เจียงเซิงไม่กลัวที่จะถูกกู้ยี่ฝานเห็นตัวเองในตอนนี้ เธอยิ้มแล้วเดินเข้าไป เหลือบมองวั่งฉีที่หลบอยู่ด้านหลังเขา: "ถูกต้อง เดิมทีฉันก็มีธาตุแท้แบบนี้ คนที่วางแผนใส่ฉัน ฉันไม่มีทางอ่อนข้อให้""กู้ยี่ฟาน นายฟังสิ......" วั่งฉีจับแขนของเขา ท่าทางน่าสงสารอย่างมากกู้ยี่ฟานนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้ดึงแขนออกจากมือวั่งฉีแล้วมองดูเจียงเซิง: "นางฟ้า เธอ......เธอถูกวั่งฉีข่มขู่ ดังนั้นถึงได้......"เป็นแบบนี้เหรอ?"นายคิดว่าฉันท่าทางเหมือนคนที่ถูกคนข่มขู่ไหม?"ดวงตาของเจียงเซิงเย็นชา พูดด้วยใบหน้านิ่งเฉย: "วั่งฉีเป็นเพราะนายถึงได้จัดการฉัน สิ่งที่ฉันได้รับจากการวางแผนของเธอฉันต้องทวงกลับมา ถ้าหากเธอยังทำตัวดี ๆ ไม่เป็น ฉันก็ไม่แคร์ที่จะปล่อยบันทึกเสียงออกไป"กู้ยี่ฟานมองดูเจียงเซิงที่อยู่ตรงหน้า มักรู้สึกว่าแปลกหน้าเล็กน้อย บางทีเป็นเพราะตั้งแต่เริ่มต้นเขาไม่เคยทำความรู้จักกับเธอเลยดูเหมือนตั้งแต่วันนั้น ต่อให้เจอกันที่โรงอาหาร กู้ยี่ฟานก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเข้ามาทักทายแล้วเดิมทีติงเมิ่งหลานยังอยากจะทักทายกู้ยี่ฟาน แต่ตอนที่กู้ยี่ฟานเดินผ่านพวกเขาไปไม่พูดจาสักประโยคติงเมิ่งหลานรู้สึกประห
วั่งฉีนำ "หลักฐาน" ที่เธอรู้เกี่ยวกับเจียงเซิงกองไว้บนตัวของเจียงเซิง อย่างไรเธอก็เป็นคนแบบนั้นจริง ๆ วันนั้นกู้ยี่ฟานก็เห็นชัดเจนแล้วและคำพูดของวั่งฉีทำให้ในใจของติงเมิ่งหลานเริ่มสั่นคลอนไม่มั่นคง ถึงแม้ไม่ได้เชื่อคำพูดของวั่งฉีมากนัก แต่เธอไม่รู้จักพี่เจียงเซิงจริง ๆ ถึงขั้นที่แม้แต่เรื่องที่เธอมีลูกแล้วติงเมิ่งหลานก็ไม่รู้เลยยังมีท่านเจ๋วหรือว่าพี่เจียงเซิงเป็นอย่างที่วั่งฉีพูดจริง ๆ เหรอ?คุณชายกู้ไม่สนใจเธอ ก็เป็นเพราะรู้เรื่องพวกนี้ของพี่เจียงเซิงเหรอ?"ติงติง เธอคิดให้ดี เจียงเซิงมีความลับปิดบังต่อเพื่อนอย่างเธอ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เห็นเธอเป็นเพื่อน ทำไมเธอต้องกระตือรือร้นต่อคนที่ไม่สนใจใยดีเธอล่ะ?"คำพูดไม่กี่คำของวั่งฉีทำให้ติงเมิ่งหลานที่เดิมทีสั่นคลอนไม่มั่นใจเหมือนจะฉุกคิดขึ้นได้เธอเห็นพี่เจียงเซิงเป็นเพื่อน แต่เจียงเซิงก็ไม่เคยเล่าเรื่องของเธอให้ฟังจริง ๆ ถ้าหากเจียงเซิงเห็นตัวเองเป็นเพื่อน ทำไมจะต้องปิดบังตัวเองด้วยล่ะ......ในห้องวีไอพีเจียงเซิงมองดูอาหารบำรุงที่หลากหลายบนโต๊ะและพ่อครัวที่เรียงแถวอยู่ด้านหลังซือเย่เจ๋ว ถ้าหากที่นี่ไม่ใช่ค่ายฝึกอบรม เธอยังสงส
