แชร์

บทที่ 1844

ผู้เขียน: กานเฟย
ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างก็ตกตะลึงกันไปหมด ไม่มีใครคาดคิดว่าหมอหญิงผู้นี้จะมีอารมณ์ร้ายถึงเพียงนี้ อีกทั้งมิคิดว่าเมื่อคุยมิถูกคอกันก็จะเดินจากไปในทันที

“น้องสาม เจ้าดูเถิดว่าเจ้าหาหมออะไรมา วางท่าเย่อหยิ่งยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก!”

เก๋อฮุ่ยซินรู้สึกเหมือนตนเองโดนตบหน้า จึงโกรธจนไปใส่อารมณ์กับเก๋อฮุ่ยหนิง

เก๋อฮุ่ยหนิงเหลือบมองหลิงอวี๋ แม้ว่านางจะแปลกใจเล็กน้อยว่า เหตุใดสตรีผู้นี้จึงกล้าเช่นนี้ แต่เมื่อคิดดูอีกที หากเปลี่ยนเป็นตนแล้วต้องมาเผชิญกับความก้าวร้าวของเก๋อฮุ่ยซินเช่นนี้ ตนก็คงทนมิได้เช่นกัน

นางจึงเอ่ยอย่างใจเย็น “พี่รอง มิแปลกหรอกที่นางจะโกรธ ท่านจะมิทบทวนทัศนคติของท่านสักหน่อยหรือ?”

“หมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแดนเทพเหล่านั้น ผู้ป่วยจะต้องไปขอร้องถึงที่ให้พวกเขาช่วยรักษาให้มิใช่หรือ? หากท่านได้เผชิญหน้ากับหมอที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น ท่านจะยังกล้าทำท่าทีก้าวร้าวกับพวกเขาเช่นนี้หรือ?”

เก๋อฮุ่ยซินยิ้มเยาะออกมา “ก็พวกเขาเป็นหมอที่มีชื่อเสียง ย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว แต่สตรีผู้นี้มิได้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ยังจะกล้าหยิบยกขึ้นมาพูดรวมกับหมอที่มีชื่อเสียงได้หรือ?”

หลิงอวี๋ถ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1845

    “มีอาการเช่นนี้มานานแค่ไหนแล้วหรือเจ้าคะ?”หลิงอวี๋มิได้สนใจนาง แล้วกดต่อพลางเอ่ยถามไปด้วย“ประมาณครึ่งปีแล้ว! แรกเริ่มก็คิดว่าน้ำหนักขึ้นจึงมิได้สนใจนัก แต่หลัง ๆ พุงก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อกดไปก็เจ็บจึงได้สนใจขึ้นมา!”แม่นมหลี่ก็มองฮูหยินผู้เฒ่าอย่างปวดใจเช่นกัน นางกังวลว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะเจ็บปวดจนหมดสติไปโชคดีที่หลิงอวี๋ตรวจเสร็จแล้ว นางจึงรับผ้าที่นางรับใช้ส่งให้มาเช็ดมือ จากนั้นก็นั่งลงที่ข้างเตียงของฮูหยินผู้เฒ่า“หมอเจียง เจ้ามีวิธีรักษาโรคเช่นนี้ของข้าหรือไม่?”ฮูหยินผู้เฒ่ามองไปทางหลิงอวี๋อย่างกระวนกระวายหลิงอวี๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมา “โรคของฮูหยินผู้เฒ่านั้น หากได้พบข้าตั้งแต่ป่วยช่วงเดือนสองเดือนแรก กินยาไปมิกี่ชุดก็หายแล้ว!”“แต่ตอนนี้ถุงน้ำในร่างกายโตขึ้นแล้ว หากคิดจะรักษาก็มิใช่ว่าจะทำมิได้ แต่ท่านจะต้องลำบากสักหน่อย!”ดวงตาของฮูหยินผู้เฒ่าเป็นประกายขึ้นมาทันที แล้วนางก็เอ่ยอย่างกระวนกระวาย “ลำบากก็ลำบากเถิด ข้าทนความเจ็บปวดได้ แล้วจะทนความยากลำบากมิได้ได้อย่างไร?”หลิงอวี๋ยิ้ม แล้วเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น “ฮูหยินผู้เฒ่า ความยากลำบากที่ข้าบอกนั้น อาจจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1846

