แชร์

บทที่ 179

ผู้เขียน: ฉินอันอัน
หลังจากขว้างหินเสร็จ ไป๋จื่อก็แอบย่องกลับไปข้างชีหยวน แต่ทันใดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง “คุณหนูเจ้าคะ ท่านดูนั่นสิ!”

นางชี้ไปที่ต้นไม้ข้าง ๆ ชีหยวนจึงหันไปมอง ก็เห็นว่าลิ่วจินกำลังนั่งอยู่บนยอดไม้โบกมือทักทายนาง

ชัดเจนว่า คนที่เริ่มนำปาไข่ไก่เมื่อครู่ก็คือเขานั่นเอง

ช่าง...

ชีหยวนไอเบา ๆ หนึ่งครั้ง ก่อนหมุนตัวขึ้นไปบนรถม้า

ไป๋จื่อรีบตามขึ้นไป พลางมองชีหยวนด้วยความตื่นเต้นดีใจ “คุณหนูเจ้าคะ แล้วเราจะทำอะไรต่อดี?”

ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคุณหนูถึงบอกว่าชอบจัดการเรื่องแบบนี้

ที่แท้ การได้เห็นผู้ชายเลว ๆ ต้องขายหน้ามันทำให้มีความสุขถึงเพียงนี้นี่เอง!

ใช่แล้ว ทำไมความทุกข์ยากลำบากต้องตกอยู่กับผู้หญิง แต่ผู้ชายกลับได้ประโยชน์!

ควรจะให้พวกผู้ชายเลว ๆ เหล่านี้ได้รับบทเรียนอย่างสาสมเสียบ้าง!

ชีหยวนเอนตัวพิงไปด้านหลัง พร้อมยิ้มบาง ๆ “ต่อจากนี้ ก็รอให้คนมาขอร้องเราเอง”

บนต้นไม้ เมื่อเห็นชีหยวนขึ้นรถม้าจากไป ลิ่วจินก็ลูบคอตัวเองเบา ๆ ก่อนหันไปมองปาเป่า “ไม่รู้ทำไม ข้ารู้สึกว่าคอมันเย็นวูบวาบยังไงไม่รู้”

ปาเป่ากลอกตา “เพราะมือเจ้ามันซุกซนเอง! องค์ชายสั่งให้เราคุ้มครองคุณหนูให
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 180

    นายท่านผู้เฒ่ารองโจวรู้สึกจนใจ เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดในวันนี้ให้ฟังเมื่อเห็นฮูหยินผู้เฒ่าโจวโกรธจนแทบกระอักเลือด นายท่านผู้เฒ่ารองก็กลั้นใจพูดว่า “คำเล่าลือพูดต่อ ๆ กันไปมากเข้าจะกลายเป็นจริง หากปล่อยให้แพร่กระจายออกไป ย่อมไม่เป็นผลดีกับตระกูลเรา เกรงว่าคงต้องขอให้ท่านและโจวผิงอดทนอดกลั้นสักหน่อย รีบไปรับภรรยาของโจวผิงกลับมา เรื่องนี้ถึงจะสงบลงได้”เรื่องภรรยาเอกเท่าเทียมนั้นก็อย่าได้คิดจะพูดถึงอีกต่อไปคงต้องหาวิธีประกาศต่อภายนอกว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงความเข้าใจผิดไม่เช่นนั้น ซุ้มประกาศเกียรติคุณที่เหลืออยู่คงไม่อาจรักษาไว้ได้แล้วโจวผิงที่มีความรู้กว้างขวางกว่าฮูหยินผู้เฒ่าโจวเล็กน้อย เมื่อได้รับสัญญาณจากนายท่านผู้เฒ่ารอง จึงได้แต่พยายามกล้ำกลืนความโกรธในใจ ช่วยพูดปลอบฮูหยินผู้เฒ่าโจวจนสงบลงได้ในที่สุดทั้งครอบครัวจึงนำของขวัญติดตัวไปยังจวนตระกูลชีในทันทีฮูหยินผู้เฒ่าชีและคนอื่น ๆ ต่างก็ทราบเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้แล้วเมื่อได้ยินว่าชีหยวนไปหาโจวคุนและให้เขาทุบซุ้มประกาศเกียรติคุณของตระกูลโจว ทุกคนต่างมีสีหน้าแปลกใจโดยเฉพาะชีฟางอวิ๋น นางอ้าปากค้างพลางร้องออกมา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 181

