุล ยังกลับรังเกียจที่จะร่วมโต๊ะอาหารกับสตรีชั้นต่ำเยี่ยงนี้เพคะ!”“ฝ่าบาท ไทเฮา ท่านอ๋องอี้ขาทั้งสองข้างพิกลพิการแล้ว! พวกเราในฐานะเครือญาติของเขาจะเพียงมองดูเขาถูกทำให้อัปยศอดสูอยู่เฉย ๆ หรือเพคะ?”“ไทเฮา ฝ่าบาท สายเลือดราชวงศ์มิควรต้องด่างพร้อย… หลิงอวี๋นำสายเลือดมาปะปนกันยุ่งสมควรประหารพันมีดหมื่นแล่(1)เพคะ!”“โปรดไทเฮา ฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยเพื่อท่านอ๋องอี้ในวันนี้เถิดเพคะ ประหารหลิงอวี๋หญิงสารเลวผู้นี้เพื่อให้ท่านอ๋องอี้อภิเษกสมรสครั้งใหม่กับสตรีเพียบพร้อมคุณธรรมมากความสามารถเป็นพระชายา!”เส้าเจิ้งซาน ท่านลุงกั๋วก็คว้าโอกาสเหยียดหยามดั่งคราก่อนเช่นกัน ยืนขึ้นกล่าวคำ“ฝ่าบาท กระหม่อมเห็นด้วยกับคำพูดพระชายาผิงหยาง! หลิงอวี๋หญิงไม่รู้จักละอายผิดชอบชั่วดีขาดคุณธรรมเช่นนี้ ไม่คู่ควรร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพพ่ะย่ะค่ะ”“สตรีที่ล่วงประ

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1974

    พวกเซียวหลินเทียนรีบดึงเถาวัลย์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อพวกเขาเห็นข้อความของหลิงอวี๋ ก็รู้สึกโล่งใจแต่เซียวหลินเทียนสังเกตเห็นจากหางตาว่ามีคำสองคำเขียนด้วยอักษรแบบย่อนี่คือความเคยชินเล็ก ๆ ของหลิงอวี๋ ตอนนั้นเซียวหลินเทียนเคยล้อเลียนหลิงอวี๋ว่าขี้เกียจ มิเขียนตัวอักษรให้สมบูรณ์แต่หลิงอวี๋กลับเอ่ยออกมาอย่างมิเห็นด้วย ‘ท่านมิคิดหรือเพคะว่าการเขียนเช่นนี้สะดวกกว่า? ราษฎรจำนวนมากมิรู้หนังสือ ก็เพราะอักษรหลายตัวมีขีดเยอะและเรียนรู้ได้ยากเพคะ!’‘หากทำให้กระชับลงเช่นนี้ เด็ก ๆ ก็จะเรียนรู้ได้ง่าย และราษฎรที่มิรู้หนังสือก็จะจำได้ง่ายด้วยเพคะ!’‘เซียวหลินเทียน เมื่อสถานการณ์ราชสำนักมั่นคงแล้ว ท่านควรส่งเสริมให้บรรดาครูปฏิวัติการเขียนตัวอักษรเพคะ เขียนตัวอักษรให้กระชับ ทำให้ราษฎรอ่านออกเขียนได้มากขึ้นด้วย!’เหอะ ๆ!เซียวหลินเทียนมองอักษรที่กระชับสองตัวนั้น พลางคิดถึงคำพูดของหลิงอวี๋ แล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะออกมา“นายท่านอู่ ท่านหัวเราะอะไรหรือ?”เผยอวี้เอ่ยถามอย่างแปลกใจ“พวกเจ้าดูเถิด นี่คือหลักฐานที่ดีที่สุด! สิงอวี๋ก็คือหลิงอวี๋!”เซียวหลินเทียนยื่นข้อความให้กับเผยอวี้ พร้อมก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1973

    เมื่อทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน เวลาหนึ่งชั่วยามก็ผูกบันไดให้ยาวเพียงพอได้แล้ว เซียวหลินเทียนจึงช่วยหลิงอวี๋วางบันไดลงไปบันไดเหล่านั้นจมเข้าไปในหมอกหนา และมิรู้ด้วยว่าเพียงพอไปถึงด้านล่างหน้าผาหรือไม่“ข้าจะลงไปดู!”เซียวหลินเทียนจับบันไดให้มั่นคงแล้วเอ่ยออกมา“ไม่ ข้าจะลงไป!”หลิงอวี๋หยุดเขาไว้แล้วเอ่ยออกมา “ข้าน้ำหนักเบากว่าท่าน บันไดสามารถรับน้ำหนักข้าได้!”“อีกอย่าง ในหมอกหนาทึบเหล่านั้นมิรู้ว่ามีพิษอยู่หรือไม่ ข้ามีความรู้เรื่องทักษะการแพทย์ ข้าสามารถปรับตามสถานการณ์ได้!”เมื่อหลิงอวี๋เอ่ยเช่นนี้ พวกเผยอวี้ก็คิดว่าสมเหตุสมผลดี“ศิษย์พี่หญิง เช่นนั้นเจ้าระวังตัวด้วย พวกเราจะรออยู่ข้างบน หากเจ้าเจอพี่ชายของเจ้า ก็ส่งสัญญาณมา พวกเราจะดึงพวกเจ้าขึ้นมาเอง!”เถาจื่อกำชับ“อืม เช่นนั้นข้าลงไปแล้ว!”แล้วหลิงอวี๋ก็ไต่บันไดลงไปทีละขั้น ๆเซียวหลินเทียนมองอยู่ด้านข้างอย่างกังวล มิรู้ว่าบันไดนี้ปลอดภัยหรือไม่ คงจะมิพังลงกลางคันกระมัง!“พวกเจ้านำเถาวัลย์เหล่านั้นมาต่อเข้าด้วยกันเสีย หากบันไดยาวมิพอ จะได้สามารถใช้ได้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมา แล้วเผยอวี้กับเถาจื่อก็รีบต่อเถาวัลย์แรก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1972

    ในบรรดาคนเหล่านี้ นอกจากหลิงอวี๋ที่มีพลังต่ำแล้ว คนอื่น ๆ ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น บางคนก็ใช้กระบี่ บางคนก็ใช้มีด ในเวลามินานที่ขอบหน้าผาก็มีกองเถาวัลย์อยู่กองหนึ่ง“พวกเจ้าตัดไป ข้าจะทำบันไดเอง!”หลิงอวี๋ถอดเสื้อคลุมออก จากนั้นก็ฉีกจนเป็นผ้าเส้น ๆ แล้วนำมามัดกับเถาวัลย์ไว้เมื่อเถาจื่อเห็นว่าเถาวัลย์กองอยู่มาก จึงมาผูกเถาวัลย์กับหลิงอวี๋ด้วย“ศิษย์พี่หญิง เจ้าต้องการเท่าใดก็บอกมาได้ พวกพี่ชายของข้ามีกำลังเหลือเฟือ! จัดการให้เจ้าได้สบาย!”เถาจื่อเริ่มต้นพูดคุยกับหลิงอวี๋“ขอบคุณ!”ในใจของหลิงอวี๋มีความระแวงคนพวกนี้อยู่แล้ว จึงมิได้พูดอะไรมากแล้วก้มหน้ามัดต่อไปแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะกังวลมาก เพราะเขาต้องการลงจากภูเขาไปตามหาหลิงอวี๋ที่จัตุรัสเมืองหลวงแดนเทพแต่เส้นทางลงจากภูเขาล้วนถูกตระกูลเฉียวหรือแม้แต่คนของมหาปราชญ์ปิดกั้นไว้หมดแล้ว หากเขาลงจากภูเขาไปในเวลานี้ จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดแน่นอน เขาจึงทำได้เพียงเลื่อนออกไปก่อนก่อนหน้านี้ตอนที่ฉินซานมาที่เมืองหลวงแดนเทพ เขาได้ทำแขนเทียมครึ่งหนึ่งมาใส่แขนข้างที่ขาดไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยตัวตน หลังจากที่สับเถาวัลย์ด้วยแขน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1971

