แชร์

บทที่ 319

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
ในมุมของอวิ๋นหลิงจือ อย่างไรก็ตามจวนอ๋องมั่งคั่งกว่าจวนอันกั๋วกงมาก

แม้เป็นแค่ซู่เฟย แต่ถ้านางสามารถให้กำเนิดลูกชาย ก็คือสายเลือดราชวงศ์ วันข้างหน้าจะได้รับความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งอันไร้ที่สิ้นสุด

ยิ่งกว่านั้นนางเสียตัวให้อวี้อ๋องแล้ว ทางจวนอันกั๋วกงไม่มีทางให้อันอวี้หลินแต่งงานกับนางแน่นอน เกรงว่าแม้แต่อนุภรรยาก็เป็นไม่ได้

ในเมื่อล้วนเป็นอนุภรรยา เป็นอนุภรรยาของราชวงศ์ย่อมดีกว่า

แต่ทั้งหมดนี้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่มีใครรู้ว่านางเคยทำอะไร

เมื่อไรที่มีการตรวจสอบอย่างละเอียด เช่นนั้นเรื่องที่นางวางยาและล่อคนมา เกรงว่าจะปิดไม่อยู่แล้ว

ถึงเวลา มีแต่จะนำภัยมาสู่ตัว

อวิ๋นหลิงจือร้อนใจจนไม่รู้จะทำอย่างไร

เวลานี้เอง ฉงอวี้จวิ้นจู่ขยิบตาให้สาวใช้ข้างกายตัวเอง

สาวใช้คนนั้นลากนางกำนัลคนหนึ่งออกมาจากฝูงชนทันที

“ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้นางกำนัลคนนี้แหละเพคะที่มารายงานจวิ้นจู่ บอกว่าจวิ้นหม่าอยู่ที่หลังตำหนัก คิดไม่ถึงว่าไม่เจอจวิ้นหม่า กลับเจออวี้อ๋องอยู่ที่นี่แทนเพคะ”

สาวใช้ของฉงอวี้จวิ้นจู่ผลักนางกำนัลน้อยคนนั้นออกไป

ชั่วขณะนางกำนัลน้อยคนนั้นยืนไม่มั่นคง กระโจนล้มลงไปที่พื้น กลัวจน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 320

    “ใช่แล้ว ซื่อจื่ออันกั๋วกงไปไหนแล้ว?”ใบหน้าของอวี้อ๋องบูดบึ้ง สีหน้าดูน่าเกลียดมากตอนนี้เขาจึงจะเข้าใจ คนที่เป็นเป้าหมายของอวิ๋นหลิงจือคืออันอวี้หลินซื่อจื่ออันกั๋วกงแต่ตนพลั้งเผลอบุกเข้ามา จึงเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้โดยที่ไม่รู้อะไรเลยสายตาของอวี้อ๋องที่มองอวิ๋นฝูหลิงคมราวกับมีด อยากแทงใส่นางครั้งแล้วครั้งเล่าอวี้อ๋องชอบหญิงงามเป็นเรื่องจริง กลับรังเกียจผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์มากอุบายที่สุด ผู้หญิงเช่นนี้ แม้เป็นสาวใช้ที่ปรนนิบัติบนเตียง เขาก็ไม่ต้องการเวลานี้เอง ขันทีน้อยคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ กระซิบข้างหูเกากงกงสองสามคำหลังจากเกากงกงได้ยิน ก็รีบเดินเข้าไปรายงานฮ่องเต้จิ่งผิง “ฝ่าบาท คนของอันกั๋วกงเจอซื่อจื่ออันกั๋วกงที่ศาลาริมน้ำ ซื่อจื่ออันกั๋วกงดูผิดปกติ หมอหลวงที่เข้าเวรไปดูแล้ว บอกว่าซื่อจื่ออันกั๋วกงโดนวางยาปลุกอารมณ์ที่มีฤทธิ์รุนแรง”เมื่อข่าวของซื่อจื่ออันกั๋วกงมาถึง ก็เหมือนกับในที่สุดก็เจอชิ้นส่วนที่ขาดหายไปของภาพวาดนำทุกอย่างมาเชื่อมโยงกัน ทุกอย่างก็สมเหตุสมผลแล้วมีความรังเกียจสายหนึ่งแลบผ่านแววตาฮ่องเต้จิ่งผิง“อวิ๋นหลิงจือใช้ยาเสน่ห์ในวัง วิธีการ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 321

