ผืนป่ายังคงเงียบงันทว่าในใจเฉียวเนี่ยนกลับไม่รู้สึกหวาดกลัวอีกแล้ว นางค่อยๆ เดินไปตามป่า ในหัวเอาแต่คิดฟุ้งซ่านนางบีบบังคับหมิงอ๋องไว้ได้แล้วจนเขาไม่กล้าจะลงไม้ลงมือกับนางอีก!ใกล้ถึงวันอภิเษกแล้วแท้ๆ นางใกล้จะได้เป็นพระชายาหมิงอ๋อง!อีกก้าวเดียวก็จะหลุดพ้นออกจากจวนโหว!แต่หมิงอ๋องกลับมาตายเสียก่อนแล้วนางจะทำเยี่ยงไร?ไม่มีพระชายาหมิงอ๋องอีกต่อไป แล้วนางจะหลุดพ้นจากจวนโหวเช่นไร?เพื่อเกียรติยศของจวนโหว ท่านโหวหลินกับฮูหยินหลินจะคิดอุบายอะไรขึ้นมาอีก จะผลักนางลงไปในกองเพลิงไหนอีก?ครืนๆๆ...จู่ๆ ฟ้าก็ร้องตามมาด้วยฝนตกจากฟากฟ้า ไหลผ่านกิ่งไม้และแมกไม้หนาทึบตกกระทบเฉียวเนี่ยนไม่นานเสื้อผ้าก็เปียกปอน ฝนต้นฤดูใบไม้ผลิทำให้หนาวสั่นไปทั้งตัวนางค่อยๆ เงยหน้ามองผืนฟ้าอันมืดสนิท ทันใดนั้นก็สบถออกมา "ทำไมถึงทำกับข้าแบบนี้? ทำไม! เล่นตลกกับข้าอยู่หรือไง? เห็นข้าได้ดีไม่ได้ใช่ไหม!"นางเป็นบุตรสาวของจวนโหวอยู่ดีๆ พระเจ้าจู่ๆ ก็ส่งหลินยวนมาให้ตอนนี้ทางหลุดพ้นจากความมืดมิดอยู่ตรงหน้านาง พระเจ้ากลับทำให้หมิงอ๋องตาย!นางเป็นคนไม่ชอบน้ำเย็น พระเจ้ากลับสั่งฝนต้นฤดูใบไม้ผลิให้ตกลงมา!
ฝนตกกระหน่ำทั้งคืนเฉียวเนี่ยนตอนมาถึงวัง ขอบฟ้าก็เริ่มส่องแสงอรุณณ ท้องพระโรง ข้าราชการทหารและพลเรือนยืนประจำที่แบ่งเป็นสองฝั่ง ส่วนฝ่าบาทประทับอยู่ ณ บัลลังก์มังกร แววพระเนตรเต็มไปด้วยความพิโรธ ทรงจ้องเฉียวเนี่ยนเขม็งเมื่อคืนวาน นางต้องเปลี่ยนตัวกับหมิงอ๋องให้เขาออกมาในฐานะตัวประกัน ตามแผนการ คนที่ควรรอดกลับมาควรเป็นหมิงอ๋อง ไม่ใช่นาง!เฉียวเนี่ยนใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆผู้ที่ประทับอยู่บนบัลลังก์เป็นชายที่สามารถตัดสินเป็นตายนางได้แค่ประโยคเดียว นางจะไม่กลัวได้ยังไง?นางพยายามรักษาสีหน้าให้สงบนิ่ง เดินไปยังกลางท้องพระโรง คุกเข่าก้มหัวคำนับ "หม่อมฉันเฉียวเนี่ยน ถวายบังคมฝ่าบาท"สิ้นเสียงก็เป็นความเงียบชั่วอึดใจเฉียวเนี่ยนยังคงทำท่าก้มหัว ไม่กล้าจะขยับเหล่าข้าราชการทหารและพลเรือนในท้องพระโรงไม่มีใครกล้าพูดสักคำ ขนาดเสียงหายใจก็แทบจะไม่มีทุกคนกำลังรอถ้อยคำตัดสินเฉียวเนี่ยนจากฝ่าบาทเสียงของผู้ที่ประทับบนบัลลังก์มังกรกลับราบเรียบอย่างคาดไม่ถึง "เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?"เสียงทุ้มต่ำราวกับทรงถามเรื่องทั่วไปเฉียวเนี่ยนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองร่างในฉลองพระองค์สีทองนางมองเห็นถึงความ
