เมื่อทหารยามที่ยืนอยู่หน้าประตูได้ยินว่า คืนนี้จะไปโจมตีทหารแคว้นฉู่ ก้องโห่ร้องขึ้นมาด้วยความดีใจ “ดีเหลือเกิน ในที่สุดก็จะลงมือเสียที!” “ข้าอยากได้ของรางวัล หากไม่สู้รบแล้วจะไปรับรางวัลได้อย่างไร ในที่สุด คืนนี้ก็จะได้สู้อย่างเต็มที่สักรอบเสียที!” “ข้าจะไปลับดาบม่อเตาอีกหน่อย เอาให้คมจนตัดเส้นผมขาด แต่ละดาบเห็นเลือดประเภทนั้น! ” เหล่าแม่ทัพทั้งหลายต่างก็ได้ยินเสียงทหารยามที่อยู่ด้านนอกห้องโถงหารือ พวกเขาล้วนรอที่จะสู้ศึกสักคราไม่ไหวแล้ว สิ่งของที่ท่านเทพส่งมานั้น มีความเย้ายวนต่อเหล่าทหารเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้รับรางวัลแล้ว พวกเขาไม่เกรงกลัวต่อกองทัพฉู่นับแสน เมื่อเหล่าทหารกระตือรือร้นเช่นนี้ เหล่าแม่ทัพทุกนายต่างก็เตรียมตัวอย่างแข็งขันเช่นกัน คืนนี้ จะต้องรบให้หนักสักตั้ง* เย่มู่มู่ที่รออยู่ ไม่ได้รับจดหมายตอบกลับจากจ้านเฉิงอิ้น นี่ก็สองวันแล้ว ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร ถ้าบอกว่าป่วย เธอก็ส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไฮเทคที่สุดไปแล้ว เครื่องมือพวกนั้นเกินพอที่จะรับมือกับแผลดาบแผลธนูแล้ว ถ้าจะบอกว่าเขาตายแล้ว เธอก็คงส่งสิ่งของไปทางนั้นไม่ได้ ตอนนี้ เธอจึงเดาว่า
เพื่อให้พ่อค้าย้ายเข้ามาปักหลัก เพราะเธอต้องการแหล่งสินค้าที่ไม่ขาดสาย ที่สามารถซื้อหาจากตลาดสินค้าเกษตรได้โดยตรง จะได้สะดวก และไม่ดึงดูดสายตาผู้คน ตลาดสินค้าเกษตรที่สร้างเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือแผงลอย ก็ล้วนสามารถปล่อยเช่าออกไปได้ เธอไม่ได้โลภเงินค่าเช่าเล็กน้อยพวกนั้น แต่เพื่อให้สะดวกในการอาศัยชื่อตลาดสินค้าเกษตร ไปสั่งซื้อสินค้าโดยไม่ถูกคนสงสัยเท่านั้น เมื่อผู้ใหญ่บ้านได้ยินว่าเธอจะสร้างตลาดสินค้าเกษตร ก็ดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ รีบไปที่เทศบาลตำบลทันที เขาต้องการจะทำให้เรื่องนี้เป็นทางการขึ้นมา หลังคาเหล็กอันเก่าของตลาดสินค้าเกษตรถูกรื้อออกแล้ว เพราะทันทีที่ฝนตกลงมา น้ำก็จะไหลซู่ลงมา ทำให้บนพื้นทั้งชื้นทั้งเปียก จึงควรเปลี่ยนใหม่เสียนานแล้ว ภายในวันเดียวกันนั้น หัวหน้าหมู่บ้านก็นำเอกสารกลับมา เขามอบมันให้เย่มู่มู่เซ็นชื่อ ในการก่อสร้างตลาดการเกษตรขึ้นใหม่ และการจัดตั้งสำนักงานบริหารตลาดสินค้าเกษตร มีเธอเป็นผู้รับผิดชอบและผู้ดูแลแต่เพียงผู้เดียว* จ้านเฉิงอิ้นและพวกเว่ยกวง คนทั้งกลุ่มต่างเดินทางอ้อมเขตแดนเผ่าของหมาน เลาะผ่านตะเข็บชายแดนเข้าสู่แคว้นฉู่ด้ว