    ณ ห้องรับรองในจวนอี้อ๋องอวิ๋นฝูหลิงคิดไม่ถึงว่าพระชายาองค์ชายห้ากับซื่อจื่อน้อยเซียวลี่จะมาเยือนพระชายาองค์ชายห้ากล่าวอย่างรู้สึกผิด “เดิมทีควรจะส่งเทียบเชิญมาก่อนล่วงหน้า แต่อาลี่งอแงอยากจะมาเล่นกับจิงมั่ว...”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ห้ากล่าวเช่นนี้จะดูห่างเหินเกินไปกระมัง ครอบครัวเดียวกันย่อมมิจำเป็นต้องใส่ใจเรื่องเหล่านั้น”“เมื่อคืนจิงมั่วบอกข้าแล้วเช่นกัน ว่าเขาชอบอาลี่ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขามาก จึงชวนอาลี่ให้มาเล่นด้วย”พระชายาองค์ชายห้าเห็นความสนิทสนมผ่านคำพูดของอวิ๋นฝูหลิง รอยยิ้มในแววตาก็จริงใจขึ้นหลายส่วนองค์ชายห้ามิได้มีพรสวรรค์มากนัก ทั้งยังไม่มีความทะเยอทะยาน พระชายาองค์ชายห้าก็มิได้มีพื้นเพครอบครัวโดดเด่นในหมู่พระชายาเช่นกัน สองสามีภรรยาเพียงแค่ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบ ไม่ต้องการเข้าไปพัวพันเรื่องการต่อสู้แย่งชิงอำนาจทว่าพระชายาองค์ชายห้ามีความเข้าใจในสถานการณ์เป็นอย่างดี ด้วยสถานะของพวกเขา ต่อให้พวกเขาไม่ต่อสู้แย่งชิง แต่หากไร้ผู้สนับสนุน ผู้อื่นย่อมไม่ปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆมารดาขององค์ชายห้าเสียชีวิตจากภาวะคลอดยาก ฮ่องเต้จิ่งผิงยุ่งอยู่กับราชกิจ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 322

    นางเอนกายมาด้านหน้าเล็กน้อย เข้าไปใกล้อวิ๋นฝูหลิง ก่อนจะใช้มือป้องปาก พลางถามเสียงเบาว่า “อาการป่วยหลังคลอดก็สามารถรักษาได้เช่นกันหรือ?”อวิ๋นฝูหลิงยิ่งคิดว่าการคาดเดาของตัวเองถูกต้องมากขึ้นเรื่อย ๆ พระชายาองค์ชายห้ามาหาในวันนี้เพราะอยากรับการรักษานางยิ้มให้พระชายาองค์ชายห้า “พี่สะใภ้ห้า ไม่สู้ท่านตามข้าไปตรวจอาการด้านในจะดีกว่า”พระชายาองค์ชายห้ารู้ได้โดยพลันว่าอวิ๋นฝูหลิงคาดเดาเจตนาของนางออกแล้ว สีหน้าจึงอดแดงเรื่อขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้อวิ๋นฝูหลิงจับมือนาง ก่อนจะเลียนแบบท่าทางของนาง และพูดเสียงเบาเหมือนกันว่า “เมื่อป่วยก็ไปหาหมอ เป็นเรื่องธรรมดาเช่นเดียวกับการที่ต้องกินข้าวเมื่อหิวและดื่มน้ำเมื่อกระหาย ไม่มีสิ่งใดต้องอาย”กล่าวจบ ก็พาพระชายาองค์ชายห้าไปที่หลังเรือนเจตนาดั้งเดิมของพระชายาองค์ชายห้าคืออยากมาให้อวิ๋นฝูหลิงตรวจอาการให้ เมื่อเห็นเช่นนี้จึงตามอวิ๋นฝูหลิงไปหลังจากมาถึงเรือนหลัก อวิ๋นฝูหลิงก็ห้ามคนใช้ไว้ “ข้ากับพระชายาองค์ชายห้ามีเรื่องต้องพูดคุยกัน พวกเจ้าทุกคนคอยเฝ้าอยู่ด้านนอก หากข้าไม่ได้สั่ง ห้ามใครเข้ามาเด็ดขาด”พวกเหยากวงตอบรับโดยพลัน “เพคะ”สาวใช้ของพระชาย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 323

    จุดบกพร่องของพระชายาองค์ชายห้ามิได้เป็นมาเพียงวันสองวันนางให้หมอหลวงมาตรวจแล้วเช่นกัน แต่อาการป่วยที่เกิดหลังคลอดเช่นนี้ของสตรีย่อมน่าอายเกินกว่าจะพูดได้ยิ่งไปกว่านั้นหมอหลวงก็มิได้เหมือนอวิ๋นฝูหลิง ที่จะสามารถตรวจอาการหลังเปลื้องผ้า ซักถามอย่างละเอียดได้พระชายาองค์ชายห้าก็เคยได้ยินเรื่องทักษะแพทย์ของอวิ๋นฝูหลิงเช่นกัน หลังจากใคร่ครวญอยู่นาน ก็ตัดสินใจมาขอให้นางรักษายามนี้เมื่อได้ยินอวิ๋นฝูหลิงบอกว่า ‘รักษาได้’ พระชายาองค์ชายห้าก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจถูกต้องอย่างยิ่ง“น้องสะใภ้เจ็ด...”นางจับมืออวิ๋นฝูหลิง ชั่วขณะรู้สึกตื่นเต้นจนพูดไม่จบประโยคอวิ๋นฝูหลิงเป็นหมอมาหลายปีอย่างนี้ ย่อมเข้าใจความรู้สึกตื่นเต้นเพราะความหวังที่จะรักษาโรคที่ทรมานมานานได้นางตบมือของพระชายาองค์ชายห้าเบา ๆ พลางกล่าวว่า “ข้าจะสอนท่าบริหารบางอย่างให้ ท่านทำตามข้าเถิด”อาการปัสสาวะเล็ดหลังคลอดมักเกิดจากการคลายตัวของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานสามารถออกกำลังกายเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหูรูด ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมกระเพาะปัสสาวะได้พระชายาองค์ชาย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 324