ฝ่าบาทก็ทรงทราบว่าความจริงคงจะทำให้เขาต้องเสื่อมเสียเกียรติ ดังนั้นพระองค์เลยสูดหายใจเข้าลึกและตรัส "จำเอาไว้ หมิงอ๋องพลีชีพเพื่อปกป้องเจ้า"เฉียวเนี่ยนรับคำในทันที "หม่อมฉันจะจำไว้เพคะ"พูดนางจบ ฝ่าบาทก็ทรงเงียบพระองค์พิเคราะห์มองเฉียวเนี่ยนผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าก็เปียกโชก สีหน้าก็ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคืนฝนตก หญิงสาวคนนี้คงฝ่ามรสุมมาไม่น้อยดังนั้นพระองค์เลยโบกพระหัตถ์ "เอาล่ะ เจ้ากลับไปเถอะ!""ขอบพระทัยฝ่าบาท" เฉียวเนี่ยนถวายบังคมอีกครั้ง ลุกขึ้นและออกจากท้องพระโรงไปไม่นานนัก เงาร่างหนึ่งก็เดินออกมาจากด้านหลังท้องพระโรง ถวายบังคมแก่ฝ่าบาท "ขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณพะยะค่ะ"ฝ่าบาททรงเหลือบไปมอง "เดิมไม่ใช่ความผิดนาง แต่ว่าเซียวเหิง เจ้าทำไปเพราะหวังดีกับนาง ทำไมถึงตั้งใจปกปิดนาง?"เมื่อคืนเซียวเหิงฝ่าฝนเข้ามาในวัง บอกว่าต้องการทูลข่าวการจากไปของหมิงอ๋อง ทว่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นการขอความเห็นใจให้เฉียวเนี่ยนไม่งั้น เขาซึ่งเป็นถึงเจ้าแผ่นดิน จำเป็นต้องแสดงละครตบตากับเฉียวเนี่ยนให้ข้าราชบริพารดูด้วย?ตอนนี้ทุกคนทราบว่าหมิงอ๋องเป็นคนสละชีวิตปกป้องเฉียวเนี่ยนไว
ทางด้านจวนโหวเฉียวเนี่ยนเพิ่งลงมาจากรถม้า ฮูหยินหลินรีบเข้ามาหา "เนี่ยนเนี่ยน!"ฮูหยินหลินคว้าแขนทั้งสองข้างของเฉียวเนี่ยนไว้แน่น มองเฉียวเนี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้า "ให้แม่ดูหน่อย บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?"เสื้อผ้าของเฉียวเนี่ยนยังไม่แห้ง นางสะดุดล้มในป่าหลายครั้ง ชายกระโปรงสกปรกเปื้อนไม่น้อย สภาพดูน่าเวทนาเฉียวเนี่ยนจงใจเข้าไปในวังโดยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า ยิ่งนางดูน่าเวทนาน่าสงสาร ฝ่าบาทก็จะทรงยิ่งเห็นใจแม้ความหวังจะริบหรี่ แต่ก็ทำให้นางรอดชีวิตมาได้นางไม่ได้ทำเพื่อฮูหยินหลินพอเห็นหยาดน้ำตาไหลอาบลงมาอย่างกระทันหันของฮูหยินหลิน เฉียวเนี่ยนก็ปัดมือฮูหยินหลินออกอย่างแข็งขืนพร้อมกับกล่าว "ข้าไม่เป็นไร"พูดจบนางก็เดินเข้าไปในจวนนางจงใจไม่หันไปมองหลินยวนและหลินเย่ว์ที่อยู่ข้างๆถึงอย่างไรนางก็ทรมานทรกรรมมาทั้งคืน เหนื่อยมาก ไม่มีกะจิตกะใจพูดคุยกับพวกเขายิ่งไปกว่านั้น นางอยากรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและรีบไปเยี่ยมฮูหยินเฒ่า!ระฆังพิธีพระบรมศพในวังใกล้จะดังแล้ว ข่าวการจากไปของหมิงอ๋องไม่อาจปิดฮูหยินเฒ่าได้ นางควรอยู่ข้างกายฮูหยินเฒ่า ปลอบประโลมฮูหยินเฒ่า นางจะได้ไม่ร้อนอกร้อนใจจนอาการก
