พวกผู้หญิงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียง และอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ปรากฏร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง เธอสวมชุดเดรสชีฟองระดับไฮเอนด์ที่ถูกปรับให้เข้ากับรูปร่างของเธอ ซึ่งเน้นรูปร่างของเธอออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบรูปร่างหน้าตาของเธอช่างละเอียดลออได้รูปราวกับเทพีบนสรวงสวรรค์เพียงแต่ออกจะเย็นชาไปเสียหน่อย แถมตอนนี้ก็ดูกำลังโกรธเมื่อได้ยินคำพูดของหลินหว่านหรู จางซวนก็ตกตะลึงและรู้สึกงุนงงเล็กน้อยติงอิ่งดูหงุดหงิดเล็กน้อยและพูดอย่างเย็นชา “เรากำลังพูดถึงแฟนของเพื่อนเรา เกี่ยวอะไรกับคุณ?”“แฟนที่พวกคุณเรียกคือสามีจดทะเบียนของฉันค่ะ ยังไม่ใช่เรื่องของฉันอยู่อีกหรือเปล่าคะ?”หลินหว่านหรูตอบกลับอย่างเย็นชาเธอไม่รู้ว่าทำไม แต่ตอนนี้เธอแค่อยากเปิดตัวเดิมทีพวกเขากำลังจะหย่ากัน เธอควรออกไปที่นี่หากเกิดเรื่องแบบนี้แต่ว่าเธออดไม่ได้ที่จะแสดงความเป็นเจ้าของติงอิ่งตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เป็นไปไม่ได้ นี่คือภรรยาของเย่เทียนหยู่อย่างนั้นเหรอภรรยาของเขาสวยมาก แล้วทำไมเขาถึงยังคอยไปมาหาสู่กับเค่อซิน?จางซวนยิ่งตกตะลึง เธอไม่คาดคิดว่าเฉินเค่อซินจะคบกับชายที่แต่งงานแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก” เย่เทียนหยู่ส่ายหน้า“ไม่เป็นไรได้ยังไงคะ ฉันเห็นนะว่าเธอเศร้ามาก คุณไม่กลัวจะเกิดเรื่องกับเธอเหรอคะ?” เฉินเค่อซินพูด“ไม่ขนาดนั้นหรอก”เย่เทียนหยู่ลังเลเล็กน้อย ด้วยความแข็งแกร่งของหลินหว่านหรูมันไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ถ้ามีซูถิงอยู่ด้วย ก็ไม่แน่“ไม่ขนาดนั้นอะไรอีก รีบไปดูเถอะค่ะ”เฉินเค่อซินจับมือเย่เทียนหยู่แล้วพูดแม้ว่า เย่เทียนหยู่จะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่เฉินเค่อซินรู้สึกได้ว่า ไม่ว่ามันจะแค่ข้อตกลงหรือไม่ แต่เย่เทียนหยู่รักภรรยาคนนี้มาก“ได้ ผมจะไปดู”เย่เทียนหยู่กล่าวเมื่อมองดูเย่เทียนหยู่จากไป เฉินเค่อก็รู้สึกผิดหวังเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า ติงอิ่งก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “เค่อซิน ในเมื่อพวกเขาเป็นแค่สามีภรรยาตามข้อตกลง แล้วเธอก็ชอบเย่เทียนหยู่ด้วย ให้พวกเขาหย่ากันไม่ดีกว่าเหรอ ทำไมเธอต้องพยายามโน้มน้าวเขาด้วย!”“ไม่ได้นะ!”“พี่เย่ชอบเธอ ฉันจะทำเรื่องที่พี่เย่ไม่มีความสุขไม่ได้” เฉินเค่อซินตอบโต้ทันที“ยัยเด็กโง่เอ้ย”ติงอิ่งกล่าวอย่างช่วยไม่ได้จางซวนสับสนเล็กน้อยต่อสถานการณ์นี้เฉินเค่อซินเห็นดังนั้นจึงอธิบายว่า “พี่เย่แค่เห็นฉันเหมือนน้องสาวน