    ท่านหญิงโจวถูกคำพูดของชีหยวนทำให้ขนลุกไปทั้งตัว จนเหงื่อเย็นชุ่มเต็มแผ่นหลัง หัวใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน ทั้งสิ้นหวังและโกรธแค้น นางทนไม่ไหวจนต้องผลักชีหยวนไปทีหนึ่ง แล้วพูดว่า: “ถ้าเจ้ายังมาพูดจาทำให้คนตื่นกลัว กล่าววาจาเหลวไหลเช่นนี้อีก ข้าจะไปกราบทูลฝ่าบาทให้ทรงพิจารณาโทษเจ้า!”เมื่อพูดจบประโยคนี้ นางก็เหมือนได้รับความกล้า ทำสีหน้าตึงเครียดกัดฟันพูดว่า: “บุตรสาวของข้าเป็นหญิงพรหมจรรย์ที่ได้รับพระราชทานจากราชสำนัก เจ้าถึงกับกล้าดูหมิ่นเยี่ยงนี้! ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้!”ชีหยวนหลุดขำออกมา นางจ้องมองท่านหญิงโจวอย่างแน่วแน่: “ความจริงแล้ว ตอนนั้นนางไม่แต่งงานก็ได้ หลังจากที่คู่หมั้นของบุตรสาวท่านเกิดเรื่อง ก็ยังมีคนมาสู่ขอนาง ทั้งยังเป็นสหายตั้งแต่วัยเยาว์ของนางด้วยซ้ำ...”ใบหน้าของท่านหญิงโจวซีดขาว แม้แต่ริมฝีปากก็ไร้สีเลือด ชี้นิ้วไปที่ชีหยวนพร้อมหายใจหอบหนัก“เพียงแต่...หากแต่งไปเยี่ยงนั้น นั่นก็จะไม่มีก้อนภูเขาทองแล้วใช่หรือไม่?” ชีหยวนแสยะยิ้มเย็นชา ดวงตาจ้องท่านหญิงโจวอย่างดูแคลน “ดังนั้น พวกท่านจึงใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง บังคับนางให้แต่งงาน สามเดือนต่อมา เมื่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 182

    หากแม่ลูกตระกูลโจวจะฆ่าบุตรสาวฆ่าน้องหญิงเพียงเพราะต้องการแค่ซุ้มประกาศเกียรติคุณพรหมจรรย์จริงๆ แล้วล่ะก็ จะเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะยอมสละเสาหลักใหญ่อย่างตระกูลโหว?พวกเขาคงไม่ยอมถอดใจเรื่องนี้ง่ายๆ แน่ชีหยวนยิ้มมุมปากแล้วกล่าวว่า “ไม่หรอกเจ้าค่ะ เรื่องนี้จะคลี่คลายในเร็ววัน”ฮูหยินผู้เฒ่าชีนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะอดถามด้วยเสียงเคร่งขรึมไม่ได้ว่า “ทำไมหรือ?”“เพราะ พวกเขาจะทะเลาะกันเองเพื่อหาว่าใครเป็นคนเปิดเผยความจริงในตอนนั้น” ชีหยวนยิ้มบางๆ : “คนเราย่อมตายเพราะทรัพย์ สัตว์ปีกย่อมตายเพราะอาหาร สำหรับพวกเขาแล้ว ซุ้มประกาศเกียรติคุณพรหมจรรย์ที่เป็นฐานรากของตระกูลโจวนั้นเปรียบได้กับชีวิตของพวกเขาเอง ตอนนี้ชีวิตทั้งตระกูลกำลังสั่นคลอน ด้วยนิสัยของพวกเขา คงไม่คิดทบทวนตัวเอง มีแต่จะโยนความผิดให้กันและกัน”แม่ลูกแล้วอย่างไร?เด็กสาวผู้น่าสงสารคนนั้นของตระกูลโจวหรือว่าไม่ใช่สายเลือดตระกูลโจว?ท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นถึงกับตกใจเมื่อได้ยินและชีหยวนได้ลุกขึ้นยืน นางกล่าวเสียงเบา “นางจะไม่รู้สึกเศร้าหรือรู้สึกผิดให้กับลูกสาวที่ตายไปหลายปี แต่จะรู้สึกเสียใจเพราะความลับถูกเปิดเผย และกำลั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 183

    ชีหยวนตอบขานรับอย่างไม่แปลกใจแม้แต่น้อย: “เรื่องที่แขวนคอแม่นางโจวในปีนั้นเป็นฝีมือของพวกเขาทั้งคู่ ตอนนี้ความจริงได้เปิดเผยออกมา พวกเขาย่อมระแวงสงสัยกันเองว่าใครเป็นคนปล่อยความลับออกมา ยิ่งไปกว่านั้นแผ่นซุ้มประกาศเกียรติคุณพรหมจรรย์ก็ถูกทุบต่อหน้าฝูงชน จวนโหวเองก็ต้องการหย่าขาดจากพวกเขา การที่พวกเขาทะเลาะกันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”ชีหยวนสามารถเดาได้แม้กระทั่งคำพูดที่พวกเขาทะเลาะกันเหล่านั้นได้เลยทีเดียวส่วนเรื่องที่ว่าท่านหญิงท่านหญิงโจวตายเพราะพลัดตกหกล้มจริงหรือไม่นั้น?เธอทำได้เพียงหัวเราะเท่านั้นคนที่มีจิตควบคุมสูงเยี่ยงนี้ หลานชายคนโตใกล้จะแต่งงานแล้ว แต่เธอยังคงให้ลูกสะใภ้ทำตามกฏเกณฑ์ทุกวัน ทั้งยังแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ควบคุมอำนาจในเรือนหลังของจวนทั้งหลัง เธอจะเต็มใจตายง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?ไม่มีทาง!อย่าว่าแต่ซุ้มประกาศเกียรติคุณพรหมจรรย์ของแม่นางโจวแค่แผ่นเดียวถูกรื้อถอนเลยต่อให้ซุ้มประกาศทั้งสิบสองแผ่นของตระกูลโจวถูกทุบทิ้งหมด เธอก็ไม่มีทางยอมตายอย่างเต็มอกเต็มใจอย่างแน่นอนสิ่งเดียวที่เป็นไปได้ก็คือ แม่ลูกตระกูลโจวกล่าวโทษกันไปมา ผลสุดท้ายท่านหญิงโจวถูกทำให้โกรธจน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 184

