เคธี่รีบนำทางฮาร์วีย์ลงไปในส่วนลึกของกิลด์ฮอลล์ฮาร์วีย์ยักไหล่กับตัวเองและเดินตามเธอไปอย่างไม่อิดออดมีโอกาสที่เคธี่จะวางแผนฆ่าฮาร์วีย์อยู่ แต่เขาเชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงมีหัวคิดผู้หญิงที่มีหัวคิดจะไม่จมอยู่กับความพยายามที่ไร้ค่าในไม่ช้า ทั้งสองก็เดินผ่านตรอกที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาไปยังลานเล็ก ๆ สไตล์หนานหยางเมื่อทั้งสองเข้าไปข้างใน ผู้หญิงผิวคล้ำคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากมุมลานบ้านและขวางทางฮาร์วีย์ไว้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเธอเย็นชาเธอดูอายุค่อนข้างน้อย ร่างกายซูบผอมมีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ เธอทำให้ฮาร์วีย์นึกถึงเสือชีต้าที่ว่องไวเพียงแค่ยืนอยู่เฉย ๆ เธอก็สามารถต้านแรงกดดันมหาศาลได้เธอส่งเสียงร้องแปลก ๆ และทันใดนั้น แมลงก็ปรากฏตัวขึ้นและคลานเข้าหาฮาร์วีย์ฮาร์วีย์มองดูผู้หญิงคนนั้นเงียบ ๆ แล้วหัวเราะเบา ๆ เขาปล่อยกลิ่นอายของนักฆ่ารุนแรงแบบในสนามรบออกมาเล็กน้อย และให้มันครอบคลุมไปทั่วทั้งร้านในไม่กี่วินาที ผู้หญิงผิวคล้ำก็ตัวสั่นด้วยความกลัวและเซถอยหลังไปเธอจ้องไปที่ฮาร์วีย์ ดวงตาที่เบิกกว้างของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่ออย่างที่สุดในเวลาเดียวกัน ตาซ้ายของเธอก็มีเลือดไหลอ
“ก่อนทำการสำรวจสุสาน ปู่ของฉันเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในหนานหยาง อันที่จริง เขามีความสามารถเทียบเท่ากับเทพสงคราม!“แต่กลิ่นเหม็นเน่านั่นทำให้เขาเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ!“ฉันพาเขาไปฮ่องกงและตามหาหมอที่จะมารักษาเขาไปทั่ว“โชคร้ายวิชาที่ฉันค้นพบทั้งยาแผนตะวันตกและยาจีนก็ไม่อาจช่วยเขาได้“มีคนบอกฉันว่าเขาไม่ได้ป่วย แต่เป็นเพราะชะตาลิขิตเอาไว้“ฉันรู้ว่าถ้าฉันต้องการจะช่วยเขา ฉันต้องกำจัดกลิ่นเหม็นนั่นออกจากร่างกายของเขาเสียก่อน“ฉันมองหาปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยทั่วฮ่องกง แต่ไม่มีใครชำนาญพอสักคน“แม้แต่ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งในฮ่องกงอย่างจอน เซอร์เรย์ก็ยังได้แต่หน้าดำคร่ำเครียดหลังจากที่เห็นสภาพของคุณปู่ เขาบอกว่าเขาทำอะไรไม่ได้และจากไปโดยไม่แม้แต่จะพยายามด้วยซ้ำ“เขาแนะนำให้ฉันไปวิหารคุณธรรมทั้งห้า เขาบอกว่าคุณปู่ของฉันมีโอกาสที่จะหายป่วยได้ ถ้าเจ้าอาวาสหรือนายหญิงมาช่วย“แต่น่าเศร้าที่เราไม่มีสิทธิ์ขอความช่วยเหลือจากพวกเขา“แต่หลังจากที่ได้พบคุณคืนนี้ ฉันก็นึกย้อนไปถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคุณ เพราะจอน เซอร์เรย์เองต้องประสบกับความระทมเพราะคุณ แถมคุณ