    อวิ๋นฝูหลิงให้คนมารับของ และกล่าวกับต่งหมัวมัวว่า “หลังกลับไปฝากขอบคุณพระชายาของพวกเจ้าแทนข้าด้วย หลังจากนี้อีกสองวันหากว่าง ข้าจะเขียนเทียบเชื้อเชิญนางไปออกไปเที่ยว”ต่งหมัวมัวโค้งคำนับทำความเคารพหลังจากส่งต่งหมัวมัวออกไปแล้ว อวิ๋นฝูหลิงก็ให้คนนำผักผลไม้รวมถึงของกินเล่นไปไว้ที่ห้องครัว ส่วนที่เหลือหลังจากบันทึกแล้วก็จัดเก็บเข้าคลังเรื่องเหล่านี้มีคนใช้คอยจัดการอยู่ ส่วนอวิ๋นฝูหลิงก็วางแผนการธุรกิจวางของนางต่อนางเอาทรัพย์สินของสกุลอวิ๋นกลับคืนมาจากอวิ๋นกานซงได้เป็นจำนวนมาก จึงหาเวลาจัดระเบียบของทั้งหมดรอบหนึ่งนอกจากนี้ ยังมีเรื่องโรงปรุงยากับสวนสมุนไพรที่ต้องจัดการด้วยอวิ๋นฝูหลิงวางแผนว่าจะสร้างโรงปรุงยากับสวนสมุนไพรทางเมืองหลวงด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นอาศัยเพียงโรงปรุงยากับสวนสมุนไพรที่เขตปกครองเจียงหนิง อย่าว่าแต่ทั่วทั้งแคว้นต้าฉีเลย เกรงว่าแค่ไม่กี่เขตปกครองรอบเมืองหลวงก็จัดหายาได้ไม่พอแล้วช่วงนี้เป็นฤดูที่เหมาะแก่การปลูกสมุนไพรหลายชนิดอวิ๋นฝูหลิงหยิบพู่กันขึ้นมาเขียนแผนงานทีละอย่าง หลังจากใคร่ครวญหลายคราก็พบว่าสิ่งที่นางยังขาดอยู่มากที่สุดในยามนี้คือกำลังคนหลังจากนำ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 325

    เมื่ออวิ๋นฝูหลิงกล่าวจบ ก็เห็นเซียวจิ่งอี้ไม่ตอบสนองอยู่นาน จึงรู้สึกกังวลไปชั่วขณะหนึ่ง“เซียวจิ่งอี้ ข้าพูดสิ่งใดผิดไปหรือ?”“หรือในกองทัพมีข้อห้ามใด ทำให้ข้าไม่อาจจ้างทหารที่เกษียณเหล่านั้นตามอำเภอใจได้หรือ?”เซียวจิ่งอี้เพิ่งจะดึงสติกลับมาได้ และส่ายศีรษะ ก่อนดวงตาจะเปล่งประกายอย่างประหลาดใจ“ฝูหลิง เจ้าช่วยข้าแก้ปัญหาใหญ่แล้วจริง ๆ”“ข้ากำลังกลุ้มใจว่าจะจัดการกำลังทหารผ่านศึกที่พิการเหล่านั้นอย่างไรพอดี!”เหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บในสนามรบ โดยเฉพาะทหารที่ได้รับบาดที่แขนหรือขา ความสามารถย่อมลดลงเป็นอย่างมาก จึงไม่อาจต่อสู้ที่แนวหน้าต่อได้เงินเบี้ยเลี้ยงกองทัพจากราชสำนักมีจำกัด การเลี้ยงดูเหล่าทหารที่พิการจึงไม่คุ้มค่าดังนั้นปกติแล้วในช่วงเวลานี้ เหล่าทหารชราหรือทหารที่พิการย่อมล้วนถูกไล่ออก และทหารใหม่ก็จะถูกคัดเลือกจากทั่วทุกที่ เพื่อมาเติมกองทัพสำหรับเหล่าทหารที่ชราหรือทหารพิการที่ถูกไล่ออก แม้ทางราชสำนักจะจ่ายค่าทำขวัญให้จำนวนหนึ่ง และปล่อยให้พวกเขากลับบ้านแต่เงินก็มิได้มากนัก ยิ่งไปกว่านั้นทหารจำนวนมากที่กลับบ้านเกิดจากอาการบาดเจ็บ เป็นเพราะสูญเสียกำลังที่จะทำงานไป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 326