    สีหน้าของชีเจิ้นเคร่งขรึม: “ตอนแรกข้าคิดว่าเป็นเพียงข่าวลืออีกเท่านั้น จนกระทั่งคนสนิทของข้าเดินทางไปตรวจสอบดู และนำสิ่งหนึ่งกลับมา”เขาพูดแล้วก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปเลื่อนตู้หนังสือออก เผยให้เห็นช่องลับด้านหลัง จากนั้นก็ยกกล่องใบหนึ่งมาวางบนโต๊ะ และค่อยๆ เปิดกล่องอย่างระมัดระวังภายในกล่องนั้นมีคันธนูเล็กๆ หนึ่งคันวางอยู่อย่างเงียบสงบ คันธนูเล็กนั้นขนาดประมาณว่าวหนึ่งตัว บนตัวธนูนั้นถูกประดับด้วยทับทิมสีแดงเม็ดโต เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ธนูสำหรับใช้งานจริง แต่เป็นของเล่นสำหรับความบันเทิงเท่านั้นสายตาของชีหยวนกวาดมองคันธนูนั้น ก่อนจะเอ่ยถามเสียงขรึมว่า: “นี่คือของของพระชายาหลิ่วหรือ?”ดังนั้นจึงทำให้ชีเจิ้นมั่นใจได้ว่า มีพระชายาหลิ่วอยู่ที่เมืองเล็กๆ ของเมืองซ่งในเจียงซีกระมัง?หัวใจของนางรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเล็กน้อยชาติที่แล้ว ข่าวนี้ตกไปอยู่ในมือของอ๋องฉีอ๋องฉีสั่งให้คนไปสังหารพระชายาหลิ่วสองแม่ลูกหลังจากสังหารแล้ว ก็ใส่ร้ายป้ายสีว่าตระกูลเฝิงเป็นผู้ลงมือเซียวอวิ๋นถิงและตระกูลเฝิงจึงให้ตระกูลเซี่ยตรวจสอบเรื่องนี้ สุดท้ายทำให้อ๋องฉีเกิดความสนใจ อ๋องฉีจึงหาข้ออ้างและสัง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 185

    ท่านโหวผู้เฒ่ากุมมือของชีเจิ้นไว้ ไม่รอให้ชีเจิ้นตอบ ก็เอ่ยถามขึ้นเองก่อนว่า: “อาหยวน เจ้ามั่นใจมากน้อยเท่าไร?”เขาจ้องมองชีหยวนอย่างลึกซึ้ง คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเสริมขึ้นว่า: “ข้าหมายถึง หากต้องกำจัดอ๋องฉี เจ้ามั่นใจมากเท่าไร?”ชีเจิ้นมองชีหยวนด้วยความกังวลเขารู้สึกว่านี่เป็นคำถามที่ตอบยากยิ่ง ท้ายที่สุดแล้วการจะกำจัดอ๋องฉีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้แต่สำหรับชีหยวนเอง ก็เกรงว่าจะต้องใช้วิธีวางหมากซ้อนหมาก สุดท้ายจะสามารถทำได้ถึงขั้นไหน ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ความสามารถของคน แต่ยังต้องอาศัยโอกาสและจังหวะเวลาที่เหมาะสมอีกด้วยทว่า ชีหยวนกลับตอบทันที สีหน้าที่เรียบนิ่ง: “มั่นใจที่สุด”มั่นใจที่สุด!ท่านโหวผู้เฒ่าไม่อาจควบคุมอารมณ์ตนเองได้อีกต่อไป เอ่ยถามต่อทันที:“เหตุใดเจ้าจึงมั่นใจถึงเพียงนี้?”“เพราะเขาต้องตาย” น้ำเสียงของชีหยวนสงบนิ่งอย่างมาก ปราศจากความรู้สึกใดๆ ด้วยซ้ำ นางเงยหน้าขึ้นมองชีเจิ้นและท่านโหวผู้เฒ่าอย่างตรงไปตรงมา: “ข้าจะเป็นคนลงมือสังหารเขาด้วยตัวเอง”ฆ่าเขา เพื่อล้างแค้นให้ตระกูลเซี่ยเพื่อล้างแค้นให้พระชายาหลิ่วสองแม่ลูก ล้างแค้นให้พ่อลูกตระกูลลู่ และชีวิตของผ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 186