เฉียวเนี่ยนเลยหันไปมองหลินเย่ว์ "แน่นอนท่านโหวน้อยไม่กล้าวางแผนทำร้ายท่านอ๋อง อย่างมากก็แค่ทำร้ายข้า!"คำพูดของเฉียวเนี่ยนแทงใจดำทว่าตอนนี้ หลินเย่ว์กลับตกใจจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวได้แต่ฟังเฉียวเนี่ยนพูดต่อ "แต่ข้าหวังว่าท่านโหวน้อยจะเข้าใจ กระต่ายเวลามันจนตรอกก็กัดคนได้ หากเจ้ากล้าหาเรื่องข้าอีก ข้าก็ไม่รังเกียจจะถูกลากตัวไปตัดหัวที่อู่เหมินพร้อมกับพวกเจ้า!"ก็แค่ประหารทั้งชั่วโคตร!นางคนเดียวแลกกับทั้งตระกูลหลิน ถือว่ากำไรไม่ใช่หรอ?ตอนนี้หลินเย่ว์ถึงกับพูดไม่ออก อีกทั้งยังตกใจกับคำพูดของเฉียวเนี่ยนจนขาอ่อนแม้เซียวเหิงเป็นคนเสนอความเห็นให้หมิงอ๋องไปสำนักราชาโอสถ แต่คนที่ดำเนินแผนการก็คือเขา!เขาไม่เหมือนเซียวเหิงที่มีวีรกรรมสงครามโดดเด่น ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทหากฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้ ฝ่าบาทคงลงมือจัดการเขาเป็นอย่างแรก ส่วนจวนโหวก็จะต้องพบเจอโศกนาฏกรรมฆ่าล้างโคตร!พอเห็นหลินเย่ว์กลัวจนหน้าซีดเผือด หลินยวนก็ทนมองต่อไปไม่ไหว รีบพูดขึ้นมา "ท่านพี่ ทุกคนล้วนเป็นห่วงเจ้า พี่ชายก็ไม่ได้นอนมาทั้งคืน ทำไมเจ้าถึง...""เมื่อคืนจมอยู่ในน้ำยังไม่พอรึ?" เฉียวเนี่ยนพูดขัดหลินย
ลายมือตัวหนังสือหวัดเล็กน้อย ขนาดคำว่า 'ผี' ก็ยังเขียนผิด 'ผ' ดันเขียนเป็น 'ฝ'เฉียวเนี่ยนขยำกระดาษแผ่นนั้นจนเป็นก้อนไว้ในกำมือ ในหัวปรากฎภาพของหลิ่วเหนียงกระดาษแผ่นนี้เป็นไปได้มากว่าหลิ่วเหนียงเป็นคนเขียนดังนั้นคนที่คิดอยากให้นางกับหมิงอ๋องแต่งงานผีจะต้องเป็นเต๋อกุ้ยเฟย!หมิงอ๋องเป็นโอรสเพียงคนเดียวของเต๋อกุ้ยเฟย ตอนนี้หมิงอ๋องจากไปแล้ว เต๋อกุ้ยเฟยคงตัดสินใจทำแบบนี้เพราะความเศร้าเสียใจเฉียวเนี่ยนถอนใจยาว นางกล่าวขอบคุณกับพ่อบ้าน จากนั้นก็เดินไปยังเรือนของฮูหยินเฒ่าหนิงซวงเดินตามหลังนางด้วยความกังวลใจเล็กน้อย "คุณหนูเจ้าคะ กระดาษแผ่นนั้น..."นางอยากถามเฉียวเนี่ยนว่าต่อจากนี้จะทำอย่างไร?หากมีพระราชโองการจากในวังให้เฉียวเนี่ยนแต่งงานผีกับหมิงอ๋อง แบบนั้นก็หมายความว่าต้องตายไปพร้อมกับหมิงอ๋องไม่ใช่หรอ?เฉียวเนี่ยนพูดขัดหนิงซวง "ไม่ว่าลมคลื่นจะพัดเซให้เอียงแค่ไหนพอถึงเวลาจอดที่ท่า เรือมันก็จอดตรงของมันเอง"ตอนนี้รีบไปเยี่ยมฮูหยินเฒ่าก่อนดีกว่าตอนเฉียวเนี่ยนมาถึง ฮูหยินเฒ่าก็ตื่นแล้วระฆังพิธีพระบรมศพดังไปแล้ว ดังนั้นฮูหยินเฒ่าจึงทราบข่าวการตายของหมิงอ๋องพอได้เห็นเฉียวเน
พอถึงตอนนั้น ฮูหยินเฒ่าไม่มีทางทนมองลูกหลานตัวเองรับโทษได้แน่เกรงว่าคงจะออกตัว ใช้ฐานะคุณหญิงตราตั้งปกป้องเกียรติยศของจวนโหวถึงตอนนั้นเฉียวเนี่ยนจะเอาเงินทรัพย์สมบัติของฮูหยินเฒ่าไปมีชีวิตเสวยสุขได้ยังไง?แน่นอนว่าคำตอบคือไม่เห็นฮูหยินเฒ่าหยุดพูด เฉียวเนี่ยนก็ยิ้มให้กับฮูหยินเฒ่า "ท่านย่าไม่ต้องเป็นห่วง เต๋อกุ้ยเฟยดีกับเนี่ยนเนี่ยนมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้เนี่ยนเนี่ยนจะเข้าไปพบกุ้ยเฟยในวัง คอยอยู่เคียงข้างผ่านช่วงที่ลำบากที่สุดของนาง เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป"เห็นได้ชัดว่าฮูหยินเฒ่าไม่เชื่อ "เต๋อกุ้ยเฟยปกติแม้จะอัธยาศัยดี แต่ใจคนยากลึกหยั่งถึง เนี่ยนเนี่ยน สตรีที่สามารถยืนหยัดในวังได้ล้วนไม่ธรรมดา!"