Share

บทที่ 21

Penulis: เจียงหนานเยียน
ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วขึ้นเอ่ย “ข้าเป็นบุตรสาวของเสด็จพ่อ ย่อมต้องเหมือนเขาเป็นธรรมดา”

ทั้งสามรวมตัวกันปรึกหาหารือแผนรับมือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า

สุดท้ายจึงตัดสินใจดำเนินการตามแผนที่ได้ตกลงไว้ก่อนหน้าแล้ว โดยชิงโจมตีก่อนเพื่อล่อให้ศัตรูมาติดกับ

ทว่าการเคลื่อนไหวจำต้องเป็นไปโดยระมัดระวังมากขึ้น บัดนี้จวนเยียนอ๋องไม่อาจเลินเล่อได้อีกต่อไป

เหล่าไท่จวินอายุอานามก็มากแล้ว หลังจากนางได้พบเยียนอ๋อง ร่างกายก็เริ่มทรุดจนฝืนไม่อยู่ ซือเจ๋อเยว่จึงพานางกลับไปพักผ่อนยังห้องหับ

เมื่อซือเจ๋อเยว่เดินออกมา ก็พบเยียนเซียวหรานยืนอยู่ภายนอก เห็นได้ชัดว่ากำลังรอนางอยู่

เหตุเพราะเรื่องถุงเงินทำให้นางยังไม่อยากจะอยู่ลำพังสองต่อสองกับเขานัก จึงคิดจะหลีกลี้ออกมาราวกับมองไม่เห็นเขา

เขาค่อยๆ เอ่ยขึ้นมา “องค์หญิงยังมิได้พบพี่ชายใหญ่เลยใช่หรือไม่?”

ซือเจ๋อเยว่ร้อง “อ้อ” ออกมาคำ ก่อนจะตอบ “ยังไม่ได้พบเลย”

เยียนเซียวหรานมองนางพลางเอ่ย “เช่นนั้นข้าจะพาองค์หญิงไปพบเขาเอง”

ซือเจ๋อเยว่ชะงักไปครู่ ส่วนเขาเดินนำทางไปแล้ว เธอนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเกาหัวเดินตามเขาไป

เยียนอ๋องซื่อจื่อสิ้นชีพไปก็นานแล้ว จะ
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 22

    วันนี้เมื่อเหวยอิ้งหวนกลับจากวังหลวงมายังศาลต้าหลี่ หนีจ้าน[1]เส้าชิงก็ตรงเข้ามาหาพลางเอ่ย “เรื่องที่ใต้เท้าให้ข้าสืบมีความคืบหน้าแล้วขอรับ”พูดจบเขาก็ส่งม้วนกระดาษให้กับเหวยอิ้งหวนหนีจ้านอายุอานามมากกว่าเหวยอิ้งหวนถึงสิบปี ทั้งยังทำงานที่ศาลต้าหลี่แห่งนี้มานานกว่าเหวยอิ้งหวนอีกด้วยเหวยอิ้งหวนถูกส่งตรงลงมารับตำแหน่งซื่อชิง[2]แห่งศาลต้าหลี่ คราแรกหนีจ้านไม่ได้ยอมรับนับถือเขานักทว่าหลังคลี่คลายคดีความไปไม่น้อยหนีจ้านก็ยอมรับความสามารถของเหวยอิ้งหวนจากใจจริง บัดนี้ทั้งสองจึงเข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยแล้วเหวยอิ้งหวนเปิดม้วนกระดาษออกดู พินิจดูอย่างละเอียดแล้วเรือนคิ้วก็พลันขมวดมุ่นหนีจ้านเอ่ยถาม “ใต้เท้าเองก็รู้สึกมีสิ่งใดมิชอบมาพากลใช่หรือไม่?”เหวยอิ้งหวนกล่าวเสียงเคร่ง “การรบทัพจับศึกนี้ มีเยียนอ๋องเป็นผู้นำทัพ เขานำทัพทหารม้าบุกตะลุยจนตัวตายบริเวณรอบนอกช่องเขากรงเสือ”“ทว่าเยียนอ๋องซื่อจื่อถูกพบตายในหุบผาห่างจากช่องเขากรงเสือราวหนึ่งร้อยลี้ เมื่อครั้นพบตัว ร่างก็ได้ถูกสัตว์ป่ากัดกินไปเสียแล้ว”“กองทัพเหล่าอื่นๆ มีเสียหายบ้าง ทว่ามิมาก ภายใต้การคุมทัพของผู้ควบคุมทัพพวกเขาตีโ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 23