เมื่อได้ยินแบบนั้น ซูถิงก็แสดงท่าทีสงสารและพูดว่า “หว่านหรู เธอก็รู้ว่าฉันไม่เห็นด้วยกับเธอที่จะอยู่กับเย่เทียนหยู่ตั้งแต่แรก ถ้าเธอถามฉัน ฉันไม่สนับสนุนมันอย่างแน่นอน”“เพราะเรารู้ดีว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เย่เทียนหยู่อยู่กับผู้หญิงคนอื่น อนาคตเขาต้องไปพัวพันกับผู้หญิงพวกนั้นแน่ แล้วเธอจะทนได้เหรอ”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าหลินหว่านหรูจะมีภาพที่เย่เทียนหยู่ที่กำลังอยู่กับผู้หญิงอีกคนอยู่ฉายอยู่ในใจ และเธอก็รู้สึกไม่สบายใจเลย“แล้วเธอรู้ไหมว่าทำไมคนมากมายถึงต่อต้านไม่ให้พวกเธอคบกัน”“เพราะว่าโลกนี้ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมกันยังไงละ เธอสามารถทำทุกอย่างเพื่อความรักได้ แต่พอแต่งงานแล้วมันก็จะมีปัญหามากขึ้น” ซูถิงกล่าว“เรื่องนั้นฉันไม่สนใจแล้วละ ตอนนี้ฉันเลิกสนไปแล้ว แต่ฉันยอมรับไม่ได้ที่เขาไปคบกับผู้หญิงคนอื่น”“เฮ้อ เธอจะไม่สนใจเรื่องนี้ก็ได้นะ แต่พ่อ แม่กับปู่ของเธอล่ะ? เธออยากจะแตกหักกับทุกคนเหรอ?”“เท่าที่ฉันรู้ ดูเหมือนพวกเขาจะไม่สนับสนุนเรื่องที่เธอกับเย่เทียนหยู่คบกันนะ”ซูถิงถามอย่างมีชั้นเชิง“ใช่ ทุกคนไม่สนับสนุน ฉันเป็นคนเดียวที่ทำงานหนักและพยายามอย่างเต็มท
“กงซุนจื้อ ใครเหรอ?” เมื่อซูถิงได้ยินแบบนั้น เธอก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่ในใจกลับกำลังปรีดาถึงที่สุด“นายน้อยของตระกูลกงซุน คนที่ช่วยเราทวงหนี้เมื่อครั้งที่แล้ว”“นายน้อยกงซุนที่เย่เทียนหยู่ขโมยความดีความชอบไปน่ะเหรอ”“อือ!”“ดูเหมือนเขาจะสุภาพและเป็นสุภาพบุรุษมากเลยนะ ภูมิหลังทางครอบครัวของเขาพิเศษมาก ฉันไม่เคยได้ยินข่าวลือไม่ดีเลย ที่มากไปกว่านั้นฉันมองไม่ออกหรอก แค่รู้สึกว่าเขาเก่งกาจมากเลยน่ะ”ซูถิงทำท่าเหมือนเธอไม่รู้จริงๆ“อ่อ”“แต่ว่ายังไงเขาก็เป็นทายาทในอนาคตของตระกูลกงซุน ใครก็ตามที่แต่งงานกับเขาก็คงเหมือนได้พรจากพระเจ้าเลยนะ ไม่รู้ใครจะโชคดีขนาดนั้นกันนะ”“จริงสิ ทำไมจู่ ๆ ถึงถามถึงเขาล่ะ”“ไม่มีอะไร!”หลินหว่านหรูไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ลึกๆ แล้วเธอเริ่มหันหากงซุนจื้อรถผ่านไปได้สักพักก็บังเอิญผ่านไปที่บาร์ ซูถิงเหลือบมองด้านข้างแล้วพูดว่า “หว่านหรู ไหน ๆ ตอนนี้เธอก็อารมณ์ไม่ดี ทำไมเราไม่พาที่ผ่อนคลายกันหน่อยล่ะ เครียดไปจะแย่เอานะ”“ผ่อนคลาย ที่ไหนเหรอ”“บาร์!”“ไม่ต้องกังวล เพื่อนของฉันเป็นเจ้าของบาร์ซีโร่ดาร์กอน ที่นั่นปลอดภัยมากเลย” ซูถิงกล่าว“ได้สิ”หลิน
หลินหว่านหรูร้องไห้จนน้ำตาอาบแก้ม บางทีเธออาจดื่มมากเกินไปจนไม่มีสติ ก็เลยพ่นเอาความในใจออกมาหมดเป็นเพราะเหตุนี้เธอจึงรู้สึกดีขึ้นมากและสงบลงมาก เธอหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดน้ำตา“หว่านหรู อย่าเศร้าเกินไปเลยนะ”“ในเมื่อเขาทำไม่ได้ เราก็ควรมองไปข้างหน้า มีพวกนายน้อยเก่ง ๆ ตั้งมากมายที่ไล่จีบเธอแต่จีบไม่ติดทำไมต้องมาเสียใจกับคนไร้ยางอายแบบเขาด้วย”ซูถิงปลอบใจเธอหลินหว่านหรูพยักหน้า บางทีเธอควรจะปล่อยเรื่องเขาไปจริงๆ แต่เธอก็ยังรู้สึกปวดใจเมื่อคิดจะปล่อยวาง โดยเฉพาะเมื่อต้องไปสำนักงานกิจการพลเรือนพรุ่งนี้มันอึดอัดมากหลินหว่านหรูกำลังจะพูด แต่ในตอนนั้นเองกลุ่มชายแต่งตัวทันสมัยมองเห็นพวกเธอและก้าวเข้ามา ก่อนจะพูดว่า “น้องสาวคนสวยทั้งสอง ไปดื่มกันไหมจ๊ะ ไม่มีผู้ชายมาด้วยเหรอ? ไปด้วยกันดีไหม?”