    ไฉนถึงกลายเป็นเยี่ยงนี้ไปได้?หญิงชั้นต่ำที่กลับมาจากบ้านนอกนั่น เดิมทีนางเป็นเพียงคนไร้ความสำคัญ เดิมทีนางควรจะอยู่อย่างเงียบๆ ในมุมหนึ่งของจวนโหว หรือไม่ก็ไปใช้ชีวิตอยู่ที่เรือนนอกเมืองจนหมดอายุขัยแต่ทำไมตอนนี้กลับกลายเป็นว่านางได้รับความโปรดปรานในจวนโหว?ชีอวิ๋นถิงจ้องมองไปทางหอหมิงเยว่ด้วยสายตาลึกล้ำ ก่อนจะหมุนตัวรีบเดินไปที่โรงม้าจูงม้าออกจากจวนอย่างรวดเร็วรุ่ยซงไม่กล้าที่จะหละหลวมติดตามเขาอยู่ด้านหลัง: “คุณชาย! คุณชายรอข้าด้วย! คุณชาย ท่านจะไปไหนกันแน่?”ไปไหนงั้นรึ?ชีอวิ๋นถิงลดเสียงลงต่ำ: “ข้าจะออกนอกเมือง!”ออกนอกเมือง?รุ่ยซงสับสนงงงวย: “คุณชาย! ท่าน ท่านเพิ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บเองนะขอรับ! ฮูหยินก็ยังป่วยอยู่ ท่านอย่าไปทำให้ท่านโหวพวกท่านโกรธเลยนะขอรับ!”“ไร้สาระ!” ชีอวิ๋นถิงเตะเขา: “ที่นี่ไม่มีสิทธิ์ให้เจ้ามายุ่ง! ถ้าเจ้าไม่อยากตามไป ก็ไสหัวไป!”รุ่ยซงที่โดนเตะจนเหมือนกุ้งตัวงอ นอนกองอยู่กับพื้นเกือบสลบ แต่ชีอวิ๋นถิงกลับไม่สนใจ หมุนตัวก็กระโดดขึ้นหลังม้าทันทีเห็นเช่นนี้ รุ่ยซงฝืนความเจ็บรีบลุกขึ้นติดตามเขา และควบม้าตามหลังไปอย่างเร็วพลันในฐานะบ่าวรับใช้อย่าง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 187

    โจวผิงหนวดเครารุงรัง เห็นได้ชัดว่าช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้เขายุ่งจนแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเองเมื่อได้ยินคำพูดของนายท่านรองโจว เขาจึงได้สติและหันมาถามด้วยความหวัง: “อารอง ท่านกลับมาแล้ว ทางนั้นว่าอย่างไรบ้าง?”ว่าอย่างไรงั้นหรือ?นายท่านรองโจวมองเขาแล้วก็ยิ่งขุ่นเคือง: “จะว่าอย่างไรได้อีก? เรื่องนี้พวกเจ้าทำเกินไปแล้ว!”บาดแผลบนหน้าผากของชีฟางอวิ๋นเขาเห็นมากับตา ตอนนี้ถึงแม้จะถูกพันแผลไว้อย่างเรียบร้อย แต่ก็ยังดูน่าสยดสยอง แสดงว่าตอนนั้นคงบาดเจ็บหนักไม่น้อยท่านหญิงโจวตอนสาวๆ ก็ชอบตีลูกหลานอยู่แล้ว ไม่คิดว่าพอแก่ตัวลงนิสัยก็ยังไม่เปลี่ยน ตีแรงเกินเหตุเช่นนี้อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นถึงคุณหนูจากจวนโหว นี่ไม่เท่ากับหาเรื่องเป็นศัตรูกับตระกูลโหวอย่างชัดเจนหรือ?สีหน้าของโจวผิงเคร่งขรึมลงทันทีเขาอดไม่ได้ที่โกรธเดือดดาล: “ทั้งหมดเป็นเพราะหญิงชั่วคนนั้น! ถ้าไม่ใช่เพราะนาง เรื่องคงไม่วุ่นวายถึงขนาดนี้!”……นายท่านรองโจวไม่อาจพูดอะไรได้มากกว่านี้ ได้แต่ถามกลับไปว่า: “ตอนนี้พูดเรื่องพวกนี้ไปก็ไร้ประโยชน์ แล้วเจ้าคิดจะทำอย่างไรต่อ? เรื่องนี้มันใหญ่โตเกินไปแล้ว…...”หากเป็นคนอื่นทำลายซุ้