    เมื่อพวกเขาแยกย้ายกันไปแล้ว เหวยอิ้งหวนจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าซือเจ๋อเยว่ได้ตั้งโต๊ะเอาไว้หน้าประตูใหญ่จวนเยียนอ๋องเหนือโต๊ะมีผ้าขาวแขวนเอาไว้ เนื้อความบนผ้าขาวเขียนเอาไว้ว่า “แม่นยำดั่งเทพทายทัก มีเสนอล้วนสนอง”เหวยอิ้งหวน “…”เขาหลงเชื่อลูกไม้ของนางเข้าแล้ว!เมื่อซือเจ๋อเยว่เห็นเขาก็ยิ้มทักทาย “ใต้เท้าเหวย อยากลองให้ข้าทำนายโชคชะตาให้หรือไม่?”โคมไฟที่แขวนเอาไว้บนประตูร่อนลมส่องสะท้อนไปบนใบหน้าของนาง ทำให้สีหน้าของนางมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าปกติไม่น้อย โดยเฉพาะดวงตาคู่โตที่สุกใสเปล่งประกายยามค่ำคืนเช่นนี้ นางดูราวกับภูตพรายพราวสเน่ห์ ชวนใหลหลงกระชากจิตใจเหวยอิ้งหวนสงบจิตสงบใจแล้วจึงเดินไปหานางพลางกล่าว “องค์หญิงกำลังทำสิ่งใดอยู่หรือ?”ซือเจ๋อเยว่ตอบตามตรง “เช่นที่ใต้เท้าเหวยเห็น ข้าทำนายโชคชะตาให้ผู้คนอยู่”ประกายนัยตาของของเหวยอิ้งหวนหรี่ลง “ฝ่าบาทมีพระราชโองการให้ปิดล้อมจวนเยียนอ๋อง องค์หญิงทำเช่นนี้ มิใช่ว่าไม่ค่อยเหมาะสมหรอกหรือ?”ซือเจ๋อเยว่เอ่ยถามด้วยงวยงง “พระราชโองการของเสด็จอาบอกห้ามไม่ให้ผู้ใดในจวนเยียนอ๋องออกไปด้านนอก ทว่าข้าก็มิได้ออกไปจากจวน”“ขอถามใต้เท้าเหวยหน่อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 24

    กระบี่ในมือของเยียนเซียวหรานสะท้อนแสงเงินเย็นเยือก สายตาเย็นชาหรี่ลง “หากเจ้ากล้าทำร้ายองค์หญิงแม้เพียงนิด ข้าจะต้องให้เจ้าถูกกุดหัวทั้งเป็นให้จงได้”ทั้งร่างของเขาอาบเอิบด้วยจิตสังหาร เปี่ยมรัศมีหาญกล้าสามารถ เส้นผมสีดำพลิ้วไหวตามสายลม ในค่ำคืนเช่นนี้ราวกับเทพสังหารมาเยือนโลกมนุษย์ก็มิปานซือเจ๋อเยว่เห็นท่าทีของเขาแล้วก็เกิดประหลาดใจ คล้ายว่าเขากำลังโกรธเคือง?เหวยอิ้งหวนเอ่ยถาม “เจ้าเป็นใคร? เหตุใดจึงบุกเข้ามาในจวนเยียนอ๋องกลางดึกเช่นนี้?”ชายชุดดำหาได้สนใจเขาแม้แต่นิด คมกระบี่ค่อยๆ กรีดลงบนคอของซือเจ๋อเยว่พลางขู่ “ข้าจะนับถึงสาม หากพวกเจ้ายังมิหลีกไป ก็เตรียมเก็บศพนางได้เลย!”พูดจบก็เริ่มนับ “หนึ่ง!”ซือเจ๋อเยว่เริ่มโอดร้อง “ฮือๆ” ขึ้นมา “พวกเจ้าถอยไปเร็ว ถอยไป ข้ามิอยากตาย!”เยียนเซียวหรานเห็นนางร้องไห้เสียงแผ่วเช่นนั้น เรือนคิ้วก็ขมวดขึ้นน้อยๆ แม้ยามปกตินางจะดูแข็งแกร่งเพียงใด ทว่าท้ายที่สุดก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุสิบกว่าปีเท่านั้นจะเกิดกลัวก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเขาโบกมือเป็นนัยให้องครักษ์ของจวนอ๋อง เหล่าองครักษ์จึงได้ถอยห่างเปิดทางออกชายชุดดำเห็นว่าเหวยอิ้งหวนยังคงยืนขว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 25