    หลิงอวี๋มิรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อเคยถามคำถามเดียวกันนี้กับหมอคนอื่นมาก่อนแล้ว และทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่าฮูหยินผู้เฒ่ามิเหมาะที่จะเดินทางไกลไปรับการรักษาที่เมืองหลวงแดนเทพหมอเถาถึงกับเคยบอกอ้อม ๆ ว่าฮูหยินผู้เฒ่านั้นอาจจะตายระหว่างทางก็เป็นได้ส่วนข้าหลวงเก๋อแม้ว่าจะมีอำนาจและอิทธิพล แต่ก็มิสามารถเชิญหมอที่มีชื่อเสียงจากเมืองหลวงแดนเทพมาได้เนื่องจากหมอที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นก็เป็นดังที่เก๋อฮุ่ยหนิงบอก พวกเขาล้วนสูงส่ง จำเป็นต้องไปขอร้องถึงหน้าประตูและจ่ายเงินก้อนโตก่อนจึงจะยอมรักษาหากมิให้หลิงอวี๋รักษานาง ในเมืองจงกวนจะไม่มีใครที่สามารถรักษาโรคประหลาดของฮูหยินผู้เฒ่านี้ได้ และหากเป็นเช่นนั้นก็ทำได้เพียงรอความตายเท่านั้นฮูหยินผู้เฒ่ายังใช้ชีวิตอยู่มิเพียงพอ แล้วจะทำใจจากไปเช่นนี้ได้อย่างไรแต่จะให้หลิงอวี๋ผ่าท้องของตน ฮูหยินผู้เฒ่าก็กลัวอีกหลิงอวี๋มองออกถึงความขัดแย้งในใจของฮูหยินผู้เฒ่า นางจึงเอ่ยออกไป “ฮูหยินผู้เฒ่า ยังมีวิธีที่ประนีประนอมกันได้เจ้าค่ะ…”เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าได้ยินดังนั้น นางก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที “หมอเจียง วิธีประนีประนอมอย่างไร เจ้าบอกมาเร็วเข้า!”หลิงอวี๋

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1847

    ทันทีที่เก๋อฮุ่ยซินได้ยินว่า เก๋อฮุ่ยหนิงคิดจะสะสางให้ตนใสสะอาด นางก็ตะโกนขึ้นมา “เจ้าอย่าได้พูดให้น่าฟังไปหน่อยเลย ใคร ๆ ก็รู้ความในใจของเจ้ากันทั้งนั้นว่าเจ้าชื่นชอบคุณชายจ้าว…”“พอแล้ว!”ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธจนสีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นการที่สองพี่น้องแย่งสามีคนเดียวกันเช่นนี้ จะปกปิดก็ยังมิทัน แต่เก๋อฮุ่ยซินกลับตะโกนออกมาต่อหน้าคนนอก นี่ยังน่าอับอายมิพออีกหรือ?“เก๋อฮุ่ยซิน เจ้าออกไปเสีย!”ฮูหยินผู้เฒ่าดุด้วยความโกรธ “เจ้าถูกกักบริเวณหนึ่งเดือน หากเจ้ากล้าขัดคำสั่งของข้า สินสอดของเจ้าจะลดลงกึ่งหนึ่ง!”เก๋อฮุ่ยซินรู้สึกว่าชีวิตของนางกำลังถูกบีบขึ้นมาทันที นางจึงตะโกนออกไปด้วยความร้อนรน “ท่านย่า ข้าทำเพื่อท่านจริง ๆ ท่านจะเชื่อคำพูดของเก๋อฮุ่ยหนิงกับหมอหญิงผู้นี้มิได้เป็นอันขาดนะเจ้าคะ!”ฮูหยินผู้เฒ่าก็จ้องมองนางอย่างเย็นชา “หากเจ้าพูดออกมาอีกคำ สินสอดของเจ้าจะหายไปทั้งหมด!”เก๋อฮุ่ยซินตกใจจนต้องปิดปากไว้พลันน้ำตาคลอ และวิ่งออกไปร้องไห้ด้วยความคับข้องใจเก๋อฮุ่ยหนิงแอบรู้สึกยินดีอยู่ในใจ แต่นางมิกล้าแสดงท่าทีใด ๆ ออกไป จึงยังคงเช็ดน้ำตาอย่างเสียใจต่อไป“หนิงเอ๋อร์ ย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1848