แน่นอนเฉียวเนี่ยนทราบดี แต่เพื่อให้ฮูหยินเฒ่าเบาใจ นางเลยได้แต่พูดปลอบต่อไป "ท่านย่าอย่าห่วง เต๋อกุ้ยเฟยดีกับเนี่ยนเนี่ยนมากจริงๆ ก่อนหน้านี้นางยกห้องตัดเสื้อที่มีชื่อเสียงที่สุดให้กับหลานอยู่เลย!"พอได้ยิน ฮูหยินเฒ่าก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย "จริงรึ?""อืม ดังนั้น ขอแค่หลานปรนนิบัติดูแลกุ้ยเฟยให้ดี หลานก็จะไม่เป็นอะไร"เฉียวเนี่ยนยิ้มแก้มปริ ฮูหยินเฒ่าเห็นท่าทางของนางก็อดไม่ได้ที่จะถอนใจ "เป
เช้าวันรุ่งขึ้น เฉียวเนี่ยนไปเคารพศพของหมิงอ๋องที่โถงตั้งพระบรมศพก่อน จากนั้นก็ไปเรือนนอนของเต๋อกุ้ยเฟยพอเห็นเฉียวเนี่ยน สีหน้าของนางบ่าวก็ดูมีเลศนัยอย่างมากเฉียวเนี่ยนทำเป็นมองไม่เห็นนางบ่าวนำทางเฉียวเนี่ยนมาถึงยังเรือนนอนชั้นนอกของเต๋อกุ้ยเฟย ก่อนจะบอกให้นางเข้าไปเฉียวเนี่ยนผลักประตูเข้าไป มองผ่านผ้าม่านผืนบางก็จะเห็นเต๋อกุ้ยเฟยนั่งอยู่บนเตียง ข้างๆ มีสาวใช้คนหนึ่งคอยช่วยบีบนวดขมับให้กับเต๋อกุ้ยเฟยเฉียวเนี่ยนเดินเข้าไปหาและคุกเข่าคำนับ "หม่อมฉันถวายบังคมกุ้ยเฟยเพคะ"พอสิ้นเสียงกลับไม่มีเสียงใดตอบกลับมาเฉียวเนี่ยนทราบว่าเต๋อกุ้ยเฟยทรงตื่นจากบรรทมแล้ว อีกทั้งเสียงสะอึกสะอื้นเบาๆ ก็ยังดังมาเป็นระยะหลังจากได้ยินหลายครั้ง ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็พูดอย่างอดไม่ได้ "นายหญิงเพคะ ผู้ล่วงลับจากไปมิอาจหวน..."พอสิ้นเสียง ทันใดนั้นเต๋อกุ้ยเฟยก็เดินออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวผ้าม่านผืนบางเกือบจะหล่นลงมาเต๋อกุ้ยเฟยเดินมาอยู่ตรงหน้าของเฉียวเนี่ยนและตบหน้าไปฉาดอย่างไม่ใยดี "เพี๊ยะ""กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้?" เต๋อกุ้ยเฟยตวาดเสียงดัง เสียงคร่ำครวญแฝงไปด้วยความแค้น "เจ้าสัญญากับข้าแล้วว่าจะพา
ทว่าหูกลับได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้เฉียวเนี่ยนถอยหลังโดยทันที และตะโกนด้วยความระแวดระวังออกมา “อย่าเข้ามานะ!”ทว่าเสียงฝีเท้านั้นไม่หยุด เฉียวเนี่ยนเหวี่ยงดาบในมือออกไปอย่างแรงด้วยความตื่นตระหนกเซียวเหิงไม่คิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะลงมือกับตัวเอง จึงรีบถอยหลังไปก้าวหนึ่งดาบยาวเฉือนผ่านแขนเสื้อเขาไปเฉียวเนี่ยนสัมผัสได้ว่าตนไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ ก็เหวี่ยงดาบไปข้างหน้าอีกครั้งแต่ไม่คาดคิดเลยว่า อีกฝ่ายจะคว้าข้อมือนางไว้ทันที และไม่รอให้นางได้ตอบสนองกลับ ก็ดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด"ไม่ต้องกลัว ข้าเอง"เสียงที่ดังมาจากเหนือหัว ทำให้เฉียวเนี่ยนที่ยังคิดจะขัดขืนหยุดชะงักลงทันทีตัวนางแข็งทื่อ ทำเพียงแค่ถามราวกับหยั่งเชิงก็ไม่ปาน "เซียว เหิง?""