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 260  

    คนที่เข้ามาคือพ่อบ้านสวีซึ่งเป็นพ่อบ้านเก่าแก่ที่คอยดูแลรับใช้นายท่านในเรือนนี้มาแล้วสามรุ่น ทันทีที่เขาเข้ามาด้านในก็คุกเข่าลงกับพื้นด้วยสีหน้าซีดเผือด: “ฮูหยิน คุณชาย แย่แล้วขอรับเกิดเรื่องขึ้นแล้วขอรับ พวกท่านสองคนรีบพาคุณหนูและพวกคุณชายน้อยหนีไปก่อนเถิดขอรับ!” อยู่ ๆ ก็พรวดพราดเข้ามาแบบไม่มีเหตุผลแล้วพูดแบบนี้ ทว่าทั้งฮูหยินเซี่ยและเซี่ยอิ๋งไม่มีใครตำหนิเขาทันที กลับถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ พ่อบ้านสวีร้องโฮออกมาก็ร่ำไห้ทันที: “นายท่าน นายท่านเกิดเรื่องแล้วขอรับ! มีคนฟ้องนายท่านขอรับ กล่าวหาว่าเขาลักลอบเขียนตำราเผยแพร่เรื่องราวผิดครรลองครองธรรมในที่ลับ ใส่ร้ายป้ายสีฝ่าบาท ไม่เคารพเบื้องสูง ถือเป็นความผิดร้ายแรงมิอาจอภัย บัดนี้นายท่านถูกจับกุมตัวไปแล้วขอรับ!” อะไรนะ? เซี่ยอิ๋งสีหน้าถมึงทึง ลุกพรวดขึ้นทันที: “ท่านแม่ ลูกจะไปที่ศาลาว่าการ!” เซี่ยฉางชิงเป็นคนอย่างไรเขาย่อมรู้จักดี แม้จะจงเกลียดจงชังสังคมอันฟอนเฟะอยู่หน่อย แต่ก็เป็นคนที่ระมัดระวังรอบคอบมาตลอด ที่สำคัญกว่านั้นคือ เซี่ยฉางชิงเป็นปัญญาชนตัวอย่าง เขาซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อฮ่องเต้! คิดว่าหากมีความผิ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 259  

    แสงจันทร์ส่องสว่าง ฤดูเหมันต์ในเจียงซีกลับหนาวเยือกเย็นเป็นพิเศษ แม้จะไม่มีหิมะตกเหมือนทางเหนือ ทว่าสายพิรุณโปรยปรายไม่ขาดสาย นำความหนาวชื้นซึมลึกถึงกระดูก สายลมนั้นคล้ายกับจะพัดเข้าไปในรอยแยกของกระดูกคนให้ได้เลย ทั่วทั้งเรือนสกุลเซี่ยจุดไฟส่งสว่าง ฮูหยินเซี่ยกำลังถามคนด้านนอกห้อง: “ไฉนดึกดื่นเพียงนี้แล้ว คุณชายยังไม่กลับมาอีก?” ย่อมมีคนถ่ายทอดวาจามาถึงบ่าวรับใช้และผู้ดูแลที่อยู่ด้านนอก ไม่นานนัก ก็มีเด็กหนุ่มสวมเสื้อคลุมตัวยาวสีขาว คาดสายรัดเอวสีน้ำเงินสืบเท้าจากระเบียงทางเดินยาวเข้ามาที่ประตู ร้องเรียกด้วยรอยยิ้ม: “ท่านแม่ ลูกอยู่ที่นี่แล้วมิใช่หรือ? ท่านจะกังวลใจอะไรอีกขอรับ?” ฮูหยินเซี่ยวางแบบรองเท้าในมือลง ครั้นเห็นเขาเข้ามาแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก: “ถามว่าข้ากังวลใจอะไรหรือ? มีคำกล่าวว่าบุตรชายเดินทางไกลพันลี้มารดาย่อมกังวลใจ เจ้าออกเดินทางไปเรือนสกุลเซียวที่เมืองจูหรง นั่น มิใช่เดินทางไปไกลพันลี้หรอกหรือ? ให้ข้ากังวลใจมิได้หรืออย่างไร?” ต่อหน้ามารดาเซี่ยอิ๋งปราศจากอารมณ์รำคาญโมโห: “ใช่แล้วขอรับ ลูกทำให้ท่านกังวลใจแล้ว ทั้งหมดเป็นความผิดของลูก เพียงแต่เป็นวันเกิดข