    เงื่อนไขที่เก๋อฮุ่ยหนิงต่อรองกับหลิงอวี๋คือ หลังจากที่หลิงอวี๋ทำการผ่าตัดให้กระต่ายแล้ว หากว่ากระต่ายตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่ ข้าหลวงเก๋อก็จะต้องปล่อยลูกชายของหมอเถาไป“ข้าพยายามเต็มที่แล้ว! แต่ท่านพ่อบอกว่าเขาจะต้องได้เห็นกระต่ายมีชีวิตอยู่เท่านั้น มิฉะนั้นจะไม่มีทางปล่อยตัวคนไปแน่!”เก๋อฮุ่ยหนิงกลับมาแล้วเอ่ยกับหลิงอวี๋ “ถึงอย่างไรเจ้าก็มั่นใจในทักษะการแพทย์ของเจ้าเองมากอยู่แล้วมิใช่หรือ เช่นนั้นรออีกสักวันก็มิเป็นอะไรหรอก!”หลิงอวี๋มองออกว่าเก๋อฮุ่ยหนิงพยายามเต็มที่แล้ว นางจึงพยักหน้ากระทั่งเก๋อฮุ่ยหนิงให้นางรับใช้ไปหากระต่ายมา หลิงอวี๋กับเสี่ยวซิ่งก็นำอุปกรณ์ที่ต้องการออกมา แล้วผ่าท้องกระต่ายต่อหน้าเก๋อฮุ่ยหนิงกระต่ายถูกโอสถหมาฝู่ส่านทำให้สลบไป และทักษะที่ชำนาญของหลิงอวี๋ก็ทำให้เก๋อฮุ่ยหนิงยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น นางรู้สึกว่าหลิงอวี๋จะต้องรักษาท่านย่าของตนได้อย่างแน่นอนกระทั่งหลิงอวี๋เย็บท้องของกระต่ายเรียบร้อยแล้ว และฤทธิ์ของโอสถหมาฝู่ส่านหมดลง เมื่อเก๋อฮุ่ยหนิงเห็นกระต่ายฟื้นขึ้นมา นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็อยากจะรีบไปบอกข่าวนี้กับท่านย่า“คุณหนูสาม มันดึกแล้ว ค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1849

    จื่ออวิ๋นติดตามเก๋อฮุ่ยหนิงมาตั้งแต่เด็ก เมื่อสามปีก่อนตระกูลเก๋อได้เดินทางไปเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองอายุครบร้อยปีที่ตระกูลหลงจัดขึ้นที่เมืองหลวงแดนเทพตอนนั้นจื่ออวิ๋นได้ติดตามเก๋อฮุ่ยหนิงไปที่เมืองหลวงแดนเทพ เดิมทีท่านย่าของตระกูลเก๋อจะใช้โอกาสนี้พูดคุยเรื่องแต่งงานให้กับเหล่าคุณหนูตระกูลเก๋อ นางจึงพาเหล่าคุณหนูไปด้วยดังนั้นจื่ออวิ๋นจึงเคยพบกับพวกคุณชายจากตระกูลที่มีชื่อเสียงที่ยังมิได้แต่งงาน ในงานเลี้ยงชมบุปผาที่ทางด้านตระกูลเก๋อเป็นผู้จัดขึ้น เฉียวไป๋ก็มาเช่นกัน จื่ออวิ๋นเคยได้พบกับเขาแล้วในเวลานั้นจื่ออวิ๋นยังเคยบอกเก๋อฮุ่ยหนิงด้วยว่า เฉียวไป๋เหมาะกับเก๋อฮุ่ยหนิงมาก ทั้งคู่อายุใกล้เคียงกัน และเฉียวไป๋ก็หน้าตาหล่อเหลาด้วยเพียงแต่เมื่อดูจากภูมิหลังทางครอบครัวของตระกูลเก๋อแล้ว แม้แต่คุณหนูที่เป็นลูกสาวถูกต้องตามกฎหมายก็มิอาจเอื้อมถึงตระกูลเฉียวได้ ยิ่งมิต้องพูดถึงเก๋อฮุ่ยหนิงที่เป็นลูกสาวของอนุภรรยาเลยในตอนนั้นแม้ว่าเก๋อฮุ่ยหนิงจะชื่นชอบเฉียวไป๋เช่นกัน แต่ด้วยฐานะที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว จึงมิอาจเอื้อม และมิได้เอามาใส่ใจแต่จื่ออวิ๋นไหนเลยจะคาดคิดว่า เฉียวไป๋คุณชายตระกูลขุน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1850

    เก๋อฮุ่ยหนิงครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง จากที่จื่ออวิ๋นเล่ามา เนื้อตัวของเฉียวไป๋เต็มไปด้วยบาดแผล และหมอเจียงก็เป็นหมอ ดังนั้นบางทีนางอาจจะช่วยชีวิตเฉียวไป๋เอาไว้ก็ได้เฉียวไป๋อยู่ที่นี่ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงแดนเทพเกือบพันลี้ ดังนั้นขอเพียงตนยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้เฉียวไป๋จดจำความดีของตนเอาไว้ แล้วค่อยยุให้ท่านย่าออกหน้า การแต่งงานครั้งนี้ก็จะมีแนวโน้มประสบความสำเร็จถึงแปดหรือเก้าในสิบแล้วแต่จะเข้าใกล้เฉียวไป๋ได้อย่างไรกัน?เก๋อฮุ่ยหนิงมิคิดว่า หากตนเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับเฉียวไป๋ก่อน เขาก็คงจะสนใจนางปกติแล้วคุณชายตระกูลขุนนางเหล่านี้มักจะมิเห็นใครอยู่ในสายตาทั้งนั้น หากมิใช่คนพิเศษสักหน่อย เฉียวไป๋ไม่มีทางยอมให้ตนเข้าใกล้เขาเป็นอันขาด!“จื่ออวิ๋น เจ้าไปสืบมาทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่ตระกูลเฉียว เหตุใดคุณชายเฉียวจึงมาลำบากอยู่ที่นี่ได้!”“และหากสืบมาได้ว่าคุณชายเฉียวชอบอะไรก็จะยิ่งดี!”เก๋อฮุ่ยหนิงรู้สึกว่า เมื่อก่อนนั้นตนยอมรับความลำบากมาโดยตลอด จึงได้ถูกเก๋อฮุ่ยซินแย่งชิงเรื่องการแต่งงานไป แต่ครั้งนี้มิว่าอย่างไรนางก็จะต่อสู้เพื่อตนเองให้ได้หากว่ามิสำเร็จ นางค่อยยอมรับชะตากรรมก็ได้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1851