    “ดังนั้นท่านคงเข้าใจแล้วกระมังว่าข้าขาดกำลังคนมากเพียงใด?”เซียวจิ่งอี้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เข้าใจแล้ว”อวิ๋นฝูหลิงนึกบางสิ่งขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน และกล่าวว่า “จริงสิ หากทหารที่เกษียณแล้วเหล่านั้นมีครอบครัว ถ้าพวกเขายินยอมก็ให้พาครอบครัวมาด้วยได้ ข้ามีงานให้ผู้หญิงทำเช่นกัน”เซียวจิ่งอี้เห็นอวิ๋นฝูหลิงมีความคิดเอาใจใส่รอบด้านเช่นนี้ ก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งหากลูกน้องของเขารู้ว่าเขาได้ตบแต่งกับพระชายาที่จิตใจดีงานและมีความสามารถ คิดว่าคงจะดีใจกับเขาเป็นแน่หลังจากทั้งสองคนพูดคุยเกี่ยวกับทหารที่เกษียณเรียบร้อยแล้ว เซียวจิ่งอี้จึงเพิ่งกล่าวว่า “ข้าให้คนไปคัดเลือกเด็กจากชนบทมานิดหน่อย พรุ่งนี้เช้าเจ้าพาจิงมั่วไปดูเถอะ”“หากมีคนที่เข้าตา ก็ให้อยู่เป็นสหายของจิงมั่ว”“ให้พวกเขาอยู่ด้วยกันสักระยะ หากเข้ากันได้ดี ก็ให้อยู่เป็นคนรับใช้ส่วนตัว หากเข้ากันไม่ได้ก็เปลี่ยนเป็นคนใหม่แทน”อวิ๋นฝูหลิงเข้าใจ เด็กจากตระกูลสูงศักดิ์ในยุคสมัยนี้ คนที่คอยปรนนิบัติข้างกายโดยพื้นฐานแล้วล้วนเป็นคนที่คัดเลือกมาตั้งแต่ยังเด็กเซียวจิ่งอี้ก็กำลังเริ่มจัดหาคนให้จิงมั่วเช่นกันอวิ๋นฝูหลิงตัดสินใจนานแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 327

    อวิ๋นฝูหลิงได้ยินก็ยิ้มออกมา เจ้าเด็กน้อยผู้นี้ช่างโลภมากเสียจริงทว่ามีเด็กมากมายเช่นนี้ การให้เลือกเพียงคนเดียวก็เป็นเรื่องที่ยากจริง ๆอย่างไรก็ตามอวิ๋นฝูหลิงก็มิได้เปลี่ยนคำพูด และกล่าวว่า “เลือกคนที่ชอบที่สุดมาคนหนึ่งก่อน”อวิ๋นจิงมั่วสังเกตคำว่า ‘ก่อน’ ที่อวิ๋นฝูหลิงพูดได้ในชั่วพริบตา เขากะพริบตา ก่อนที่สายตาจะกวาดมองไปยังคนที่เรียงแถวอยู่ตรงหน้า หลังจากนั้นก็เดินไปจูงมือเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งมาข้างหน้า และดึงเขาออกมาจากในแถว“ท่านแม่ ข้าอยากเลือกเขาขอรับ”อวิ๋นฝูหลิงมองอวิ๋นจิงมั่วเลือกเด็กผู้ชายอายุเท่ากับเขามาคนหนึ่ง เด็กผู้ชายคนนี้ดูผอมมากท่าทางดูชอบโอนอ่อนผ่อนตามและขี้กลัว ทว่าในแววตากลับแฝงไปด้วยความดื้อรั้นและโดดเดี่ยวอวิ๋นฝูหลิงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวนางจำได้ว่ายามที่อีกฝ่ายแนะนำตัว เด็กคนนี้บอกว่าเขาถนัดเรื่องการต่อสู้มากที่สุด!แต่เนื่องจากเป็นคนที่อวิ๋นจิงมั่วเลือก อวิ๋นฝูหลิงจึงไม่ได้เอ่ยคัดค้าน นางพยักหน้า พลางกล่าวว่า “เลือกมาอีกหนึ่งคน”ครั้งนี้ อวิ๋นจิงมั่วเลือกเด็กชายใบหน้ากลมมาคนหนึ่ง ซึ่งมีรูปลักษณ์ยิ้มแย้มโดยธรรมชาติ ดูน่ารักน่าชังเป็นอย่างยิ่งอวิ๋นฝู