ในเมื่อเรเวียร์สอนความสามารถในการป้องกันตัวให้เธอ เช่นนั้น ก็น่าจะสอนอย่างอื่นด้วย?เจียงเซิงเห็นเขาจ้องมองตัวเองอยู่ตลอด เธอที่สีหน้านิ่งเฉยในใจกลับกระวนกระวายเป็นอย่างมากแต่เธอยังยิ้มแล้วตอบกลับ: “คุณลุงเรเวียร์เห็นฉันเลี้ยงลูกคนเดียวมีชีวิตอย่างยากลำบาก สอนการป้องกันตัวให้ฉันไม่เกินเหตุไปหรอกนะ?”ซือเย่เจ๋วยิ้ม : “แน่นอน”ต่อให้ตอนนี้ภรรยาตัวน้อยชองเขาไม่บอกเขา แต่ต่อไปเขาก็ต้องรู้อยู่แล้วเจียงเซิงทานอาหารเสร็จแล้วออกจากห้องวีไอพีที่ชั้นสอง วั่งฉีที่ซ่อนอยู่ในมุมอับก็รอจับเธอว่าเกาะผู้บัญชาชั้นสูงคนไหนกันแน่ใครจะรู้ว่า ในตอนที่เห็นหลัวหู่รับซือเย่เจ๋วออกมาจากในห้องวีไอพี สีหน้าของวั่งฉีก็เปลี่ยนไปผู้ชายในห้องวีไอพีก็คือท่านเจ๋ว?!หึ ถึงว่าติงเมิ่งหลานพูดว่าเจียงเซิงปฏิเสธกู่ยี่ฟาน ที่แท้เป็นเพราะจับจ้องไปที่ผู้ชายที่โดดเด่นยิ่งกว่ากู้ยี่ฟานนี่เอง!งั้นก็อย่าโทษเธอแล้วกัน!ติงเมิ่งหลานนั่งอยู่บนเตียงมองดูโทรศัพท์อยู่ เมื่อได้ยินเสียงคนเปิดประตูถึงได้รีบวางโทรศัพท์ลง มองดูเจียงเซิงที่ปรากฏตัวอยู่ที่นอกประตูในตอนที่สบตากับเจียงเซิง เธอหลบสายตาไปเล็กน้อย จากนั้นยิ้มพูด “
และในกลุ่มคน เธอเห็นติงเมิ่งหลานที่อยู่ด้วยกันกับวั่งฉีวั่งฉีเห็นเจียงเซิงที่โดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน จึงยิ้มมุมปากอย่างอดไม่ได้แล้วเดินเข้ามาหาเธอ: "ฉันคิดว่าเธอมีความสามารถอะไรซะอีก มิน่าเธอถึงกล้ากำเริบเสิบสานขนาดนี้ ที่แท้ก็ถือว่ามีท่านเจ๋วอยู่สินะ?"ติงเมิ่งหลานไม่กล้าสบตากับเจียงเซิง ถึงแม้ข่าวลือนี้เธอไม่ได้เป็นคนแพร่งพรายออกไป แต่เมื่อคืนตอนที่เธอเอ่ยปากถามเจียงเซิงก็ยังเลือกที่จะปิดบังตัวเองเจียงเซิงไม่เห็นตัวเองเป็นเพื่อนด้วยซ้ำ ทำไมเธอยังต้องสนใจอีกล่ะ?เห็นสายตาของเจียงเซิงมองไปทางติงเมิ่งหลาน วั่งฉีจึงวางมือบนบ่าของติงเมิ่งหลานแล้วยิ้มพูด: "เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้แม้แต่ติงติงก็ไม่เชื่อเธอแล้ว ในเมื่อผู้หญิงที่มีลูกแล้วแถมยังยั่วผู้ชายไปทั่วแบบเธอ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่ที่นี่!"วั่งฉีเพิ่งพูดจบ คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างพากันตกตะลึง"แม่เจ้า เธอมีลูกแล้วเหรอ?""เห็นเธออายุยังน้อย ไม่แน่อาจจะท้องก่อนแต่งก็ได้""เดาว่าพ่อของเด็กคงไม่รู้ว่าเป็นใครสินะ!"เสียงเหน็บแนมดังเข้าหูของเจียงเซิงไม่หยุด ฟังคำซุบซิบนินทาที่เกี่ยวข้องกับเธอจนชินแล้ว เจียงเซิงยังคงหน้านิ่งไม่มีอารมณ