    วันนี้หลังจากเขามาถึงจวนเยียนอ๋องแล้ว ยังไม่ทันได้ลงมือทำสิ่งใด ก็ถูกเยียนเซียวหรานพบเข้าเสียก่อนจากนั้นก็เป็นการเอาชีวิตรอด ตลอดต้นจนจบล้วนไม่มีผู้ใดเข้าใกล้เขาเลย นอกเสียจากซือเจ๋อเยว่หรือว่า...จดหมายฉบับนั้นจะเป็นซือเจ๋อเยว่ใส่เข้ามา?เขามองนางด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ซือเจ๋อเยว่เพียงแค่เลิกคิ้วให้เขาน้อยๆ แล้วกระพริบตาปริบๆ อีกครั้งทีแม้ว่านางจะไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใด ทว่าชายชุดดำก็เข้าใจได้โดยไม่ต้องสงสัยว่านางกำลังด่าเขาว่า “โง่เง่า!”ชายชุดดำ “...”เขาเองก็อยากจะด่ากลับไปเช่นกัน หากแต่ร่างกายของเขาเย็นเฉียบเสียจนพูดอะไรไม่ออกแม้แต่ประโยคคำเดียวแล้วเหวยอิ้งหวนเปิดจดหมายออกพึ่งพาแสงจากโคมไฟอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขานิ่งค้างไปซือเจ๋อเยว่เอ่ยถาม “ใต้เท้าเหวย ในจดหมายเขียนไว้ว่าอย่างไรหรือ?”เหวยอิ้งหวนหาได้ตอบคำถามของนาง เพียงกล่าว “ค่ำคืนนี้ทำองค์หญิงตกพระทัยเสียแล้ว”ว่าจบก็หันกล่าวกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างเคียง “พาเหล่าผู้ต้องสงสัยกลับไปยังศาลต้าหลี่”เมื่อเจ้าหน้าที่จับชายชุดดำมัดเอาไว้แล้ว ก็ลากเขาขึ้นมาจากพื้น ยามที่ชายชุดดำถูกลากตัวออกไปเขาก็ยังคงถลึงตาจ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 26

    เยียนเซียวหรานกอดนางไว้ตามสัญชาตญาณยามนี้นัยน์ตาดอกท้อเย้ายวนของนางลืมไม่ค่อยขึ้น จึงได้แต่พึมพำ “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องสนใจข้า”เมื่อพูดจบนางหลับตา แล้วหมดสติไปทันทีเยียนเซียวหราน “...”หญิงสาวในอ้อมกอดอรชรบอบบาง เมื่อตกอยู่ในอ้อมกอดเขา ราวกับไม่ค่อยมีน้ำหนักตอนนางมีสติ ฉลาดมีไหวพริบ เมื่อยามหมดสติ กลับน่ารักน่าเอ็นดูน้อยมากที่เยียนเซียวหรานจะใกล้ชิดหญิงสาวเช่นนี้ ความใกล้ชิดเดียวที่มีคือเมื่อสองปีก่อนยามนี้เมื่อนางตกอยู่ในอ้อมกอด นางได้กลิ่นหอมจางๆ ของกล้วยไม้จากตัวนางขณะเดียวกัน ยังรู้สึกถึงความอ่อนนุ่มของร่างนาง นั่นเป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากร่างของบุรุษอย่างสิ้นเชิงเขารีบผละออกจากนางราวถูกไฟดูด ทว่าวินาทีที่ผละออกก็รีบดึงตัวนางกลับมาอีกครั้งองครักษ์หลายคนที่อยู่ข้างกันเบิกตาโต แต่ไม่มีใครกล้าพูดสิ่งใดเยียนเซียวหรานหันมององครักษ์เหล่านั้น พวกเขารีบพากันถอยหลังไปหลายก้าว จากนั้นโบกมือพัลวัน “พวกเรายิ่งไม่ได้ขอรับ!”“คุณชายสามรีบอุ้มองค์หญิงกลับไปที่ห้องเถอะขอรับ ดูเหมือนนางอาการไม่ค่อยดี”เยียนเซียวหรานรู้ว่าตอนนี้ควรพานางกลับไปที่ห้อง แต่ว่า...พวกองครักษ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 27

    แต่ซือเจ๋อเยว่ยังมีลมหายใจอยู่ ซ้ำยังพูดได้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์สายตาที่นางมองซือเจ๋อเยว่เต็มไปด้วยความสงสัย แล้วเอ่ยเสียงค่อย “ท่านย่า ข้าจะอยู่ดูแลองค์หญิง”เหล่าไท่จวินรู้ว่านางเป็นคนละเอียดอ่อน แม้จะไม่ช่ำชองในวิชาแพทย์แต่อย่างไรก็พอรู้ ให้นางดูแลซือเจ๋อเยว่จึงเหมาะสมที่สุดทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น เหล่าไท่จวินก็ยังกำชับนาง “เจ้าต้องตื่นตัวเสียบ้าง อย่านอนหลับลึก หากองค์หญิงไม่สบายตรงไหน เจ้าต้องรีบมาแจ้งข้า”เยียนซุ่ยซุ่ยพยักหน้าเหล่าไท่จวินไม่ค่อยวางใจจึงหันมองซือเจ๋อเยว่อีกครั้ง ต่อมาจึงพาทุกคนออกจากห้องนางซือเจ๋อเยว่ไม่ได้ทรมานอย่างนี้นานแล้ว แขนขาล่องลอยไร้เรี่ยงแรง ร่างกายอ่อนปวกเปียก เหมือนแช่อยู่ในน้ำทั้งตัว กระทั่งหายใจติดขัดนางรู้สึกราวกับตัวเองกำลังตกลงไปในเหวลึก หินพิทักษ์ใจตรงหน้าอกร้อนวูบวาบ ร้อนจนนางรู้สึกทรมาน ทว่ากลับทำให้นางหายใจได้อีกครั้งมือเท้าของนางเย็นเฉียบ หนาวจนปวดร้าวไปถึงกระดูกร่างกายของนางกลายเป็นวงจรประหลาด แขนขาหนาวเย็น หน้าอกร้อนวูบวาบ ทั้งสองสิ่งปะทะกัน บางครั้งนางรู้สึกร้อนจนใกล้ตาย แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าใกล้จะหนาวตายเช่นกันใน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 28