อืม ข้าเอง"เสียงทุ้มต่ำนั้นกล่าว "ไม่เป็นไรแล้ว"ไม่เป็นไรแล้วหรือ?ร่างที่หดเกร็งของเฉียวเนี่ยนก็คลายลงในชั่วพริบตา ทว่าแค่เพียงชั่วพริบตาเท่านั้นนางรีบใช้เสื้อของเซียวเหิงเช็ดคาบเลือดบนหน้าให้สะอาด จากนั้นผลักเขาออก กุลีกุจรออกไปนอกป่าฝาโลงศพถูกเปิดออก!เฉียวเนี่ยนตกใจ รีบปีนขึ้นรถม้า ครั้นเห็นร่างของจิ่งเหยียนสมบูรณ์ไร้รอยต
เซียวเหิงใช้เวลาไปแค่วันกว่าก็จัดการเรื่องในเหอโจวเจิ้นเสร็จ เพราะโจรภูเขาที่ถูกจับเป็นเมื่ออยู่ในมือเซียวเหิงทนได้ไม่กี่ชั่วยาม ก็สารภาพเรื่องทั้งหมดออกมาแล้วต่อหน้าหยูว่านอันที่เป็นนายอำเภอเหอโจวเจิ้น เขาก็แสดงฝีมือการทรมานบีบให้สารภาพอีกรอบ จนหยูว่านอันนั่นตกใจฉี่รดกางเกง ไม่กล้าปิดบังแม้แต่ประโยคเดียวมันพัวพันกันอย่างกว้างขวางจริงๆแต่เรื่องสืบให้ละเอียด เซียวเหิงกลับมอบให้หลัวซ่างไปทำทั้งหมดหลัวซ่างไม่มีแขนซ้ายแล้ว ต่อไปมิอาจสู้รบได้อีก หากเรื่องนี้ทำสำเร็จเรียบร้อย วันหน้าอาจสามารถเป็นขุนนางตำแหน่งไหนตำแหน่งหนึ่งในราชสำนักได้ต่อให้อยู่เป็นนายอำเภอที่เหอโจวนี้ ก็ยังดีกว่าหอบร่างกายที่พิการกลับบ้านไปปลูกนาส่วนเซียวเหิงแม้แต่น้ำก็ไม่ดื่มสักอึกก็รีบตะบึงม้าออกไปใจของเขา หวาดหวั่นเป็นอย่างมากแผ่นหลังตอนเฉียวเนี่ยนจากไปยังคงปรากฏอยู่ในหัวเขาไม่หาย ทำให้ใจดวงนี้ของเขาหวาดหวั่นจนแม้แต่ชั่วครู่หนึ่งก็มิอาจรอได้เขาแทบจะตะบึงม้าตามไปอย่างไม่หยุดพัก ทว่าตอนเขาไล่ตามมาถึงกลับพบว่า คนที่เขาส่งมาปกป้องนางตายไปหมดแล้วนอกป่าเต็มไปด้วยซากศพ เขามองปราดเดียวก็รู้ได้ทันที บางคนในนั
พละกำลังมหาศาล ราวกับจะบิดหักแขนที่เปื้อนเลือดของนางอย่างไรอย่างนั้น!เฉียวเนี่ยนฝืนทนความเจ็บ ใช้กำลังทั้งหมดหมุนขยับมือของตัวเองดาบยาว เริ่มขยับอยู่ในกายโจรภูเขาโจรภูเขาเจ็บเหลือนแสน ร้องออกมาเสียงดัง "อ๊าก!"แรงใต้ฝ่ามือเขายิ่งรุ่นแรงขึ้นเฉียวเนี่ยนเองก็ร้องออกมาเพราะเจ็บเช่นกันทว่าเสียงร้องนั้น หาใช่เพียงเพราะเจ็บในที่สุด นางใช้กำลังทั้งหมด ทำให้ดาบยาวเล่มนั้นหมุนอยู่ในร่างกายโจรภูเขาไปหนึ่งรอบบางทีอาจเป็นเพราะลำไส้ถูกบิดขาด โจรภูเขาคนนั้นถึงได้กระอักเลือดออกมาอย่างหนัก สุดท้ายไร้เรี่ยวแรง ล้มหงายหลังลงไปกับพื้นส่วนดาบยาวเล่มนั้น กลับยังอยู่ในมือเฉียวเนี่ยนแน่นนางเองก็ถูกเลือดสาดกระเซ็นเต็มหน้า มากจนทำให้นางแทบลืมตาขึ้นมาไม่ได้ทว่าข้างหู กลับมีเสียงฝีเท้าดังเข้ามาอีกหน"เจ้าห้า! เจ้าหก!"เป็นโจรภูเขาอีกแล้ว!ใจที่ตื่นตระหนกของเฉียวเนี่ยนเหมือนกับจะหยุดเต้นสติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่บอกนางว่า ไม่ควรอยู่ตรงนี้แล้วทว่าเสียงร้องตะโกนเมื่อครู่เหมือนกับจะผลาญกำลังทั้งหมดของนางไปจนสิ้นแล้ว แขนก็ถูกจับจนเจ็บ แม้แต่ยกขึ้นมาเช็บคาบเลือดบนใบหน้าก็ยังทำไม่ได้เฉียวเนี่