“ก่อนหน้านี้เขาจะฟื้นคืนสติได้ราวสองถึงสามชั่วโมง“แต่เร็ว ๆ นี้ ช่วงเวลานั้นลดน้อยลง“ถ้าเราหาวิธีรักษาปู่ของฉันไม่ได้ เขาก็จะอยู่ได้ไม่นาน” เคธี่พึมพำเบา ๆ“คุณคงเคยประสบเรื่องแบบนี้มาก่อน คุณยอร์ก คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา?”ฮาร์วีย์หรี่ตาลงเล็กน้อย“ดูเหมือนนี้จะไม่ใช่อาการเจ็บป่วย แต่กลิ่นนั่นไม่น่าจะรุนแรงถึงขนาดทำให้เกิดความเสียหายได้ขนาดนี้“ขอผมเข้าไปดูใกล้ ๆ ได้ไหม”เมื่อเห็นท่าทางของฮาร์วีย์ เคธี่ก็ชี้ไปที่ปู่ของเธอ“กรุณาเถอะ คุณยอร์ก”ฮาร์วีย์พยักหน้า โดยไม่สนใจคลื่นความร้อนที่แผดเผาร่างกาย เขาก้าวเข้าไปหาดีนเพื่อวิเคราะห์ชายชราอย่างใกล้ชิดมากขึ้นดีน คอบบ์ผ่ายผอมลงไปมาก ราวกับว่าเขาสามารถตายได้ทุกเมื่อ…พิจารณาจากรูปร่างหน้าตาของเขา ก็จะเห็นได้อย่างง่ายดายว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลามากขนาดไหนขณะที่ฮาร์วีย์เอื้อมมือไปตรวจชีพจรของดีน จู่ ๆ ดีนก็ลืมตาขึ้นในขณะนั้น ออร่าที่ดุร้ายก็พุ่งเข้าใส่ฮาร์วีย์ ซากศพที่กองกันเป็นภูเขาและทะเลเลือดส่องประกายในดวงตาของฮาร์วีย์แวบหนึ่งใครก็ตามที่มีพลังจิตไม่กล้าแข็งจะต้องเสียสติหลังจากได้เห็นภาพเช่นนั้น
“ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าตอนนี้ผมจะมีสภาพแบบนี้ แต่เกรงว่าคงมีเพียงปรมาจารย์ในระดับเทพสงครามเท่านั้นที่สามารถต้านทานการโจมตีเมื่อครู่ของผมได้“เนื่องจากคุณสามารถรับมือกับมันได้อย่างสบาย ๆ เพราะงั้นผมรู้แน่ว่านี่มันหมายความว่ายังไง นายน้อยยอร์ก”ดีน คอบบ์ถอนหายใจและพูดว่า “ผมเคยเรียนประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ยังเด็ก แต่ก็ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนั้นเลย“เพราะไม่ว่าจะกี่ยุคต่อกี่ยุคประวัติศาสตร์ก็ชี้ให้เห็นเสมอว่าประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่คือที่ที่เต็มไปด้วยผู้มากความสามารถ“ต่อมาประเทศ H อันยิ่งใหญ่ถึงได้มีบุคคลในตำนานถือกำเนิดขึ้น“นั่นก็คือหัวหน้าผู้ฝึกสอนของค่ายศัสตราวุธ“การปรากฎตัวของบุคคลผู้นี้ทำให้ผมเข้าใจในความหมายของชะตาลิขิตและประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี!“นอกจากหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตำนาน ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีบุคคลอย่างคุณในประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่คนอื่นอีก!“เมื่อเวลาผ่านไป ประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่อาจกลายเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ในกลุ่มประเทศทรงอำนาจในไม่ช้า!”ดีนถอนหายใจ เห็นได้ชัดว่าเชื่อในตัวฮาร์วีย์ ยอร์กเคธี่ คอบบ์อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฮาร์วีย์อีกสองสามครั้งปู่ของเธอ
ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้มอยู่ข้าง ๆ และพูดว่า “ขอบคุณสำหรับคำชมที่มีต่อหัวหน้าผู้ฝึกสอนของประเทศ H อันยิ่งใหญ่ ผู้อาวุโสคอบบ์“แต่ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนพูดไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่าทั้งกองทัพสมควรได้รับความดีความชอบในการทำให้ประเทศ H อันเกรียงไกรของเราชนะสงคราม“ประเทศ H เกรียงไกรสร้างหัวหน้าผู้ฝึกสอนขึ้นมา ไม่มีทางเป็นอื่น”ดีน คอบบ์พยักหน้าและพูดว่า “ใช่แล้ว หัวหน้าผู้ฝึกสอนของประเทศ H อันยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแต่ยอดเยี่ยมทั้งในด้านอุปนิสัยและความกล้าหาญเท่านั้น แต่เขายังปิดบังตัวตนอีกด้วย ดังนั้นจนถึงทุกวันนี้จึงมีเพียงไม่กี่คนที่รู้จักตัวตนของเขา!“ถ้าผมมีโอกาสได้พบเขา ผมก็คงนอนตายตาหลับแล้ว!“อะแฮ่ม อะแฮ่ม อะแฮ่ม...”ฮาร์วีย์ได้แต่กระแอมไอสองสามครั้งอยากช่วยไม่ได้ 'ตาเฒ่านี่ พอได้แล้ว หยุดเลียแข้งเลียขาสักที'จากนั้นเขาก็เหวี่ยงประเด็นไปและพูดว่า “ผู้อาวุโสคอบบ์ เรามาคุยกันเรื่องอาการของคุณดีกว่า”ดีนชำเลืองมองไปยังฮาร์วีย์และตอบอย่างเคร่งขรึม “พ่อหนุ่ม คุณน่ะทรงพลังอยู่หรอกนะ แต่ก็ยังไม่อาจเทียบเคียงกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนได้“แต่ผมเชื่อว่าด้วยความสามารถของคุณ คุณอาจพอแข่งขันกับหัวหน้าผู้ฝึก
“เคธี่ ปู่รู้ว่าหลานมัวแต่วุ่นวายกับเรื่องของปู่มาตลอดหลายปี แต่ปู่รู้ตัวดี ยาทั่วไปรักษาไม่ได้หรอก”ดวงตาของดีน คอบบ์ดูอ่อนโยนขณะที่มองไปยังเคธี่ คอบบ์ด้วยความรัก“น่าเสียดายที่ปู่ไม่อาจปกป้องหลานได้อีกต่อไปแล้ว!“เพราะเกรงว่าปู่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่เดือนเดียว“หลานไม่ต้องมาสนใจปู่และเสียเวลาอีกต่อไปแล้วล่ะ“หลานควรคิดให้ดีนะ หลังจากปู่ตายแล้วหลานจะทำอะไร?“แม้ว่าตระกูลคอบบ์จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ในหนานหยาง แต่ความยิ่งใหญ่นั้นมันมลายหายไปตั้งแต่เมื่อวินาทีที่ปู่ตกอยู่ในสภาพนี้“ความบาดหมางภายในตระกูลตัวเองทวีความรุนแรงขึ้น ญาติ ๆ ของหลานทุกคนคอยจ้องจะฮุบเงินทองและตำแหน่งของหลานอยู่ แถมกองกำลังอื่น ๆ ในหนานหยางเองก็อยากจะได้ตำรายุทธที่ปูเคยฝึกฝนในอดีตจนตัวสั่น“ตอนนี้ เป็นเพราะปู่ยังไม่ตาย เพราะงั้นปู่จึงสามารถใช้ฉายา ‘ปรมาจารย์อันดับหนึ่ง’ ในการยับยั้งคนที่คิดจะลงมือไว้ได้!“แต่พอปู่ตายเมื่อไหร่คนพวกนั้นจะต้องมารุมทึ้งหลานแน่นอน!“เพราะฉะนั้น หลานต้องวางแผนอนาคตให้ดี!“หลานคงไม่อาจกลับไปยังหนานหยางได้อย่างแน่นอน“ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับหลานในตอนนี้ก็คือการหาท