    เมื่อหลิงอวี๋ไปถึงบ้านตระกูลเก๋อ ตอนนี้เก๋อฮุ่ยหนิงมองหลิงอวี๋แตกต่างออกไปแล้ว ที่แท้หมอเจียงก็มีตระกูลเฉียวสนับสนุนอยู่ นางจึงได้กล้าหาญมิเกรงกลัวอำนาจของตระกูลเก๋อเช่นนี้!กระต่ายน้อยที่หลิงอวี๋ผ่าท้องไปนั้นยังมีชีวิตอยู่ดี ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจึงยิ่งรู้สึกสนใจที่จะให้หลิงอวี๋ทำการรักษานางแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก แม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจะรู้สึกสนใจขึ้นมาแล้ว แต่หากยังมิผ่านการยินยอมจากลูกชายเสียก่อน นางก็มิอาจตัดสินใจเองโดยพลการได้ ข้าหลวงเก๋อจึงถูกเชิญมา นับเป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้พบกับใต้เท้าข้าหลวงเมืองจงกวนผู้นี้เขาอายุสี่สิบกว่า ดูมีชีวิตชีวา เขามีใบหน้ารูปเหลี่ยม จมูกงุ้มเล็กน้อยและมีดวงตาลึกเขามองประเมินหลิงอวี๋ แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “หมอเจียง ท่านแม่ของข้าเทียบกับกระต่ายมิได้หรอกนะ ชีวิตของนางมีค่ามากกว่ากระต่ายตัวนั้นร้อยเท่า เจ้าแน่ใจหรือว่าการผ่าตัดให้นางจะมิเป็นอันตราย?”หลิงอวี๋เผชิญหน้ากับข้าหลวงเก๋อผู้มีอำนาจ โดยมิได้แสดงความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอจนเกินไป “ท่านใต้เท้าเก๋อ แม้ว่าชีวิตของฮูหยินผู้เฒ่าจะล้ำค่ากว่ากระต่ายตัวนั้นแต่ก็เป็นชีวิตเจ้าค่ะ ข้าได้พ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1852

    เก๋อฮุ่ยหนิงมองไปแล้วก็เกือบจะอาเจียนออกมา“คุณหนูสาม หมอเจียงได้นำถุงน้ำออกมาแล้วเจ้าค่ะ นางให้บ่าวยกออกมาให้พวกท่านดู! ตอนนี้หมอเจียงกำลังเย็บแผลของฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ คงจะต้องใช้เวลาสักพักเจ้าค่ะ!”นางรับใช้ใช้ตัวน้อยยกสิ่งที่อยู่ในจานให้ทุกคนดู เมื่อฮูหยินเก๋อและคุณหนูคนอื่น ๆ เห็นก็ตกใจจนรีบเบือนสายตาไปทางอื่นในทันทีเก๋อฮุ่ยหนิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจอยู่ภายในใจ หมอที่ตนเชิญมารักษาฮูหยินผู้เฒ่าเก่งกาจถึงเพียงนี้ ตนช่างมีสายตาที่หลักแหลมเสียจริง!“ยกถุงน้ำไปให้ท่านพ่อดูสิ ท่านพ่อจะต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่ในที่สุดโรคของท่านย่าก็รักษาหายแล้ว!”เก๋อฮุ่ยหนิงจงใจเอ่ยขึ้นมานางรับใช้ตัวน้อยจึงทำตามคำสั่งแล้วยกไปให้ข้าหลวงเก๋อดูเก๋อฮุ่ยซินและฮูหยินเก๋อต่างก็มองหน้ากัน ทั้งสองคนต่างก็โกรธมาก ๆหากฮูหยินผู้เฒ่าหายดีแล้ว เช่นนั้นก็แสดงว่าฮูหยินเก๋อยังต้องถูกฮูหยินผู้เฒ่ากดขี่ต่อไปอีก และจะมิได้สิทธิ์ดูแลตระกูลเก๋อด้วยทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนเกิดขึ้นเพราะเก๋อฮุ่ยหนิง!ในชั่วขณะหนึ่งฮูหยินเก๋ออยากจะตีนางสารเลวผู้นี้ให้ตายไปเสีย นางถึงกับแอบสาบานว่า นางจะต้องหาคู่แต่งงานที่น่ารังเกียจที่สุดให้ก