จ้านเฉิงอิ้นออกคำสั่ง ทหารทุกคนลงจากม้ามีคนหนึ่งพันคนคอยเฝ้าระวัง คนที่เหลือทั้งหมดก็ขุดหลุมแม้แต่ม้าก็ไม่ว่าง กีบเท้าสองข้างกำลังพยายามขุดดินคนจำนวนมาก ฝังระเบิดทั้งหมดเสร็จภายในเวลาหนึ่งชั่วยามสายนำไฟฟ้าลากยาวหลายพันกิโล ห่างจากสถานที่ประจำการกองทัพของแคว้นฉู่และแคว้นฉียี่สิบลี้เมื่อพวกเขาถอยกลับไป จึงต้องถอยให้ห่างจากระยะของระเบิดการระเบิด สามารถทำให้กองทัพศัตรูตายได้จำนวนนับไม่ถ้วนหลังทำทุกอย่างเสร็จแล้ว พวกเขาเคลื่อนตัวไปใกล้ที่ประจำการของกองทัพแคว้นฉีอย่างช้า ๆด้านหน้า...กองทัพแคว้นฉู่และกองทัพตระกูลจ้านกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด!กองทัพของตระกูลจ้านมีอุปกรณ์ครบครัน มีขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยมกองทัพแคว้นฉู่พบข้อบกพร่องของอุปกรณ์กองทัพตระกูลจ้าน สามารถฟันไปที่ต้นขาและแขนได้โดยเฉพาะแต่จ้านเฉิงอิ้นเคยฝึกหน่วยดาบม่อเตา สามคนหันหลังชนกัน กลายเป็นรูปสามเหลี่ยม...กลุ่มสามคนให้ความร่วมมือกันอย่างชำนาญ ไร้ข้อบกพร่องทำให้กองทัพแคว้นฉู่ไม่เหลือที่ให้ลงมือในเวลานี้ กองทัพแคว้นฉู่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ต่อให้มีจำนวนคนมากกว่าหลายเท่า แต่ไม่มีทางพลิกสถานการณ์ได้และในขณะ
ปัง~เสียงดังปังพลันดังขึ้น ดังจนน่าตกใจ ตัดการสนับสนุนของกองทัพแคว้นฉีทหารแคว้นฉีชุดแรกที่รีบเร่งไปยังสนามรบ ก็ตายเพราะถูกระเบิดที่ระเบิดอย่างกะทันหันนี้คนกลุ่มแรกที่มากกว่าหนึ่งพันคนก็ตายไปเช่นนี้!กองทัพแคว้นฉีทั้งหมดพากันหยุดนิ่ง...บางคนหวาดกลัวจนถอยหลังกลับไปลูกธนูหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน พุ่งไปที่หว่างคิ้วของฉีซวนเหิงบางทีฉีซวนเหิงอาจจะยังไม่สมควรตายเมื่อเขาตกใจกลัวเพราะเสียงระเบิด ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง จนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฉับพลันติ๊ง~ ลูกธนูดอกหนึ่งบินผ่านเขาไป ทะลุผ่านมวยผม ตอกเขาไว้ที่บนพนักพิงด้านหลังเขาตกใจพร้อมร้องตะโกนออกมาด้วยความกลัว “ช่วยด้วย เร็วเข้า ช่วยข้าที!”“ทุกคนกลับมา ปกป้องข้า!”ด้านหน้าฉีซวนเหิงถูกรายล้อมด้วยองครักษ์ พวกเขาพยายามปกป้องฮ่องเต้อย่างระมัดระวัง เพื่อลงมาจากหอคอยสูง!ทหารที่เป็นกำลังเสริมถูกเรียกกลับมา พวกเขาล้อมเป็นวงกลม ปกป้องฮ่องเต้ที่อยู่ศูนย์กลางของวงกลมเอาไว้ซ่งตั๋วมองการกระทำของฮ่องเต้แคว้นฉี ก็ตะลึงจนพูดไม่ออก“ขี้ขลาดขนาดนี้ จะมาสนามรบทำไม!”จ้านเฉิงอิ้นถาม “มีระเบิดอีกหรือไม่?”ฉีซวนเหิงอยู่ในขอบเขตหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน
เขานั่งลงบนเก้าอี้ไม้ข้างแจกัน หยิบกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งขึ้นมา ใบหน้าเกร็งแน่น นิ้วมือสั่นเทาเบา ๆ เขาอ่านจดหมายจากท่านเทพอย่างประหม่า“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าขาดการติดต่อไปสิบชั่วโมงแล้วนะ ข้ากังวล...”“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าจงมีชีวิตให้ดี เจ้ารับปากข้าแล้ว จะรวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งเดียว เจ้าห้ามผิดคำพูดเด็ดขาด!”“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? เหตุใดไม่ตอบจดหมายล่ะ?”“จ้านเฉิงอิ้น เกิดเรื่องกับเจ้าหรือเปล่า? บอกข้าสิ ข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร?”