    เยียนเซียวหรานคำนึงถึงสถานะของทั้งสอง จึงดันซือเจ๋อเยว่ออก แต่นางกลับกอดเขาไม่ยอมปล่อยเขากลัวนางบาดเจ็บ จึงไม่กล้าออกแรงดึงนาง ดังนั้นนางจึงได้คืบเอาศอกนอนอยู่บนตักเขาเสียเลยเรื่องเช่นนี้เขากระดากปากที่จะพูดซือเจ๋อเยว่จับใจความสำคัญในคำพูดของเขา “เมื่อคืนข้าไข้ขึ้นสูงหรือ?”เยียนเซียวหรานหันมองนาง “องค์หญิงอาจจะไม่รู้ แต่ท่านนอนไปสองวันสองคืนแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ “!!!”ไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนี้มาก่อน!เยียนเซียวหรานถามนาง “องค์หญิงมีอาจารย์ทั้งหมดกี่คน?”ซือเจ๋อเยว่ตอบทันควัน “เก้าคน”เยียนเซียวหรานตอบเสียงเรียบ “ยังดีที่มีแค่เก้าคน”ซือเจ๋อเยว่ไม่เข้าใจ “อะไรคือยังดีที่มีแค่เก้าคน?”เยียนเซียวหรานมองนางแล้วอมยิ้ม “ตอนองค์หญิงฝัน อาจารย์คนหนึ่งด่าไปสองชั่วยาม อาจารย์เก้าคนก็คือสิบแปดชั่วยาม”“หากมากกว่านี้อีกหน่อย แล้วด่ากันต่อไปเช่นนี้ ตอนตื่นมาลำคอขององค์หญิงอาจจะเสียหายไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ “...”ซือเจ๋อเยว่ “!!!”จู่ๆ นางพบว่าผิวเผินเยียนเซียวหรานดูเป็นคนดีมีคุณธรรม แต่ภายในกลับร้ายไม่เบาตอนนี้ลำคอของนางแห้งผาก นางอยากดื่มน้ำเยียนเซียวหรานยกน้ำมาหนึ่งถ้วย นางหันมองเข

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 29

    ซือเจ๋อเยว่ยังคงไม่มีชีพจร นางหันมองอีกฝ่ายอย่างตะลึง “ทำไมองค์หญิงถึงไม่มีชีพจร?”ซือเจ๋อเยว่ดึงแขนเสื้อลง “ตำแหน่งชีพจรของข้าไม่เหมือนกับคนทั่วไป หากตรวจอย่างคนทั่วไป ไม่เจอชีพจรหรอก”ก่อนหน้านี้ตอนเยียนซุ่ยซุ่ยอ่านตำราแพทย์เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอของจริงนางถามซือเจ๋อเยว่ “แล้วชีพจรขององค์หญิงอยู่ที่ใด?”ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่รู้ ทว่าดูเหมือนอาจารย์ใหญ่ของข้าจะรู้ แต่เขาไม่บอกข้า”เยียนซุ่ยซุ่ยทำหน้าสงสัย ยังคิดจะช่วยนางหาตำแหน่งของชีพจร แต่กลับถูกปฏิเสธซือเจ๋อเยว่ถามเยียนเซียวหราน “ช่วงที่ข้านอนหลับ มีข่าวคราวจากศาลต้าหลี่บ้างหรือไม่?”เยียนเซียวหรานตอบ “มี เหวยอิ้งหวนเคยมาที่จวนอ๋องหนึ่งครั้ง คนชุดดำที่พวกเราจับได้ ถูกคนฆ่าตายระหว่างถูกส่งกลับไปที่ศาลต้าหลี่”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินเรื่องนี้ ไม่แปลกใจสักนิด “ฆ่าได้ดี หากเขาถูกฆ่า จะยิ่งยืนยันได้ว่ามีคนต้องการใส่ร้ายจวนเยียนอ๋อง”“เดิมทีเสด็จอายังสงสัยจวนเยียนอ๋อง ยามนี้เมื่อมีคนลงมือเล่นงานจวนอ๋อง ยิ่งเห็นได้ชัดว่าจวนเยียนอ๋องคือผู้บริสุทธิ์”ความจริง ตั้งแต่ตอนที่นางกับเยียนเซี

Bab terbaru

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 372

    ไป๋จื้อเซียน “...”ในช่วงเวลาหนึ่งพันปีที่เขาตายไป ไม่มีผู้ใดกล้าสั่งให้เขาทำเรื่องใดก็ตามตอนนี้ซือเจ๋อเยว่กลับให้เขาไปแสร้งทำเป็นผีเพื่อถ่วงเวลาทหารยาม นางเห็นเขาเป็นตัวอะไรกันแน่!เขาหันหน้ามองนาง นางประสานมือคำนับเขาพร้อมกล่าว “คุณชายไป๋ดีที่สุด รบกวนด้วย”ดวงตาของนางเปล่งประกายราวกับดวงดาว ในดวงตาแฝงไปด้วยความอ้อนวอนเล็ก ๆคำปฏิเสธของไป๋จื้อเซียนที่กำลังจะพูดออกมา ได้กลืนกลับลงไปอีกครั้งร่างของเขาหายไปจากด้านบนคานห้อง ไปปรากฏตัวอยู่ที่ท้องฟ้าของด่านอวิ๋นหลิ่งทหารยามเมื่อครู่ตะโกนว่ามีผี ไป๋จื้อเซียนก็ปรากฏตัวที่ท้องฟ้าด้วยชุดสีแดงทันที เกือบจะทำให้ทหารยามที่อยู่ประตูด่านตกใจจนขวัญกระเจิงถึงแม้เขาจะหน้าตาดีแค่ไหน แต่การปรากฏตัวขึ้นในยามราตรีเช่นนี้ นั่นก็ทำให้คนตกใจได้เช่นกันอย่างไรเสียก็คนไม่มีคนปกติคนใดสามารถลอยอยู่กลางอากาศได้เช่นนี้ นี่จึงเห็นได้ชัดว่าก็คือผี!ก่อนหน้านี้ไป๋จื้อเซียนฆ่าคนเหมือนผักปลา คิดมาตลอดว่ามีเพียงดวงวิญญาณที่ไร้ความสามารถพวกนั้นเท่านั้นถึงได้แกล้งหลอกผีให้ผู้คนตกใจบัดนี้ไม่คิดเลยว่าเขากลับต้องมาทำเรื่องแบบนี้เช่นกันสายของเขาที่จ้องมองพลท

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 371

    ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานต่างรู้ดี พยานอย่างชื่อปาเลี่ย แม้แต่จะยืนยันว่าเยียนอ๋องพ่ายศึกเพราะถูกคนวางแผนชั่วยังยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะลากจวนหนิงกั๋วกงลงมาเอี่ยวด้วยหากสามารถตามหาสำเนาของเอกสารฉบับนั้นตามที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าว อย่างน้อยก็สามารถทำให้จวนเยียนอ๋องเป็นอิสระจากคดีนั้นได้ สามารถทำให้เยียนเซียวหรานสืบทอดตำแหน่งได้ดังนั้นพวกเขาจึงปรึกษาหารือกันครู่หนึ่ง ตัดสินใจว่าจะไปที่ด่านอวิ๋นหลิ่งอีกสักรอบครั้งนี้พวกเขาฉลาดแล้ว ได้รู้จักคนของเยียนเซียวหรานที่อยู่ในกองทัพไม่น้อย เพื่อป้องกันถูกคนจำได้ เขาจึงสวมหน้ากากหนังมนุษย์ส่วนซือเจ๋อเยว่ นางแต่งตัวเป็นผู้ชายชื่อปาเลี่ยเองก็กลัวคนจำได้เช่นกัน เขาไม่ได้สวมหน้ากาก แต่ว่าหาอะไรมาครอบลูกตาข้างหนึ่งเอาไว้แสร้งทำเป็นคนตาบอดเสียเลยหลังจากที่ไป๋จื้อเซียนมองเห็นการแต่งกายของพวกเขาก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นในมุมมองของเขา หากเกิดการต่อสู้ขึ้นที่ด่านอวิ๋นหลิ่งจริง ๆ เขาฆ่าล้างบางด่านอวิ๋นหลิ่งไปเลยเสียก็สิ้นเรื่องเพียงแต่เขายังจำคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับซือเจ๋อเยว่ได้ ว่าต่อไปจะสังหารผู้คนตามใจชอบไม่ได้อีกแล้วคำมั่นสัญญ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 370

    เยียนอ๋องซื่อจื่อแย้มยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกเกรงใจข้า” “ข้ากับองค์หญิง ก่อนหน้านี้แม้แต่พบหน้ากันก็ยังไม่เคย จะให้มีความผูกพันใด ๆ ได้อย่างไร""ระหว่างข้ากับนาง แม้แต่สถานะสามีภรรยาก็ถูกท่านย่าทำลายไปตั้งแต่คืนวันแต่งงานแล้ว""หากคำนวณให้ดี ข้ากับนางไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย นางไม่อาจนับว่าเป็นภรรยาของข้า""ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้า หากเจ้าชอบนาง ก็สามารถไล่ตามความรู้สึกของเจ้าได้อย่างเต็มที่"เยียนเซียวหรานได้ยินถ้อยคำนี้แล้วก็ไม่รู้จะตอบกลับเช่นไรเยียนอ๋องซื่อจื่อเอื้อมมือไปตบไหล่เขา แต่มือของเขากลับทะลุผ่านร่างอีกฝ่ายไปเขาชะงักไปชั่วครู่ ซึ่งในเวลานี้เอง ที่เขาได้ตระหนักถึงความจริงว่าตนได้จากโลกนี้ไปอย่างแท้จริงเขาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา "การได้พบกับคนที่ตนชอบไม่ใช่เรื่องง่าย""เมื่อพบเจอแล้ว ก็ควรทะนุถนอมให้ดี""ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า สิ่งที่ข้าปรารถนามากที่สุดก็คือขอให้เจ้ามีชีวิตที่เป็นสุข"เยียนเซียวหรานได้ยินดังนั้นดวงตาก็พลันร้อนผ่าว เอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา "พี่ใหญ่ ข้าจะทำตามที่ท่านบอก"เย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 369

    ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความรู้สึกประทับใจ “เยียนอ๋องกับพระชายาช่างให้กำเนิดบุตรชายได้ดีนัก อีกทั้งยังอบรมสั่งสอนอย่างยอดเยี่ยม” เมื่อไป๋จื้อเซียนที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยิน สีหน้าไม่สบอารมณ์ทันที “พวกเขาจะเก่งกว่าข้าหรือ?” ซือเจ๋อเยว่ยังคงไม่ชินกับการที่ไป๋จื้อเซียนอยู่ข้างกายเขาฝึกฝนมาหลายปี ฝีมือเลิศล้ำอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นหูหรือสายตาล้วนเกินขีดจำกัดของมนุษย์ธรรมดา ที่สำคัญเขาก็มีพฤติกรรมประหลาด ชอบเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับเยียนเซียวหรานทุกเรื่อง นางคิดว่าสมองของเขาคงมีปัญหา เพราะยามนี้เขายังไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสหายของนางเลยด้วยซ้ำ แต่กลับมาขอให้นางเปรียบเทียบกับคนรักของนาง เช่นนี้แล้วจะเปรียบเทียบได้หรือ?แต่เพราะนิสัยของเขาเอาแน่เอานอนไม่ได้  ยามนี้นางยังไม่อยากมีปัญหากับเขา นางจึงตอบกลับไป “แต่ละคนก็มีข้อดีของตนเอง แต่หากเอ่ยถึงเรื่องต่อสู้ แม้คุณชายไป๋จะไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า แต่ก็ต้องติดหนึ่งในสามอันดับแน่นอน” “เรียกข้าว่าจื้อเซียน” ไป๋จื้อเซียนเหลือบมองนางตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เอื่อยเฉื่อย “คุณชายไป๋อะไร ฟังดูห่างเหินนัก” ชื่อปาเลี่ยที่ยืนฟังด้วยความสนใจอยู