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1934

    เสียงของหลิงอวี๋มิได้ดัง แต่ก็แน่วแน่มีพลังพอ ทำให้คุณหนูคุณชายที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ยินกันหมดเซียวหลินเทียนเพิ่งลงจากรถม้ามาพร้อมกับพวกเถาจื่อ เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวหลินเทียนก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วก็หันไปมองน้ำเสียงนี้ พลังเช่นนี้ เหตุใดจึงคล้ายกับหลิงอวี๋มากถึงเพียงนั้นอย่ารังแกคนหนุ่มสาวที่ยากจน!ตอนนั้นที่หลิงอวี๋ถูกพวกเสิ่นจวนกลั่นแกล้งที่ภัตตาคาร หลิงอวี๋ก็เคยพูดในทำนองเดียวกันนี้“ใต้หล้านี้หากมีคนใส่ร้ายข้า หลอกลวงข้า ดูหมิ่นข้า เย้ยหยันข้า ดูถูกข้า เหยียดหยามข้า รังเกียจข้า หลอกลวงข้า ข้าควรจะลงโทษอย่างไร?”“ขอเพียงอดทนกับเขา ยอมเขา ตามใจเขา หลีกเลี่ยงเขา อดกลั้นกับเขา เคารพเขา เมินเฉยเขา และรอไปสักสองสามปีแล้วค่อยดูเขา!”พวกของเสิ่นจวนที่เคยรังแกหลิงอวี๋ในอดีตนั้น ในตอนนี้ต่างก็มีจุดจบที่น่าสังเวชทั้งสิ้น มีเพียงหลิงอวี๋เท่านั้น ที่ก้าวหน้า กลายเป็นหมอที่มีชื่อเสียง เป็นฮองเฮาที่ผู้คนนับล้านในฉินตะวันตกเคารพ!สตรีหน้าตาธรรมดาและแต่งตัวซอมซ่อตรงหน้าเขาผู้นี้ ก็มีพลังของหลิงอวี๋อยู่เช่นกันใครจะรู้ว่านางจะเป็นดังเช่นหลิงอวี๋หรือไม่ หนึ่งปีหลังจากนี้นางอาจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1933

    ใต้หล้านี้มีสตรีที่งดงามอยู่มากมาย!บางคนก็พึ่งการแต่งตัวให้ตนดูงดงาม!และบางคนก็พึ่งความเข้มแข็งภายในจิตใจทำให้งดงาม!และในชั่วขณะนี้ เหลยเหวินรู้สึกว่าสหายของตนผู้นี้ ถึงแม้ว่าจะดูธรรมดาทั่วไป แต่ก็มิได้ด้อยไปกว่าสตรีที่แต่งหน้าแต่งตัวจัดเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย“เสี่ยวอวี๋ เจ้าจะต้องได้สิ่งที่เจ้าต้องการอย่างแน่นอน!”เหลยเหวินเอ่ยออกมาอย่างจริงใจหลิงอวี๋มีจิตใจที่แน่วแน่เช่นนี้ ทั้งยังมีพรสวรรค์ด้านการกลั่นโอสถอีก ในอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด นางจะต้องไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดอย่างแน่นอนทั้งสองยิ้มให้กันแล้วออกไปรอจงเจิ้งเฟยและเมื่อมาถึงที่หน้าประตู รถม้าของตระกูลจงเจิ้งก็มาถึงเนื่องจากเป็นตระกูลใหญ่ จึงเป็นรถม้าที่มีม้าลากสี่ตัวที่ดูหรูหรามาก พวกนางทั้งสามคนยิ้มแย้มพูดคุยกันไปขณะที่มุ่งหน้าไปที่บ้านของหลงอิง“เสี่ยวอวี๋ ตระกูลของหลงอิงเป็นสายข้างเคียงของตระกูลหลง ดังนั้นที่ที่พวกเราจะไปกันจึงมิใช่คฤหาสน์ต้นตระกูล แต่เป็นคฤหาสน์ของครอบครัวนางเอง”เหลยเหวินแนะนำหลิงอวี๋อย่างกระตือรือร้น “แม้ว่าจะเป็นเพียงสายข้างเคียง แต่ครอบครัวหลงอิงก็ใหญ่โตมากเช่นกัน ต้องจัดงานยิ่งใหญ่เช่นนี้ประจำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1932

    “เสี่ยวชี เจ้าอาศัยอยู่ที่ใด ข้าจะไปส่งเจ้า!”เย่หรงรู้สึกว่าคุยกับหลิงอวี๋ถูกคอมาก จึงรู้สึกว่ายังมิพอ“โรงเตี๊ยมเจ้าค่ะ!”ในเมื่อหลิงอวี๋ตัดสินใจที่จะสร้างพันธมิตรกับเย่หรงแล้ว นางจึงมิลังเลที่จะบอกเรื่องของตนให้เขารู้เย่หรงจึงเอ่ยออกมาอย่างประหลาดใจ “เจ้าสอบเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงได้แล้วนี่ เหตุใดยังพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมอีกเล่า? โรงเตี๊ยมในเมืองหลวงแดนเทพราคามิใช่ถูก ๆ เจ้าทำเช่นนี้มิสู้ซื้อเรือนสักหลังน่าจะคุ้มค่ากว่าหรือ!”หลิงอวี๋จึงยิ้มอย่างเย็นชา “เดิมทีข้ามีบ้านอยู่ แต่ถูกคนทำลายไปเสียแล้ว!”“เกิดเรื่องอันใดขึ้น? เจ้าเป็นศิษย์น้อยของอาสาม ใครกันที่ตาไร้แววกล้ามาทำลายเรือนของเจ้า?”เย่หรงยิ่งก็ยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีกหลิงอวี๋จึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้เขาฟัง และสุดท้ายก็เอ่ยออกไป “เรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของเหมียวหยางเป็นแน่ ข้าไม่มีศัตรูอยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ และนอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครที่จะทำเรื่องเช่นนี้กับข้าด้วย!”เย่หรงได้ยินเช่นนั้นก็โกรธมาก “ไป่หลี่ไห่กับหอโอสถไป๋เป่าอาศัยว่ามีการสนับสนุนของเจ้าแห่งทะเล จึงได้กล้าทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้!”“เสี่ยวช

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1931

    แหกคุกหรือ?เหมือนว่าจะไม่มีใครเคยพูดเช่นนี้กับเย่หรงมาก่อนเลย เย่หรงเองก็ถูกการศึกษาที่แสนยาวนานยับยั้งเอาไว้ คิดมิถึงเลยว่าจะมีวิธีเช่นนี้ที่สามารถใช้ได้ด้วย!เขาประหลาดใจขึ้นมาในทันที แล้วก็มองหลิงอวี๋อย่างเหลือเชื่อเช่นนี้ก็ได้เช่นกันนี่?เพราะว่าเย่หรงเองก็เป็นคนที่มิทำตามกฎอยู่แล้ว หลังจากที่ตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง เขาก็คิดออกแล้วคำโน้มนำที่หลิงอวี๋ขว้างมาตรงหน้าตนนั้นเป็นราวกับต้นกล้าเล็ก ๆ ที่ทะลุผ่านดินขึ้นมาในชั่วพริบตา และเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ!ใครบอกว่ามิได้เล่า?ความผิดที่มารดาของเขาทำนั้นมิใช่ความผิดร้ายแรง ตระกูลหลงและตระกูลเย่ก็มิแม้แต่จะผ่านการพิจารณาคดีด้วยซ้ำ พวกเขาแค่ขังนางไว้ในคุกน้ำอันมืดมิดมาเป็นเวลานานสิบกว่าปีแล้วพวกเขาสามารถเพิกเฉยกฎเกณฑ์ได้ และทำตามอำเภอใจกันได้ เช่นนั้นเหตุใดตนจึงต้องปฏิบัติตามกฎของพวกเขาด้วยเล่า?มิรู้ว่าท่านแม่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนั้นจะถูกทรมานอย่างไรบ้าง เขาในฐานะลูกชายจะสามารถมองดูมารดาต้องทนทุกข์ต่อไปได้อย่างไรกัน?หากเขามิช่วยท่านแม่ออกมาจากสถานที่เลวร้ายนั้น เขาจะต้องสูญเสียท่านแม่ไปแน่“เสี่ยวชี ข้าจะหาช่องโหว่ได้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1930

    ก็มิรู้ว่าเพราะเหตุใดเช่นกัน!เป็นเพราะได้ยินหยางหงหนิงบอกว่าเย่หรงชอบหลิงอวี๋หรือ?หรือเป็นเพราะเมื่อครู่ได้ยินเย่หรงพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าตัวเขาไร้ประโยชน์ และไม่มีอะไรดี?หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะเคยได้ยินผู้รอบรู้เล่าเรื่องภูมิหลังของเย่หรง เมื่อหลิงอวี๋เห็นเย่หรงจึงไม่มีความระแวดระวังดังเช่นก่อนหน้านี้นี่คือคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง!หลิงอวี๋มองใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นแล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างประหม่า “คุณชายเย่ ข้ามิได้ตั้งใจจะแอบฟัง ข้าแค่ผ่านมา… แค่ผ่านมาเท่านั้นเอง!”เย่หรงจ้องมองนางอย่างดุร้าย และเมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของศิษย์น้อยของเย่ซื่อฝาน ดูมิคล้ายกับพูดโกหกอยู่ เขาก็เอ่ยถามอย่างมิคาดคิด “เจ้าดื่มสุราเป็นหรือไม่?”เอ๊ะ นี่คือคำถามอะไรกัน?“มินับว่าดื่มเป็นเจ้าค่ะ!” หลิงอวี๋เอ่ยด้วยความเขินอายนางมิรู้ด้วยซ้ำว่าตนสามารถดื่มได้มากแค่ไหน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าดื่มเป็นหรือไม่“ไป ข้าจะเลี้ยงสุราเจ้าเอง!”เย่หรงมิพูดพร่ำทำเพลง แล้วเดินเข้ามาคว้าแขนของหลิงอวี๋เดินไป“คุณชายเย่ ข้าไปดื่มกับท่านมิได้เจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ตกใจ แล้วก็ดิ้นรนพลางเอ่ยออกมาแม้แต่คนตาบอดก็ยังมองเห็นชัดเจนว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1929

    เย่ซื่อฝานทำการสอนหลิงอวี๋เป็นเวลาครึ่งวันแล้วก็กังวลว่า นางจะมิสามารถดูดซับความรู้ไปได้ทั้งหมด ในเวลาที่เหลือจึงปล่อยให้หลิงอวี๋ทำความคุ้นเคยกับเครื่องยาสมุนไพรด้วยตนเองหลิงอวี๋จึงขออนุญาตจากเย่ซื่อฝาน เรียนรู้อยู่ในห้องปรุงโอสถของเย่ซื่อฝานไปในตอนอาหารเที่ยง เย่ซื่อฝานก็ชวนหลิงอวี๋ไปกินข้าวด้วยกัน แต่หลิงอวี๋ปฏิเสธ บอกว่าตนมีอาหารแห้งมาแล้วเย่ซื่อฝานหมดคำพูดไปเลย เขาคำนึงถึงหลิงอวี๋ว่าเป็นเพราะความภาคภูมิใจในตนเองอาจทำให้เกิดปัญหา จึงมิอยากกินอาหารร่วมกับคนตระกูลเย่ เขาจึงให้คนรับใช้นำอาหารกลางวันไปให้หลิงอวี๋เพียงลำพังหลิงอวี๋ยืมใช้เตากลั่นโอสถของเย่ซื่อฝาน แล้วทำการกลั่นโอสถเสริมพลังวิญญาณไปสองเตา แต่มีอัตราความสำเร็จเพียงสี่ส่วนเท่านั้นนี่เป็นเพราะว่าพลังของหลิงอวี๋ในตอนนี้มิเพียงพอ จึงทำให้หลิงอวี๋ยิ่งมุ่งมั่นที่จะดึงเข็มเงินออกมากขึ้นหลิงอวี๋นำโอสถไปเพียงขวดเดียว ส่วนที่เหลือก็ถือเป็นการชดเชยการใช้เครื่องยาสมุนไพรของเย่ซื่อฝานไปเสียนอกจากนี้ หลิงอวี๋ยังใช้เครื่องยาสมุนไพรของเย่ซื่อฝานทำสองสิ่งด้วย นั่นก็คือจัดเตรียมเป็นยาพิษหนึ่ง และยาแก้พิษอีกหนึ่งนางพูดไปแล้วว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1928

    กระทั่งผู้รอบรู้ฝ่าฝนกลับเข้ามา เขาก็เห็นหลิงอวี๋กำลังนั่งอยู่บนธรณีประตูที่ถูกทำลาย พร้อมทั้งมีห่อสัมภาระเล็ก ๆ สองห่อวางอยู่ข้างกาย“น้องหญิง… มันเกิดอะไรขึ้น? ใครเป็นคนทำ?”เมื่อผู้รอบรู้เห็นประตูใหญ่ถูกทำลายไป เขาก็เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ“ท่านพี่ เราอยู่ที่นี่มิได้แล้ว! คืนนี้พวกเราไปอยู่ที่โรงเตี๊ยมกันก่อน แล้ววันพรุ่งค่อยคิดหาทางกันเถิด!”หลิงอวี๋ยืนขึ้นอย่างสงบ แล้วยื่นสัมภาระห่อหนึ่งให้กับผู้รอบรู้เมื่อผู้รอบรู้เห็นความยุ่งเหยิงและเรือนที่ถูกฝนซัดสาด อีกทั้งหลังคาที่พังทลาย เขาก็เข้าใจทุกอย่างในทันที“เหมียวหยางทำหรือ?”“อืม! ไม่มีทางเป็นผู้อื่นนอกจากเขา!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะแล้วเอ่ยออกไป “ท่านพี่ พวกเราไปกันเถิด! ภายในสิบวัน ข้าจะทำให้เหมียวหยางควักเงินออกมาสร้างบ้านของเราใหม่ให้จงได้!”ผู้รอบรู้ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วมองไปทางหลิงอวี๋แล้วเขาก็เห็นใบหน้าของนางที่ถูกชะล้างด้วยฝนนั้น เต็มไปด้วยความเย็นชาและความมุ่งมั่น“เจ้าจะทำกระไร?”ผู้รอบรู้มิได้คลางแคลงใจว่าหลิงอวี๋กำลังโอ้อวดหรือไม่ เขามองออกอยู่แล้วว่าที่หลิงอวี๋มั่นใจเช่นนี้นางจะต้องคิดวิธีดี ๆ ออกแล้วแน่นอน“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1927