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 516

    “จากการทะเลาะเบาะแว้งของพวกเขา พวกเราจึงรู้ว่าสกุลเวินเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งขี้ผึ้งทองก็ถูกลักลอบนำเข้ามาเช่นกัน” “แต่เรื่องการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมายทำโดยบ้านรองสกุลเวินเป็นหลัก บ้านสามอิจฉาผลประโยชน์ส่วนนี้ จึงอยากเข้าร่วมด้วย และแบ่งผลประโยชน์มาส่วนหนึ่ง”“ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ทางการท้องถิ่นของจินโจวก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน”“หลังจากได้รับเบาะแส ท่านอ๋องก็หันไปเริ่มตรวจสอบสกุลเวิน”ราชวงศ์ต้าฉีเริ่มเปิดการค้าทางทะเล ดังนั้นพ่อค้าบริเวณชายฝั่งจึงต่างได้รับผลประโยชน์ และได้รับกำไรมากมายขอเพียงจ่ายภาษีให้ครบถ้วน และสินค้าที่ซื้อขายไม่ใช่สินค้าที่เกี่ยวกับอาวุธสงครามที่ควบคุมโดยราชสำนักอย่างพวกเสบียง อาวุธหนัก ม้า และเกลือ ทางราชสำนักก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมีการค้าทางทะเลระหว่างประเทศโพ้นทะเลกับราชวงศ์ต้าฉีแต่ก็มักจะมีเหล่าผู้คน ที่โลภมากไม่รู้จักพอเห็นได้ชัดว่าทำกำไรได้มากมาย แต่ก็มักจะยังอยากได้เงินมากกว่าเดิม แม้แต่ภาษีเล็กน้อยก็ยังไม่อยากจ่ายด้วยเหตุนี้จึงทำการลักลอบค้าขายสินค้าผิดกฎหมายแม้ราชสำนักจะตรวจสอบและปราบปรามอย่างเข้มงวดมา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 515

    “ไอ้สุนัขเลว สกุลเวินใจกล้า ถึงขั้นกล้าแตะต้องแม้แต่ท่านอ๋อง คงเหนื่อยจะใช้ชีวิตแล้วจริงๆ!”“คิดไว้แล้วเชียวว่าต้องเป็นเช่นนี้ ตอนแรกข้าไม่น่าฟังท่านอ๋องเลย วางแผนระยะยาวเพื่อจับปลาตัวใหญ่อันใดกัน?”“น่าจะจัดการสกุลเวินให้สิ้นซากเสียตั้งแต่แรก!”จ้าวเสวียซือพูดด่าทอขึ้นมารู้สึกตื่นตระหนกไปชั่วขณะหนึ่ง จนกระทบบาดแผลอย่างช่วยไม่ได้ ทำให้เขาเจ็บจนแยกเขี้ยว เป่าปาก ‘ฟู่’ ออกมาอวิ๋นฝูหลิงตบไหล่เขาคราหนึ่ง และกล่าวเสียงต่ำว่า “เอาเถอะ ตอนนี้มันใช่เวลามาด่าหรือ?”“ยามนี้การตามหาท่านอ๋องกับผู้บัญชาการจั่วเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด!”“ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้าบอกข้ามาให้ชัดเจนเสีย!”“พวกเจ้าสืบเจอสิ่งใดบ้าง อย่าได้ปิดบังช้าแม้แต่นิดเดียว”“ข้าต้องรู้สถานการณ์ทั้งหมดเสียก่อน จึงจะรู้ว่าควรตามหาที่อยู่ของท่านอ๋องกับผู้บัญชาการจั่วอย่างไร!”หลังจากจ้าวเสวียซือผ่านพ้นการระบายอารมณ์ในช่วงแรกไป ทั้งยังถูกอวิ๋นฝูหลิงตีไปทีหนึ่ง ตอนนี้สติจึงค่อย ๆ กลับมาเขารู้ว่าสิ่งที่อวิ๋นฝูหลิงพูดถูกต้องตอนนี้ถึงเขาจะโกรธอย่างไร้เหตุผลไป ก็ไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อยมีเพียงแต่ต้องบอกความจริงทั้งหมดแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 514