“จ้านเฉิงอิ้นไม่ต้องกลัว ข้าจะส่งอุปกรณ์รักษาแผลภายนอกต่าง ๆ เตียงผู้ป่วย เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ที่สามารถเอกซเรย์ได้ยังไม่มีสินค้า อีกหนึ่งสัปดาห์จะมาถึง เจ้าต้องทนให้ได้นะ!”“เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า? หรือว่าตายไปแล้ว? ไม่สิ เจ้าจะทำข้าตกใจกลัวแบบนี้ไม่ได้นะ ข้ากังวลมาก!”“จ้านเฉิงอิ้น ถ้าเจ้าตอบจดหมายข้าได้ ข้าจะส่งอัลบั้มรูปภาพให้เจ้า จริง ๆ นะ ข้าไม่โกหกเจ้า”“แม้แต่อัลบั้มรูปภาพก็ยังดึงดูดความสนใจของเจ้าไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องใหญ่กับเจ้าแล้ว!”“ท่านแม่ทัพใหญ่ สรุปแล้วเจ้าเป็นหรือตายกันแน่! ข้าเป็นห่วงเจ้ามาก!”“จ้าน
นี่คือข้าวสารสามร้อยชั่งเชียวนะหากครอบครัวยากจนมีข้าวสารสามร้อยชั่ง ก็อยู่ได้เกินครึ่งปีเห็นได้ชัดเลยว่า สิ่งของเหล่านี้มีค่ามากแค่ไหนมีคนร่ำรวยในเมืองนี้นำทอง เงิน และเครื่องประดับออกมาแลกแชมพูและครีมอาบน้ำกับพวกทหารทองคำหนึ่งกล่องสามารถแลกแชมพูได้หนึ่งขวดก่อนเกิดความอดอยาก ทองคำหนึ่งกล่องเพียงพอให้ครอบครัวหนึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องของกินของใช้ไปตลอดชีวิตได้ทหารชั้นผู้น้อยถึงได้ให้ความสำคัญขนาดนี้จ้านเฉิงอิ้นมองแชมพูกลิ่นกล้วยไม้ท่านเทพชอบกล้วยไม้หรือ?น่าเสียดายที่หัวเซี่ยแห้งแล้ง ยากที่จะหาดอกกล้วยไม้พบเมื่ออุณหภูมิดีขึ้น เขาจะมอบกล้วยไม้ให้ท่านเทพอย่างแน่นอนจ้านเฉิงอิ้นเดินลงจากกำแพงเมืองเห็นคนต่อแถวยาวเพื่อแลกรางวัลแต่คนที่นำข้าวสารและแป้งสาลีมาที่โกดัง กลับมีน้อยมากดูเหมือนว่า ทุกคนไม่ขาดแคลนเสบียงแล้ว*เย่มู่มู่ตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดไป เป็นเวลาสิบโมงแล้วเธอไปดูแจกันก่อนอันดับแรกกระดาษขาวหลายแผ่นอยู่ด้านล่างแจกันเธอรีบลงจากเตียง แล้วหยิบกระดาษสีขาวที่อยู่บนพื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็วเห็นบนกระดาษขาวเขียนว่า “ท่านเทพ ข้ากลับมาแล้ว!”ที่แท้ในสองวันที่จ
เพราะเรื่องที่เย่ซินถูกจับ คนตระกูลมู่จึงคิดหาทุกวิถีทางเพื่อตามหาเย่มู่มู่ถึงขั้นยอมใช้เงินจำนวนมากจ้างนักสืบเอกชน เพื่อตามหาที่อยู่ปัจจุบันของเย่มู่มู่พวกเขายังได้ข่าวว่าบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนเดิมทีเป็นทรัพย์สินภายใต้ชื่อของเย่มู่มู่บ้านพักตากอากาศแห่งนี้มีชื่อเสียงไปทั่วเมือง กระทั่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศเป็นสถานที่พักผ่อนท่องเที่ยวยอดนิยมของเหล่าคนดังในเน็ตมาเช็คอินแน่นอนว่าที่คนตระกูลเย่มาในวันนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องเย่ซินเท่านั้นคนในตระกูลรู้สึกว่าที่พ่อของเธอร่ำรวยได้ และที่เธอมีทรัพย์สินมหาศาลในชื่อของเธอตั้งแต่อายุยังน้อย ก็เป็นผลมาจากการคุ้มครองของบรรพบุรุษเธอจำเป็นต้องให้เงินเพื่อตอบแทนตระกูลบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนก็ไม่เลวพวกเขาไม่สามารถเข้าไปยุ่งกับบริษัทจดทะเบียนได้ แต่ถ้าได้บ้านพักตากอากาศเซียนหยวนมาครอบครองก็ยังดีอย่างไรก็แล้วแต่ สาวน้อยอายุแค่นี้ จะถือเงินมากมายขนาดนี้ได้ยังไง!