    ผลลัพธ์ก็คือ หลังจากทดลองไปหนึ่งคืนหลิงอวี๋ได้กลั่นไปแล้วสามเตา และอัตราความสำเร็จสูงที่สุดในการกลั่นโอสถคือเจ็ดส่วนแต่นางก็พอใจแล้ว เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกในการกลั่นโอสถของตน มีอัตราความสำเร็จสูงถึงเพียงนี้ก็นับว่าดีแล้วเมื่อเห็นว่าฟ้าสางแล้ว หลิงอวี๋ก็รีบอาบน้ำและทำอาหารเช้า กระทั่งผู้รอบรู้ตื่นขึ้นมา นางก็นำโอสถที่กลั่นออกมาได้ให้เขาไปขาย และซื้อเครื่องยาสมุนไพรบางส่วนกลับมาอีกหลิงอวี๋วางแผนจะกลั่นโอสถเสริมพลังวิญญาณในคืนนี้แต่สิ่งที่ทำให้หลิงอวี๋และผู้รอบรู้คาดมิถึงก็คือ หลังจากที่ทั้งสองคนออกจากบ้านไป ก็มีกลุ่มคนเข้ามา และเตะประตูเปิดออกอย่างโหดร้าย จากนั้นก็ทุบทำลายเรือนที่พวกเขาสองคนซ่อมแซมกันมาอย่างยากลำบากจนพังยับเยินเตากลั่นโอสถก็ถูกทำลายไปเช่นกัน และเครื่องยาสมุนไพรที่เหลือก็ถูกทำลายไปด้วยวันนี้หลิงอวี๋เรียนครึ่งวัน นางพะวงเรื่องการกลั่นโอสถจึงกลับมาก่อน แต่เดินไปได้ครึ่งทางฝนก็โปรยปรายลงมาแล้วหลิงอวี๋จึงรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว แต่ไปถึงแค่ปากตรอก ฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ หลิงอวี๋จึงเปียกโชกเป็นลูกหมาตกน้ำไปในชั่วพริบตาจากนั้นนางก็เร่งฝีเท้าไป และขณะที่กำลังวิ่งอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1926

    เรื่องเกี่ยวกับราชวงศ์ในเมืองหลวงแดนเทพและตระกูลใหญ่ทั้งหลายนั้น ผู้รอบรู้บอกหลิงอวี๋ไว้หมดแล้วนับตั้งแต่มหาเทพหลงอี้ก่อตั้งแดนเทพขึ้นมา ตระกูลหลงก็ปกครองมาเป็นเวลาแปดร้อยปีแล้วก่อนหน้านี้มีหลงอี้คอยสนับสนุนตระกูลหลงอยู่ ดังนั้นแม้ว่าจะมีคนมิพอใจ แต่พวกเขาก็ล้วนถูกอำนาจเทพของหลงอี้กดขี่ไว้ ทำให้มิสามารถต่อต้านได้แต่ตอนนี้หลงอี้อาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว บรรดาตระกูลใหญ่ที่ถูกกดขี่ไว้เหล่านี้ ผู้ใดจะยอมทนให้ตระกูลหลงกดหัวทุกคนไว้กันเล่า?จากการพัฒนามาหลายร้อยปี ตระกูลใหญ่เหล่านี้ล้วนร่ำรวยพอที่จะเป็นศัตรูกับแผ่นดินได้แล้ว มีลูกหลานอยู่ตั้งมากมาย หากตระกูลใดได้นั่งอยู่ในตำแหน่งนั้น ก็หมายถึงการเปลี่ยนอำนาจ มีเกียรติยศรุ่งเรืองไร้ขีดจำกัด และสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ได้เองยามนี้ที่ยังอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข นั่นก็เป็นเพราะตระกูลใหญ่เหล่านี้กำลังรอโอกาสอยู่ก่อนที่พายุจะมาถึง สำนักต่าง ๆ ล้วนรับสมัครคนที่มีความสามารถกันอย่างกระตือรือร้น และการกระทำเช่นนี้ของตระกูลหลงนั้น ก็เพียงเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับอำนาจปกครองของตนเองเท่านั้นหลิงอวี๋มิได้สนใจการต่อสู้ภายในเหล่านี้นัก แต่นางกลับถูกดึงเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status