“โดยเฉพาะสาวสวยคนนี้ ดูเหมือนจะร้องไห้อยู่นะ ถูกรังแกหรือเปล่า? บอกพี่มาสิจ๊ะ เดี๋ยวพี่ช่วยไปแก้แค้นให้เอง”เมื่อซูถิงเห็น เธอก็พูดอย่างเย็นชาทันที “ไปให้พ้น เราไม่รู้จักพวกแกนะ!”“ฮ่าฮ่า เมื่อกี้เราไม่รู้จักกัน แต่ตอนนี้เรารู้จักกันแล้วไงจ๊ะ ดื่มสักสองก็รู้จักกันแล้ว” ชายผมเหลืองถึงกับคิดจะว
ชายคนนั้นไม่ทันได้ระวังและถูกผลักออกซูถิงข่วนใบหน้าของชายอีกสองคนที่อยู่ด้านข้างเธออย่างแรงนี่เป็นบทละครที่ถูกเขียนเอาไว้แล้วรออีกพักกงซุนจื้อจะเป็นฮีโร่มาปรากฏตัวเพื่อปกป้องสาวงามหลินหว่านหรูโกรธและสิ้นหวัง ไม่คิดเธอว่าซูถิงจะยอมเสี่ยงชีวิตขนาดนี้ถึงกับยอมเอาชีวิตเข้าแลกกับอีกฝ่ายเพื่อช่วยเธอใจของซูถิงมีเธออยู่จริง ๆ และก็ทำทุกอย่างเพื่อเธอมาโดยตลอด แม้จะถูกเข้าใจผิด แต่ก็ยังสู้ไม่ถอยขนาดนี้ในเวลานี้หลินหว่านหรูไม่สนใจมากนัก เธอใช้ประโยชน์จากจังหวะนี้ ลุกขึ้นและวิ่งหนีออกไปเธอคิดกับตัวเองว่า ซูถิง รอฉันก่อน ฉันจะช่วยเธอแน่“ให้ตายเถอะ นังบ้านั่น รนหาที่ตายจริง ๆ!”ชายคนนั้นโกรธกับพฤติกรรมของซูถิง เขาตบซูถิงอย่างแรงสองครั้ง แฃ้งผลักเธอออกไป และพูดด้วยความโกรธ “ไปจับเธอมา”หลินหว่านหรูอยากจะวิ่งหนี แต่ฃเธอดื่มไปหนักมาก อีกทั้งอีกฝ่ายก็ระวังเอาไว้อยู่แล้ว จะปล่อยให้เธอทำตามอำเภอใจหนีไปแบบนั้นได้ยังไงยิ่งไปกว่านั้น หลินหว่านหรูวิ่งออกไปสองสามก้าว ก็เซจนเกือบจะล้มลงอยู่แล้วเมื่อมองดูภาพเบื้องหน้า ดวงตาของกงซุนจื้อจากระยะไกลก็แสดงความตื่นเต้นด้วยความพอใจ แต่ก็รีบระงับ
ขณะที่หลินหว่านหรูกำลังสิ้นหวัง เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าคนคนนั้นคือเย่เทียนหยู่เธอนึกว่าตัวเองตาลายเสียอีกต้องเป็นเพราะคิดมากไปแน่ ๆ ถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้แต่ในไม่ช้า เสียงของเย่เทียนหยู่ก็ดังขึ้นอีกครั้งเสียงนั้นอ่อนโยน มั่นคงและแข็งกร้าว ทำให้เธอแอบหลงใหลไปชั่วขณะในเวลานี้ เย่เทียนหยู่ได้ช่วยหลินหว่านหรูขึ้นมาแล้ว“คุณ ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?” หลินหว่านหรูตกใจ รู้สึกดีใจ ตื่นเต้นและเต็มไปด้วยอารมณ์อื่น ๆ ซึ่งมันซับซ้อนมาก“ก็คุณอยู่ที่นี่แล้วมีอันตราย ผมจะไม่อยู่ได้ยังไงล่ะครับ”เย่เทียนหยู่พูดเบา ๆทันทีที่ได้ยินแบบนั้น กำแพงหัวใจของหลินหว่านหรูถูกทลายลงอีกครั้ง เธอแทบจะอดไม่ได้ที่จะโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของอีกฝ่ายแต่กงซุนจื้อโกรธสุดขีดเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า อยากจะกินเลือดกินเนื้อเย่เทียนหยู่ซะแต่ไม่เป็นไร เย่เทียนหยู่ ฝากไว้ก่อนเถอะ ถ้าปล่อยให้แกอยู่รอดถึงคืนพรุ่งนี้ กงซุนจื้อสามตัวนี้ฉันจะเขียนมันกลับหัวซะที่แท้ก่อนที่เขาจะมาถึง มีข่าวมาจากที่บ้านของเขา ว่าผู้เฒ่าหวังจะเดินทางมาเทียนไห่ในวันพรุ่งนี้เมืองหลวงอยู่ไม่ไกลจากที่นี่และสามารถมาถึงได้ตอนเที่ยงเมื