เฉียวเนี่ยนมองโจรภูเขาที่ใบหน้าเปื้อนเลือดของเหล่าทหารคนนั้นด้วยคววามตกใจอย่างมาก จึงก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว แต่กลับไม่คิดเลยว่าจะสะดุดกิ่งไม้แห้ง ล้มลงไปกับพื้นเมื่อเห็นเช่นนี้ โจรภูเขาก็ยิ่งยิ้มอย่างป่าเถื่อนมากขึ้นภายใต้ราตรีอันมืดมิด กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งจนทำให้คนรู้สึกเวียนหัว...เฉียวเนี่ยนเหมือนสะดุ้งตกใจก็ไม่ปาน น้ำเสียงคลอไปด้วยเสียงร่ำไห้ "ข้า ข้าไปกับเจ้า เจ้า จะไม่ฆ่าข้าใช่หรือไม่?"เห็นสตรีตรงหน้าหวาดกลัวเช่นนี้ โจรภูเขาก็ยิ่งได้ใจ "แน่นอน ขอเพียงเจ้าเชื่อฟัง"เฉียวเนี่ยนรีบพยักหน้า "ข้าจะเชื่อฟัง แต่ว่า...เหมือนข้าจะข้อเท้าพลิก"ได้ยินเช่นนี้ โจรภูเขาจึงเหลือบมองข้อเท้าเฉียวเนี่ยนครู่หนึ่ง หวนนึกเมื่อครู่ที่นางสะดุดล้ม จึงไม่ได้สงสัยอะไรเขามองเฉียวเนี่ยนอีกครั้ง เห็นนางเปี่ยมไปด้วยสีหน้าหวาดกลัว ก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า ก็แค่สตรีอ่อนแอคนหนึ่ง ในมือไม่มีแม้แต่อาวุธ จะสร้างปัญหาได้แค่ไหนกันเชียว?จึงเลิกคิ้วขึ้นพร้อมเดินไปทางเฉียวเนี่ยน ก่อนยื่นมืออกไป หมายจะพยุงนางขึนมาเฉียวเนี่ยนเองก็ยื่นมือออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ เช่นกัน แต่ไม่คาดคิดเลยว่า ทันทีที่เฉียวเนี่ยนจ
เขาตกใจจนถอยหลังไปสองก้าวทหารอีกคนหนึ่งก้าวเข้ามาดูฉากนี้ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เอ่ยว่า "ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว งู แมลง หนูและมดเหล่านี้ก็จะออกมาหาอาหารแล้ว ไม่ใช่เรื่องสําคัญอะไร"เมื่อได้ยินคํานี้ ทุกคนจึงพยักหน้าหงึกๆ แล้วเก็บดาบกลับไปเฉียวเนี่ยนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกสายตามองไปยังหัวงูนั้นภายใต้แสงจันทร์ หัวงูเล็กๆ นั้นหักอยู่ข้างถนนและยังคงดิ้นรนและบิดอยู่นางรู้สึกอย่างบอกไม่ถูกว่า นี่เหมือนกําลังบ่งบอกอะไรบางอย่าง ในใจอดรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาไม่ได้ดีที่ว่าอีกสองวันต่อมา ทุกอย่างล้วนราบรื่นดีเหล่าทหารเคยชินกับการเดินทัพและเร่งเดินทาง ทุกวันจะนอนเพียงสองชั่วยามเท่านั้น ตลอดทางก็ดูแลเฉียวเนี่ยนเป็นอย่างดีแต่ความไม่สบายใจในคืนนั้นยังคงอยู่ในหัวใจของเฉียวเนี่ยน เหมือนกับหัวงูที่ถูกตัดออก บางครั้งก็ดิ้นไปมาราวกับเป็นการยืนยันความไม่สบายใจของนาง ในคืนที่สอง ถนนก็ถูกขวางไว้แล้วเฉียวเนี่ยนมองก้อนหินใหญ่หลายก้อนที่อยู่บนถนนข้างหน้า ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวได้ยินแต่คนข้างๆ ถามว่า"หินใหญ่ขนาดนี้ ทําไมถึงอยู่กลางถนนได้?"ทหารบางคนมองไปที่ยอดเขาที่ริมถนน"บางทีหินอาจลื