ฮาร์วีย์ ยอร์กครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “กลิ่นเหม็นเน่าในร่างกายนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น“จุดนี้ทำให้พิษในร่างกายของเขาแพร่กระจายออกไป “ดังนั้น อาการเจ็บป่วยของผู้อาวุโสคอบบ์ไม่ใช่เพราะกลิ่นเหม็นเน่าหรืออาการเจ็บป่วยใด ๆ ทั้งนั้น แต่เป็นเพียงเพราะยาพิษ”“ยาพิษ? จริงหรือ?"เคธี่ คอบบ์ดูไม่มั่นใจและตระหนก “ก่อนหน้านี้เราได้เชิญแพทย์และปรมาจารย์หลายคนมาตรวจร่างกายของเขา และแม้พวกเขาเหล่านั้นจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน แต่ส่วนใหญ่พวกเขาเชื่อว่าคุณปู่ถูกวิญญาณร้ายสิงสู่“มีคนยืนยันว่าปู่ของฉันกลายเป็นแบบนี้เพราะเขาสูดดมกลิ่นเหม็นเน่าที่ถูกหมักบ่มไว้เป็นพัน ๆ ปี“แต่ตอนนี้คุณกำลังบอกว่าปู่ของฉันถูกวางยาพิษแค่นั้นน่ะเหรอ?”เคธี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “นายน้อยยอร์ก คุณควรรู้เอาไว้นะว่าผู้ที่ฝึกยุทธจะพอมีความรู้เรื่องยาอยู่บ้าง ปู่ของฉันตรวจดูอาการของตัวเองดูแล้ว แต่เขาก็ไม่พบว่าตัวเองถูกวางยาพิษเลยแม้แต่น้อย!”ฮาร์วีย์คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถาม “คุณมีมีดผ่าตัดไหม?”เคธี่อึ้งไปครู่หนึ่ง เธอไม่ได้ตอบคำถาม แต่ถึงกระนั้นเธอก็รีบไปนำชุดอุปกรณ์ผ่าตัดมาให้เขาจากนั้นฮาร์วีย์ก็ห
สีหน้าของเคธี่ คอบบ์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ครุ่นคิดและเลยถามหลังจากนั้นครู่หนึ่งว่า “ใครเป็นคนวางยาปู่ของฉัน”“เรื่องนั้น…” ฮาร์วีย์ ยอร์กครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เพื่อให้พิษเหมันต์เข้าสู่ร่างกายได้ ก็ต้องบริโภคเข้าไป จึงมักจะผสมอยู่ในอาหารหรือไม่ก็เครื่องดื่ม“สำหรับคนที่ลงมือทำเรื่องนี้ คงไม่อาจสรุปได้หรอก แต่ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้นะครับ ผู้อาวุโส”ฮาร์วีย์เอยอย่างหนักแน่น ซึ่งทำให้สีหน้าของเคธี่เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า เห็นได้ชัดว่าเธอเข้าใจว่าฮาร์วีย์หมายถึงอะไรคนที่สามารถทำเช่นนี้ได้นั้นต้องใกล้ชิดกับพวกเขามากอย่างไม่ต้องสงสัย และต้องได้รับความไว้วางใจจากดีน คอบบ์เสียด้วยผู้ที่เข้าข่ายมีจำนวนไม่มากนัก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยาก หากเขาต้องการจะหาคำตอบในเรื่องนี้แต่เมื่อพิสูจน์ได้ว่าผู้กระทำความผิดเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว ตระกูลคอบบส์อาจกำลังตกอยู่ในความโกลาหลในตอนนี้ ดีนก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว รอยสีดำปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา และทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดจะพรรณนาร่างกายของเขาเริ่มสั่นราวกับจะตายให้ได้เดี๋ยวนี้“พิษกำลังโจมตีหัวใจของเขา!”สีหน้าท่าทางของ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข