“พอแล้ว” ท่านอ๋องสามยืนอยู่ตรงกลางระหว่างพวกนางด้วยใบหน้ามืดหม่นนั้น “เสด็จแม่ สมองของเย่ว์ลู่ได้รับการกระทบกระเทือน ท่านที่เป็นผู้ใหญ่อย่าไปคิดเล็กคิดน้อยอันใดกับนางเลยพ่ะย่ะค่ะ”“เย่ว์ลู่ เด็กดี เจ้าเห็นแก่หน้าข้าเสีย อย่าได้คิดก่อเรื่องก่อราวอีกเลย หากถึงเรือนหอเมื่อใดแล้ว เจ้าอยากจะด่าข้าตีข้า ก
ราชองครักษ์ภายในจวนอ๋องที่ถูกล่อลวงออกไปนั้น หลังจากที่รู้ว่าตนเองถูกหลอกจึงรีบร้อนกลับมาที่จวนอ๋องสามในทันทีพวกเขามิคิดเลยว่าภายในจวนจักมีขอทานมากมายเข้ามาเช่นนี้ พร้อมทั้งรีบร้อนไล่เหล่าขอทานออกไปในทันที ในยามนี้ ภายในห้องจัดงานเลี้ยงเต็มไปด้วยความโกลาหลวุ่นวาย พร้อมทั้งกลิ่นเหม็นหึ่งที่ลอยไปทั่
“มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ไม่ว่าจักทำอาชีพใด มีลักษณะนิสัยเช่นไร ล้วนแต่มีกลุ่มมีก้อนเป็นของตนเองทั้งนั้น ข้าคิดว่าขอทานเหล่านี้ก็จักต้องมีกล่อมของตนเองเช่นกัน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันถอนหายใจออกมา หากแต่พรรคยาจกนั้น มีอยู่ในเพียงนิยายกำลังภายในเท่านั้น นางเพียงแค่ฉุกคิดขึ้นมาได้เท่านั้นเองตงฟางหลีที่ตกอยู
“ให้ข้าหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เปิดออกดู ลายมือด้านบนมีความวุ่นวายยิ่งนัก อีกทั้งตำราเล่มนี้ดูเก่าไปหน่อย“นี่คือสิ่งที่ท่านนักพรตเต๋าเทียนหลิงทิ้งเอาไว้” ตงฟางเจวี๋ยกล่าว “บางส่วนถูกรวบรวมมาจากที่ต่าง ๆ โดยเฟยจิ้ง และมีบางส่วนข้าเป็นคนรวบรวมมาจากสถานที่ต่าง ๆ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เลิกคิ้วเล็กน้อยหลินเฟยจ
“หม่อมฉันไม่ใช่นางจริง ๆ มิใช่ว่าท่านรู้มานานแล้วหรือ? หม่อมฉันเป็นศิษย์ของนักพรตเต๋าเทียนหลิง นี่มิใช่ว่าท่านวางแผนเรื่องนี้เองกับมือหรือ?” นางกล่าวตงฟางหลีคลี่รอยยิ้มอย่างขมขื่นคราแรกเพื่อให้เสด็จพ่อยอมรับการเปลี่ยนแปลงของนาง และเพื่อให้เหตุผลที่สมเหตุสมผลในการมีชีวิตอยู่ต่อไปกับนาง ถึงได้คิดกลอ
การมีอยู่ของโรงพยาบาลนั้นไม่ได้เป็นเพียงภาพลวงตา และยาที่ปรากฏจากในแหวนก็เป็นของจริงเช่นกันสิ่งผิดปกติพวกนี้ย่อมมิอาจปรากฏขึ้นได้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ“เสด็จพ่อยอมรับการมีอยู่ของแหวนวงนี้แล้ว ถ้ามันสามารถใช้ช่วยผู้คนได้ นั่นก็คงจะดีมาก ๆ เลย ดังนั้นหม่อมฉันจึงอยากไปที่วัดวั่นเฮ่อเพื่อหาเบาะแส
“ระวังด้วย” ตงฟางหลีประคองนางเอาไว้ “ในช่วงที่หิมะตกไม่มีใครมา ถนนบนภูเขาสูงชัน และลื่นมากด้วย”“ขอบคุณ” นางรู้สึกตกใจจนอกสั่นขวัญแขวนทั้งสองคนเดินอย่างระมัดระวังเป็นเวลานาน ในที่สุดก็มาถึงวัดวั่นเฮ่อ“ท่านอ๋องเจ็ด พระชายาอ๋องเจ็ด อากาศเลวร้ายเช่นนี้ พวกท่านลำบากมาตลอดทางแล้ว” นักพรตเต๋าผมขาว ใบหน้
ฉินเหยี่ยนเย่ว์คลี่กระดาษสีน้ำตาลในที่อยู่กล่องออก ด้านบนถูกวาดรูปทรงแปลก ๆ เอาไว้นางมองกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ คิ้วของนางเริ่มขมวดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ“เจ้าเข้าใจไหม?” ตงฟางหลีเองก็เห็นภาพนั้นเช่นกัน ตอนนั้นเขายังคัดลอกมันเป็นพิเศษหนึ่งฉบับ และศึกษามันอยู่หลายวันแล้ว แต่น่าเสียดายที่ไม่เข้าใจเลย“มองก
“พระชายางดงามเหมือนกับภาพวาดเลย” ตงฟางหลีพูดยิ้ม ๆ“เอ๋ ท่านกินยาผิดหรือเพคะ? จู่ ๆ ถึงได้พูดถ้อยคำแปลกประหลาดเช่นนี้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไร้คำใดจะเอ่ย “พี่เจ็ดหม่อมฉันพบว่าท่านมักจะพ่นถ้อยคำหวานซึ้งออกมาโดยที่มิมีสัญญาณบอกกล่าวล่วงหน้า”ตงฟางหลียิ้มกว้าง“เจ้าไม่ชอบหรือ?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ครุ่นคิดชั่วอึด
“แม่มดเฒ่าทรมานท่านเช่นนี้ นางได้รับบทลงโทษบ้างหรือไม่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่สบอารมณ์“เลิกคิดวุ่นวายเรื่องนี้ได้แล้ว มันผ่านไปแล้ว...” ตงฟางหลียื่นถ้วยชาให้นาง “มา ระงับโทสะสักหน่อย”“ไม่ได้ ท่านต้องบอกหม่อมฉัน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จับมือเขา พลางกัดฟันกรอด “หม่อมฉันก็เป็นคนเช่นนี้ มีแค้นต้องชำระ มิอาจกลั้
“...” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มุมปากกระตุกถึงสองครั้งมองจากบางมุมแล้ว ตงฟางหลีบุรุษผู้นี้ช่างเหมือนกับฮ่องเต้เสียจริงหน้าเนื้อใจเสือเหมือนกัน“แล้วท่านเล่า ระหว่างท่านกับไท่เฟยฉางเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเพคะ?” นางลอบจดจำคดีของพระสนมอวิ๋นไว้ในใจ ก่อนหันหน้าไปถามเขา ยังไม่ทันสิ้นเสียง กลิ่นอายสังหารอันน่าหวาด
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอยู่ตลอดผู้หญิงที่ใส่ร้ายเสด็จแม่ริษยาในความงามและความโชคดีของเสด็จแม่ การที่ทำสิ่งเหล่านี้ออกมาได้ย่อมเป็นเรื่องปกติตั้งแต่เริ่มคดีจนถึงการเปิดโปงความจริง ห่วงโซ่เชิงตรรกะนั่นสมเหตุสมผลแล้วทว่า ถ้าคิดทบทวนไปข้างหน้าอีกสักหน่อย กลับไม่สมเหตุสมผลมีความรู้ส
“คราวนี้ เสด็จพ่อสงสัยอยู่ในใจว่าเสด็จแม่ถูกใส่ร้าย เขาคิดไม่ตก เมื่ออยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จึงไปเข้าพบพระพันปี หลังจากที่พระพันปีได้ทราบเหตุและผลของเหตุการณ์แล้ว จึงยกไม้เท้าขึ้นทุบตีเสด็จพ่อ”“นางตำหนิเสด็จพ่อที่ไม่แยกแยะถูกผิด ตำหนิว่าตาบอดหูหนวก และบอกว่าวิชาสาปแช่งนั้นที่ใช้ทำให้บ้านเมื
ตงฟางหลีไม่พอใจเล็กน้อย เขาจับมือนาง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเย้ายวนทุ้มต่ำ “อาบน้ำก่อนแล้วค่อยว่ากัน”“ไม่ได้เพคะ พูดตอนนี้เลย”“แต่ข้าเหนื่อยแล้ว อยากอาบน้ำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า”“ตงฟางหลี ท่านกำลังหาเรื่องอยู่ใช่หรือไม่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ชักมือกลับด้วยใบหน้าทะมึนทึนนางไม่ควรปากเสียเลย!“หยุดวุ่นวาย
“ท่านว่าอะไรนะ?” นางเพิกเฉยต่อความเจ็บ และกระชับเสียง “หัวใจของเสด็จพ่อ?”หลังจากเอาหัวใจออกมาแล้ว คนผู้นั้นจะต้องตายอย่างแน่นอนตุ๊กตาตัวนั้นจะมีหัวใจของเสด็จพ่อได้อย่างไร?“ข้ายังพูดไม่จบ” ตงฟางหลีพูดต่อ “มันเป็นหินรูปหัวใจที่เสด็จพ่อแกะสลักให้เสด็จแม่เอง หินนั้นทำจากโมราสีแดง แดงดั่งหัวใจ ดังนั้น
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ยินแล้วโกรธมากรูปแบบการจัดฉากใส่ร้ายนี้ทั้งเชยและน้ำเน่าเกินไปตราบใดที่ดวงตาไม่มืดบอด หูไม่หนวก อย่างไรก็ต้องแยกสิ่งที่ปิดบังซ่อนเร้นได้อย่างแน่นอน“จากนั้นล่ะ?” นางถามตงฟางหลีขมวดหัวคิ้วเข้าหากันคำพูดมุ่งร้ายทำให้คนเจ็บปวดถึงหกเดือนหนาวแม้นเสด็จแม่จะไม่ได้ทำอะไรเลย ทว่าหากมีค
เหตุการณ์นั้นเกี่ยวพันถึงสมาชิกราชวงศ์และบุคคลที่มียศถาบรรดาศักดิ์นับไม่ถ้วน มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน นับเป็นเรื่องที่น่าสังเวชใจทีเดียวหุ่นคุณไสยกู่ที่เลื่องชื่อที่สุดคือการแทงเข้าที่หุ่นคุณไสย คือการเขียนวันเกิดและดวงชะตาไว้บนหุ่นคุณไสยที่ทำขึ้นมา แล้วแทงเข็มเข้าไป สิ่งนี้เป็นที่แพร่หลายในวงกว้า