    ไม่มีผงยาต้านการอักเสบที่ดีไปกว่าขวดนี้แล้วหลังจากรักษาบาดแผลบนร่างของจ้าวเสวียซือเรียบร้อย อวิ๋นฝูหลิงก็หยิบถุงเข็มขึ้นมา และหยิบเข็มทองเล่มหนึ่งออกมา ก่อนจะฝังเข็มบนตัวของจ้าวเสวียซือหลังจากฝังเข็มเสร็จแล้ว จ้าวเสวียซือก็ค่อย ๆ ได้สติขึ้นมาพวกหลี่หยวนที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะแอบตกตะลึงคิดไม่ถึงว่าสตรีสูงศักดิ์ผู้นี้จะมีทักษะแพทย์ที่ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ ฝังเข็มเพียงไม่กี่เข็ม ก็ทำให้คนฟื้นได้แล้วแม้อวิ๋นฝูหลิงจะปลอมตัวเป็นบุรุษ แต่หลี่หยวนในฐานะที่เป็นหน่วยกระบี่เงา ก็มีสายตาที่เฉียบแหลมยิ่งเขามองออกนานแล้วว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นสตรีที่ปลอมตัวเป็นบุรุษ เพียงแต่ไม่ได้พูดออกไปต่อหน้าถึงอย่างไรอวิ๋นฝูหลิงก็มีป้ายอาญาสิทธิ์ของหน่วยกระบี่เงา นางจะเป็นชายหรือหญิงย่อมไม่สำคัญจิตใจของหลี่หยวนสั่นไหวเล็กน้อยช้าก่อน ใต้เท้าท่านนี้เป็นสตรี ทั้งยังมีทักษะแพทย์ที่โดดเด่นถึงเพียงนี้ คงมิใช่ว่าเป็นพระชายาอี้อ๋องผู้นั้นกระมัง?นึกถึงการหายตัวไปอย่างกะทันหันของอี้อ๋องอีกครา ข่าวคราวคงไปถึงพระชายาอี้อ๋องที่อยู่เมืองหลวงแล้ว นางย่อมนั่งไม่ติดแต่คิดไม่ถึงว่าคนจะมาที่จินโจวเอง!หลังจา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 513

    เมื่อได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดถึงจ้าวเสวียซือ บนใบหน้าของหลี่หยวนก็มีสีหน้าแปลกประหลาดปรากฏขึ้นเขาลังเลครู่หนึ่ง จึงเพิ่งกล่าวว่า “ท่านใต้เท้า เชิญตามข้าน้อยมา”กล่าวจบ เขาก็หมุนม้านั่งที่วางกระถางดอกไม้ในห้องเล็กน้อยจากนั้นมีเสียงแผ่วเบาดังขึ้นเสียงหนึ่ง ชั้นวางของเก่าที่เดิมทีติดผนังค่อย ๆ เคลื่อนไปด้านข้าง เผยทางเข้าที่ใหญ่พอจะให้คนผู้หนึ่งเดินเข้าไปได้“ท่านใต้เท้า เชิญด้านนี้ขอรับ!” หลี่หยวนยกมือแสดงท่าทีพลางกล่าวหัวใจของอวิ๋นฝูหลิงสั่นไหวเล็กน้อย เดินตามหลังหลี่หยวนไปทันที เข้าไปในทางเดินที่ผนัง หลังจากเดินไปครู่หนึ่งประมาณสิบกว่าก้าวผ่านทางเดินคับแคบ ตรงหน้าจึงเพิ่งชัดเจนสิ่งที่ปรากฏสู่สายตาคือห้องลับห้องหนึ่งทั้งสามด้านของห้องลับมีตะเกียงน้ำมันแขวนอยู่บนผนัง ซึ่งให้แสงสว่างแก่ห้องที่ไม่นับว่าใหญ่นักแห่งนี้ภายใต้แสงสลัว สามารถมองเห็นเตียงไม้เตียงหนึ่งซึ่งวางอยู่กลางห้องลับได้บนเตียงไม้มีคนผู้หนึ่งนอนอยู่ดวงตาทั้งสองข้างของคนผู้นั้นปิดสนิท สภาพครึ่งเป็นครึ่งตายสายตาของอวิ๋นฝูหลิงมองไปยังใบหน้าของคนผู้นั้น แทบจะจำได้ในทันทีว่าเป็นจ้าวเสวียซือแม้ในใจนางจะคาดเดาไว้ก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 512

    ทันทีที่เจ้าของร้านเห็นป้ายอาญาสิทธิ์ ความง่วงงุนก็สลายหายไปทันทีเขาประสานมือให้อวิ๋นฝูหลิง พลางกล่าวเสียงต่ำว่า “ท่านใต้เท้าโปรดตามข้ามา!”กล่าวจบ เจ้าของร้านก็ลุกขึ้นออกไปจากโต๊ะต้อนรับ เอาป้ายปิดร้านแขวนไว้ที่หน้าประตู หลังจากนั้นก็ปิดประตูร้านจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จ เขาจึงเพิ่งนำทางพวกอวิ๋นฝูหลิงไปที่หลังร้านเมื่อเข้ามาที่เรือนหลักหลังร้าน เจ้าของร้านผู้นั้นก็ทำความเคารพอย่างจริงจังและนอบน้อมอีกครั้ง “ข้าน้อยหลี่หยวน ขอทำความเคารพท่านใต้เท้า!”อวิ๋นฝูหลิงเก็บป้ายอาญาสิทธิ์กลับมาในหน่วยกระบี่เงาป้ายอาญาสิทธิ์ที่ครอบครองจะแตกต่างกันออกไป ตามตำแหน่งสูงต่ำป้ายอาญาสิทธิ์ชิ้นนี้ที่ฮ่องเต้จิ่งผิงประทานให้นาง เป็นระดับสูงสุดในหน่วยกระบี่เงา สามารถสั่งการทุกคนในหน่วยกระบี่เงาได้ดังนั้นหน่วยกระบี่เงาซึ่งปลอมตัวเป็นเจ้าของร้านขายของเก่าผู้นี้ เมื่อเห็นป้ายอาญาสิทธิ์ชิ้นนั้น จึงนอบน้อมต่ออวิ๋นฝูหลิงเป็นอย่างยิ่งกระบี่เงาในหน่วยกระบี่เงามีจำนวนนับไม่ถ้วน หลายคนเจอหน้าก็ต่างไม่รู้จักกัน ดังนั้นในเวลาส่วนมากแล้ว จึงล้วนใช้ป้ายอาญาสิทธิ์ในการยืนยันตัวตนดังนั้นอวิ๋นฝูหลิงจึงเพีย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 511