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 258  

    นับว่ามีไหวพริบ อ๋องฉีพอใจกับการรู้สถานการณ์ของเขา เปล่งเสียงรับคำก็เอ่ยยิ้ม ๆ : “สกุลเซี่ยบัดนี้ผู้ใดเป็นผู้นำหรือ? ข้าได้ยินว่า ในบรรดาลูกหลานสกุลเซี่ย ยามนี้เซี่ยอิ๋งฉายแววโดดเด่นที่สุดใช่หรือไม่?” เซี่ยอิ๋ง สองคำนี้แค่เอ่ยออกจากปาก ก็แฝงด้วยความโกรธแค้นจนต้องกัดฟันแล้ว อ๋องฉีคิดถึงเมื่อชาติที่แล้ว ตอนที่ชีหยวนสังหารเขา มีดแหลมคมถูกดึงออกก่อนจะแทงเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น ราวกับการกระทำนั้นแฝงด้วยความเคียดแค้นอันไร้สิ้นสุด ตำหนิถึงบาปกรรมของเขาประณามว่าเขาเป็นคนสังหารเซี่ยอิ๋ง เซี่ยอิ๋ง เซี่ยอิ๋ง เซี่ยอิ๋ง! เขาก็ฆ่ามันไปแล้ว และจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่การฆ่าครั้งเดียว ครั้งนี้ก็จะฆ่ามันอีก ดูสิว่าจะเป็นอย่างไร? พูดถึงเซี่ยอิ๋งขึ้นมา โจวเสี่ยวเผิงยิ่งรู้สึกครั่นคร้ามในใจ ทว่าเขาก็ยังตอบอย่างตรงไปตรงมา: “เรียนท่านอ๋อง ความจริงเป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ เขาอายุยังน้อย ทว่าสามารถผ่านการสอบคัดเลือกขุนนางในระดับซิ่วฉาย และระดับจวี่เหรินได้อย่างต่อเนื่องพ่ะย่ะค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นในการสอบจวี่เหรินยังสามารถคว้าอันดับหนึ่งมาได้ และก็ได้รับตำแหน่งเป็นเจี้ยหยวนแล้ว…” ดังนั้นสังคมขุ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 257  

    อ๋องฉีกำลังเล่นแหวนหยกสีมรกตในมือ นี่คือของที่ผู้ว่าการเมืองฮุ่ยชางคนปัจจุบันตั้งใจส่งมาให้เขาเป็นพิเศษ ทันทีที่ได้ทราบว่าเขามาเยือน ขุนนางเหล่านี้หากจะเลื่อนตำแหน่งตามขั้นตอนไปทีละก้าว อาจจะต้องรอไปถึงปีมะโว้ถึงจะมีโอกาส ต่อให้มานะบากบั่นไม่ถอย ไต่เต้าจนสามารถขึ้นเป็นรองเสนาบดีในวัยหกสิบเจ็ดสิบได้ ก็นับว่าบรรพบุรุษได้สร้างสมบุญกุศลให้มามากแล้ว ทว่าหากเดินทางลัด ในราชสำนักเสนาบดีอายุน้อยวัยสามสิบก็มีให้เห็น ดังนั้นในเมื่อมีทางลัดแล้วใครเล่าจะไม่อยากลองเดินบ้าง? สวรรค์ประทานชินอ๋องผู้ซึ่งเป็นที่โปรดปรานที่สุดในราชสำนักลงมาให้แบบนี้ โจวเสี่ยวเผิงผู้ว่าการเมืองฮุ่ยชางดีใจจนแทบคลั่งให้ได้ แม้ว่าชื่อของเขาจะมีอักษรเผิง ซึ่งหมายถึงพญาวิหค ทว่าความเป็นจริงแล้วเส้นทางขุนนางของเขากลับไม่ราบรื่นเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่คนวัยเดียวกับเขาไต่เต้าขึ้นไปจนได้เป็นเจ้าเมืองกันหมดแล้ว เหลือแต่เขาที่ต้องอดทนตรากตรำเป็นผู้ว่าการเฝ้าเมืองที่ยากจนข้นแค้นเช่นนี้อยู่ ไม่รู้จะไปเรียกร้องจากใครที่ไหนได้เลยจริง ๆ? หนนี้อ๋องฉีอุตส่าห์ลดเกียรติลงและเสด็จมายังที่เล็ก ๆ แห่งนี้ ราวกับสวรรค์ประทานพรลงมาจร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 256  