ไหนจะเรื่องเย่ซินอีก หากว่าเธอไม่เซ็นหนังสือยอมความชีวิตนี้ของเย่ซินต้องถูกทำลายแน่พวกเขายังอยากเกลี้ยกล่อมให้เธอเซ็นหนังสือยอมความ ให้เย่ซินได้รับโทษเบาลงชายส
แต่ลุงใหญ่ ป้าสะใภ้ อาหญิง อาเขย อาเล็ก อาสะใภ้ของตระกูลเย่ยังมีสีหน้าปกติเพราะเย่มู่มู่ไม่ให้ความร่วมมือ สีหน้าของพวกเขาเลยดูโกรธเล็กน้อยโกรธที่เย่มู่มู่ทำให้พวกเขาอับอาย!เป็นไปตามที่คิด มนุษย์หน้าไม่อาย ย่อมไม่แพ้ผู้ใดในใต้หล้าเย่มู่มู่ไม่อยากสนใจพวกเขา หลังจากโทรหาทนายสวีแล้ว จึงหันหลังคิดจะจากไปพอลุงใหญ่ตระกูลเย่เห็นว่าเธอจะไป จึงตะโกนเสียงดัง “เธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ พาเสี่ยวซินออกมาให้ฉัน ได้ยินไหม”“ฉันเตือนเธอแล้วนะ ถ้าเสี่ยวซินตาย เธอก็อย่าได้คิดว่าจะมีชีวิตอยู่”หลังจากพูดจบแล้ว เขาก็เห็นเย่มู่มู่ไม่หันมาจึงนอนลงบนถนนที่ทางเข้าหน้าหมู่บ้านย่าก็ให้ความร่วมมือร้องไห้พร้อมตะโกนทั้งน้ำตา “สร้างเวรสร้างกรรมแล้ว หลานสาวฆ่าคน ใส่ร้ายหลานชายสุดที่รักของฉันเข้าคุก”“เทวดาฟ้าดิน ท่านสงสารฉันหญิงชราคนนี้ด้วยเถิด เอาชีวิตของฉันไป แลกกับการให้หลานชายของฉันได้มีชีวิตอยู่ต่อ”“ส่วนหลานสาวคนนั้น ฉันขอสาปแช่งให้เธอตายเร็วเหมือนกับแม่ของเธอ!”เมื่อเย่มู่มู่ได้ยิน ก็อยากหันกลับไปด่าหญิงชราแต่ก็ถูกพี่ซุนและภรรยาของเขาห้ามเอาไว้“อย่าไปเลยครับ คนแบบนี้ยิ่งคุณสนใจมากเท่าไหร่ เธอก็
คำพูดของหยางชิงเหอ ทำให้เหล่าแม่ทัพหันมามองหน้ากันเฉินขุยเบิกตากลมโตด้วยความสงสัย ถามว่า “ร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงจะทำให้แม่ทัพของกองทัพธงเหลืองถอยทัพได้จริง ๆ!”จวงเหลียงรู้สึกสนใจขึ้นมา “แม่นางหยาง เจ้าพูดจริงหรือ?”“ข้าไม่พูดปด แต่ต้องจัดซื้อวัตถุดิบ!”จ้านเฉิงอิ้นเห็นนางมั่นใจถึงเพียงนี้ จึงตอบตกลง “ดี ต้องการอะไร เจ้าจงเขียนลงบนกระดาษเถอะ”เขาเดินไปหยิบกระดาษ ปากกาหมึกซึม จากชั้นหนังสือด้านหลัง มามอบให้หยางชิงเหอ!หยางชิงเหอไปยังห้องประชุมที่อยู่ติดกันในระหว่างที่แม่ทัพปรึกษาหารือกัน เธอก็วาดแบบแปลน และเขียนรายการวัตถุดิบที่ต้องการ ส่งมอบให้จ้านเฉิงอิ้นมีแบบแปลนอยู่หลายแผ่นแต่รายการวัตถุดิบที่ต้องการนั้น จ้านเฉิงอิ้นไม่รู้จักสักอย่าง“นี่...”เขาถึงกับพูดไม่ออก เพราะภาพวาดบนกระดาษนั้นแปลกประหลาดยิ่งนักเขาไม่เคยเห็นเครื่องมือที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนคนอื่น ๆ กรูเข้ามาดู แล้วก็พากันมองซ้ายมองขวาราวกับว่าไม่เห็นอะไรหยางชิงเหอยกมือปิดปากหัวเราะ “ท่านต้องรีบส่งให้ท่านเทพโดยเร็ว ให้นางเตรียมตัว!”“เครื่องมือเช่นนี้ ท่านเทพจะหาซื้อได้ง่ายหรือ?”“ง่ายมาก!
หยางชิงเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางหยุดฝีเท้ามู่ฉีซิวถึงกับจะร่วมมือกับฮ่องเต้ แคว้นเยี่ยน และเผ่าหมาน เพื่อปราบปรามจ้านเฉิงอิ้น...เรื่องนี้ช่างเหลวไหลสิ้นดีแต่ก็สมจริงอย่างยิ่งเป็นเรื่องที่มู่ฉีซิวสามารถทำได้เขาเป็นคนที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหากสามารถกำจัดคู่ต่อสู้ตัวฉกาจที่สุดอย่างจ้านเฉิงอิ้นได้ ฆ่าให้ตายตั้งแต่ยังอยู่ในเปลไม่ต้องพูดถึงการร่วมมือกับฮ่องเต้น้อย ต่อให้ต้องไปเป็นชายบำเรอของฮ่องเต้น้อย เขาก็คงจะยอมเขารู้ว่าในโลกนี้ เขาไม่ใช่ผู้ข้ามกาลเวลามาเพียงคนเดียวหยางชิงเหอก็ใช่จ้านเฉิงอิ้นก็ใช่~เขาเห็นโรงงานถลุงเหล็กที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ในใจคงจะหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมถึงได้ร่วมมือกับฮ่องเต้น้อย!เนื่องจากมีจดหมายลับส่งมา เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว จวงเหลียง เซี่ยเวย จ้าวเฉียน และคนอื่น ๆ...เมื่อได้รับข่าว ก็มายังเรือนพักชั่วคราวของจ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นนำจดหมายลับให้พวกเขาดูเฉินขุยอ่านก่อนเป็นคนแรกทันใดนั้น ความโกรธก็พุ่งขึ้นถึงกระหม่อม!“ข้าจะนำคนกลับเมืองหลวงเดี๋ยวนี้ ยิงไอ้สุนัขเนรคุณนั่นให้ตาย! ท่านแม่ทัพอุตส่าห์ช่วยเขาปราบปรามกองทัพธงเห
เขาส่งกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ให้เย่มู่มู่รายการสิ่งของที่หยางชิงเหอต้องการ ทั้งหมดถูกเขียนไว้อย่างครบถ้วนเย่มู่มู่ได้รับกระดาษแผ่นนั้น ก็เปิดออกดูดวงตาก็เบิกกว้าง“สายพานลำเลียงแร่...”ไม่เคยเห็นมาก่อน!“แม่พิมพ์ แม่พิมพ์สำหรับผลิตดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง!”เจ้าของโรงงานผลิตของเลียนแบบโบราณ จะเปิดเผยความลับทางการค้าให้เธอเหรอ?“เชือกลวดเหล็ก อะไรนะ? หลายพันเมตร?”เธอจะไปหาซื้อที่ไหน?“โรงไฟฟ้าดีเซลขนาดเล็ก...”ถ้าเธอมีของแบบนี้ จะต้องซื้อเครื่องปั่นไฟทำไม?“สายไฟ หม้อแปลงไฟฟ้า ตัวต้านทานไฟฟ้า อุปกรณ์ต่อสาย ท่ออ่อน...”ของพวกนี้ดูเหมือนจะหาซื้อได้ตามท้องตลาด!และหยางชิงเหอก็ได้วาดภาพให้เย่มู่มู่ดูเป็นภาพการขนแร่ลงมาจากยอดเขาใช้ปั้นจั่นหอสูงขนส่งแร่ลงมาทีละตะกร้ายังมีอีกวิธีหนึ่ง คือการขึงเชือกลวดเหล็กไว้บนยอดเขา ใช้รอก และกระบะเลื่อนลงมาจากด้านบนวิธีนี้ยังพอเป็นไปได้มากกว่าปั้นจั่นหอสูง ถึงแม้จะสามารถขนส่งสิ่งของได้ แต่ก็ไม่ได้ใช้ในลักษณะนี้เธอทำเครื่องหมายถูกที่แผนการที่สอง แล้วส่งภาพวาดกลับไปให้จ้านเฉิงอิ้น“แผนการที่สอง ข้าจะหาคนไปทำ!”“จริงสิ หยางชิงเหอไม่ได้บอก