“มึง!”“มึงมันรนหาที่ตาย!”หนุ่มผมทองโกรธและเรียกให้ทุกคนพุ่งไปรุมเขาในทันทีต่อให้ทักษะการต่อสู้ของปหจะเก่งแค่ไหน สองหมัดก็ยากจะเอาชนะสี่มือ อีกพักแกได้เห็นดีแน่แต่ไม่นาน หนุ่มผมทองก็ต้องพบกับความสิ้นหวัง คนของเขาไม่พอให้เป็นคู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายแน่ เวลาเพียงชั่วพริบตา ทุกคนนอนกองอยู่บนพื้นและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทั่วทั้งร่างกายได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงโดยไม่มีละเว้นแม้แต่คนเดียว และเกือบทุกคนได้รับบาดเจ็บภายในสำหรับตัวเขาเอง อาจเป็นเพราะเขาเป็นผู้นำ ทำให้อีกฝ่ายลงมือกับเขาเบาเป็นพิเศษมือทั้งสองข้างหักหมดแต่เย่เทียนหยู่สังเกตเห็นว่ามีคนเฝ้าดูอยู่รอบตัวเขา พวกเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เขาจึงรีบปิดหลินหว่านหรูและออกจากที่นี่ไปทันทีเขาไม่อยากตกเป็นข่าวเมื่อเห็นทั้งคู่จากไป หนุ่มผมทองก็รีบโทรหาโรงพยาบาล จากนั้นจึงมองซูถิงด้วยความโกรธและพูดว่า “คุณซู นี่มันหมายความว่ายังไง มันแค่การแสดงไม่ใช่เหรอ คิดจะเอาชีวิตพวกกูหรือไง”“ฉะ ฉันก็ไม่ปคิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้”ซูถิงสับสนมาก แน่นอนว่าเธอเป็นคนไปหาเจ้าของบาร์ เธอขอให้เจ้าของบาร์จัดกลุ่มคนมาร่วมแสดง แล้วจะให้มีคนเป็น
การสนทนาเช่นนี้ ทำให้หนานกงเล่อรู้สึกตกใจอย่างสิ้นเชิงเสียงของป้าดังมาก แล้วก็โกรธมากด้วย แม้จะอยู่ห่างกัน แต่ก็ยังได้ยินเสียงที่ค่อนข้างชัดเจนยิ่งไปกว่านั้น เขายังตั้งใจเปิดโหมดลำโพงอีกด้วย เพราะเขาต้องการให้พวกเฉินเฟยเฟยได้สัมผัสถึงความน่ากลัวของตระกูลหนานกง ทำให้พวกเธอรู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวังแต่คิดไม่ถึงเลยว่า การสนทนาจะเป็นแบบนี้ไปได้แม้จะรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่นั้นมีพลังที่ไม่ธรรมดา แต่ก็มักจะรู้สึกว่านั่นเป็นเพราะตนคิดมากไปเท่านั้น เลยเข้าใจผิด ยังไงซะ ใครบ้างที่ไม่รู้ถึงความน่ากลัวของอำนาจตระกูลหนานกงยิ่งไปกว่านั้น ทั้งที่ป้าโกรธมากขนาดนั้น แล้วทำไมป้ายังต้องการพูดกับอีกฝ่ายให้ได้ เห็นได้ชัดว่าต้องการจะสั่งสอนอีกฝ่าย กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเนื้อหาที่พูดคุยกันจะเป็นแบบนี้แต่ฟังดูสิ เขาพูดว่าอะไร เขาแทบไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าตระกูลหนานกงจะขุ่นเคืองรึเปล่า แถมยังจะใช้ฝ่ามือเดียวจัดการอีกต่างหากเขาไม่เห็นตระกูลหนานกงอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อยหากคำพูดเช่นนี้ถูกพูดต่อหน้าเขาก็ช่างเถอะ แต่นี่คือป้าของเขา เธอถือเป็นตัวแทนคนสำคัญของตระกูลหนานกงเชียวนะ เขากล้าพูดแบบนั้นไปได้ยังไง