    “ศิษย์พี่หญิง ทางลงเขาถูกปิดกั้นไปแล้ว ตอนนี้พวกเราออกไปมิได้ แกล้งทำเป็นช่วยพวกเขาจับตัวคนกันไปก่อนเถิด!”เมื่อเถาจื่อเห็นพวกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเดินไปข้างหน้า นางจึงดึงหลิงอวี๋เดินไปส่วนหลิงอวี๋ที่ล้มเลิกการแก้แค้น เพราะกังวลเรื่องความเป็นความตายของเถาจื่อและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย จึงสะบัดมือของเถาจื่อออกแล้วเอ่ยออกไปอย่างเย็นชา“เรื่องที่เจ้าให้ข้าทำข้าก็ทำให้แล้ว ข้าจะไปตามหาพี่ชายของข้า! เจ้าอย่าได้ตามข้ามา และอย่าได้คิดที่จะขู่ข้าอีก มิเช่นนั้นก็อย่ามาโทษว่าข้าไร้ความปรานี!”หลังจากพูดจบแล้ว หลิงอวี๋ก็เดินตรงไปอีกทางหนึ่ง“ศิษย์พี่หญิง!”เถาจื่อรู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมาก นางรู้ว่าคำพูดที่ตนขู่สิงอวี๋ไปเมื่อครู่นั้นทำให้นางโกรธเสียแล้วที่สิงอวี๋ช่วยก็เพียงเพราะนางมิอาจทนเห็นคนมากมายต้องตายไปก็เท่านั้น“ข้าจะไปตามหาด้วยกันกับเจ้า! ข้าสาบานว่าข้าจะไม่มีทางทำร้ายเจ้าเด็ดขาด!”เถาจื่อพูดแล้วก็รีบหยิบตั๋วเงินออกมายัดให้หลิงอวี๋อย่างรวดเร็ว “ศิษย์พี่หญิง ข้าขอโทษ เมื่อครู่ข้าร้อนใจจึงขู่เจ้าไป แต่ข้ามิได้คิดจะสังหารเจ้าจริง ๆ นะ!”“นายหญิงของข้าเป็นคนจิตใจดี นางสอนพว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1970

    หลิงอวี๋ตะลึงกับคำพูดของเถาจื่อไปครู่หนึ่ง ตอนนี้นางจึงได้รู้ว่าเรื่องที่เถาจื่อขอให้ตนทำนั้นสำคัญมากเพียงใดนางสามารถวางยาพิษสังหารเซียวหลินเทียนได้ แต่ในขณะเดียวกัน ตัวตนของเซียวหลินเทียนก็มิอาจปกปิดได้เช่นกันเช่นนั้นเถาจื่อและคนที่อยู่ในคฤหาสน์อู่ทุกคนก็จะหนีมิทัน และจะต้องถูกมหาปราชญ์สังหารจนหมดสิ้นอย่างแน่นอน!เซียวหลินเทียนสังหารลูกชายของตน แต่ชีวิตของคนจำนวนมากมายเหล่านั้นล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ หากนางวางยาพิษสังหารเซียวหลินเทียน ก็จะเป็นการสังหารคนเหล่านั้นทางอ้อมไม่มีเวลาให้หลิงอวี๋ได้คิดแล้ว เซียวหลินเทียนพี่ใหญ่ของเถาจื่อมุดตัวออกมาจากพุ่มไม้แล้วเซียวหลินเทียนพบว่าตนตกหลุมพรางแผนการร้ายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยและเช่นเดียวกับที่เถาจื่อพูดไปเมื่อครู่ เขาสามารถอาศัยวรยุทธ์ของตนหนีไปจากภูเขาหมางหลิ่งเพียงลำพังได้แต่เผยอวี้ ฉินซานและผู้คุ้มกันของคฤหาสน์อู่ที่พามาด้วย ก็จะถูกเปิดเผยตัวตนเพราะเหตุนี้ และจะต้องถูกมหาปราชญ์ล้อมโจมตีเป็นแน่เซียวหลินเทียนจะปล่อยให้เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต้องลำบากเพราะตนเพียงผู้เดียวได้อย่างไร ดังนั้นในความเร่งรีบเขาจึงนึกถึงสิงอวี๋ขึ้นมาสิงอวี๋มีความ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1969

    เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินคำพูดของเถาจื่อ ก็ราวกับถูกฟ้าผ่าในทันทีคนที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยนำคนเหล่านั้นไปจับตัวคือเซียวหลินเทียน!แต่เถาจื่อกลับบอกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยวางแผนทำร้ายพี่ใหญ่ของนาง!หากเป็นเช่นนี้ พี่ใหญ่ของเถาจื่อก็คือเซียวหลินเทียนหรือ?เซียวหลินเทียนคือศัตรูของตน!แต่เถาจื่อจะให้ตนไปช่วยพี่ใหญ่ของนาง?“พี่ใหญ่ของเจ้า… คือเซียวหลินเทียนหรือ? คนที่มหาปราชญ์เสนอรางวัลค่าหัวอย่างหนักนั่นหรือ?”หลิงอวี๋ตื่นเต้นจนตัวสั่น นี่นับว่าเป็นการย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกมิพบพาน แต่ยามได้มากลับมิเสียเวลาเลยใช่หรือไม่?นางทุ่มเททุกอย่างในการตามหาเซียวหลินเทียน เพราะอยากจะแก้แค้นให้กับลูกชายของตน แต่เซียวหลินเทียนกลับเดินมาหาตนเสียเอง?“ศิษย์พี่หญิง เจ้าคงมิได้ต้องการเงินรางวัลสิบล้านเช่นกันหรอกใช่หรือไม่?”เมื่อเถาจื่อเห็นความตื่นเต้นของหลิงอวี๋ สายตาของนางก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชา แล้วจ้องมองหลิงอวี๋“ศิษย์พี่หญิง ข้าเคารพเจ้า ยอมมาขอให้เจ้าช่วยเหลือ เพราะข้าคิดว่าเจ้ามิได้เห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ดังเช่นคนพวกนั้น!”“ใช่แล้ว พี่ใหญ่ของข้าคือเซียวหลินเทียน และเขาก็เป็นจักรพรรดิของฉินตะวันตกด้วย! แต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1968

    “เซียวหลินเทียนอยู่ที่ภูเขาหมางหลิ่ง หลิงอวี๋ก็ด้วย รางวัลค่าหัวของพวกเขารวมกันเป็นสิบห้าล้าน ทุกคนรีบมาเร็วเข้า รีบมาจับพวกเขาเร็ว!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยค่อย ๆ หายใจดีขึ้นแล้ว จึงใช้กำลังภายในตะโกนออกไปอย่างบ้าคลั่งเมื่อครู่ตอนที่เซียวหลินเทียนบีบคอของนาง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ถือโอกาสนั้นทำบางอย่างกับอาภรณ์ของเขา จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอยากใช้สิ่งนี้จับตัวเซียวหลินเทียน และกำจัดอันตรายที่คุกคามตนไปให้หมดสิ้นเสียผู้บำเพ็ญตนเหล่านั้นล้วนมีความสามารถในการได้ยินที่พิเศษกว่าคนทั่วไป และเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดนี้ ก็พากันไปทางจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจากทุกทิศทุกทางในทันทีแน่นอนว่าเซียวหลินเทียนเองก็ย่อมได้ยินคำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเช่นกัน แล้วเขาก็ยิ้มอย่างเย็นชา เขารู้อยู่แล้วว่าสตรีผู้นี้เจ้าเล่ห์ แล้วก็เป็นดังที่คาดไว้มิมีผิด!เซียวหลินเทียนมิได้รีบร้อนที่จะออกไป หากเขาพุ่งออกไปเช่นนี้ในเวลานี้ ก็จะเป็นการบอกคนเหล่านั้น ว่าตนก็คือคนที่พวกเขาต้องการจับกุมมิใช่หรือ?เซียวหลินเทียนซ่อนตัวอยู่ด้านหลังต้นไม้ต้นหนึ่ง แล้วสวมหน้ากากผิวหนังมนุษย์อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมออก แล้วพุ่งขึ้นไปซ่อนตัวอยู่บนกิ่งไม้ส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1967