    คนพวกนี้ก็เป็นแค่นักต้มตุ๋นหลอกลวงชาวบ้านก็เท่านั้น ฉู่กั๋วกงเห็นนางพูดเช่นนี้ ก็ได้แต่หัวเราะอย่างขมขื่น: “กระหม่อมเองก็หวังว่าจะเป็นแค่การหลอกลวง เพียงแต่เขานำหยกห้อยเอวประจำตระกูลของพี่ชายท่านออกมา กระหม่อมทราบดี จี้หยกชิ้นนี้พี่ชายของท่านไม่เคยเก็บไว้ห่างตัว!” หากว่าเป็นการขโมยมา หวงเหวินจวิ้นคงต้องวิ่งหนีเอาตัวรอดเป็นสิ่งแรก จะเดินมาติดกับดักด้วยตนเองแบบนี้ได้อย่างไร เพียงเสี้ยวพริบตาสีหน้าของหลิ่วกุ้ยเฟยพลันซีดลงทันใด หายใจติดขัด: “เช่นนั้นท่านพ่อหมายความว่า พี่ชายลูก…” จากไปแล้วจริงหรือ?! แล้วยังเป็นเพราะนางสารเลวชีหยวนนั่น? สารเลว! ชั่วช้าสารเลวจริง ๆ! หลิ่วกุ้ยเฟยกัดฟันแน่น: “ข้าจะต้องเอาชีวิตนางผู้หญิงคนนั้นมาให้ได้! ไม่สิ แค่ฆ่านางมันง่ายเกินไป ข้าจะทำให้นางทรมานยิ่งกว่าตายไปอีก ให้มันได้รู้ซึ้งถึงความหมายของการอยากอยู่ก็ไม่ได้ อยากได้ก็ไม่ได้เป็นอย่างไร!” ฉู่กั๋วกงถอนหายใจออกมา: “กุ้ยเฟย เรื่องนี้ท่านไม่จำเป็นต้องลงมือเอง ข้าได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว ที่กระหม่อมเข้าวังมาครั้งนี้ เพราะวาดหวังให้ท่านช่วยพูดเกลี้ยกล่อมท่านแม่ของท่าน บอกให้นางปล่อยวางและใจเย็นล

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 255  

    เพื่อฝึกฝนคนเหล่านี้ จวนอ๋องฉีและจวนฉู่กั๋วกงทุ่มเทหยาดเหงื่อโลหิตและความพยายามไปนับไม่ถ้วนแล้ว และคนเหล่านี้ก็มีความบากบั่นมุมานะมากพอ อ๋องฉีพาออกไปด้วยจำนวนหลายสิบคนแล้ว และส่วนที่เหลืออยู่นั่น ฉู่กั๋วกงก็เพิ่งจะส่งพวกเขาออกไปแล้วเช่นกัน ฮูหยินฉู่กั๋วกงยังไม่รู้ว่าสองวันที่ผ่านมานี้เขากำลังยุ่งอยู่กับการเคลื่อนย้ายองครักษ์ลับ จึงได้แต่ถามเขาอย่างกังวลใจ: “ส่งคนออกไปตามหาจิงหงใช่หรือไม่เจ้าคะ? จริงสิ จิงหงยังไม่ส่งข่าวคราวกลับมาอีกหรือเจ้าคะ?” ผ่านมานานหลายวันเพียงนี้แล้ว! หากว่าเป็นตอนก่อนที่หวงเหวินจวิ้นจะเข้ามา ต่อให้หลิ่วจิงหงหายออกไปนานถึงเพียงนี้ นางก็คงไม่เป็นกังวล ทว่าตอนนี้ นับแต่หวงเหวินจวิ้นปรากฏตัว นางกลับต้องรู้สึกกังวลใจอยู่ร่ำไป ยิ่งไปกว่านั้นยังขาดการติดต่อจากหลิ่วจิงหงไปอย่างสิ้นเชิง นางยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจตลอด คล้ายว่าจะมีเหตุการณ์ไม่ดีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น ช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้นางกินไม่ได้นอนไม่หลับ จนดูซูบผอมแห้งเหี่ยวลงไปมาก เห็นนางร้อนรนเป็นกังวลเช่นนี้ ฉู่กั๋วกงไหนเลยจะกล้าบอกความจริงกับนาง? ได้แต่ปลอบโยนว่า: “วางใจเถิด เขาออกไปทำภ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 254  

    ราวกับอสนีบาตฟาดลงมา ในที่สุดอ๋องฉีก็ตระหนักได้แล้วว่าเหตุใดตนเองถึงรู้สึกแปลกอยู่ตลอด หากว่าเป็นชีหยวนตัวจริง นางหรือจะปล่อยม้าเร็วไว้โดยไม่ขี่มัน และเลือกจะนั่งรถม้าไปอย่างเชื่องช้าเช่นนี้หรือ? เขากัดฟันกรอด ก่อนจะยื่นมือไปคว้าจอกชาที่อยู่ข้างตัวขึ้นมา และเขวี้ยงมันลงไปบนพื้นสุดแรง เพล้ง จากนั้นโต๊ะก็ถูกเขาพลิกคว่ำเสียงดังสนั่น ไม่ใช่ชีหยวน! แล้วชีหยวนตัวจริงอยู่ที่ใด? นางสารเลวคนนี้ นางกล้าหลอกเขาอีกแล้วหรือ! กี่ครั้งแล้ว? เขาถูกนางผู้หญิงคนนี้มองเป็นลิงโง่ ที่ถูกนางหลอกปั่นหัวเล่นอยู่ในกำมือทุกครั้ง! ทว่าสิ่งที่น่าโมโหยิ่งกว่า คือตัวเขาที่คอยตกหลุมพรางของนางอยู่ทุกครั้ง แต่ละวันมีแต่โดนหลอก โดนหลอกไม่ซ้ำแบบอีกต่างหาก! เห็นอ๋องฉีบันดาลโทสะ เสวียนอู่ไป๋หู่ก็รับคุกเข่าและหมอบลง ไม่กล้าเงยศีรษะขึ้นมอง ระหว่างเดินทางพวกเขาเองก็สังเกตเห็นแล้วว่า นิสัยของอ๋องฉีนับวันยิ่งดุร้ายฉุนเฉียวง่ายขึ้นเรื่อย ๆ ลำพังแค่องครักษ์ลับที่ต้องถูกลงโทษก็จำนวนไม่น้อยแล้ว ทว่าอ๋องฉีไม่มีเวลามาลงโทษองครักษ์สองคนนี้ เขาถีบชั้นวางที่ตั้งอยู่ด้านข้างล้มระเนระนาด ก่อนจะตะคอกด้วยเสียงดุ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 253  