    แม้แขกในโรงเตี๊ยมจะไม่น้อย แต่คนที่สามารถเช่าเรือนใหญ่ขนาดนี้ได้กลับมีไม่มากต่อให้จะเป็นแขกที่มีเงินเหล่านั้น ส่วนใหญ่ก็จะเช่าห้องชั้นบนเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้น มีน้อยมากที่จะเช่าทั้งเรือนยิ่งไปกว่านั้นคนใจใหญ่แบบอวิ๋นฝูหลิง ซึ่งเป็นแขกที่เช่าคราวเดียวทั้งเดือน ก็มีน้อยยิ่งกว่าเสี่ยวเอ้อเห็นลูกพี่อู๋กับอวิ๋นฝูหลิงคุยกันไม่กี่ประโยค ก็หันกลับมาต้องการจ่ายเงินตามสัญญา หัวใจจึงเพิ่งกลับมาสงบลงโดยพลันพูดจาเกินจริงต่อไปก็ไม่มีประโยชน์หลังจากจ่ายเงิน ลงชื่อในสัญญา ธุรกิจก็เป็นอันเรียบร้อยสมบูรณ์เจรจาธุรกิจใหญ่ขนาดนี้สำเร็จ ผู้ดูแลร้านจะต้องให้ผลประโยชน์กับเขาเป็นแน่เสี่ยวเอ้อนำลูกพี่อู๋เดินไปด้านหน้าด้วยรอยยิ้มแจ่มใส ขั้นตอนการเข้าพักจัดการเรียบร้อยเมื่อเสี่ยวเอ้อเดินไป อวิ๋นฝูหลิงก็เริ่มลงมือทำธุระนางออกคำสั่งหัวหน้าองครักษ์หูคุนว่า “เหลือสองคนไว้คอยเฝ้าม้ากับสัมภาระที่โรงเตี๊ยม”หูคุนตอบรับ และเลือกองครักษ์มาสองคนทันทีอวิ๋นฝูหลิงเรียกชื่อจางซานมู่อีกครา และกล่าวว่า “เจ้าพาคนสักสองสามคน ไปสอบถามข้อมูลของหอจินอวี้เสียหน่อย ยิ่งละเอียดยิ่งดี มุ่งเน้นโดยเฉพาะช่วงระยะก่อนหลั

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 510

    อวิ๋นฝูหลิงแค่อยากหาที่พักสักที่ และไม่ได้มาเพื่อชมทิวทัศน์ จึงกล่าวโดยตรง “เรือนหนึ่งห้องโถงไม่ดูแล้ว พาพวกเราไปดูเรือนสองห้องโถงหน่อย”เมื่อเสี่ยวเอ้อได้ยิน รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งดูจริงใจแล้ว“เรือนฤดูใบไม้ร่วงที่เป็นสองห้องโถงมีคนพักแล้ว ตอนนี้เหลือแค่เรือนฤดูหนาวที่ยังว่างอยู่ เช่นนั้นข้าน้อยพาท่านไปดูเรือนหรือดูหนาวเดี๋ยวนี้ขอรับ”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้าเสี่ยวเอ้อเดินนำทางข้างหน้า ผ่านไปครู่เดียวก็ถึงแล้วอวิ๋นฝูหลิงเงยหน้ามอง ก็มองเห็นคำว่า ‘เหมันต์’ แกะสลักอยู่บนกำแพงหินที่ข้างประตู เสี่ยวเอ้อผลักประตูเข้าไป “เชิญด้านในขอรับ!”อวิ๋นฝูหลิงก้าวข้ามธรณีประตู เมื่อเดินเข้าไปก็ได้กลิ่นหอมของดอกเหมยเห็นเพียงตรงมุมหนึ่งของลาน ปลูกต้นเหมยขี้ผึ้งไว้หลายต้น เวลานี้กำลังเบ่งบานดูเหมือนคำว่า ‘เหมันต์’ ของเรือนฤดูหนาวแห่งนี้ ก็มาจากดอกเหมยนั่นเองคิดว่าเรือนที่เหลือสามหลัง ก็ปลูกดอกไม้ที่ต่างกันมาเป็นทิวทัศน์ ขณะเดียวกันก็เข้ากับชื่อเรือนอวิ๋นฝูหลิงเดินสำรวจดูหนึ่งรอบ เรือนหลังนี้ได้รับการทำความสะอาดอย่างดี อีกทั้งยังกว้างมากด้วย เพียงพอที่จะรองรับพวกเขาทั้งหมดยิ่งกว่านั้นพวกเขามา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 509