    คำพูดนี้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เซียวหลินเทียนจึงเชื่อ“ป้าวซวนอยู่ที่ใด? หลิงอวี๋อยู่ที่ใด?”เซียวหลินเทียนซักถามออกไปจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมองเซียวหลินเทียนอย่างเย็นชา “ท่านคิดว่าหม่อมฉันจะบอกหรือ? ถึงอย่างไรก็ต้องตายอยู่แล้ว เช่นนั้นหากหม่อมฉันจะตายก็จะลากหลิงอวี๋ไปรับเคราะห์ด้วย!”“เซียวหลินเทียน หากท่านอยากให้หม่อมฉันบอกที่อยู่ของป้าวซวนกับหลิงอวี๋ ท่านก็ต้องรับปากว่าจะปล่อยหม่อมฉันไปเท่านั้น!”เซียวหลินเทียนจึงเอ่ยออกไปอย่างไร้ความปรานี “จ้าวหรุ่ยหรุ่ย เจ้าไม่มีพื้นที่ให้มาต่อรองกับข้าหรอกนะ!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงเอ่ยอย่างหนักแน่น “เพคะ ท่านสามารถทรมานหม่อมฉันได้ แต่หม่อมฉันจ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงมีศักดิ์ศรี แม้ว่าท่านจะสังหารหม่อมฉัน ก็อย่าได้คิดว่าจะได้รับข่าวของพวกนางจากปากของหม่อมฉัน!”“เซียวหลินเทียน ทุกเวลาที่ท่านล่าช้าไป ก็หมายความว่าหลิงอวี๋จะยิ่งตกอยู่ในอันตราย!”“หลิงอวี๋สังหารเฉียวเค่อ ตระกูลเฉียวเกลียดนางถึงเพียงนั้น หากหลิงอวี๋ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของตระกูลเฉียวขึ้นมา พวกเขาจะต้องใช้วิธีที่โหดร้ายกว่าท่านหลายสิบเท่ามาจัดการนางอย่างแน่นอน!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1966

    ราวกับเป็นการพิสูจน์ว่าตนมิได้โกหก เซียวหลินเทียนยกมือขึ้น จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นเพียงแสงสะท้อนจากคมกริชเย็นเยียบวาบผ่านตรงหน้า แล้วใบหน้าก็รู้สึกเย็นขึ้นมาในทันที...กระทั่งเซียวหลินเทียนถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างเยาะเย้ย จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดบนใบหน้าขึ้นมา แล้วหยดเลือดนับมิถ้วนไหลลงมาตามแก้ม“เซียวหลินเทียน ท่านทำอะไรกับหม่อมฉัน?”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยตะโกนออกมาอย่างตื่นตระหนกใบหน้าของนาง?หรือว่าตนจะถูกเซียวหลินเทียนกรีดหน้านับครั้งมิถ้วน เช่นเดียวกับที่ตนทำกับหลิงอวี๋?“ก็ดังที่เจ้าทำกับอาอวี๋… หากเจ้ามิยอมบอกความจริง ก็อย่ามาหาว่าข้าไร้ความปรานี!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างดุร้าย “นี่เพิ่งเริ่มต้น หากเจ้ายังมิบอกความจริงอีก ข้าก็จะตัดเนื้อเจ้าเป็นชิ้น ๆ แล้วป้อนให้เจ้ากินไปเสีย!”เมื่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นความเกลียดชังเต็มเปี่ยมอยู่ในดวงตาของเซียวหลินเทียน ก็รู้ว่าวันนี้ตนมิสามารถหนีจากการทรมานของเขาไปได้แล้ว!หรือว่าวันนี้ตนจะต้องตายอยู่บนภูเขารกร้างแห่งนี้จริง ๆ?ไม่!นางมิยอม!“หม่อม… หม่อมทำอะไรผิด?”จู่ ๆ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ตะโกนขึ้นมา “เซียวหลินเทียน พวกท่านกำลังร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status