หนึ่งชั่วยามต่อมาเซียวเหิงนั่งอยู่หน้าโต๊ะ แสงเทียนที่สลัวอยู่แล้วดวงนั้นเผาจนถึงขั้นสุดท้ายแล้ว แสงไฟลุกโหมอย่างรุนแรงนอกประตูมีรายงานเสียงต่ำ"ท่านแม่ทัพ แม่นางเฉียวออกเดินทางแล้วขอรับ"นางรอไม่ได้แม้แต่นาทีเดียวเลยจริงๆ"เข้าใจแล้ว" เซียวเหิงตอบรับเสียงเรียบ แสงเทียนส่องกระทบใบหน้าด้านข้างที่เย็นชาของเขา กลับปรากฏความหนาวเหน็บออกมาในสมองเต็มไปด้วยท่าทางของนางที่ก้าวยาวๆ จากข้างกายเขาเมื่อครู่นี้ความเด็ดขาดนั้นไร้ความอาลัยอาวรณ์เลยแม้แต่น้อยตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นางไม่มีความอาลัยอาวรณ์ต่อเขาเลย?เซียวเหิงคิ้วเข้ม ราวกับคิดไม่ออกทั้งๆ ที่นางชอบตามตื๊อเขามากที่สุด...สายตาของเขาตกลงบนนิ้วชี้ขวาของเขาโดยไม่ตั้งใจที่นั่นมีรอยแผลเป็นยาวคืบคลานอยู่ ถูกเผ่าทูเจี๋ยฟันด้วยดาบใหญ่เมื่อสองปีก่อนในสนามรบถ้าไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วของเขา ฝ่ามือทั้งหมดของเขาคงถูกตัดออกในครั้งนั้น...เรื่องเมื่อสองปีก่อน ตอนนี้พอเขาคิดมา กลับรู้สึกว่าผ่านไปนานแล้วแล้วนางเล่า?เรื่องที่นางชอบเขาและตามตื๊อเขาก็ผ่านมานานมากแล้วใช่ไหม?ความตื่นตระหนกเกิดขึ้นที่หัวใจอย่างอธิบายไม
เฉียวเนี่ยนถึงยกกะละมังที่เต็มไปด้วยเลือดเดินออกมาจากห้องเก็บศพนางถือกะละมังเดินไปลานหลัง เทเลือดกะละมังนั้นลงในดินของแปลงดอกไม้ แล้วถึงหันหลังเดินไปข้างบ่อน้ำที่อยู่ไม่ไกล หยิบถังน้ำขึ้นมาล้างกะละมังตั้งแต่ต้นจนจบนางไม่เคยมองย้อนกลับไปเพราะนางรู้ว่าเซียวเหิงเดินตามหลังนางเซียวเหิงเองก็รู้ว่าเฉียวเนี่ยนต้องสังเกตเห็นเขาแน่ๆ ไม่อย่างนั้น นางคงไม่ทําแม้แต่เอียงคอหลบหน้าเขาไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนรออยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆรอให้นางล้างกะละมังให้สะอาด แล้วล้างผ้าเช็ดหน้าในมือให้สะอาด จากนั้นหันหลังเดินกลับไปเขาคิดอยู่ รอให้นางหันหลังกลับไป คงไม่สามารถทําเป็นมองไม่เห็นเขาได้แล้วมั้ง?แต่ไม่คิดเลยว่านางจงใจมองข้ามเขาจริงๆต่อให้สายตาจะกวาดผ่านเขาไป นางก็ไม่ได้หยุดมองเลยราวกับว่าเขาเป็นแค่อากาศในที่สุด เมื่อเฉียวเนี่ยนเดินผ่านเขาไป เขาก็ทนไม่ไหวและเอื้อมมือไปจับข้อมือของนาง"ปล่อย"สิ่งที่แลกมาคือน้ำเสียงเย็นชาของนางเซียวเหิงขมวดคิ้ว มองใบหน้าด้านข้างที่เย็นชาของนาง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ "เจ้าโทษข้าเหรอ?"โทษที่เขาไม่ได้ช่วยจิ่งเหยียนกลับมา?แต่นางรู้ดีว่าเขาทํา