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 368

    ซือเจ๋อเยว่จ้องมองชื่อปาเลี่ยด้วยแววตาที่จริงจัง “เสี่ยวเลี่ย เจ้าไม่เพียงแต่เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ ทั้งยังกล้าหาญอย่างแท้จริง" "เจ้าจะทนเห็นทหารกล้าพวกนั้นถูกสังหาร และยังต้องถูกกล่าวหาด้วยความอัปยศได้หรือ?” ชื่อปาเลี่ยอ้าปากกำลังจะตอบ แต่ซือเจ๋อเยว่รีบชิงเอ่ยก่อน “แน่นอนว่าเจ้าย่อมไม่เต็มใจ!” “ก่อนหน้านี้เจ้าเคยบอกข้า ว่าทหารเหล่านั้นคือวีรบุรุษ ดวงวิญญาณของพวกเขาถูกฝังในดินแดนต่างถิ่นก็ถือว่าน่าเวทนาเพียงพอแล้ว พวกเขาไม่ควรต้องถูกกล่าวร้ายซ้ำอีก!” ชื่อปาเลี่ยพยายามย้อนคิดอย่างจริงจัง “ข้าเคยเอ่ยเช่นนั้นหรือ?” ซือเจ๋อเยว่ตอบกลับ “แน่นอนว่าเคย!” "ข้าคิดว่าในเมื่อพวกเราล้วนเป็นสหาย ก็ควรร่วมแรงร่วมใจกัน"“สำคัญที่สุดคือหากเจ้าไม่ร่วมมือกับพวกข้า พวกเขาก็ไม่มีทางยอมรับแน่” "ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่า หากเจ้าสามารถล้างมลทินให้ดวงวิญญาณทั้งห้าหมื่นดวงได้ ก็จะสั่งสมบุญกุศลอันยิ่งใหญ่"ชื่อปาเลี่ยฟังคำกล่าวของนางหัวใจพลันสั่นสะเทือน เขาหันไปมอง ก็เห็นว่าเยียนอ๋องซื่อจื่อและดวงวิญญาณของเหล่าทหารจ้องมองเขาอยู่ เขานึกถึงบรรดาซากศพใต้ภูเขาเชียนจั้งที่สลายกลายเป็นธุลีดินแม้ว่าเข

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 367

    “ก่อนที่ท่านจะสิ้นใจคงไปกระตุ้นค่ายกลมายาเข้า ภาพที่ท่านเห็นทั้งหมดล้วนเป็นความเท็จ” เยียนอ๋องซื่อจื่อชะงักไปชั่วครู่แล้วเอ่ยขึ้น “ความเท็จ?” ซือเจ๋อเยว่ที่อยู่ข้างกายเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว ท่านลองคิดดูให้ดี หากสิ่งที่ท่านเห็นเป็นเรื่องจริง ท่านซึ่งถูกพันธนาการอยู่ที่นี่จะสามารถมองเห็นราชโองการไว้อาลัยของฮ่องเต้ได้อย่างไร?” “ซึ่งข้าก็อยู่ในเมืองหลวงมาโดยตลอด เป็นเพราะตั้งแต่จวนเยียนอ๋องพ่ายศึกก็มีข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฮ่องเต้เจาหมิงจึงไม่เคยออกโองการไว้อาลัยให้” เมื่อเยียนอ๋องซื่อจื่อพยายามระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ก็ขมวดคิ้วเข้มเป็นความจริง เมื่อไตร่ตรองให้ดี ก็จะพบว่ามันมีจุดบกพร่องทางตรรกะอยู่มากมาย เป็นเพราะกว่าครึ่งของดวงวิญญาณของเขาถูกพันธนาการไว้ที่นี่ เขาเอ่ยถาม “หากเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของฮ่องเต้สุ…ฮ่องเต้ แล้วเป็นฝีมือของผู้ใดกันแน่?” เยียนเซียวหรานตอบไป “ข้ากับองค์หญิงได้สืบสวนเรื่องนี้มาตลอด และหลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่จวนหนิงกั๋วกง” “พวกเขาร่วมมือกับพวกเต๋าสายดำใช้วิชาอาถรรพ์สร้างค่ายกลอันชั่วร้าย พวกเขาใช้ดวงวิญญาณของกองทัพหย่งอันนับหมื่นเป็นเครื่องบูช

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status