ความอยากรู้อยากเห็นของคนที่ล้อมรอบอยู่กระตุ้นขึ้นมา บางคนเริ่มยุยงวั่งฉีให้เดิมพันกับเธอวั่งฉีหน้าซีดเล็กน้อย ทำไมผู้หญิงสารเลวคนนี้ไม่หวาดกลัวเลยสักนิดนะ?ถ้าหากเธอเดิมพันแพ้จะทำอย่างไร?"วั่งฉี เธอเชื่อซูหลิงโหรวไม่ใช่เหรอ ในเมื่อเชื่องั้นทำไมไม่กล้าเดิมพันล่ะ?" เจียงเซิงยิ้ม"ใครบอกว่าฉันไม่กล้า!" วั่งฉีกัดฟันพูด: "เจียงเซิง เธอรอคุกเข่ากราบขอโทษได้เลย!"วั่งฉียังคงเลือกที่จะเชื่อพี่หลิงโหรว เพราะเธอรู้ว่าพี่หลิงโหรวไม่มีทางหลอกลวงเธอเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาซูหลิงโหรว และเปิดลำโพงหลังจากซูหลิงโหรวรับสาย วั่งฉีรีบพูดขึ้น "พี่หลิงโหรว พี่ต่างหากที่เป็นผู้หญิงของท่านเจ๋วใช่ไหมคะ พี่รีบยอมรับสิ!"ซูหลิงโหรวเหมือนจะฟังความหมายอะไรออก จึงขมวดคิ้วแน่น: "วั่งฉี เธอกำลังพูดอะไรน่ะ?""พี่หลิงโหรว ฉัน......"โทรศัพท์ถูกเจียงเซิงแย่งไป เจียงเซิงหัวเราะกับคนในสายแล้วพูดขึ้น: "ซูหลิงโหรว รบกวนคุณพูดในโทรศัพท์ให้ดี ๆ ว่าคุณใช่ผู้หญิงของซือเย่เจ๋วหรือไม่?"เมื่อได้ยินเสียงของเจียงเซิง ซูหลิงโหรวสีหน้าเปลี่ยนไป สายตาเริ่มดุดันขึ้นมานังบ้าวั่งฉีเป็นควายเหรอ?กล้ามากที่ใช้ชื่อของเธอ
การตบหน้าแบบนี้เร็วเกินไปหน่อยไหม!วั่งฉีที่มีภาพลักษณ์ "ผู้เสียหาย" ในความคิดของพวกเธอพังทลายทันที มีผู้หญิงางคนเมื่อไม่กี่วันก่อนยังได้ยินวั่งฉีระบายความทุกข์ว่าถูกเด็กใหม่รังแก แถมยังถูกตบ ตอนนี้ได้ฟัง เป็นเพราะเธอหาเรื่องใส่ตัวเองชัด ๆ!ในเมื่อวั่งฉีกล้าทำขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นเรื่องของเด็กใหม่เธอจะแต่งเรื่องออกมาไม่ได้เหรอ?วั่งฉีหน้าซีดขาวในทันที คนทั้งคนโซเซไปด้านหลัง สายตาที่มองมายังตัวเธอไม่ใช่สายตาที่เป็นมิตรอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นการถกเถียงและวิพากษ์วิจาร์ที่มีต่อเธอ"เจียงเซิง แก......แกทำไมถึงทำแบบนี้!"เธอตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง น้ำเสียงสะอื้นและสั่นคลอน: "แกมีสิทธิ์อะไรทำกับฉันแบบนี้!""แล้วเธอล่ะ?" เจียงเซิงหน้าโมโหและน่าเกรงขาม: "เธอมีสิทธิ์อะไรถึงทำกับฉันแบบนี้? ฉันปล่อยเธอไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ครั้งนี้เธอหาเรื่องเองชัด ๆ""ฉันเคยพูดไว้ไม่ใช่เหรอ ทำคนเดียวรับคนเดียว เรื่องที่เธอกล้าทำถึงตอนสุดท้ายไม่กล้ารับ เธอมีสิทธิ์อะไรที่ออกมาใส่ร้ายป้ายสีฉันต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้?"เธอเจียงเซิงเคยปล่อยวั่งฉีไปแล้วครั้งหนึ่ง นั่นเป็นการทำผิดต่อตัวเองมากแค่ไหนที่มี "ชื่อเสีย"