จ้านเฉิงอิ้นก็ตกตะลึงกับราคาบ้านที่หยางชิงเหอพูดถึงเช่นกันไม่คิดว่าโลกของท่านเทพ ราคาบ้านจะสูงลิ่วเช่นนี้หากเขาย้ายไปอยู่ที่นั่น แล้วซื้อบ้านไม่ได้เล่า?เขาจะไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอนท่านเทพจะยังคบหากับเขาอยู่หรือไม่?ไม่ได้ เขาต้องเก็บเงินส่วนตัวไว้บ้าง จะได้ซื้อบ้านได้จะย้ายไปแล้วกลายเป็นคนเร่ร่อน เดินเตร็ดเตร่อยู่ตามถนนไม่ได้เด็ดขาด!เขากล่าวว่า “ได้ หากเจ้าตกลงจะอยู่ต่อหนึ่งปี ข้าจะบอกท่านเทพให้เงินเดือนปีละสิบห้าล้านให้เจ้า! พร้อมทั้งสวัสดิการห้าอย่าง”“หากภายในหนึ่งปีเจ้าทำได้ดี ข้าจะให้รางวัลพิเศษเป็นทองคำหนึ่งหีบ”หยางชิงเหอได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่งสิบห้าล้าน แถมด้วยทองคำอีกหนึ่งหีบฮ่า ฮ่า ฮ่า รวยแล้ว!แค่ปีเดียวเอง เธอทำงานให้กับมู่ฉีซิวมาสิบปี มู่ฉีซิวไม่เคยให้สิ่งใดตอบแทนเลยสักอย่างเงินเก็บที่เธอสะสมได้มาจากการทำลิปบาล์มดอกไม้และน้ำผึ้งขาย ให้เสี่ยวเถาแอบนำไปขาย ถึงได้เงินมาบ้างแต่ลิปบาล์มดอกไม้และน้ำผึ้งก็ถูกมู่ฉีซิวค้นพบอย่างรวดเร็ว เขาข่มขู่ให้เธอมอบสูตรให้ และยังห้ามไม่ให้เธอขายข้างนอกอีก เพราะจะไปรบกวนราคาตลาดของเขาและยังสัญญาว่าจะแบ่งผลก
เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยระดับ 985 ผ่านไป 10 ปี ไม่รู้ว่าความสามารถในการแข่งขันในตลาดยังคงมีอยู่หรือไม่มิเช่นนั้น เธอคงต้องหารายได้สักหน่อยก่อนกลับไปถ้าไม่ได้จริง ๆ คงต้องนำวัตถุโบราณไปขายจะกลับไปยุคปัจจุบันมือเปล่าไม่ได้เด็ดขาดมิฉะนั้น สิบปีของวัยสาวจะสูญเปล่า เงินเก็บก็ไม่มี บ้านก็ซื้อไม่ได้ ข้าวก็ไม่มีจะกินแล้วจะกลับไปทำไมกัน!ถ้าเกิดพ่อแม่ถามขึ้นมาว่า สิบปีที่ผ่านมาเธอหายไปไหนจะตอบอย่างไร?เธอพูดกับจ้านเฉิงอิ้นว่า “ท่านแม่ทัพ ข้าเห็นว่าในคลังยังมีแม่พิมพ์เก่าอยู่ หากจะสร้างใหม่คงจะยุ่งยาก แต่ข้าสามารถสอนพวกท่านลับแม่พิมพ์ได้!”“แม่พิมพ์นั้นแข็งมาก แม้แต่ในยุคปัจจุบัน ยังต้องใช้เครื่องจักรกลในการผลิต!”“ข้าจะช่วยพวกท่านสร้างแม่พิมพ์หัวลูกศรของหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ท่านจะให้เงินข้าสักหน่อยได้หรือไม่ ข้าจะได้เลื่อนเวลากลับไปอีกสักสองสามวัน!”เหล่าแม่ทัพต่างเผยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความนัยเดิมทีพวกเขาอยากจะรั้งตัวแม่นางหยางไว้สักระยะหนึ่งแต่เมื่อได้เอ่ยปากสัญญาว่าจะส่งนางกลับในตอนค่ำไปแล้วตอนนี้เมื่อภารกิจสำเร็จลุล่วง พวกเขาก็ไม่อาจกลับคำพูดได้ตอนนี้แม่นางหยางเอ่ยปา