“มันเป็นใครกันแน่?”หนานกงย่าเปิดเผยตัวตนออกมาอย่างสมบูรณ์ ตงลงแล้วเป็นใครกันแน่ ถึงลงมือได้โหดเหี้ยมมากขนาดนี้“เป็นเขา เขาเป็นคนทำ” หนานกงเล่อที่อยู่ภายใต้ความสิ้นหวังและความโกรธ เขาไม่แม้แต่จะรู้สึกกลัวเย่เทียนหยู่เลยด้วยซ้ำ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นโหมดเป็นกล้องถ่ายรูป และบันทึกภาพเย่เทียนหยู่เอาไว้เหอฉุนรู้สึกตกใจ ก่อนจะรีบพูดเตือนขึ้นว่า “คุณเย่คะ รีบหลบไปสิคะ!”“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ทำไมต้องหลบด้วย”สีหน้าเย่เทียนหยู่ดูน่าเกลียดมาก ไม่เพียงแต่ไม่หลบเท่านั้น แต่ถึงขั้นเดินหน้าไปอีกสองสามก้าว เพื่อให้ตัวเองถูกถ่ายรูปได้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วยเหอฉุนพูดอะไรไม่ออกโดยสิ้นเชิง นี่คุณเย่รู้จริง ๆ รึเปล่า ว่าตระกูลหนานกงนั้นน่ากลัวมากแค่ไหนในตอนนั้นเอง หนานกงเล่อก็รู้สึกงงงวยอีกครั้ง และตกตะลึงไปชั่วขณะเขากำลังจะถูกกำจัดแท้ ๆ ไอ้เด็กนี่เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้หยิ่งผยอง และแปลกประหลาดได้มากขนาดนี้สิ่งที่ทำให้หนานกงเล่อตกใจยิ่งกว่าก็คือ เมื่อเขาพลิกโทรศัพท์กลับมา ก็สังเกตเห็นว่าป้า ซึ่งเป็นคนที่รักเขามากที่สุด ก็กำลังรู้สึกตกตะลึงด้วยเช่นกันสีหน้าของหนานกงย่าดูไม่ดีมากนั
เสียงร้องที่เจ็บปวดของหนานกงเล่อดังขึ้นอย่างน่าสงสาร!อ้าก!เสียงกรีดร้องที่น่าสยดสยองนี้ แสดงให้เห็นว่าหนานกงเล่อได้ก้าวเข้าสู่วงการขันทีอย่างเป็นทางการแล้ว เขานั่งกองอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าซีดเซียว และเลือดก็ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องทำไมกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!หรือนี่คือบทลงโทษจากสวรรค์ที่เมื่อก่อนตนเคยทำร้ายผู้หญิงมามากมายอย่างนั้นน่ะเหรอ?สิ่งที่ทำให้เขาทุกข์ทรมานและสิ้นหวังมากที่สุดคือ เขาไม่เพียงแต่ถูกตอนธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเป็นการตัดตอนแบบถอนรากถอนโคน จนไม่อาจฟื้นฟูกลับมาได้อีกแล้วหากว่ามันไม่ได้หนักเหมือนตอนนี้ หากว่าเขาสามารถไปถึงโรงพยาบาลได้ทันเวลา บางทีอาจจะพอมีทางรักษาได้ แต่อีกฝ่ายกลับทำลายความหวังของเขาไปอย่างสิ้นเชิงในเวลานี้ หนานกงเล่อเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเจ็บปวด เขาจ้องมองเย่เทียนหยู่ด้วยสีหน้าแสดงโกรธแค้นและเกลียดชัง ราวกับว่าต้องการให้เขาถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ ณ เดี๋ยวนั้นเลยสีหน้าของเหอฉุนดูซีดเซียว เดิมเธอคิดว่าเย่เทียนหยู่อาจแค่ต้องการขู่หนานกงเล่อเท่านั้นแต่ที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ เขากล้าที่จะทำมันจริง ๆเราจบเห่แน่!พวกเราคงต้องจบเห่แ
ตระกูลหนานกงนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ ในสถานการณ์เช่นนี้ เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะพูดออกไปว่า “คุณเย่คะ ความสามารถของคุณนั้นแข็งแกร่งมากก็จริง แต่พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับตระกูลหนานกงก็ได้นี่คะ”เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจออกไปว่า “งั้นตามที่เธอพูด การที่มันทำเรื่องเลวทรามขนาดนี้ รังแกเฟยเฟยขนาดนี้ ก็คิดจะปล่อยมันไปง่าย ๆ เลยอย่างนั้นน่ะเหรอ?”“เอ่อ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ เราสามารถให้คุณชายหนานกงทำการชดเชยบางอย่างได้นี่คะ” เหอฉุนกล่าวอย่างไร้หนทางแต่ยิ่งเหอฉุนทำแบบนี้มากเท่าไหร่ หนานกงเล่อก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองมีความมั่นใจมากขึ้นเท่านั้นก่อนหน้านี้อีกฝ่ายยังดูไม่ฟังคำพูดของเหอฉุนอยู่เลย ตอนนี้กลับต่างออกไปโดยสิ้นเชิงจะต้องถูกความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของตระกูลหนานกงทำให้ตกใจแล้วแน่ ๆ ดังนั้นหนานกงเล่อจึงพูดด้วยท่าทีใด้ใจขึ้นว่า “ไม่จำเป็นต้องชดใช้แล้วล่ะมั้ง เมื่อกี้คุณชายเย่ก็เพิ่งจะตบหน้าฉันไป ก็ถือว่าเป็นการชดใช้เลยก็แล้วกัน”เหอฉุนที่ได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปทันที ไม่เห็นรึไงว่าอารมณ์ของคุณเย่คนนี้แทบจะระเบิดออกมาเต็มกลืนแล้ว ฉันพยายามแทบตายกว่าจะทำให
เมื่อมองไปยังสายตาที่เย็นชาและเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าของเย่เทียนหยู่ หนานกงเล่อก็รู้สึกว่าตนอาจจะตัดสินใจผิดไป ไอ้เด็กนี่อาจจะไม่ต้องการเจรจากับเขาจริง ๆเขาต้องการที่จะทำลายไอ้นั่นของตนจริง ๆแม้ไอ้นั่นของเขาที่อยู่หว่างขาจะสั้นและไม่มีประโยชน์ และมักจะต้องพึ่งยาอยู่เสมอแต่อย่างน้อยก็ยังใช้การได้อยู่ จะให้มันหายไปไม่ได้ครั้งนี้หนานกงเล่อตกใจมากจริง ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัว จนต้องเดินถอยหลัง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คะ คุณชายเย่ อย่าทำแบบนั้นเลยนะครับ ผมผิดไปแล้ว คุณอยากให้ผมชดใช้ยังไง บอกผมมาได้เลยครับ ขอแค่เป็นสิ่งที่ผมให้ได้ ไม่ว่าอะไรผมก็จะให้คุณทุกอย่าง!”“แกให้ไม่ได้หรอก”เย่เทียนหยู่พูดพลางส่ายหัว“ให้ได้สิครับ ขอแค่คุณเอ่ยออกมา ผมก็ให้ได้ทั้งนั้น” หนานกงเล่อรู้สึกลนลานมากจริง ๆ“ถ้าฉันบอกว่าต้องการทั้งตระกูลหนานกงล่ะ แกให้ได้ไหม?” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาพอจะรู้เรื่องที่ตระกูลหนานกงกดดันตระกูลเย่มาอยู่บ้างบวกกับเรื่องที่คนของตระกูลหนานกงเพิ่งจะมาหาเรื่องหลินหว่านหรูไป ตอนนี้ก็มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกสำหรับตระกูลหนานกงแล้ว เย่เทียนหยู่ไม่ได้รู้สึกดีด้ว