เจียงเซิงตรวจสอบอุปกรณ์ปืนไรเฟิลและซองกระสุน เมื่อมั่นใจว่าไม่มีปัญหาถึงได้เดินไปที่สนามทดสอบ"โลกนี้มันกลมจริง ๆ ถึงได้มาอยู่กลุ่มเดียวกับเธออีก"คนที่อยู่ในตำแหน่งข้างเธอก็คือเหอหลงหลงและการแบ่งกลุ่มในครั้งนี้ครูฝึกเป็นคนแบ่ง ไม่ดูประสบการณ์ พูดได้ว่าเป็นการ "จัดกลุ่มแบบสุ่ม" และพูดได้ว่าเป็นพรหมลิขิตเจียงเซิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้: "ดูท่าสวรรค์ตั้งใจทำให้ฉันลำบากใจจริง ๆ"เหอหลงหลงส่งเสียงไม่พอใจ: "คราวนี้ฉันจะไม่แพ้อีกแล้ว"เสียงปืนที่คมชัดดังฝ่าขอบฟ้า กระสุนก็ทะลุผ่านลมและตกไปที่เป้าวงแหวนราวกับเม็ดฝนครูฝึกกำลังบันทึกการแสดงออกของสมาชิกแต่ละคน เหอหลงหลงในฐานะที่เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดมีทักษะการเปลี่ยนกระสุนที่ช่ำชอง แทบจะเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวเหอหลงหลงอยู่ในค่ายฝึกสองปีแล้ว เธอคุ้นเคยกับปืนตั้งนานแล้ว การแสดงออกที่โดดเด่นของเธออยู่ในความคาดหมายนานแล้ว แต่ทว่า กลับมีคนที่เกินความคาดหมายของเขาสำหรับผู้มาใหม่ที่ดูเหมือนจะไม่มีประสบการณ์หรือการฝึกอบรม เดิมคิดว่าเธอชนะบนเวทีประลองได้ด้วยโชค การประเมินผลในลำดับต่อไปสำหรับเธอนั้นมีแต่จะเพิ่มความยากขึ้นแต่ใครจะคาดคิดว
"มีงู!"กู้ยี่ฟานพุ่งออกมาจากฝูงชนและจะเข้าไปอุ้มเจียงเซิง แต่จู่ ๆ กลับถูกครูฝึกขวางเอาไว้: "ทุกคนออกจากที่นี่ การประเมินหยุดก่อนชั่วคราว!""ครูฝึก เธอเป็นอะไรเหรอ?" กู้ยี่ฟานถามอย่างร้อนใจ"ถูกงูกัด ตอนี้ต้องช่วยเหลือด่วน"โดนงูกัดเหรอ?ทำไมในค่ายฝึกถึงมีงู?"พี่สะใภ้!"หลัวหยิงรีบวิ่งไปตรงหน้าเจียงเซิง หลัวหู่เริ่มรักษาแผลให้เธอแล้ว: "บาดแผลที่หลังมือของเธอเริ่มบวมเป่งขึ้นมาก จำเป็นต้องถอนพิษออกก่อน""ขอโทษนะครับ คุณเจียง คุณทนหน่อย" หลัวหู่ใช้มีดที่เธอทิ้งไว้กรีดแผลตรงจุดฟันพิษที่ถูกกัดให้ขยายใหญ่ ค่อย ๆ บีบเพื่อไล่พิษงูออกมา จากนั้นก็ใช้มีดกรีดแผลอีกครั้งและบีบต่อตลอดขั้นตอน เจียงเซิงอดกลั้นความเจ็บปวดไว้อย่างสุดกำลัง สีหน้าที่ซีดขาวไม่มีสีเลือดแม้แต่นิด เหงื่อเย็นเป็ฯเม็ดไหลลงมาจากใบหน้าของเธอ"เร็ซ ไปหาเปลหามมา!" หลัวหู่ตะโกนไปทางหลัวหยิง"ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!"หลัวหยิงรีบวิ่งไปที่ห้องพยาบาลกับครูฝึกเป็นเพราะเหอหลงหลงตกใจงูอย่างมากจนนั่งล้มลงกับพื้นและพูดไม่ออก และยิ่งคิดไม่ถึงว่าเจียงเซิงจะช่วยเธอไว้เจียงเซิงถูกหามไปที่ห้องพยาบาล ถึงแม้พิษงูบางส่วนจะถูกเค้นออก