ในขณะที่ทุกคนกำลังโห่ร้องยินดี...หยางชิงเหอกล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องตีขึ้นรูปใหม่ แค่เทเหล็กหลอมลงในแม่พิมพ์ แล้วเปิดออกก็จะได้ดาบเล่มใหม่แล้ว”“เพียงแต่ว่า โรงงานถลุงเหล็กแห่งนี้ เดิมทีผลิตมีดทำครัว ซึ่งมีดทำครัวนั้นมีความเหนียวและความแข็งแกร่งสูง โดยเฉพาะมีดทำครัวในยุคแปดศูนย์ ทนทานมาก”“หากเราเปลี่ยนแม่พิมพ์เป็นดาบม่อเตา ดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง หรือกระบี่...”“ก็จะสามารถผลิตออกมาได้อย่างไม่ขาดสาย คนงานเพียงแค่ร่วมแรงกันเปิดแม่พิมพ์ออกเท่านั้นก็พอ”“แม่พิมพ์นี้ต้องขนส่งมาจากยุคปัจจุบัน และต้องทำให้มันเข้ากับเครื่องจักรด้วย ซึ่งค่อนข้างยุ่งยาก!”เธอหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น~เธออยู่ในกองทัพตระกูลจ้านมานานพอสมควร จึงรู้เรื่องราวเบื้องลึกอยู่บ้างเช่น สิ่งของจากยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าจ้านเฉิงอิ้นสามารถเชื่อมต่อระหว่างยุคปัจจุบันและยุคโบราณได้!แต่เป็นเพราะเขามีแจกันที่สามารถเชื่อมต่อกับยุคปัจจุบันได้...มีหญิงสาวคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน เป็นลูกเศรษฐี คอยส่งเสบียงมาให้พวกเขาอย่างต่อเนื่องข้อเรียกร้องเดียวคือจ้านเฉิงอิ้นต้องรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นหญิงสาวคนนั้นช่างใจดีเหลือเกิน ส่งทั้งน้ำ
“แต่ท่านแม่ทัพวางใจเถิด เขาสู้ท่านไม่ได้หรอก!”หยางชิงเหอคิดถึงอนาคตที่มู่ฉีซิวจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแย่งชิงบัลลังก์...ความฝันอันสวยงามของเขาถูกจ้านเฉิงอิ้นทำลายตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มต้นเพียงคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็มีความสุข“ท่านแม่ทัพ ท่านกลับไปเถิด พรุ่งนี้พวกเราจะเลือกฤกษ์งามยามดี แล้วลองเผาหม้อน้ำกัน!”“ได้!”คืนนี้ หวังเซิ่งกอดดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังนอนเฝ้าหน้ากระโจมของหยางชิงเหอทั้งคืนอีกสี่คนที่อยู่กับเขาก็ไม่ได้หลับเช่นกันคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย พรุ่งนี้แม่นางหยางก็จะจากไปแล้วพวกเขาจะปล่อยให้เกิดเรื่องกับนางอีกไม่ได้ จะต้องส่งนางกลับไปอย่างปลอดภัย*วันรุ่งขึ้น ประชาชนต่างก็วุ่นวายตั้งแต่เช้าตรู่ขนแร่จากภูเขาแร่และใส่ลงในหม้อน้ำขนาดใหญ่ใต้หม้อน้ำมีการจุดไฟเผาถ่านหิน...เนื่องจากถ่านหินเป็นก้อนเล็ก จึงใช้เวลานานกว่าจะลุกไหม้จนแดงปล่องควันหนึ่งเริ่มมีควันดำลอยขึ้นมาตามมาด้วยปล่องที่สอง สาม และสี่...ปล่องควันทั้งสี่ที่สูงตระหง่านเสียดฟ้า ต่างพ่นควันดำออกมาถ่านหินลุกไหม้จนแดงช่างตีเหล็กต่างตักแร่ใส่หม้อน้ำทีละพลั่วหลังจากการเผาไหม้หลายชั่วยาม หม้อน้