    คนในเมืองหลวงที่ไปมาหาสู่กับอวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่านางไปถือศีลที่วัดหลิงเจวี๋ย และยังทำเพื่อสักการะบรรพบุรุษ ย่อมไม่มีใครไปรบกวนที่วัดหลิงเจวี๋ยมีเพียงคนสนิทไม่กี่คนที่รู้ว่า วัดหลิงเจวี๋ยเป็นเพียงการบังตาเท่านั้นในความเป็นจริงอวิ๋นฝูหลิงไปเจียงหนานแล้วหลังจากอวิ๋นฝูหลิงที่แต่งตัวเป็นบุรุษออกจากประตูเมืองทางใต้ และรวมตัวกับเหล่าองครักษ์ในเมืองที่ใกล้กับเมืองหลวงที่สุด ก็ทิ้งรถม้า แล้วเดินทางต่อด้วยม้า พวกเขาเดินทางทั้งกลางวันและกลางคืน ใช้เวลาแค่สามวันก็ไปถึงเมืองอวี่แล้ว ผ่านเมืองอวี่ นั่งเรือข้ามแม่น้ำ ก็ถึงจินโจวแล้วตามข้อมูลของหน่วยกระบี่เงา เซียวจิ่งอี้หายตัวไปในจินโจวตอนที่ทางเมืองหลวงได้รับข่าว เซียวจิ่งอี้หายตัวไปสามวันแล้วและตอนนี้ก็ผ่านไปอีกสามวันแล้วอวิ๋นฝูหลิงยืนบนถนนจินโจว ถนนสายนี้พลุกพล่านไปด้วยผู้คน ร้านค้าเรียงรายอยู่สองข้างทาง ทำให้เกิดบรรยากาศที่รุ่งเรืองบนแม่น้ำชวีหลานที่ล้อมรอบเมืองจินโจวครึ่งหนึ่ง มีเรือที่หรูหราจอดอยู่หลายลำ และมีเสียงดนตรีกับเสียงหัวเราะลอยมาจากแม่น้ำเป็นระยะเสียงที่รื่นรมย์เช่นนี้ ทำให้ผู้คนเพลินจนลืมกลับบ้านจริงๆทว่าอวิ๋นฝ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 508

    เซียวจิงมั่วยื่นนิ้วก้อยออกไป“ได้ พวกเราเกี่ยวก้อยกัน” อวิ๋นฝูหลิงก็ยื่นนิ้วก้อยออกไปเช่นกันทั้งสองเกี่ยวนิ้วก้อยสัญญากันคืนนี้อวิ๋นฝูหลิงนอนกับเซียวจิงมั่วเช้าวันรุ่งขึ้น อวิ๋นฝูหลิงนั่งรถม้าที่มีสัญลักษณ์ของจวนอี้อ๋อง พาเซียวจิงมั่วไปที่จวนองค์หญิงใหญ่ฉางเล่อแล้วองค์หญิงใหญ่ฉางเล่อได้รับจดหมายของอวิ๋นฝูหลิงตั้งแต่เมื่อคืนแล้วดังนั้นวันนี้จึงมารอตั้งแต่เช้าแล้วอวิ๋นฝูหลิงจูงมือเซียวจิงมั่วเข้ามา หลังจากคำนับก็กล่าว “ท่านป้า ต้องรบกวนท่านดูแลจิงมั่วสักระยะแล้ว”องค์หญิงใหญ่ฉางเล่อชอบเซียวจิงมั่วมาก ย่อมยินดีที่จะดูแลเขาสักระยะอยู่แล้วเซียวจิงมั่วเงยหน้า ยิ้มหวานให้องค์หญิงใหญ่ฉางเล่อ “ท่านย่า จิงมั่วเป็นเด็กดี เลี้ยงง่ายมาก จิงมั่วยังสามารถเล่นเป็นเพื่อนท่านย่า และเล่าเรื่องตลกให้ท่านย่าฟังขอรับ”เมื่อองค์หญิงใหญ่ฉางเล่อได้ยินเช่นนี้ ก็ดึงเซียวจิงมั่วเข้ามาในอ้อมแขน หยิกแก้มเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “แก้วตาดวงใจของย่า เจ้าอยู่ที่นี่ก็คิดเสียว่าอยู่บ้านของตัวเอง ย่าชอบจิงมั่วของเรามาก!” องค์หญิงใหญ่ฉางเล่อบีบนวดเซียวจิงมั่วครู่หนึ่ง จึงจะเงยหน้ากล่าวกับอวิ๋นฝูหลิง“ฝากจิง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status