บนใบหน้าไม่ได้มีแค่รอยนิ้วมือที่ชัดเจนปรากฏเท่านั้น แต่ยังบวมขึ้นมาอีกด้วยซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลงมือครั้งนี้นั้นหนักหนาสาหัสเพียงใดหนานกงเล่อพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดที่ใบหน้าอย่างมาก เขาจ้องมองเย่เทียนหยู่ด้วยความโกรธ ไม่ใช่ว่าแกควรจะกลัวตระกูลหนานกง และคิดหาวิธีแกไขปัญหารึไงวะแต่แกกลับลงมือรุนแรงขนาดนี้ แล้วแกจะให้ฉันเจรจากับแกได้ยังไง?สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ เขายังไม่ทันจะยืนขึ้น เย่เทียนหยูก็เดินเข้ามาอีกครั้ง หนานกงเล่อรู้สึกตกใจ ไอ้เด็กนี่มันไม่เล่นตามกฎเลยจริง ๆสีหน้าของเหอฉุนเองก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ในเมื่อต้องการที่จะเจรจา อาจจะต้องมีการข่มขู่กันบ้าง แต่อย่างน้อยก็ต้องมีขอบเขตกันบ้าง เธอคิดว่าเย่เทียนหยู่จะฉลาด และคิดวิธีออกแล้วเสียอีกแต่กลับยังคงเป็นวัยรุ่นเลือดร้อน ยังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ขนาดนั้นเธออยากที่จะเตือน แต่ก็รู้สึกอายเกินกว่าที่จะพูด เพราะตั้งแต่ที่เธอได้เจอกับเขา เธอยังไม่เคยพูดคุยกับเขาเลยสักประโยค ความสัมพันธ์ก็ยังไม่มี จะให้เธอพูดยังไงแต่หากไม่รีบสอนเด็กหนุ่มคนนี้ล่ะก็ เขาอาจจะเผลอทำเรื่องผิดพลาดก็ได้เมื่อเห็นเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา หนานก
เย่เทียนหยู่รู้สึกงงงวยเล็กน้อย ว่าตอนนี้ในหัวเด็กสาวกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ช่างเถอะ ยังไงก็ควรแก้ปัญหาที่อยู่ตรงหน้าก่อน เย่เทียนหยู่มองไปรอบ ๆ ก่อนจะสังเกตเห็นสองสาวที่ถูกมัดอยู่ข้าง ๆ ซึ่งก็คือเหอฉุนและจางผิงเห็นว่าพวกเธอถูกมัดโดยเอามือไขว้หลังเอาไว้อยู่ และปากก็ถูกปิดด้วยเทปกาว พวกเธอจึงไม่สามารถพูดอะไรได้เลยตนเข้ามาก็นานพอสมควร แต่ก็กลับลืมช่วยพวกเธอแก้มัดเสียอย่างนั้น อันที่จริงมันก็ดูไม่ดีสักเท่าไหร่ทันใดนั้น เย่เทียนหยู่ก็สะบัดมือขวา ซึ่งไม่รู้ว่าเขาทำยังไง เชือกที่ผูกมือของทั้งสองสาวก็ขาดออกได้ในทันทีสองสาวดูตกใจเล็กน้อย พวกเธอสัมผัสได้ว่าเชือกมันขาดไปแล้ว ทั้งแม้จะรู้สึกประหลาดใจกับวิธีการอันมหัศจรรย์ของเย่เทียนหยู่ก็ตาม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบบ่นในใจพี่ชาย ในที่สุดคุณก็จำได้เสียที ว่ายังมีพวกเราอยู่ด้วย!พวกเราถูกเชือกมัดเอาไว้อยู่ตลอด แค่จะพูดก็ยังทำไม่ได้ แถมยังต้องมานั่งดูพวกคุณแสดงความรักต่อกันอีกเย่เทียนหยู่เองก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกอยู่นิดหน่อยจริง ๆ ก่อนที่จะถามออกไปว่า “พวกคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”“ไม่เป็นไรค่ะ คุณเย่ พวกเราโอเค ขอบคุณมากนะคะ”จางผิงพูดด้วย
หนานกงเล่อหน้าซีด เขาหยุดเดินแทบจะในทันที และกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่อีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะมองเขา เพียงแค่ก้มหน้าปลอบใจเฉินเฟยเฟย “เอาล่ะ พี่เย่มาแล้ว จะไม่เกิดอะไรขึ้นอีกแน่นอน พี่เย่จะเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง”“อืม!”หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก เฉินเฟยเฟยก็รู้สึกว่าอารมณ์คงที่ขึ้นมาก ถึงได้สังเกตเห็นว่าตนเองยังคงกอดพี่เย่เอาไว้แน่น โดยเฉพาะเสื้อผ้าบางจุดของเธอที่ตอนนี้กำลังเปิดอยู่ จึงทำให้ทั้งสองรู้สึกใกล้ชิดกันกว่าปกติ เธอรู้สึกหน้าแดงจนต้องรีบปล่อยมือออกทันทีถึงแม้ว่าเธออยากที่จะกอดอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่ก็เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่แต่ในตอนนี้เอง เฉินเฟยเฟยก็นึกถึงคู่ต่อสู้อย่างหนานกงเล่อ สีหน้าซีดเผือกทันที ก่อนจะพูดด้วยท่าทีตื่นเต้นขึ้นว่า “พี่เย่คะ เขาเป็นถึงคุณชายตระกูลหนานกง มีฐานะที่ไม่ธรรมดา”“พี่รู้”เย่เทียนหยู่ยิ้มพลางพูดออกไปว่า “วางใจเถอะ พี่ไม่กลัวตระกูลหนานกงหรอก”เมื่อคำนี้หลุดออกมา เฉินเฟยเฟยก็รู้สึกงงงวยทันทีพี่เย่เก่งกาจขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ แม้แต่ตระกูลหนานกงก็ยังไม่กลัว หรือเขาแค่พูดปลอบใจตนกันนะหนานกงเล่อยืนอยู่ไม่ไกลจากพวกเข
จางผิงและเหอฉุนต่างก็มองกันตาค้าง ในสายตาของพวกเธอ พลังของบอดี้การ์ดวัยกลางคนเมื่อสักครู่นี้ ก็ถือว่าน่าตกใจและน่ากลัวมากพอสำหรับพวกเธออยู่แล้วแต่หากไม่มีการเปรียบเทียบก็คงไม่รู้ผลลัพธ์ เมื่อเทียบกับเย่เทียนหยู่แล้ว แทบจะไม่มีค่าอะไรเลยด้วยซ้ำสมแล้วที่เป็นถึงคุณเย่!เขาก็เป็นคนที่หล่อเท่แบบนี้แหละ!เป็นคนที่เก่งกาจมากจริง ๆ!จางผิงรู้สึกตื่นเต้นมาก ครั้งนี้คงรอดแล้วจริง ๆเหอฉุนรู้สึกดีใจที่เย่เทียนหยู่มีความสามารถ แต่ก็กลับไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนจางผิง เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาคนนั้นก็เป็นถึงคุณชายรองแห่งตระกูลหนานกง ต่อให้เก่งกาจแค่ไหน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหนานกง เขาคงจบไม่สวยแน่ ๆอย่างไรก็ตาม วิกฤตชั่วคราวตอนนี้ก็น่าจะได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับวิกฤตที่น่ากลัวหลังจากนี้อย่างไรดีเฉินเฟยเฟยยืนมองทุกอย่างด้วยความงงงวย จนกระทั่งเย่เทียนหยู่ก้าวเท้าเดินตรงมาหาเธอ เธอก็กลับยังคงไม่มีการตอบสนองใด ๆไม่นานหลังจากนั้น เย่เทียนหยู่ก็เดินมาถึงตัวของเฉินเฟยเฟยส่วนหนานกงเล่อ เขาถูกทำให้ตกใจจนต้องยืนอยู่ข้าง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หากเป็นพี่ใหญ่ของเขา บางที