เมื่อจ้านเฉิงอิ้นได้รับรายงานจากเถียนฉินว่า มู่ฉีซิวพยายามลักพาตัวหยางชิงเหอ และเกือบจะทำสำเร็จทั้ง ๆ ที่รอบตัวหยางชิงเหอมีหวังเซิ่ง อดีตไส้ศึกที่เคยแทรกซึมเข้ากองทัพธงเหลืองคอยคุ้มกัน!แต่เขาก็เกือบทำสำเร็จจ้านเฉิงอิ้นรีบลุกจากเตียง และรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุหยางชิงเหอได้รับผลจากยากล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้ร่างกายไร้เรี่ยวแรงและมือทั้งสองข้างถูกมัดเนื่องจากถูกโยนลงจากหลังม้า ร่างกายจึงมีรอยถลอกจากการขูดขีดกับก้อนหินหลายแห่งที่คอมีรอยนิ้วมือจากการบีบเค้นอย่างชัดเจนถึงกระนั้น สภาพจิตใจของนางก็ยังถือว่าดีอยู่แม่นางน้อยชุบน้ำจนผ้าเปียกแล้วส่งให้เสี่ยวเถาเสี่ยวเถาร้องไห้ไปพร้อมกับเช็ดรอยถลอกที่หลังมือของหยางชิงเหอจ้านเฉิงอิ้นถามหวังเซิ่ง “เกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าทั้งห้าคนอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของมั่วฝาน มีทั้งความระมัดระวังและฝีมือ แต่ทำไมถึงปล่อยให้มู่ฉีซิวทำสำเร็จ?”หวังเซิ่งก้มหน้าและกล่าวขออภัยต่อจ้านเฉิงอิ้น“ท่านแม่ทัพ พวกเราทั้งห้าคนถูกหลอกให้แยกย้ายกันไป ตอนที่แม่นางหยางกำลังตรวจงานที่โรงงาน พวกเรากระจายกำลังกันเฝ้าระวังอยู่รอบนอก แต่แล้วก็มีกลุ่มคนปรากฏตัวขึ้นและแยก
เธอลืมตาขึ้นช้า ๆ เห็นตะเกียงน้ำมันแกว่งอยู่ข้างในรถม้าเสียงประหนึ่งปีศาจร้ายที่คุ้นเคยดังขึ้น “ตื่นแล้ว?”หยางชิงเหอตื่นตกใจลืมตาทันทีเธอ มองเห็นมู่ฉีซิวม่านรถม้าไม่ได้เปิดออก แต่มั่นใจได้ว่าเธอยังอยู่ในพื้นที่ค่ายทหารของกองทัพตระกูลจ้านร่างกายเธออ่อนปวกเปียกไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อยไม่รู้ว่ามู่ฉีซิวป้อนยาอะไรเข้าไปให้เธอกิน!“นะ นายอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”มู่ฉีซิวใช้สายตาชั่วร้ายจับจ้องหยางชิงเหอ ทันใดนั้น เขาเอามือบีบคางเธออย่างแรงและดึงเธอขึ้นมาจนได้สบตาเข้ากับแววตาแดงก่ำ โกรธเคืองและชั่วร้ายของเขา“หยางชิงเหอ เธอกล้าแกล้งตายได้ยังไง เธอกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง!”หยางชิงเหอหัวเราะ“ทำไมล่ะ พอไม่มีฉัน กองทัพธงเหลืองของนายก็ทำอะไรไม่เป็นแล้วเหรอ?”เขาคลายมือจากหยางชิงเหอและดึงผ้าไหมม้วนออกมาเช็ดมือพร้อมกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่ามองตนเองสำคัญขนาดนั้น ไม่มีเธอ ฉันก็ผลิตออกมาได้เหมือนกัน”“แต่ฉันมองเธอเป็นแฟน ทะนุถนอมดั่งของล้ำค่า ถึงกระทั่งไปสู่ขอกับตระกูลชุยที่ป๋อหลิง พูดคุยกับบิดาและมารดาตระกูลชุยว่าเธอมีความสำคัญกับฉันมากและต้องมาเป็นอนุภรรยารับใช้ของฉันให้ได้!!”“ฉันไปมา