    ปาเป่าลิ่วจินสองคนเหงื่อเย็นไหลท่วม หลังจากผ่านเขตชายแดนเข้าสู่เมืองอันฮุยแล้ว เขาก็ค้นพบว่า การไล่ตามของอ๋องฉีรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ มีหลายครั้งที่พวกเขาเกือบจะถูกจับได้ หลังจากหลบหนีคนพวกนั้นได้อีกครั้งหนึ่ง ปาเป่าก็เลื่อนมือขึ้นเช็ดเหงื่อเย็นบนศีรษะของตนเองไปทีหนึ่งอย่างอดไม่ได้ พลางเอ่ยอย่างอกสั่นขวัญแขวน: “เล่นเอาข้าตกใจแทบแย่! ไม่รู้ว่าเขาเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร ถึงได้ไล่กวดเอาเป็นเอาตายเช่นนี้?” เห็นชัดว่าครึ่งทางแรก คนพวกนั้นยังไล่ตามอย่างเชื่องช้าไม่เอาไหน ทว่าต่อมากลับไล่กวดอย่างบ้าคลั่งจนแทบประชิดได้แล้ว สีหน้าของลิ่วจินกลับเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมมากกว่าตอนก่อนหน้านี้ เขาไม่มีความคิดจะพูดตลกอีกแล้ว หันศีรษะมามองคนตรงหน้า พลางเอ่ยด้วยเสียงเข้มว่า: “ไม่ เขาไม่ได้บ้า คงเพราะรู้ตัวแล้วว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล” ประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมา ปาเป่าที่กำลังดื่มน้ำชาอยู่ พ่นน้ำชาออกมาทันที จากนั้นก็ถามด้วยความขนลุก: “ไม่หรอก?! ตลอดทาง ข้าก็ซ่อนตัวแนบเนียนมากมิใช่หรือ!” เขารับหน้าที่สวมผ้าคลุมของชีหยวนเพื่อปลอมตัวเป็นชีหยวน และคิดว่าตนเองก็ทำสุดความสามารถแล้ว แน่นอนว่า แม้จะมิไ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 252  

    เหล่าจ้าวพาหลีฮวาไปส่งให้คนที่ไว้ใจได้รับผิดชอบต่อ ไม่นานนักตนเองก็กลับมาอยู่ข้างกายเซียวอวิ๋นถิง : “ท่านอ๋อง ให้ข้าน้อยไปเองเถิด” หลีฮวายอมเผยคำสั่งของชีหยวนแล้ว หากว่าหวงเหวินจวิ้นคิดทรยศและไปแจ้งข่าว ตามวิธีการอันเด็ดขาดไร้ความปรานีของจวนฉู่กั๋วกงแล้ว จะต้องส่งองครักษ์ลับในเงามืดมาไล่ล่าสังหารนางแน่ และบัดนี้ ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมจะลงมือที่สุดแล้ว อ๋องฉีและจวนฉู่กั๋วกงใช้ความพยายามและเงินทองไปมากมายมหาศาลเพื่อเลี้ยงดูฝึกฝนเหล่านักฆ่ากลุ่มนี้ เพื่อดูแลพวกคนเหล่านี้ เงินที่ทุ่มไปในทุกปีล้วนมีมากจนนับไม่ถ้วน จนถึงทำให้ท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ต้องกระเสือกกระสนเปิดหอคณิกาเพื่อหารายได้ การทำลายองครักษ์ลับเหล่านี้ ทำให้พวกเขาเจ็บใจเสียยิ่งกว่าฆ่าพวกเขาให้ตายเสียอีก เขาอาสาออกศึกนี้ด้วยตนเอง และคิดว่าหากสังหารคนเหล่านี้ได้แล้ว จะไปตามหาปาเป่าลิ่วจิน และจากนั้นค่อยดูไปทีละขั้นว่าคุณหนูใหญ่สกุลชีคนนี้จะสามารถทำอะไรได้อีก และคิดจะลงมืออย่างไรต่อไปอีก ช่างเป็นคนที่มหัศจรรย์ยิ่งนัก ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับส่ายหน้า: “ไม่ เจ้าไม่ต้อง ข้าไปเอง” เหล่าจ้าวคัดค้านทันควัน: “ท่านอ๋อง เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status