ในห้องเก็บศพของที่ว่าการอำเภอ มีศพสิบกว่าศพวางเรียงรายอยู่ตอนที่เซียวเหิงมา เฉียวเนี่ยนกําลังเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าให้จิ่งเหยียนคนที่มารายงานบอกว่านางกําลังสร้างปัญหาแต่เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้สร้างปัญหาเลย แต่นางยังเงียบมากอีกต่างหากนางเพียงยกอ่างน้ำมาวางไว้ด้านข้าง จากนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าเปียกมาเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าของจิ่งเหยียนทีละนิดไม่นาน ใบหน้าของจิ่งเหยียนก็ถูกเช็ดจนสะอาดเฉียวเนี่ยนจึงล้างผ้าเช็ดหน้าให้สะอาดและเช็ดมือให้จิ่งเหยียน"ข้าไม่สามารถให้พ่อแม่ของเขาเห็นเขาในสภาพนี้ได้"นางพูดด้วยเสียงเบาๆแต่เซียวเหิงรู้ว่านางกําลังพูดให้เขาฟังทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย "นี่ไม่ใช่การกระทําที่ฉลาด"รู้เพียงว่าต้องสู้ตายในสนามรบ ไฉนคำนึงถึงนำศพกลับไปอีก?เมื่อสวมชุดเกราะนั้น พวกเขาก็ย่อมคาดว่ามีวันนี้อยู่แล้วจิ่งเหยียนต้องสามารถเข้าใจได้ว่าพวกเขาไม่สามารถพาเขากลับไปได้ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเพียงฤดูใบไม้ผลิ แต่อากาศก็อบอุ่นแล้วพวกเขาห้อตะบึงมาตลอดทาง ล้วนใช้เวลาถึงห้าวันเต็ม นางส่งเขากลับไปเช่นนี้ ต่อให้ไม่หลับไม่นอน เกรงว่าต้องใช้เว
"จิ่งเหยียน..."นางเรียกด้วยเสียงเบาๆ นุ่มๆ ราวกับกลัวว่าจะทําให้เขาตื่นแต่เห็นได้ชัดว่านางต้องการปลุกเขา!ดังนั้นเสียงของนางจึงดังขึ้นอีก"จิ่งเหยียน เป็นข้าเอง ข้ามาหาเจ้าแล้ว"คนบนหลังม้าไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยนางส่งเสียงดังขึ้นอีกเล็กน้อย กระทั่งเริ่มเขย่าร่างกายของจิ่งเหยียน "จิ่งเหยียน เจ้าตื่นเถอะ อย่าทําให้ข้าตกใจเลย!"แต่จิ่งเหยียนจะไม่ตื่นแล้วไม่มีวันตื่นแล้ว...เมื่อเห็นจิ่งเหยียนกําลังจะถูกเขย่าลงจากหลังม้าในช่วงเวลาที่สําคัญ มีเงาคนปรากฏขึ้นข้างหลังเฉียวเนี่ยน ดึงนางเข้ามาในอ้อมแขนของเขา"เขาตายแล้ว!"เฉียวเนี่ยนไม่เชื่อ ดิ้นรน นางจะไปเรียกจิ่งเหยียนให้ลุกขึ้น!แต่คนข้างหลังกลับลากนางไปข้างหลังตลอด "เขาตายแล้ว! จิ่งเหยียนตายแล้ว!"ตายแล้ว...ร่างกายของเฉียวเนี่ยนพลันแข็งทื่อ นางเห็นร่างของจิ่งเหยียนเกือบจะตกจากหลังม้า ทหารที่อยู่ข้างๆ รีบเข้าไปประคองเขาตั้งแต่ต้นจนจบ ร่างที่หมอบอยู่บนหลังม้าไม่ได้แสดงความมีชีวิตชีวาออกมาแม้แต่น้อยตายแล้วเหรอ?เหมือนท่านย่าของนาง ไม่ต้องการนางแล้วเหรอ?น้ำตาไหลไม่หยุด เฉียวเนี่ยนจ้องมองดวงตาที่ปิดสนิทของจิ่งเหยียนอย่างเ